“กลับมาแล้ว!”
เมื่อผมกลับมาถึงบ้านหลังสอบผ่านเรียบร้อย อลิเซียในชุดนักเรียนก็มาต้อนรับผม
อลิเซียในชุดนักเรียนนั้นช่างงดงามน่ารักเสียจนผมแทบจะเข้าใจผิดว่านี่คือสวรรค์เลยทีเดียวเมื่อเปิดประตูเข้ามา
เธอไม่ได้โชว์เรียวขาเปล่า แต่เลือกใส่ถุงน่องสีดำ ซึ่งอืมม แบบนั้นก็ยังได้คะแนนสูงนะ?
เต็มสิบ!
“แรกน่า! ไม่เป็นไรนะ? เขาไม่ได้พูดจาแปลกๆ ใส่ใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไรๆ”
เธอรีบวิ่งเข้ามาหาผมที่กำลังคิดเรื่องนั้นอย่างจริงจัง ราวกับเป็นคุณแม่ที่หวงลูก
“นักเรียนที่นี่ รวมถึงฉันด้วย จะถูกเลือกปฏิบัติหนักเป็นพิเศษเพราะอิทธิพลของครอบครัว และครูที่ยอมรับเรื่องแบบนั้นก็มีเยอะด้วย”
“นั่นสินะ”
อลิเซียที่เคยอยู่ในโรงเรียนนี้มาก่อน และถูกกลุ่มคนรอบข้างยกให้เป็นตัวตั้งตัวตีของการเหยียดชนชั้น ดูเหมือนจะกังวลมาก
แต่เรื่องของอลิเซียมันช่วยไม่ได้
มันเป็นแค่การแยกแยะ
แม้จะอยู่ในโรงเรียน สามัญชนก็ไม่ควรจะมาสวีทกับองค์ชายโดยมีคู่หมั้นที่เป็นลูกสาวดยุกอยู่ตรงหน้าหรอก
ผมเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งงานกับนักผจญภัยที่เป็นสามัญชนเหมือนกันนะ?
การที่ชนชั้นสูงแต่งงานกับชนชั้นสูงด้วยกันนั้น เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาศักดิ์ศรีที่สามารถใช้อภิสิทธิ์ได้
รักษาความสัมพันธ์กับขุนนางคนอื่นๆ และเพื่อดำรงวงศ์ตระกูลให้ยืนยาว
เรื่องราวของอลิเซียที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเข้าเรียน คงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เป็นเรื่องปกติธรรมดาแบบนั้นแหละ
ผมเองก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นๆ ที่แสดงปฏิกิริยาเกินจริงไปบ้างเหมือนกัน
ว่าแต่ องค์ชายที่เป็นต้นเรื่องนั่น ทำไมถึงไม่เข้าใจเลยนะว่าคนรอบข้างจะแสดงปฏิกิริยาเกินจริงไปแบบนั้น?
การใช้ผู้หญิงคนอื่นเพื่อเลิกกับแฟนเก่า ก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายเลวๆ ในญี่ปุ่นยุคปัจจุบันทำกัน
เพื่อให้อลิเซียที่กำลังเป็นห่วงสบายใจ ผมจึงบอกไปว่า
“การสอบภาคปฏิบัติเวทมนตร์ผ่านสบายๆ เลย ส่วนภาคทฤษฎีได้รับการยกเว้นแล้วด้วย”
“ถ้าเป็นแรกน่าก็เป็นไปได้นะ ทำอะไรลงไปบ้างล่ะ?”
“กรรมการคุมสอบดูเหมือนจะไม่อยากให้ฉันผ่านเอามากๆ แต่พอฉันซัดซะน่วม อาจารย์ใหญ่ก็ให้ฉันผ่านเลย”
“…นี่นายทำอะไรลงไปจริงๆ กันแน่”
เธอแสดงสีหน้าสงสัย แต่ผมก็พูดไปตามจริงทุกอย่าง
“อาจารย์ใหญ่เป็นคนที่ดีใช้ได้เลยนะ?”
