หลังจากออกจากห้อง ลิเลียนาก็ตัดสินใจไปดูว่าห้องที่เดิมเคยเป็นของเธอ ด้วยความที่เป็นดึกแล้วทางเดินจึงไร้ผู้คน เหล่าคนรับใช้ก็คงกลับเข้าห้องพักผ่อนกันหมดแล้วเช่นกัน
ห้องนั้นตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แสงแดดส่องถึงได้ดีภายในคฤหาสน์ ตั้งแต่ยังเด็กห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของลิเลียนา พออายุสี่ขวบและต้องเริ่มเรียนรู้ในฐานะว่าที่คู่หมั่นขององค์รัชทายาท เธอก็ย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์ในชานเมืองของเมืองหลวง ช่วงเวลาที่ได้อาศัยอยู่จริงจึงไม่นานนัก แต่ว่า…เธอก็มีความรู้สึกผูกพันอยู่ไม่น้อย
เมื่อมายืนอยู่หน้าประตู เธอใช้เวทตรวจจับการเคลื่อนไหวรอบตัว ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ข้างใน ลิเลียนาค่อยๆ เปิดประตูและเข้าไป
เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทุกอย่างถูกเก็บกวาดไปหมดแล้ว ภายในห้องเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมที่เธอจดจำได้
(เก็บได้ละเอียดราวกับว่าฉันไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อนเลย)
อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา แม้จะไม่มีของสำคัญอะไรตกค้างอยู่ เพราะเครื่องแต่งกาย อัญมณี และหนังสือที่ชื่นชอบก็ถูกขนไปไว้ที่คฤหาสน์ชานเมืองหลวงหมดแล้ว แต่การกระทำที่ราวกับจะลบล้างการมีอยู่ของเธอจนหมดสิ้นนั้นช่างน่าตะลึง
ลิเลียนากวาดตามองห้องอีกครั้ง
(ตอนแรกนึกว่าห้องนี้ท่านแม่จะเป็นคนใช้ แต่ดูแล้วคงไม่ใช่)
จากท่าทีของไคลด์เมื่อกี้ ลิเลียนาพอเดาได้ว่าคนที่ริบห้องของเธอไปคงไม่พ้นท่านแม่ จึงคิดว่าคงจะยึดห้องที่ดีที่สุดไปใช้เองเสียอีก แต่ตอนนี้กลับไม่มีร่องรอยใดๆ ให้เห็น หากท่านแม่ตั้งใจจะใช้สองห้อง—แล้วใช้ห้องนี้เป็นห้องสำรอง—ก็ควรจะมีข้าวของส่วนตัวของท่านแม่บ้าง แต่กลับไม่มีอยู่เลย
(หรือว่า จะเป็นห้องของท่านปู่หรือท่านย่ากันนะ)
ลิเลียนาเอียงคอเล็กน้อย
เตียงในห้องใหญ่พอให้สองคนใช้ได้ เก้าอี้ก็มีสองตัว โซฟายังจัดวางไว้เผื่อแขกสี่คนได้อย่างพอดี
เธอไม่เข้าใจเจตนาของท่านแม่ แต่ที่แน่ๆคือท่านแม่ยังคงต้องการผลักไสเธอไปให้พ้นมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าเชิญเธอมาร่วมงานเลี้ยงตั้งแต่แรก ถึงอย่างนั้นก็คงจะทำขนาดนั้นไม่ได้สินะ
(ท่านพ่อเองก็เชี่ยวชาญในการทำให้ทุกอย่างดูดีเป็นพิเศษ)
พูดแบบตรงๆ ก็คือ ทำภาพลักษณ์ภายนอกดูดี
ในฐานะหนึ่งในสามตระกูลดยุกและเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ท่านพ่อมีชื่อเสียงมาก เสียงชื่นชมยังส่งมาถึงลิเลียนาที่กำลังศึกษาในวังหลวงด้วยซ้ำ ดูเหมือนจะเป็นตระกูลที่อบอุ่น รุ่งเรือง มีลูกที่ฉลาดหลักแหลม
อย่างน้อยก็ในสายตาคนนอก
ถึงอย่างไร “รัฐมนตรีเพลิงน้ำเงิน” ก็ยังคงเป็นชายผู้สมบูรณ์แบบในสายตาผู้อื่น
(ที่สำคัญ ท่านพ่อก็กดดันให้พวกเราทำตัวให้สมภาพลักษณ์นั้นอยู่ตลอด ทั้งฉัน ทั้งท่านพี่ต่างก็พยายามเต็มที่เพื่อไม่ให้ทำลายความคาดหวังนั้น)
แค่หวนคิดถึงสายตาเย็นชาของพ่อก็ทำให้ขนลุก หากทำให้ชื่อเสียงของตระกูลคลาร์กมัวหมอง หากขัดแย้งกับสิ่งที่พ่อคาดหวัง ผลที่ตามมาจะเป็นยังไงนั้นไม่อยากแม้แต่จะคิดมันเลย
แม้จะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างการถูกถอนหมั้นจากองค์รัชทายาทหรือจุดจบแบบในรูทพังพินาศของเกม แต่ความน่ากลัวที่อยู่ใกล้ตัวก็มีไม่น้อยเลย
แน่นอน สิ่งเหล่านี้ลิเลียนาเพิ่งจะคิดได้ก็เมื่อความทรงจำในอดีตกลับคืนมา ถ้าไม่มีความทรงจำเหล่านั้น เธอคงไม่สามารถมองตระกูลคลาร์กด้วยความสงบแบบนี้ได้
