ตอนที่ 167 – แผนกวาดล้าง

นับถอยหลัง 168:00:00

ตอนที่ความมืดมิดยุติลง ชิ่งเฉินยังคงยืนอยู่ในเกาะกลางถนนเงียบ ๆ

7 วันก่อน เขาก็ยืนอยู่ที่นี่รายงานชิ่งกั๋วจง จากนั้นมองดูอีกฝ่ายถูกตำรวจพยุงขึ้นรถตำรวจกับตา

ณ ขณะนี้รถตำรวจถึงขนาดยังไม่ได้ขับออกไปเลย

ชิ่งเฉินจับตามองรถตำรวจสตาร์ทขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในความมืดมิด จากนั้นค่อย ๆ ไปไกล เขาถึงขนาดยังสามารถมองเห็นชิ่งกั๋วจงในรถกำลังคอตก ห่อเหี่ยวเป็นที่สุด

น่าอัศจรรย์ใจเกินไปแล้ว เรื่องเรื่องเดิมถึงกับสามารถเพลิดเพลินได้สองครั้งโดยห่างไปหลายวัน……

ในการรายงานครั้งนี้ อันที่จริงมีเรื่องหนึ่งที่สำคัญเป็นพิเศษ: ชิ่งเฉินยอมให้อีกฝ่ายโอนบ้านอย่างไม่ลังเลสักนิด ดังนั้นชิ่งกั๋วจงในวันนี้โอนบ้านสำเร็จแล้ว และกำเงินขายบ้านอยู่หลายแสน

นี่หมายความว่า ชิ่งกั๋วจงมีทุนพนันเพียงพอ ถือเป็นโทษมาตรา 303 การรวมกลุ่มเพื่อเล่นการพนัน จัดการพนันตั้งแต่สามคนขึ้นไป จำนวนเงินสะสมของทุนพนันห้าหมื่นหยวนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุก, คุมประพฤติ, กักขังไม่เกินสามปี……

ดังนั้นตอนนั้นหลังจากที่เขาล้มชิ่งกั๋วจงในความมืดก็เลยไม่ได้หยิบฉวยเงินไปจากบนตัวพวกนักพนัน แล้วยังจงใจเน้นย้ำกับคุณผู้หญิงที่รับรายงานของศูนย์รายงาน 110 ถึงเรื่องนี้

ณ ตอนนี้ชิ่งเฉินกลายเป็นนักท่องเวลาแล้ว และยังเป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปขององค์กรอัศวิน ไม่เห็นเงินห้าหมื่นหยวนในสายตาตั้งนานแล้ว

เงินไม่กี่หมื่นหยวนนี้ใส่ไว้บนตัวของชิ่งกั๋วจงสามารถแสดงบทบาทที่ใหญ่ยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด

เพียงแต่ เมื่อเขามองตามรถตำรวจจากไปไกล จู่ ๆ ชิ่งเฉินรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองก็ไม่ได้จะปลื้มปริ่มขนาดนั้นแล้ว

ไม่ใช่ว่าเสียใจภายหลังที่ส่งชิ่งกั๋วจงเข้าไป ทว่าจู่ ๆ เขารู้สึกว่าชีวิตของตนเองเหมือนจะไม่ต้องครุ่นคิดถึงเรื่องราวประเภทนี้อีกแล้ว

ชิ่งเฉินมีชีวิตใหม่แล้ว

ขณะนี้ อุปกรณ์สื่อสารในกระเป๋าของเขาสั่นไม่หยุด หลิวเต๋อจู้กำลังส่งข้อความอย่างบ้าคลั่ง “บอสครับ ท่านจะกลับมาตอนไหน!”

“บอส ท่านรีบกลับมาจัดการหลินเสี่ยวเสี้ยวเถอะครับ ถ้าไม่จัดการเขาอีก ผมอาจจะต้องตายแล้ว!”

ชิ่งเฉินสับสนอยู่บ้าง “หลินเสี่ยวเสี้ยวอยากฆ่าคุณ? ทำไมเขาอยากฆ่าคุณ?”

หลิวเต๋อจู้เอ่ยอย่างกระสับกระส่ายว่า “ทุกคนพูดซะดิบดีว่าตอนกลางวันเล่นละครด้วยกัน ผลคือตอนกลางคืนเขาจะล้างแค้น ให้ผมฝันร้ายมันทุกวันเลย!”

ชิ่งเฉินเคยประสบกับฝันร้าย เขาทราบชัดมากว่าหลิวเต๋อจู้ประสบกับอะไร

แต่เขาไม่แคร์เลย ทว่าถามเรื่องอื่น “ในคุกหลายวันมานี้มีสถานการณ์พิเศษรึเปล่า มีนักท่องเวลาใหม่รึเปล่า”

หลิวเต๋อจู้ตอบอย่างซื่อสัตย์ว่า “มี! แถมเป็นสถานการณ์ใหญ่! หลังท่านไป ในช่วงเวลาเจ็ดวัน ในคุกหมายเลข 18 จู่ ๆ มีการทยอยย้ายคนมาจากคุกอื่นสามร้อยกว่าคน แต่ละคนดุร้ายน่ากลัวเป็นพิเศษเลย!”

ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว “หลินเสี่ยวเสี้ยวพูดรึเปล่าว่าพวกเขามาทำไร”

หลิวเต๋อจู้กล่าวว่า “พูดแล้วครับ หลินเสี่ยวเสี้ยวพูดว่าพวกเขามาหาความตาย……”

ชิ่งเฉิน “……”

แต่ว่า ถ้าหลินเสี่ยวเสี้ยวพูดอย่างนี้ ชิ่งเฉินก็เข้าใจอย่างคร่าว ๆ แล้ว

จะต้องมีกลุ่มอิทธิพลค้นพบข่าวที่หลี่ซูถงจากไปแล้ว จากนั้นย้ายคนจากเรือนจำอื่นมาหลายร้อยคนเตรียมจะก่อเรื่อง

แถมแปดส่วนคือพุ่งเป้ามาที่วัตถุต้องห้าม ACE-005

“ผมรู้แล้ว” ชิ่งเฉินพูดจบก็เก็บอุปกรณ์สื่อสารกลับเข้าไปในกระเป๋า

ขณะนี้เขาเลื่อนขึ้นเป็นอัศวินแล้ว ถัดไปคือการตามหลี่ซูถงกลับไปในเรือนจำหมายเลข 18

ดูท่า การทะลุมิติครั้งหน้าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

ชิ่งเฉินคิดได้ว่าตนเองยังมีสัญญาหนึ่งข้อ เขาดึงหมวกฮู้ดขึ้นแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในความมืด

……

โรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่ว

พื้นที่โรงเรียนตอนกลางคืนเงียบสงบสุด ๆ ไม่มีนักเรียนที่คึกคัก

ลุงใหญ่ฉินเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูก็นั่งสัปหงกอยู่ในป้อมยาม

เงาดำเงาหนึ่งกระโดดข้ามกำแพงอย่างไร้เสียง มือเท้าเบาเหมือนแมวดราก้อนหลี่* ตัวหนึ่ง

ชิ่งเฉินเดินทะลุทางน้อยอันคุ้นเคย ที่บริเวณหน้าอาคารเรียนมัธยมปลาย ถึงกับใช้มือเท้าปีนป่ายผนังขึ้นไปยังดาดฟ้าตรง ๆ