“นั่นสินะ ถ้าเป็นฉันเมื่อก่อนอาจจะมองว่าเป็นคนน่ารำคาญก็ได้
แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าท่านเป็นผู้มีคุณธรรมที่คิดถึงนักเรียนเป็นอันดับแรก”
ถ้าไม่มีอาจารย์ใหญ่ เรื่องคงยุ่งยากกว่านี้แน่
ไม่อยากก่อเรื่องวุ่นวายมากนัก เพราะรู้สึกไม่ดีกับอลิเซีย จึงรู้สึกดีใจที่ทุกอย่างลงตัว
“ว่าแต่ มีเรื่องที่ฉันสงสัยมาตลอดเลยนะ”
“อืม?”
“เวทมนตร์ของแรกน่าเป็นแบบไหนเหรอ?”
“ก็ปกติแหละ? ทำได้หมดทุกอย่าง แต่ถนัดบาเรียเป็นพิเศษน่ะ”
แม้แต่บาเรียนั่นก็เป็นเวทมนตร์ที่ใครๆ ก็ใช้ได้ง่ายๆ ถึงแม้จะไม่มีความถนัดด้านนี้ก็ตาม
เป็นหนึ่งในเวทมนตร์ธาตุศักดิ์สิทธิ์
สามารถสร้างกำแพงโปร่งใสที่ป้องกันได้ทุกสิ่ง
เหมือนกับโดมที่คลุมเมืองหลวงนั่นแหละ
“ไม่สิ แค่ถนัดบาเรียอย่างเดียว โรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวทมนตร์คงไม่ใจดีถึงขนาดจะยกเว้นภาคทฤษฎีให้หรอกนะ?
แถมการเสมอกับมังกรนี่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะ จริงๆ แล้วมันคือบาเรียเหรอ?”
“อืมม อาจจะไม่ใช่บาเรียอย่างที่ทุกคนคิดก็ได้นะ”
ผมไม่อยากสอนเรื่องเวทมนตร์ที่ตัวเองถนัดให้คนอื่นมากนัก แต่กับอลิเซียแล้วคงต้องบอกเธอสินะ
ขณะที่ดื่มกาแฟที่อลิเซียชงให้ ผมก็ร่ายบาเรียขึ้นตรงหน้าเธอ
“บาเรียที่ทุกคนจินตนาการก็ประมาณกำแพงแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่เลย การที่ร่ายได้โดยไม่ต้องร่ายเวทนี่น่าประหลาดใจกว่าอีก…เอาเป็นว่า เพราะเป็นแรกน่าก็แล้วกัน
ตรงนั้นฉันจะยอมรับ แล้วก็พูดต่อสิ”
อลิเซียที่พูดต่อพร้อมรอยยิ้มแม้ปากจะกระตุกนิดหน่อย ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเริ่มกลมกลืนกับตระกูลเบรฟมากขึ้นแล้ว
“เพราะเป็นแรกน่าก็เลยยอมรับ” นี่มันเสียมารยาทกับผมหน่อยๆ หรือเปล่าเนี่ย?
ช่างมันเถอะ
“ถ้าร่ายโดยไม่ต้องร่ายเวท จะทำได้หลายรูปทรง ไม่ใช่แค่กำแพงนะ”
“เอ๊ะ”
ปกติแล้วต้องใช้การร่ายเวทยาวๆ อย่าง “โอ้นามแห่งเทพีผู้ศักดิ์สิทธิ์ จงสร้างกำแพงแห่งการปกป้องขึ้นมา”
หรืออะไรทำนองนั้น แต่นั่นก็จะทำได้แค่กำแพงเท่านั้น
ถ้าร่ายโดยไม่ต้องร่ายเวท จะสามารถทำเป็นรูปทรงอื่นๆ ได้ เช่น โดม หรือทรงกระบอก นอกเหนือจากกำแพงสี่เหลี่ยม
เพื่อเป็นการพิสูจน์ ผมสร้างบาเรียรูปทรงแก้ว แล้วเทกาแฟจากแก้วที่ถืออยู่ลงไปในบาเรียรูปแก้วนั้น
“ว้ายๆๆ”
อลิเซียรีบร้อนเมื่อเห็นของเหลวสีดำลอยอยู่กลางอากาศ
น่ารัก
“บาเรียทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ…?”
“ลองคิดดูดีๆ สิ กำแพงที่คลุมเมืองหลวงนั่นแหละตัวอย่างที่ดีเลย”
“อ้อ จริงด้วย”
เมื่อผมบอกเช่นนั้น อลิเซียก็เข้าใจ
นั่นก็เป็นบาเรียที่ยอดเยี่ยมและเป็นรูปทรงโดมเหมือนกัน
“นอกจากนี้ บาเรียธรรมดากับบาเรียของเมืองหลวงก็มีความแตกต่างกันใช่ไหมล่ะ?”