(―ดูท่าที่นี่คงไม่มีอะไรให้ได้ข้อมูลนัก… งั้นต่อไป ลองไปดูห้องของท่านพ่อและห้องทำงานดีกว่า)
ในเมื่อดยุกคลาร์กถูกขนานนามว่าเป็นผู้สมบูรณ์แบบ พลังเวทก็สูงเป็นพิเศษ เธอไม่รู้ว่าตัวเองในตอนนี้จะเหนือกว่าหรือไม่ แต่เพื่อไม่ให้ก้าวพลาด ก็จำเป็นต้องเข้าไปสำรวจห้องก่อนที่เจ้าของจะมา
ลิเลียนารีบมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานและห้องพักส่วนตัวของท่านพ่อทันที
ห้องทำงานที่ท่านพ่อไม่ค่อยได้มาใช้งาน ตอนนี้ดูเหมือนจะถูกฟิลลิป พ่อบ้านของบ้านนี้ใช้แทน
สิ่งที่ทำให้ลิเลียนารู้ก็คือ เมื่อแอบเข้าไปในห้องทำงาน เธอก็เห็นสภาพบนโต๊ะที่ชัดเจนว่ายังถูกใช้งานอยู่ โต๊ะทำงานไม้เนื้อดีสีน้ำตาลเข้มเต็มไปด้วยเอกสารจำนวนมาก เมื่อเธอก้มลงดูก็พบว่าเป็นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเขตแดน
เธอหยิบขึ้นมาอ่าน รายงานรายรับรายจ่าย ใบรายจ่ายและอย่างที่คิด ของขวัญวันเกิดที่ส่งมาให้เธอก็เป็นของที่ฟิลลิปเป็นคนจัดหา
(ยังมีร่างข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายด้านที่ดิน ร่างระเบียบว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรม และอันนี้…ร่างนโยบายด้านการจัดการระบบการขนส่ง? มีเยอะจริง ๆ)
ตอนแรกเธอคิดว่าฟิลลิปเข้าไปยุ่งมากเกินไปสำหรับคนที่เป็นแค่พ่อบ้าน แต่แล้วเธอก็เข้าใจขึ้นมาในทันที
ดูเหมือนฟิลลิปจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการบริหารคฤหาสน์ด้วยในตัว นับเป็นเรื่องที่แปลก เพราะปกติแล้วขุนนางมักจะมอบตำแหน่งทั้งสองให้คนละคนกัน บางทีท่านพ่อคงไม่ชอบความสิ้นเปลือง
แล้วก็ยังมีเอกสารเกี่ยวกับการจ้างงานของเหล่าคนรับใช้ในคฤหาสน์ด้วย
ด้วยประสบการณ์จากการอ่านตำราเวทจำนวนนับไม่ถ้วนในระยะเวลาอันสั้น ลิเลียนาจึงสามารถอ่านเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะได้ในเวลาไม่นาน ไม่พบอะไรที่น่ากังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการบริหารเขตแดน เอกสารสำคัญยังถูกส่งให้ดยุกคลาร์กตรวจทานโดยตรงอยู่เสมอ ทำให้เธอถอนหายใจออกอย่างโล่งอก
(แล้วก็เรื่องรายจ่าย… ชุดเดรสกับเครื่องประดับของท่านแม่ที่สิ้นเปลืองนี่น่าจะเป็นปัญหาหลัก แต่ดูท่ายังพอรับได้อยู่ ส่วนอีกหนึ่งประเด็นก็คือ เรื่องคนรับใช้ในคฤหาสน์นี้)
ลิเลียนานิ่งคิด ตั้งแต่ที่เธอมองเห็นจากหน้าต่างห้องของตัวเอง ก็ดูออกว่าจำนวนคนใช้มันมากเกินไป และอย่างที่เธอคาดไว้ พวกเขาส่วนใหญ่เป็นแรงงานชั่วคราวที่เพิ่งจ้างเข้ามาเพื่องานเลี้ยงนี้โดยเฉพาะ พวกเขาส่วนมากเป็นชาวบ้านในเขตปกครอง ถูกบังคับให้ทำงานด้วยค่าจ้างต่ำ แน่นอนว่าไม่มีสัญญาจ้าง ดูเหมือนว่าท่านพ่อจะใช้อำนาจในฐานะเจ้าของที่ดินเต็มรูปแบบ
(แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี… ยิ่งพอรู้ว่าคนพวกนี้ถูกจ้างมาจากหมู่บ้านใกล้เคียงที่ไม่คุ้นชื่อด้วยแล้ว ยิ่งน่าสงสัย)
ชื่อหมู่บ้านเหล่านั้น เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แทบไม่มีข้อมูล หากอย่างน้อยมีจดหมายหรือบันทึกช่วยจำก็ยังพอจะคาดเดาได้
(จริงสิ ถ้าเป็นจดหมายล่ะก็ อาจจะเก็บไว้ในห้องพักส่วนตัวมากกว่าห้องทำงานก็ได้)
จากที่เห็นในห้องทำงานก็พอจะตัดท่านแม่ออกจากรายชื่อผู้เกี่ยวข้องได้ หากมีใครรู้อะไรจริงๆก็คงจะเป็นฟิลลิป พ่อบ้านคนนั้น
(แต่ตอนนี้ เขาก็คงกลับห้องไปแล้ว เอาไว้วันหลังค่อยมาดูก็ได้… ตอนนี้ ไปดูห้องของท่านพ่อ กับห้องของท่านปู่ท่านย่าดีกว่า)
ลิเลียนาออกจากห้องทำงาน แล้วตรงไปยังห้องส่วนตัวของท่านพ่อที่อยู่ติดกันทันที
MANGA DISCUSSION