ผนังของอาคารเรียนเทียบกับเขาชิงซานแล้วปีนง่ายกว่าเยอะ

นั่งบนขอบดาดฟ้า ผ่านไปไม่นานประตูเหล็กเล็ก ๆ ของดาดฟ้าข้างหลังก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ถูกคนผลักเปิดอย่างแรง

เป็นหนานเกิงเฉินที่ผอมแห้ง

ประตูเล็กนั่นเดิมทีถูกล็อคเอาไว้ ภายหลังพวกคู่รักในโรงเรียนไม่มีที่นัดพบ เลยมีคนแอบทำลายล็อคที่นี่ ภายนอกดูไปไม่มีเรื่องอะไร ตัวล็อคกลับชำรุดแล้ว

พูดตามตรง เด็กหนุ่มยาจกสองคนที่เป็นโสดมาตลอดชีวิตจนถึงตอนนี้ก็ได้มาที่ดาดฟ้านี้เป็นครั้งแรก……

ตอนที่หนานเกิงเฉินผลักประตูยังดูเขินอายอยู่บ้าง

ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ปิดมือถือ ปิดการใช้งานซิมการ์ดของมือถือ”

“อ้อ……” หนานเกิงเฉินทำตาม

ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ทีหลังพูดเรื่องของโลกภายในอีก เราสองคนจะหาสถานที่ที่ไม่มีคนประเภทนี้ จนกว่าฉันจะได้ป้อมปราการข้อมูลมาปกป้องความลับ”

หนานเกิงเฉินมองชิ่งเฉินที่นั่งอยู่ขอบดาดฟ้าแวบหนึ่ง เดิมทีก็อยากจะขึ้นไปนั่ง แต่เขามองลงไปชั้นล่างอีกแวบ ตัวสั่นงั่ก ๆ ขึ้นมาทันที

“แค่ก ๆ พี่เฉิน” หนานเกิงเฉินลังเลอยู่ครึ่งค่อนวันถึงกล่าวว่า “ฉันบอกเรื่องฝั่งฉันก่อนเถอะนะ อันดับแรกหลี่อีนั่วรู้แล้วว่าฉันเป็นนักท่องเวลา……”

ชิ่งเฉินถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ก่อนหน้านี้นายไม่ได้พูดว่าเธอไม่รู้เหรอ”

หนานเกิงเฉินนึกทบทวน หลี่อีนั่วถามเขาอยู่หลายครั้งว่าเขาเป็นนักท่องเวลารึเปล่า ตนเองล้วนพูดว่าไม่ใช่

จากนั้นอีกฝ่ายล้วนใช้แววตาเอ็นดูคนโง่มองเขาพูดว่า: อืม ๆ โอเค คุณไม่ใช่

ชิ่งเฉินคิดแล้วถามว่า “เธอให้คุณมาพูดอะไรกับฉันรึเปล่า หรือว่าเอ่ยถึงฉันรึเปล่า”

“ไม่นะ” หนานเกิงเฉินอึ้งไปหน่อยหนึ่ง

“งั้นดูท่าว่าเธอยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของเราสองคน แล้วก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นนักท่องเวลา” ชิ่งเฉินคาดเดา “หลังเธอรู้ว่านายเป็นนักท่องเวลาไม่มีปฏิกิริยาอะไรเหรอ”

หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “เธอให้ฉันปกปิดเต็มที่ห้ามปากสว่าง เพราะว่าในกลุ่มการเงินตอนนี้พากันกำหนดแผนกวาดล้างแล้ว”

“แผนกวาดล้าง?!” ชิ่งเฉินตะลึง “นี่จะทำอะไร”

“แผนที่จะสร้างผลกระทบย้อนกลับโลกภายใน” หนานเกิงเฉินอธิบาย “อันที่จริงคนของโลกภายในยังค่อนข้างเกลียดชังนักท่องเวลา โดยเฉพาะคนใหญ่คนโตพวกนั้น ทุกวันนี้พวกเขาตัดสินใจจุดหนึ่งแล้ว มนุษย์โลกภายในที่ถูกแทนที่แทบไม่ต่างกับตายไปแล้ว สติสัมปชัญญะทั้งหมดล้วนไม่รู้ว่าหายไปที่ไหน เรื่องประเภทนี้คิดขึ้นมาก็รู้สึกน่าสะพรึงกลัวแล้ว พี่เฉิน ฉันเข้าใจพวกเขาได้นะ ถ้าเกิดโลกที่พวกเราอยู่เป็นโลกภายใน จู่ ๆ มีวันหนึ่งพ่อฉันถูกคนแทนที่ คิดว่าคงรู้สึก……อย่างกับว่าจะค่อนข้างดีเลยนะ?”

ชิ่งเฉิน “……”

“เดี๋ยวนะ ตัวอย่างไม่ถูกต้อง” หนานเกิงเฉินครุ่นคิดชั่วครู่แล้วกล่าวว่า “ฉันมีแค่นายเป็นเพื่อนคนเดียว ถ้าเกิดพี่เฉินนายมีวันหนึ่งจู่ ๆ ถูกแทนที่ นายก็จะไม่รู้จักฉัน แล้วก็ไม่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ฉันจะกลัวขนาดไหน ในโลกภายใน คนมากมายต่างเผชิญกับสถานการณ์ประเภทนี้: เพื่อนกลายเป็นคนแปลกหน้า ลูกหายไป พ่อกลายเป็นคนอื่น นี่กับหนังวิทยาศาสตร์ที่พวกเราเคยดูแต่ก่อนที่มนุษย์ต่างดาวควบคุมชาวโลกเหมือนจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย”

ดังนั้น นักท่องเวลากับประชากรโลกภายในอันที่จริงแล้วมีสภาพเป็นปรปักษ์กันโดยธรรมชาติ

ไม่มีคนที่เต็มใจจะถูกเผ่าพันธุ์อื่นควบคุม

จากนั้นจึงมี “แผนกวาดล้าง”

“ฉันได้ยินหลี่อีนั่วพูดว่าตอนนี้กลุ่มอำนาจต่าง ๆ ของโลกภายในควบคุมตัวนักท่องเวลาไว้ได้ไม่น้อย” หนานเกิงเฉินกล่าวต่อ “ตามที่เธอคำนวณ ตระกูลหลี่เดี่ยว ๆ ก็ควบคุมนักท่องเวลาไปสามร้อยกว่าคนแล้ว และคนพวกนี้ก็คือกุญแจสำคัญของแผนกวาดล้าง”

“พวกเขาควบคุมนักท่องเวลาพวกนี้อยากจะทำอะไร” ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว

“พวกเขาอยากควบคุมนักท่องเวลาพวกนี้ หลังจากกลับโลกภายนอกให้ช่วยพวกเขาล่าสังหารมนุษย์โลกภายนอกที่ชื่อแซ่เดียวกับพวกเขาทั้งหมด” หนานเกิงเฉินกล่าว

“นี่ก็คือแผนกวาดล้าง”

ลมหนาวหอบหนึ่งพัดมา ชิ่งเฉินจู่ ๆ รู้สึกว่าคืนปลายฤดูใบไม้ร่วงหนาวนิดหน่อยแล้ว

……

กลไกการทะลุมิติของนักท่องเวลาจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นปริศนา ทุกคนเพียงสามารถตัดสินได้คร่าว ๆ : ผู้ที่ชื่อแซ่เดียวกัน ผู้ที่หน้าตาเหมือนกัน ตำแหน่งที่ปรากฏสอดคล้องกันอย่างกว้าง ๆ ก็จะได้รับ “คุณสมบัติโอเพ่นเบต้า”

กฎนี้อันที่จริงแล้วไม่ซับซ้อนเลย ดังนั้นคนของโลกภายในก็สอบสวนออกมาได้อย่างง่ายดายมาก

คนใหญ่คนโตพวกนี้ดิ้นรนอย่างขมขื่นมาครึ่งชีวิต จะทนได้อย่างไรที่ตอนที่ตัวเองกำลังมีความสุขกับชีวิตกลับถูกคนอื่นแทนที่?