“…สามารถเลือกได้ว่าจะให้สิ่งใดผ่านหรือไม่ให้ผ่าน?”
“ถูกต้องเลย”
สมเป็นคนฉลาด พูดจารู้เรื่องเร็ว
“บาเรียขั้นสูง สามารถเลือกได้อิสระ ไม่ใช่แค่รูปทรง แต่ยังรวมถึงว่าจะให้สิ่งใดผ่านและจะสะท้อนสิ่งใดออกไป”
บาเรียของเมืองหลวงยอมให้คนผ่านได้ แต่ไม่ยอมให้เวทมนตร์ผ่าน
และยังเป็นของที่น่าเหลือเชื่อที่สะท้อนเวทมนตร์จากภายนอกออกไป แต่ยอมให้เวทมนตร์จากภายในผ่านออกไปได้ด้วย
การครอบคลุมเมืองหลวงทั้งเมืองต้องใช้พลังเวทมหาศาล แต่ผมก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจัดหามาจากไหน
“นั่นหมายความว่าแรกน่าสามารถทำสิ่งที่บาเรียเมืองหลวงทำได้งั้นเหรอ?”
“ทำได้ละเอียดกว่านั้นอีก”
ต่างจากบาเรียเมืองหลวงที่ใหญ่โตมโหฬาร บาเรียที่ผมใช้นั้นมีขอบเขตจำกัด จึงคุ้มค่ากว่า
สามารถกำหนดได้อย่างละเอียดว่าจะให้สิ่งใดผ่านและสิ่งใดไม่ผ่าน
“ประมาณนี้แหละ…อึก”
ผมตักกาแฟในบาเรียรูปแก้วขึ้นมาจากด้านล่าง แล้วเทกลับคืนลงในแก้วใบเดิม
อันนี้ผมกำหนดให้มันโปร่งใสสำหรับแก้วเซรามิกเท่านั้น
“นี่มัน…แน่นอนว่าสอบภาคปฏิบัติผ่านฉลุยเลยนะ…”
“ถ้าถามว่ามันอเนกประสงค์ไหม ก็ใกล้เคียงนะ แต่ก็มีบางอย่างที่ทำไม่ได้”
ผมไม่สามารถแยกกาแฟที่ใส่น้ำตาลกับนมเยอะๆ ในแก้วของอลิเซียออกเป็นน้ำตาล นม และกาแฟได้
ถ้าเป็นเหรียญเงินที่ปนอยู่ในเหรียญทอง หรือแมลงที่เกาะอยู่บนหญ้า แบบนั้นทำได้ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ผสมเข้ากันไปแล้ว ก็ทำไม่ได้
“แล้วนายใช้สิ่งนี้เสมอกับมังกรได้ยังไง?”
อลิเซียโน้มหน้าเข้ามาใกล้
“เอ่อ…”
นอกจากจะให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่านแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่ซับซ้อนอื่นๆ อีกมาก
แต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนั้น ท้องของเธอก็ร้องขึ้นมาเสียก่อน
ครืดดดดดดดดดด~
เป็นเสียงท้องของอลิเซียเองแหละ
“ม มาทานมื้อเย็นกันเถอะ! ฉันทำอาหารเป็นแล้ว ให้ฉันจัดการเอง!”
“อ่า อืม ขอบใจนะ”
ผมมองตามแผ่นหลังของอลิเซียที่หน้าแดงก่ำแล้ววิ่งจ้ำอ้าวไปที่ห้องครัว
ตอนนั้นเองก็มีคำถามผุดขึ้นมาในหัว
ว่าแต่ทำไมเธอถึงใส่ชุดนักเรียนล่ะ?
เธอเริ่มเรียนพรุ่งนี้ และอลิเซียก็ไม่มีสอบเหมือนผมด้วย ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักเรียนนี่นา…แต่ก็ดีต่อสายตาดีนี่นา ช่างมันเถอะ?
คงจะเช็กไซส์และอะไรต่างๆ นานาก่อนที่จะใส่ไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้สินะ
MANGA DISCUSSION