ว่าแต่ก็น่าแปลกใจเหมือนกัน
เมื่อพิจารณาจากท่าทีของยามาโมโตะตั้งแต่เมื่อครู่ ฉันก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาโดยไม่ได้พูดออกไป
สมัยมัธยมปลายเป็นยังไงไม่รู้ แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาที่เขาให้ฉันมาหลบอยู่ที่ห้องนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าท่าทีของยามาโมโตะในตอนนี้มันดูแปลกๆ
ยามาโมโตะที่ฉันเห็น เป็นคนที่มักจะคิดถึงคนอื่นและทำเพื่อคนอื่นอยู่เสมอ
เมื่อเห็นผู้ชายแบบนั้นทำท่าทางไม่อยากกลับบ้านอย่างแข็งขัน ก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่ามันแปลกๆ
มาคิดดูแล้ว หมอนี่เอาแต่บอกให้ฉันกลับบ้านๆ แต่ตัวเองกลับไม่เคยมีท่าทีว่าจะกลับบ้านเลยสักครั้ง
พอฉันชี้ให้เห็นว่านายเองก็ควรจะกลับบ้านบ้างสิ เขาก็มักจะพูดจาบ่ายเบี่ยง
เพราะเป็นยามาโมโตะ ฉันก็เลยคิดว่าคำพูดนั้นเป็นคำพูดที่เขาพูดเพื่อให้ฉันที่กำลังทำท่าทางงอนและพยายามจะเปลี่ยนเรื่องหยุดบ่ายเบี่ยง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น
น่าแปลกที่ทั้งๆ ที่โดนคนที่พูดจาอวดดีใส่มาตลอด แต่ฉันก็ยังไม่มีความรู้สึกผิดหวังหรือเอือมระอาในตัวยามาโมโตะเลยสักนิด
…กลับกัน จะว่ายังไงดีล่ะ
ก็มีมุมน่ารักๆ อยู่เหมือนกันนี่นา
เป็นเพราะความรักทำให้ตาบอดรึเปล่านะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าระดับความชอบจะเพิ่มขึ้นไปอีก
พอรู้ตัวอีกทีฉันก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะว่าฉันดีใจที่ได้รู้จุดอ่อนของเขานั่นเอง
“ถ้าเป็นคำขอของน้องสาวก็ช่วยไม่ได้นะ กลับไปสุดสัปดาห์นี้เลยสิ”
ยามาโมโตะยังคงทำหน้าลำบากใจไม่เปลี่ยน
ไม่อยากกลับบ้านขนาดนั้นเลยเหรอ?
ให้ตายสิ เจ้าคนน่ารัก
“…ช่วยไม่ได้นะ”
“จะทำอะไรน่ะ ฮายาชิ”
“ฉันก็จะไปด้วย ที่บ้านของนายน่ะ”
…ตอนนั้นฉันที่กำลังดีใจจนลืมตัวก็เลยไม่ทันได้คิด แต่พอมารู้ตัวทีหลังแล้ว คำพูดนั้นของฉันมันก็ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย
บางที ตอนนั้นฉันอาจจะรู้สึกอยากจะปกป้องยามาโมโตะที่ฉันได้กุมจุดอ่อนเอาไว้ก็ได้
ฉันจะเข้าไปช่วยจัดการเรื่องที่ยามาโมโตะไม่ชอบเอง
โดยที่ไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าการที่คนนอกเข้าไปยุ่งอาจจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากขึ้นไปอีก ฉันพูดออกไปแบบนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ
“ไม่ ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับคนเดียวได้”
ยามาโมโตะพูด
“ไม่ได้ นายคงจะพูดอะไรมั่วๆ แล้วก็ไม่ยอมกลับบ้านใช่ไหมล่ะ”
“ไม่… ไม่มีทาง”
“อะไรคือช่องว่างเมื่อกี้นี้”
จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังคิดว่ายามาโมโตะคงจะกลับบ้านอยู่หรอก แต่พอเจอช่องว่างเมื่อกี้นี้เข้าไป ความประทับใจที่ฉันมีต่อยามาโมโตะก็เปลี่ยนไปในทันที
บางที ยามาโมโตะคงจะหาโอกาสหนีจริงๆ นั่นแหละ
“…ไม่เป็นไรน่า เพราะงั้นปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ”
“ไม่ยอมเด็ดขาด”
ทั้งๆ ที่กำลังจะโดนฉันเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวขนาดนี้แล้ว แต่ใบหน้าของยามาโมโตะกลับไม่มีแววของความไม่พอใจเลยสักนิด
เพราะอย่างนั้น ฉันก็เลยรุกเข้าไปอย่างเต็มที่
“นายพูดเองไม่ใช่เหรอ ว่าพวกเราอยู่ด้วยกัน เพราะงั้นการที่เราจะช่วยเหลือกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่รึไง”
“…มันจะช่วยได้จริงๆ เหรอ”
“ไม่เป็นไรน่า! คิดซะว่าได้ขึ้นเรือลำใหญ่แล้วกัน!”
“เชื่อไม่ได้เท่ากับเรือสำราญหรูที่มีโครงสร้างบกพร่องเลย”
“ไม่เป็นไรน่า เวลาจมก็จมไปด้วยกัน”
“ไม่สิ ช่วยทำให้มันไม่จมหน่อยเถอะ”
ถึงจะโดนตอกกลับแบบนั้น แต่ยามาโมโตะก็มองฉันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา
ใบหน้าของฉันในตอนนั้นเป็นแบบไหนกันนะ
บางที ดวงตาของฉันคงจะไม่ได้แสดงความตั้งใจที่จะทำให้เขาเชื่อใจเท่าไหร่ ตรงกันข้ามกับคำพูดที่พยายามจะให้เขาเชื่อใจ
กลับกัน ฉันคงจะดีใจที่ได้อยู่กับยามาโมโตะมากขึ้นอีกนิด
ดีใจที่ได้ไปบ้านของยามาโมโตะด้วยกัน
ดวงตาของฉันคงจะเปล่งประกายระยิบระยับด้วยความรู้สึกแบบนั้น
“…เข้าใจแล้ว ตามใจเธอแล้วกัน”
“อื้ม จะทำอย่างนั้นแหละ”
ฉันยิ้ม
“ขอบคุณนะ ยามาโมโตะ”
ยามาโมโตะไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารเย็นต่อไปอย่างเงียบๆ
MANGA DISCUSSION