ดังนั้น พวกเขาพากันตั้งแผนกวาดล้าง วางแผนจะกำจัดความเป็นไปได้ที่จนเองจะถูกแทนที่จากสาเหตุต้นตอ: ฆ่าผู้ที่ชื่อแซ่เดียวกัน

นี่เป็นวิธีที่เรียบง่ายที่สุดแล้วก็มีประสิทธิภาพที่สุด

การทะลุมิติเป็นตั๋วทางเดียว คนของโลกภายนอกถึงจะดูเหมือนอยู่ในสภาพที่ถูกทุบตีถ่ายเดียว แต่เรื่องที่พวกเขาคิดจะทำไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองไปทำ

หลังจากที่บุคคลที่ชาญฉลาดเหล่านั้นค้นพบนักท่องเวลาไม่ได้ฆ่าพวกเขาให้ตายตรง ๆ เพื่อล้างแค้นแทนครอบครัวมิตรสหายเลย ทว่าเลือกใช้ประโยชน์

ชิ่งเฉินถามว่า “พวกเขาวางแผนว่าเมื่อไหร่จะดำเนินการแผนกวาดล้าง”

“น่าจะยังไม่รีบร้อนชั่วคราว” หนานเกิงเฉินกล่าว “หลี่อีนั่วพูดว่า แผนตระกูลหลี่ใหญ่มาก พวกเขาถึงขนาดถือนักท่องเวลาเป็นเครื่องมือที่มีค่าให้ใช้งาน ไม่แค่มีแผนกวาดล้าง พวกเขายังมีแผนทะลุมิติย้อนกลับ!”

“เล่นไรเนี่ย?” ชิ่งเฉินงงงวย “พวกเขายังคิดจะทะลุมิติย้อนกลับ?”

“อืม” หนานเกิงเฉินพยักหน้า “นี่ยังเป็นแค่ไอเดีย ฉันจะยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพนะ อย่างเช่นผู้นำตระกูลของตระกูลคาชิมะชื่อว่าลีบยองฮี เขาพักอาศัยอยู่ในเมืองเมืองหนึ่งของตระกูลคาชิมะตลอดทั้งปี ซึ่งตรงกันกับโซล เวลานี้ โลกภายนอกอันที่จริงมีคนคนหนึ่งที่มีชื่อแซ่เหมือนเขา หน้าตาตรงกัน แต่เขาไม่ได้พักอาศัยที่โซล ดังนั้นกลไกทะลุมิติของลีบยองฮีไม่ได้ถูกกระตุ้นขึ้นเลย ถ้าเกิดตระกูลหลี่สามารถหาลีบยองฮีที่อยู่บ้านนอกเจอ จากนั้นส่งเขาไปโซลที่โลกภายนอก สถานที่สอดคล้องกับโลกภายใน อย่างงั้น ผู้นำตระกูลของบ้านคาชิมะก็อาจจะจู่ ๆ กลายเป็นนักท่องเวลาแล้ว!”

ชิ่งเฉินตกตะลึง

“ถ้าจะลอบสังหารลีบยองฮีที่โลกภายในจะต้องยากมาก แถมจะเกิดผลลัทธ์ที่ไม่รู้ แต่ถ้าตัวลีบยองฮีถูกแทนที่ งั้นก็จะไม่มีหนทางแล้ว ภัยพิบัติทางธรรมชาติบวกกับมนุษย์นิ! ตอนที่หลี่อีนั่วพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตื่นเต้นเชียวแหละ” หนานเกิงเฉินกล่าว

ถ้าแผนกวาดล้างที่พูดก่อนหน้านี้ ชิ่งเฉินยังเคยเดาอยู่ อย่างนั้นแผนทะลุมิติย้อนกลับนี่ เขาไม่เคยคิดถึงมากก่อนจริง ๆ

ช่างน่าขยะแขยงเกินไปแล้วจริง ๆ

ใช้ราคาที่ต่ำที่สุดไปทำให้คนที่สุดยอดที่สุดขยะแขยง?!

ชิ่งเฉินสะเทือนใจอยู่บ้าง อย่าเห็นว่าในการต่อสู้ไม่กี่ครั้งเขาได้แสดงถึงไหวพริบและความเฉลียวฉลาดมากแค่ไหน แต่เทียบกับคนที่เล่นกลยุทธ์มาตลอดชีวิตพวกนี้ จิตใจยังไม่สกปรกเท่าพวกนั้น

หนานเกิงเฉินเอ่ยเสริมว่า “อันนี้ฉันก็แค่ยกตัวอย่างนะ ลีบยองฮีอายุเหมือนกับจะหนึ่งร้อยกว่าปีแล้ว โลกภายนอกเป็นไม่ได้ที่จะหาคนมาแทนที่ แต่ว่าวิธีการนี้สามารถใช้กับตัวคนอื่น”

เดี๋ยวนะ จู่ ๆ ชิ่งเฉินคิดถึงปัญหาข้อหนึ่ง พวกหลี่ซูถงกับหลินเสี่ยวเสี้ยวจะถูกแทนที่ไหม?!

นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก

ถ้าโลกภายนอกก็มีหลี่ซูถงหนึ่งคน แล้วกลุ่มอำนาจของโลกภายในก็จงใจหาเขา ส่งมาที่เมืองลั่ว งั้นไม่ใช่ว่าหลี่ซูถงก็จะอันตรายแล้วเหรอ

ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ชิ่งเฉินยังอยากจะดำเนินการแผนกวาดล้างแล้ว ตัวเองได้พบเจอท่านอาจารย์ที่ดีคนหนึ่งอย่างไม่ง่ายดาย ผลคืออีกฝ่ายกลับถูกคนทะลุมิติ เขารับผลลัพธ์นี้ไม่ไหวนะ

แต่คำถามก็กลับมาอีกครั้ง ถ้าโลกภายนอกก็มีหลี่ซูถงหนึ่งคนจริง ๆ งั้นอีกฝ่ายมีความผิดอะไร แค่เพราะว่าชื่อแซ่เดียวกัน หน้าตาเหมือนกัน ก็ต้องถูกฆ่าแล้วเหรอ

จู่ ๆ เขาถามหนานเกิงเฉินว่า “นักท่องเวลาที่ถูกตระกูลหลี่ควบคุมตัวพวกนั้นมีผู้เหนือมนุษย์ไหม ผู้เหนือมนุษย์จะถูกแทนที่ไหม”

“ก็มีผู้เหนือมนุษย์คนหนึ่งจริง ๆ” หนานเกิงเฉินกล่าว “หลี่อีนั่วเคยบ่นว่า ความสามารถของผู้เหนือมนุษย์คนนั้นเหมือนจะพึ่งพาไม่ได้มากนัก……”

ชิ่งเฉินพอได้ยินว่าผู้เหนือมนุษย์ก็สามารถถูกทะลุมิติ หัวขมวดขมวดขึ้นมาทันควัน

นี่ไม่ได้แปลว่าหลี่ซูถงจะถูกแทนที่จริง ๆ เหรอ

แถมเพื่อนที่ตัวเองผูกมิตรที่โลกภายในในอนาคตก็อาจจะถูกแทนที่!

เขาถามอีกว่า “งั้นในคนพวกนี้มีคนที่เคยฉีดยาแปลงพันธุกรรมรึเปล่า”

“ไม่มีคนที่เคยฉีดยาแปลงพันธุกรรม” หนานเกิงเฉินกล่าว “หลี่อีนั่วสงสัยว่า ผู้ที่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมเปลี่ยนยีนไปแล้วดังนั้นทั้งสองฝ่ายไม่อาจไปถึงเงื่อนไขการทะลุมิติ”

ชิ่งเฉินผ่อนลมหายใจ แต่เขาคิดถึงเรื่องอีกเรื่องขึ้นมาทันที “เดี๋ยวนะ งั้นคนตระกูลหลี่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมให้หมดไม่ใช่ว่าก็ได้แล้วเหรอ ยังจะสร้างแผนกวาดล้างทำไม”

หนานเกิงเฉินมองไปทางชิ่งเฉิน “พี่เฉินนายไม่รู้เหรอ ยาแปลงพันธุกรรมมีผลข้างเคียง……”

“ผลข้างเคียง?” ชิ่งเฉินตะลึง “หมายความว่าอะไร”

“มันไม่เหมือนกับการกลายเป็นผู้เหนือมนุษย์น่ะ ผู้ที่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมสืบเชื้อสายได้ยากมาก ไม่อาจตั้งครรภ์” หนานเกิงเฉินกล่าว “ดังนั้นในกลุ่มการเงินต่างสืบหาการสืบทอดต่าง ๆ นานา คิดวิธีการให้ลูกหลานกลุ่มการเงินกลายเป็นผู้เหนือมนุษย์ ทว่าจะไม่ฉีดยาแปลงพันธุกรรมตรง ๆ”

หนานเกิงเฉินกล่าวต่อว่า “หลี่อีนั่วพูดว่า ตอนนี้มีแค่ยาแปลงพันธุกรรมบางชนิดของกลุ่มตุลาการต้องห้ามที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ ในตลาดก็พบเห็นยากมาก แถมกลุ่มการเงินกังวลว่าถ้าเผื่อมีคนหาคนที่ตรงกับตัวเองเจอจริง ๆ จากนั้นจงใจฉีดยาแปลงพันธุกรรมที่ตรงกันให้กับ ‘ผู้แทนที่’ คนนั้นของโลกภายนอก จะยังคงสามารถทะลุมิติได้หรือไม่ ดังนั้น ยังคงเป็นแผนกวาดล้างที่พึ่งพาได้กว่าสักหน่อย”

ชิ่งเฉินตกตะลึง เขายังไม่รู้จริง ๆ ว่ายาแปลงพันธุกรรมถึงกับมีผลข้างเคียงประเภทนี้

แล้วงั้นยีนของตัวเองก็เปลี่ยนแล้ว ก็จะไม่อาจสืบเชื้อสายได้ด้วยรึเปล่า?!

ท่านอาจารย์ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องประเภทนี้เลยนะ!

แต่ว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงขนาดนี้ หลี่ซูถงจะต้องแจ้งกับเขา อีกฝ่ายไม่เอ่ยถึง นั่นก็คือจะไม่มีผลข้างเคียงที่ใหญ่ขนาดนี้

ทะลุมิติครั้งหน้า เขาจะต้องถาม ๆ ท่านอาจารย์ดูแล้ว……

ถึงอย่างไรก็ยังค่อนข้างสำคัญ……

แน่นอนว่ายังมีข่าวดี ตามตรรกะอันนี้ในปัจจุบัน ครูน่าจะไม่ถูกแทนที่ เพราะว่าชั่ววินาทีที่เลื่อนขึ้นเป็นอัศวิน ยีนจะเปลี่ยนแปลง

มีแค่ผู้เหนือมนุษย์อย่างหลินเสี่ยวเสี้ยวกับเยี่ยหว่านที่ยังคงมีความเสี่ยง!

หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “พี่เฉิน นายมีวิธีการอะไรขัดขวางการทะลุมิติอะ หลี่อีนั่วค่อนข้างดีกับฉันเลย ถ้าเผื่อเธอถูกแทนที่ ไม่ใช่ว่าเหมือนตายไปแล้วเลยเหรอ”

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ฉันอาจจะคิดวิธีการได้สักอย่าง รอฉันยืนยันแล้วค่อยบอกนาย”

เวลานี้ จู่ ๆ เขาคิดถึงเรื่องอีกอย่าง:

สมรรถภาพทางกายของแทบทุกคนในองค์กรคุนหลุนล้วนเหนือคนธรรมดา นี่จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับยาแปลงพันธุกรรม หรือว่าพวกเขาไม่กังวลถึงผลข้างเคียงนี้

หรือว่า พวกเขารู้ผลข้างเคียง แต่ยังคงเลือกทางนี้

“ตระกูลหลี่วางแผนว่าจะดำเนินการแผนกวาดล้างเมื่อไหร่” ชิ่งเฉินถาม

หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “ฉันแค่รู้ว่าตระกูลหลี่ในขณะนี้ไม่รีบร้อนเลย พวกเขาอยากให้นักท่องเวลาที่ถูกควบคุมพวกนั้นแข็งแกร่งขึ้นอีกหน่อย รอให้พวกเขาไม่บุบสลายง่ายขนาดนั้นแล้วค่อยวางแผน”

ปัจจุบันนี้การเสาะหานักท่องเวลายิ่งมายิ่งยาก นักท่องเวลามากขึ้นเรื่อย ๆ เรียนรู้ที่จะซ่อนตัว ดังนั้นหลังจากที่ตระกูลหลี่มีแผนการที่ชั่วร้ายกว่า พวกเขาได้ถือนักท่องเวลาเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ที่ต้องทะนุถนอมประเภทหนึ่งแล้ว

กลุ่มการเงินเป็นคนที่เข้าใจการสร้างผลกำไรที่สุดในโลก พวกเขาจะเอาปัจจัยที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหมดคิดหาวิธีการเปลี่ยนให้เป็นเงื่อนไขที่มีประโยชน์

หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “พี่เฉิน สิ่งที่ฉันรู้ก็บอกนายหมดแล้ว ฉันเป็นแค่……เพื่อนของหลี่อีนั่ว ดังนั้นไม่มีวิธีการจะรู้มากมายขนาดนั้น ถ้าอยากทำความเข้าใจมากขึ้น เกรงว่าต้องถามสมาชิกแกนหลักของตระกูลหลี่ถึงจะได้ พวกเราที่โลกภายนอกก็ไม่ได้รู้จักคนประเภทนี้อะ”

หนานเกิงเฉินไม่รู้จัก ชิ่งเฉินกลับรู้จักสมาชิกแกนหลักตระกูลหลี่อยู่คนหนึ่งจริง ๆ!

หลี่ถงอวิ๋น!

ชิ่งเฉินกดเรื่องนี้ไว้ในใจชั่วคราว เขาถามว่า “นายอยู่ที่สถานที่ต้องห้ามเป็นไงบ้าง ปลอดภัยรึเปล่า”

หนานเกิงเฉินทบทวนถึงการสอบสวนที่เปลืองคนนิดหน่อยฉากนั้น ตอบว่า “กฎที่พวกเรารู้ตอนนี้มี ไม่สามารถขับถ่ายเรี่ยราด ไม่สามารถร้องเพลงตามคนอื่น ไม่สามารถฆ่าคน ไม่สามารถพูดคำหยาบ……พี่เฉิน นายจะต้องรู้กฎมากกว่านี้สินะ จะบอกฉันได้รึเปล่า”

ชิ่งเฉินส่ายหน้า “ไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนเป็นสถานที่ต้องห้ามอื่นฉันก็บอกนายแล้ว แต่กฎของสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ฉันสาบานกับท่านอาจารย์ว่าจะรักษาเป็นความลับ”

หนานเกิงเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “พี่เฉิน ในกองร้อยสนามเกิดเรื่องมากมาย พวกเขาพูดว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งอาศัยกำลังของตัวเองคนเดียวก็ฆ่ากองร้อยสนามยกกอง แต่ฉันรู้สึกว่าคนพวกนั้นก็ไม่ได้มีค่าให้เห็นใจอะไร ถึงยังไงพวกเขาใช้คนเป็น ๆ ไปทดสอบกฎ”

“อืม” ชิ่งเฉินตอบรับอย่างสงบนิ่ง

“ยังมี พวกเขาพูดว่ามียอดฝีมือแรงก์ C คนหนึ่งไปไล่ฆ่าเด็กหนุ่ม แล้วก็ไม่ได้กลับมา”

“อืม”

“ยังมี ๆ เด็กหนุ่มคนนั้นบังคับให้ชิ่งไฮววิ่งหนีไปเลย แต่ก่อนหลี่อีนั่วเคยพูดว่าชิ่งไฮวเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงที่มีกำลังที่สุดในสังเวียนแห่งเงา ถูกตั้งความหวังอย่างสูง อนาคตไร้ขีดจำกัด ผลคือ ยังคงถูกเด็กหนุ่มคนนั้นหลอกจนหัวหมุน”

ชิ่งเฉินยิ้มเอ่ยว่า “สรุปว่านายอยากพูดอะไร”

“พี่เฉิน” หนานเกิงเฉินจู่ ๆ มองชิ่งเฉินถามว่า “ฉันรู้สึกอยู่เสมอว่าคนที่รักตัวกลัวตายขนาดนั้นอย่างหลิวเต๋อจู้อาศัยอะไรกลายเป็นคนดังข้างกายหลี่ซูถง ถึงกับยังสามารถบงการนาย ผลคือตอนหลังฉันมาคิด ๆ ดู ถ้าศักดิ์ฐานะของนายสองคนสลับกัน ฉันกลับรู้สึกว่าทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นที่พวกเขาพูดก็คือนายสินะ นายถึงเป็นนักเรียนของหลี่ซูถงสินะ”

บนดาดฟ้า ลมฤดูใบไม้ร่วงที่แต่เดิมคร่ำครวญอยู่หยุดลงกะทันหัน โลกก็เงียบสงบกะทันหัน ราวกับกำลังรอคำตอบ

“อืม “ท่านอาจารย์ของฉันก็คือหลี่ซูถง”

……

บนดาดฟ้ายามค่ำคืนของโรงเรียน

ความลับหนึ่งอย่างถูกเปิดเผยอย่างกะทันหัน

หนานเกิงเฉินตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ฉันก็ว่าแล้ว หลิวเต๋อจู้เขาอาศัยอะไรบงการนาย นายฉลาดขนาดนั้นจะไปเป็นลูกน้องของคนประเภทนั้นได้ยังไง! อีกอย่าง คนอย่างนายไปถึงโลกภายในแล้วจะต้องร้ายกาจเป็นพิเศษ จะเป็นแค่นักล่าชาวป่าธรรมดา ๆ ได้ไง”

ชิ่งเฉินก้มหน้ามองเพื่อนร่วมโต๊ะคนนี้ ดูอีกฝ่ายเต้นแร้งเต้นกา

และหนานเกิงเฉินมีความสุขขนาดนี้ก็เพียงเพราะว่าตนเองอยู่ในโลกภายในมีชีวิตที่สดใสไร้ที่เปรียบอย่างแท้จริง

มิตรภาพตอนเป็นนักเรียนบริสุทธิ์ที่สุด ที่จริงแล้วคนมากมายไม่เข้าใจหลักเหตุผลนี้ จนกระทั่งทุกคนออกจากโรงเรียนเข้าไปสู่สังคมที่จิตใจคนชั่วร้ายจึงจะสามารถตระหนักได้ ว่าที่แท้ในสมัยก่อนที่ผ่านไปแล้วตนเองเคยมีมิตรภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในโลก

เพื่อนจะดีใจแทนคุณ ทุ่มชีวิตเพื่อคุณ ที่ยุคสมัยอันไร้ศีลธรรมนั้น จะไล่ตามลมด้วยกัน ฝันด้วยกัน

ไม่มีอะไรที่งดงามไปกว่านี้แล้ว

“พี่เฉิน นายกลายเป็นอัศวินแล้วปะ”

“อืม”

“พี่เฉิน นายถึงกับควบคุมทหารที่ชื่อหวังเฉียงคนนั้นได้ บังคับให้ชิ่งไฮวกระตุ้นกฎ เท่เกินไปแล้วปะ! นายควบคุมเขายังไงเหรอ ช่างเถอะ ๆ นี่เป็นไพ่ตายของนาย ฉันไม่ถาม ๆ!”

“อืม”

ชิ่งเฉินนั่งที่ขอบดาดฟ้า ยันมือข้างหนึ่งหันหน้ากลับไปมองเพื่อนร่วมโต๊ะคนนั้น ลมของยามราตรีพัดขึ้นมาอีก แต่ไม่ได้หนาวขนาดนั้นแล้ว

เวลานี้ หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “พี่เฉิน ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ตอนหลังพวกเราเจอกับกองพลสหพันธรัฐ ตอนที่พวกเขาสอบสวนทหารของชิ่งไฮว หลี่อีนั่วช่วยนายหันปลายมีดไปทางสระอัคคีแล้ว ตอนนี้ฉันคาดเดาว่าทุกคนนึกว่าเป็นสระอัคคีที่กำลังล่าชิ่งไฮว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนาย”

ชิงเฉินดวงตาเป็นประกาย ก่อนหน้านี้เขายังมีความกังวลใจในด้านนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่อีนั่วจะช่วยเขาคลี่คลายปัญหาที่จะตามมา

ตอนนั้นเขาทิ้งมีดใบไม้สารทหนึ่งใบไว้ข้างหลุมฝังหลบ คืออยากให้หลี่อีนั่วตอบสนองจากภายในจริง ๆ

แต่สิ่งที่เขาใคร่ครวญก็แค่อย่าให้หวังปิ่งซูมาไล่ฆ่าตนเอง

แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่อีนั่วถึงกับจะมอบเซอร์ไพรส์หนึ่งอย่างให้ตนเอง!

“อะ” ชิ่งเฉินยื่นซิมการ์ดของหนานเกิงเฉินกลับไปให้เขา “จำว่าเรื่องหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะได้ป้อมปราการข้อมูล ห้ามคุยเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับนักท่องเวลาบนวีแชตอีกเด็ดขาด”

หนานเกิงเฉินเปิดโทรศัพท์มือถือ ไถอ่านข่าว

ถึงอย่างไรเพิ่งจะกลับคืนมาไม่กี่ชั่วโมง จะต้องมีคนโพสต์เรื่องที่เกี่ยวกับโลกภายในแบบไม่ระบุตัวตนบ้างแน่ ๆ

แต่ทว่าในขณะนี้ หนานเกิงเฉินตะลึงงันแล้ว “พี่เฉินนายดู ฉ่วงหวางโพสต์เวยป๋อ เกี่ยวกับพวกเราด้วยแหละ!”

ชิ่งเฉินขมวดคิ้วมองดู เห็นแค่ว่าโพสต์เวยป๋ออันนั้นพูดเรื่องสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 อย่างเหนือคาด

ฉ่วงหวาง “เมื่อการทะลุมิติครั้งที่แล้วยุติลง แพทช์เสริมสังเวียนแห่งเงาที่เพื่อนนักเรียนเหอเสี่ยวเสี่ยวประกาศมีความคืบหน้าใหม่: ผู้ท้าชิงที่ฮอตที่สุดชิ่งไฮวปฏิบัติภารกิจที่สถานที่ต้องห้าม 002 แต่โดนฆ่าอนาถ หลังจากภารกิจล้มเหลว บนทางที่เตรียมจะอพยพจากสถานที่ต้องห้าม ไม่อาจรอดชีวิตอย่างโชคช่วย”

“ขณะนี้ กองพลสหพันธรัฐหาศพชิ่งไฮวเจอแล้ว บาดแผลถึงแก่ชีวิตของผู้ท้าชิงคือเส้นเลือดใหญ่ตรงลำคอแตก ได้รับการพิจารณาว่าเป็นการฆาตกรรม อัปเดตความคืบหน้าของแพทช์เสริมสังเวียนแห่งเงา: 8/9”

“ฆาตกรที่ดักฆ่าชิ่งไฮวต้องสงสัยว่าจะเป็นบุตรเทพสักคนของสระอัคคี ฆาตกรได้รับการสงสัยว่าจะครอบครองวัตถุต้องห้าม แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด และมีไอคิวเกินคน อีกฝ่ายใช้กำลังคนเดียวแทบจะล้อมปราบทีมชิ่งไฮวทั้งตี้ ค่าสัมประสิทธิ์ความอันตรายสูงยิ่ง”

สองคนฉ่วงหวางกับเหอเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้โพสต์ข่าวสำคัญมานานมากแล้ว ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนนึกว่าสังเวียนแห่งเงาจะต้องใช้เวลานานมากจึงจะมีความคืบหน้า แต่คิดไม่ถึงว่าเร็วขนาดนี้ก็ตายไปคนแล้ว!

เรื่องนี้ไต่ขึ้นฮอตเสิร์ชอย่างรวดเร็วแล้ว แต่บทวิเคราะห์รอบนี้ของฉ่วงหวางก็เป็นผลการวิเคราะห์หลังจากถูกหลี่อีนั่วทำให้เข้าใจผิด!

ชิ่งเฉินเงยหน้ามองไปทางหนานเกิงเฉิน “ฉันถามนายตอบ ฉันต้องการวิเคราะห์เบาะแสของคนคนนี้”

“อืม พี่เฉินนายถามเถอะ” หนานเกิงเฉินกล่าว

“เรื่องสระอัคคีนี่มีใครบ้างที่รู้” ชิ่งเฉินถาม

“คนที่รู้เรื่องนี้น้อยมาก มีแค่ฉัน, หลี่อีนั่ว, จางหยางลุงของชิ่งไฮว ยังมีเสนาธิการหวัง, หนิงชุ่นหัวหน้าหมวดหมวด 7 ของกองร้อยสนาม” หนานเกิงเฉินกล่าว “คนอื่นถูกไล่ถอยไปด้านหนึ่งหมด”

“หลังจากพวกนายปรึกษาเสร็จ มีคนบอกเรื่องนี้กับคนอื่นรึเปล่า” ชิ่งเฉินถาม

“ไม่มี” หนานเกิงเฉินกล่าว “ก่อนคืนกลับหลี่อีนั่วให้ฉันไปเข้าห้องน้ำ เพื่อไม่ให้ความแปลกประหลาดก่อนหลังทะลุมิติชักจูงให้คนอื่นระแวง แต่ฉันกล้ายืนยันว่า ในช่วงเวลาที่ฉันเอาถุงซีลไปเข้าห้องน้ำ คนไม่กี่คนนั่นไม่เคยจากไปเลย”

ดีล่ะ เป้าหมายสามารถล็อคไว้ระหว่างคนไม่กี่คนนี้เป็นการชั่วคราว

ชิ่งเฉินถามต่อว่า “กองพลสหพันธรัฐแจ้งกับหลี่อีนั่วรึเปล่าถึงสาเหตุการตายของชิ่งไฮว”

“เปล่า” หนานเกิงเฉินส่ายหน้า “คนของกองทัพสหพันธรัฐพกชุดหูฟังสื่อสารกันหมด เนื้อหาการพูดคุยพวกเราไม่ได้ยิน”

“หนิงชุ่นในฐานะเป้าการสอบสวน น่าจะไม่ได้พกหูฟังปะ” ชิ่งเฉินถาม

“เปล่า”

ชิ่งเฉินผ่อนคลาย “สาเหตุการตายของชิ่งไฮวเป็นความจริง เพราะว่าฉันฆ่าเขากับมือ ขณะนี้ จากเบาะแสประเมินได้ว่าฉ่วงหวางก็คือเสนาธิการหวังกับจางหยางระหว่างสองคนนี้!”

สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือ ฉ่วงหวางคนนี้ถึงกับเปิดเผยตัวตนของตนเองให้กับตนเองดื้อ ๆ เพื่อความนิยม

เพียงแต่ชิ่งเฉินมีข้อสงสัยนิดหน่อยคือ หมอนี่แน่ใจเหรอว่าในไม่กี่คนที่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่มีนักท่องเวลาน่ะ?

เปิดเผยความคืบหน้าสังเวียนแห่งเงาอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ สำหรับคนที่เกี่ยวข้องแล้วเป้าหมายก็ชัดเจนเกินไปนะ

หรือว่า อีกฝ่ายยังมีแผนตามหลังอะไร?

……

ตอนที่ชิ่งเฉินกลับบ้านเปิดประตูอย่างเบามือเบาเท้า กลัวว่าจะปลุกเจียงเสวี่ยกับหลี่ถงอวิ๋นที่กำลังนอนหลับในห้องให้ตื่นขึ้นมา

แต่คิดไม่ถึงว่า พอเปิดประตูจะถึงกับเห็นอาหารที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้องอยู่บนโต๊ะกินข้าว

ดูท่า หลังจากเจียงเสวี่ยคืนกลับไม่ได้เข้านอนทันที ทว่าเดาว่าหลังชิ่งเฉินเสร็จธุระจะต้องยังไม่ได้กินข้าว ดังนั้นทำอาหารใหม่ ๆ แล้วจึงกลับไปนอน

ชิ่งเฉินนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวแตะจาน อาหารยังร้อน ๆ

ตอนที่เขากำลังรู้สึกจิตใจอบอุ่น ประตูของห้องนอนถูกคนเปิดออกเป็นช่องเล็ก ๆ อย่างเงียบเชียบ

หลี่ถงอวิ๋นสวมชุดนอนตัวเล็ก ๆ อุ้มตุ๊กตาผ้าสูงครึ่งตัวคนย่องออกมาจากห้องนอน

เธอมาถึงข้างกายชิ่งเฉินแล้วกล่าวอย่างน่าสงสารว่า “พี่ชิ่งเฉิน ช่วยหนูด้วย!”

ชิ่งเฉินคิดยังไม่ได้คิดก็ปฏิเสธไป “การบ้านทำไม่เสร็จเหรอ ฉันไม่ช่วยเธอเขียนหรอก”

“ไม่ใช่เรื่องการบ้าน!” หลี่ถงอวิ๋นกระซิบเสียงเบา ๆ “เป็นสถานะนักท่องเวลาของหนู อาจจะจวนจะเปิดเผยที่ตระกูลหลี่แล้ว!”

“ตระกูลหลี่จะค้นพบสถานะนักท่องเวลาของเธอแล้วเหรอ” ชิ่งเฉินตระหนักขึ้นความร้ายแรงของเรื่องราว เด็กหญิงจะไม่เอาเรื่องประเภทนี้มาล้อเล่น “ว่ามา เกิดอะไรขึ้น”

หลี่ถงอวิ๋นลดเสียงลงกล่าวว่า “หนูอยู่ที่โลกภายในครั้งนี้ ได้ยินพวกผู้ใหญ่คุยกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาพูดว่าควบคุมนักท่องเวลาไว้สามร้อยกว่าคนแล้ว เตรียมจะดำเนิน ‘แผนกวาดล้าง’ สักอย่าง”

“งั้นแผนกวาดล้างอันนี้ทำไมจะทำให้เธอสถานะเปิดเผยล่ะ” ชิ่งเฉินถาม

หลี่ถงอวิ๋นคิดแล้วกล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉิน พี่ไม่ได้ถามหนูเป็นอย่างแรกสุดว่าแผนกวาดล้างสรุปว่าคืออะไร ดังนั้นพี่ก็รู้เนื้อหาของแผนกวาดล้างอันนี้สินะคะ”

ชิ่งเฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “สมองไวนักนะ!”

ก่อนหน้านี้เด็กหญิงแค่อาศัยปฏิกิริยาที่ชิ่งเฉินแอบมองคุนหลุนอย่างเดียวก็ตัดสินได้ว่าเขาเป็นนักท่องเวลา

ตอนนี้ยังจับช่องโหว่ในคำพูดประโยคเดียวมาอนุมานว่าชิ่งเฉินรู้แผนกวาดล้างอยูแล้ว

ความสามารถในการให้เหตุผลเชิงตรรกะนี้ ความสามารถในการจับรายละเอียดนี้ เกรงว่าแม้แต่นักเรียนมัธยมปลายอย่างหลิวเต๋อจู้ยังทำไม่ได้เลย

ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ฉันรู้การคงอยู่ของแผนกวาดล้าง แล้วก็รู้เนื้อหาคร่าว ๆ เธอพูดต่อได้เลย”

“อืม” หลี่ถงอวิ๋นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “แผนกวาดล้างอันนี้ของกลุ่มการเงินตระกูลหลี่ยังไม่เริ่มเร็ว ๆ นี้เป็นการชั่วคราว เพราะว่าพวกนักท่องเวลาอ่อนเกินไปหน่อย โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนธรรมดากันหมด อีกอย่าง การดำเนินการล้างสมองให้นักท่องเวลาก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ถ้าจะฝึกให้พวกเขาเป็นกองกำลัง ระยะเวลาต้องใช้หลายเดือน พวกเขาพูดว่า ถ้าไม่ได้รับการฝึก นักท่องเวลาพวกนี้จะไม่มีความภักดี ถึงจะฝืนอัพเกรดก็เป็นสวะที่อัพเกรด ไม่กี่นาทีก็ถูกคนฆ่าแล้ว”

ชิ่งเฉินพยักหน้า นี่สอดคล้องกับการวางตำแหน่ง “ทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์” ถ้าหากใช้นักท่องเวลากลุ่มนี้อย่างหุนหันแล้วอัตราการสูญเสียสูงเกินไป แผนการที่น่าขยะแขยงบางอย่างของตระกูลหลี่เกรงว่าจะไม่สำเร็จแล้ว

หลี่ถงอวิ๋น “พวกเขาวางแผนจะให้พวกนักท่องเวลาฉีดยาแปลงพันธุกรรมระดับต่ำสุดก่อน”

“พวกเขาวางแผนจะยกระดับไปถึงแรงก์อะไรค่อยลงมือ” ชิ่งเฉินถาม

“ยกระดับถึงแรงก์ D” หลี่ถงอวิ๋นกล่าว “นี่เป็นแรงก์เฉลี่ยของกองกำลังพิเศษของโลกภายใน”

“งั้นยังเร็วอยู่มาก” ชิ่งเฉินกล่าว “ยาแปลงพันธุกรรมจะต้องฉีดห่างกันหนึ่งเดือน แผนกวาดล้างจะเริ่มก็สามเดือนหลังจากนี้”

“แต่ก่อนแผนกวาดล้าง พวกเขาจะมีแผนการล่วงหน้าหนึ่งอย่าง” หลี่ถงอวิ๋นกล่าว “ตระกูลหลี่จะส่งนักท่องเวลาไม่กี่คนไปขโมยข้อมูลทะเบียนบ้านของโลกภายนอกก่อนในเร็ว ๆ นี้ ใช้สิ่งนี้ค้นหาข้อมูล กำหนดเป้าหมายลอบฆ่าของแผนกวาดล้าง”

ชิ่งเฉินขมวดคิ้ว

ใช่ ถ้าอยากดำเนินแผนกวาดล้างไปฆ่าคนที่ชื่อแซ่เหมือนกันพวกนั้น งั้นต้องรู้ก่อนว่ามีคนที่ชื่อแซ่เหมือนกันเท่าไหร่ อยู่ที่ไหน

ข้อมูลพวกนี้ ข้อมูลทะเบียนบ้านทั้งหมดสามารถดูออนไลน์ได้ทั่วประเทศ!

แถมมีข้อมูลทะเบียนบ้านแล้ว เผ้าหมายลอบสังหารของแผนกวาดล้างจะยิ่งชัดเจน!

คนชื่อแซ่เดียวกันบนโลกนี้มีมากมาย ถ้าตระกูลหลี่มีคนชื่อหลี่เสียง งั้นเกรงว่าต้องฆ่าคนหลายร้อยถึงเป็นพันคนจึงจะสามารถสำเร็จภารกิจทั้งหมด

แต่มีข้อมูลทะเบียนบ้านนี้แล้วก็จะไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้นแล้ว เปรียบเทียบภาพถ่ายก็พอ

ชิ่งเฉินทราบชัดมากว่า ด้วยระดับเทคโนโลยีของโลกภายใน คนพวกนั้นเกรงว่าพกอุปกรณ์เล็ก ๆ กลับมามั่ว ๆ ก็สามารถเจาะฐานข้อมูลทะเบียนบ้านของหน่วยความมั่นคงของโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย

ไม่ใช่ว่าระดับรักษาความปลอดภัยของฐานข้อมูลทะเบียนบ้านนี้มันไม่สูงพอ ทว่าอีกฝ่ายมีเทคโนโลยีที่เหนือล้ำยุคสมัย!

เด็กหญิงกล่าวต่อว่า “ถ้าตระกูลหลี่คว้าข้อมูลทะเบียนบ้านนี้ได้ เกรงว่าอันดับแรกจะคัดกรองตระกูลหลี่ทั้งหมดก่อนหนึ่งรอบ ถึงเวลาชื่อของหนู, อายุ, ภาพถ่ายล้วนตรงกัน เกรงว่าจะความแตกแล้ว”

ชิ่งเฉินถอนหายใจ เขาคิดไม่ถึงว่าตนเองพอกลับมาก็จะพบเจอเรื่องที่ตึงมือเช่นนี้ “แผนขโมยข้อมูลทะเบียนบ้านนี่จะดำเนินการเมื่อไหร่”

“เร็ว ๆ นี้ค่ะ แต่หนูไม่รู้เวลาที่แน่นอน อาจจะคืนกลับครั้งนี้ แล้วก็อาจจะครั้งหน้า” หลี่ถงอวิ๋นอธิบาย “หนูอายุน้อยเกินไป ข้อดีคือพวกเขาพูดกันจะไม่จงใจหลบเลี่ยงหนู จุดด้อยคือหนูไม่สามารถเปิดปากถามขึ้นมาเอง”

เขาถามว่า “ตอนนี้ร่างของเธอที่โลกภายในอยู่ตรงไหน”

หลี่ถงอวิ๋นกล่าวว่า “ก่อนที่หนูจะคืนกลับอ้างว่าจะออกไปเที่ยว ขณะนี้อยู่อยู่บนถนนกลางคืนในเขต 1 ของเมืองหมายเลข 18 ที่นั่นกำลังมีนักเรียนเดินขบวนประท้วง ผู้คนไหลเวียนเยอะมาก หนูสามารถกลืนเข้าไปในฝูงชนได้ทุกเมื่อ แต่ข้างตัวหนูมีบอดี้การ์ดตามอยู่สองคน หนูไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถสลัดพวกเขาออกไปได้รึเปล่า”

ชิ่งเฉินถอนหายใจโล่งอก “คิดไม่ถึงว่าเธอยังค่อนข้างตื่นตัวเลย รู้ว่าจะช่วยชีวิตตัวเองยังไง ไม่เป็นไร ถ้าพวกเขาสำเร็จภารกิจ เธอสลัดทิ้งบอดี้การ์ดไปก่อน จากนั้นฉันจะคิดวิธีการหาคนไปสนับสนุนเธอ อย่างน้อยจะไม่ให้เธอตกอยู่ในมือตระกูลหลี่แล้วโดนทรมาน”

แต่ว่าก่อนที่จะความแตกยังคงแก้ปัญหาเรื่องนี้ที่โลกภายนอกอย่างสุดความสามารถจะดีกว่า!

ถึงอย่างไรฐานข้อมูลรั่วไหลจะเกี่ยวพันถึงนักท่องเวลาโลกภายนอกทั้งหมด

ถ้าให้ตระกูลหลี่ได้รับสิ่งนี้ พวกเขาจะสามารถตรวจสอบโลกภายในทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว!

“พี่ชิ่งเฉิน ตอนนี้ทำไงคะ” หลี่ถงอวิ๋นถามเสียงเบา

หลังจากโลกภายนอกรุกรานโลกภายใน เหตุการณ์การทะลุมิติได้ไปถึงจุดเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดแล้วในที่สุด

ปฏิกิริยาของกลุ่มการเงินมาได้กะทันหันเกินไป พวกเขากำลังใช้ปฏิบัติการจริงอบกกับทุกคนว่าโลกภายในก็ไม่ใช่แพะแกะให้ผู้ใดมาเชือด

แต่ทว่า นี่จึงเป็นกลุ่มการเงินที่แท้จริง ตอนที่พวกมันตกอยู่ในอันตรายจะอ้าปากอันเปื้อนเลือดของตนเอง เผยเขี้ยวอันแหลมคมของตนเองออกมา

ชิ่งเฉินมองหลี่ถงอวิ๋นกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันกับเธอจะควบคุมได้แล้ว ฉันต้องคิดวิธีการส่งข่าวให้คุนหลุน”

………………………………….

แอบอัพก่อนครึ่งตอน เป็นตอนที่ยาวยิ่งกว่าตอนที่แล้วอีกค่ะ เต็มตอนไม่รู้จะทันวันพุธไหม….

คำผิดอาจจะเยอะหน่อยนะคะเพราะว่าไม่ได้ทวนเลย

แต่ว่านี่เป็นหนึ่งในฉากที่เราชอบที่สุดของเรื่องและเป็นตอนที่ทำให้เราอยากแปลเรื่องนี้ด้วยค่ะ คือคนโลกภายในเขาไม่ได้รับสภาพโดยแทนที่กันแต่โดยดี เขาวางแผนชั่วกันแบบเหนือชั้นจริง ๆ ไม่ได้เนิร์ฟสมองคนอื่นเพื่อชูให้พระเอกดูฉลาด แต่ทุกคนฉลาดกันมาก ๆ (ยกเว้นบางคน เช่นคนที่แซ่หลิว……)

แต่ว่าพี่ก็ห่วงแต่ว่าตัวเองจะเป็นหมันแต่ไม่ได้ห่วงลูกน้องที่ฉีดยาไปเรียบร้อยแล้วสักนิดเลยนะคะ อีตานั่นก็คงไม่รู้ผลข้างเคียงนี้แน่นอน

ปล มีคำหนึ่งที่อยู่ ๆ แปลหลี่ซูถงเป็นครู นั่นไม่ได้แปลผิดแต่เป็นต้นฉบับค่ะ คนเขียนคงเมาเล็กน้อย แต่เราก็อยากแปลไว้ให้เหมือนต้นฉบับเลยไม่ได้แก้เอง

………………………………………………..

แมวดราก้อนหลี่เป็นแมวจีนที่ดังมาก น่าจะเป็นแมวประจำชาติจีนเหมือนวิเชียรมาศของไทย เป็นแมวที่อยู่ในวรรณกรรมจีนเยอะมาก ๆ

ดู ๆ แล้วก็คล้ายแมวลายธรรมดาอะนะ

ตอนที่ 168 – เจอนักเรียนย้ายเข้าอีก