หลังจากที่อลิเซียเข้ามาช่วยงาน การทำงานก็รวดเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ปริมาณงานที่ผมต้องใช้เวลาทั้งวันทำ กลับเสร็จสิ้นภายในช่วงเช้า ทำให้ช่วงบ่ายมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น
แม้จะเป็นงาน แต่ส่วนที่สำคัญมากๆ เซบาสก็รับหน้าที่ไปดูแล ดังนั้นผมกับอลิเซียจึงรับผิดชอบงานตรวจสอบตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ ในเอกสาร
ผมภูมิใจในตัวเองมาตลอดว่าถนัดเรื่องการตรวจสอบตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ในตระกูลเบรฟ แต่อลิเซียกลับถนัดกว่าผมมาก
ผมเหมือนกบในกะลาเลยล่ะ
นี่คือช่วงเวลาที่ความรู้สมัยใหม่ต้องพ่ายแพ้
ถ้ามีทีมงานที่สร้างโลกนี้ขึ้นมา ผมอยากจะบอกพวกเขาว่า “ช่วยสร้างโลกที่ความรู้สมัยใหม่สามารถโดดเด่นกว่านี้หน่อยสิ!”
ลำดับชั้นในบ้านตอนนี้คือเซบาส–>อลิเซีย–>ผม
ถ้าไม่พอใจ ก็ต้องทำงานเอกสารให้เสร็จเร็วกว่าอลิเซีย แต่ในเมื่อผมเอาชนะเธอไม่ได้ ผมก็ยินยอมที่จะถูกเธอครอบงำ
“งั้น เดี๋ยวฉันจะไปช่วยคนในคฤหาสน์ทำความสะอาดต่อนะคะ”
ภาพของเธอในชุดทำงานที่ม้วนแขนเสื้อขึ้นมานั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอคือคุณหนูดยุก
เซบาสมองตามหลังเธอไปพลางพึมพำ
“เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ สมแล้วที่ถูกเรียกว่าสตรีผู้ปราดเปรื่อง”
“ก็จริงนะ”
นี่ไม่ใช่ผลจากอัจฉริยภาพที่ได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็ก
แต่เป็นเพราะเธอเป็นคนขยันมากพอที่จะอดทนกับการอบรมอันเข้มงวดนั้น
เมื่อเธอเปลี่ยนใจได้แล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนเธอก็สามารถอยู่รอดได้
เธอมีความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
แม้แต่ในเกม เธอยังสามารถยึดครองตระกูลเบรฟและทำสัญญากับปีศาจเพื่อขัดขวางความรักของตัวเอกได้เลย
“ดีแล้วนะขอรับคุณชาย?”
“อ่า ดีจริงๆ …!”
ผมเห็นด้วยกับคำพูดของเซบาสจากใจจริง
การต่อสู้กับเอกสารที่ไม่มีวันสิ้นสุด พูดตามตรงมันทรมานกว่าการฆ่าศัตรูเสียอีก
เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ที่พลังงานของเธอถูกนำมาใช้ในทางที่ดี
หรือว่านี่คือเส้นทางสู่การหลีกเลี่ยงความหายนะที่สำเร็จแล้วอย่างน้อยก็ชั่วคราว?
“บรรดาคุณนายก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้ามาช่วยงานเลย คนรับใช้ทุกคนจึงรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ไม่มีใครรู้สึกแย่เลยขอรับ ตรงกันข้าม พวกเขาชื่นชมคุณหนูยิ่งกว่าคุณชายเสียอีกนะขอรับ”
“…จำเป็นต้องพูดว่า ‘ยิ่งกว่าฉัน’ ด้วยเหรอ?”
“เอาล่ะขอรับ คุณชายก็พยายามสร้างความน่าเชื่อถือกลับมาให้ได้นะขอรับ กระผมเองก็ใจร้ายเก็บงานบางส่วนไว้ให้คุณชายจะได้ไม่หนีงานนะขอรับ”
“นี่มันปีศาจชัดๆ เลยนะ? อ๊ะ ทำไมราคาของร้านอาวุธนี้มันแพงชมัด?”
ขณะที่ผมถอนหายใจพลางอ่านเอกสาร ผมก็เห็นรายงานการเปิดร้านอาวุธแห่งใหม่ และราคามันก็แพงกว่าร้านอาวุธอื่นๆ มาก
บ้าจริง ใครจะมาเปิดร้านหลอกลวงในดินแดนเบรฟแห่งนี้กัน ถ้าทำแบบนั้นชีวิตคงไม่ยืนยาวหรอก นี่มันคนใหม่หรือไงกัน
“หืมมม พวกเขามาเปิดร้านอาวุธในเมืองในวันที่ท่านอลิเซียมาถึงพอดีเลยนะขอรับ?”
เซบาสพูดพลางลูบหนวด
วันที่อลิเซียมาถึงงั้นเหรอ?
มันน่าสงสัยเกินไปแล้ว
“ยังไงนายก็คงสืบมาแล้วใช่ไหมว่าพวกเขามาจากไหน?”
“ขอรับ พวกเขามาจากเมืองหลวงขอรับ”
“นั่นไงล่ะ”
ถ้าถามรายละเอียด พวกเขาดูเหมือนจะทำธุรกิจแบบ “ไม่สนใจลูกค้า” ในเมือง
โดยโฆษณาว่า “นี่คือของดีจากเมืองหลวงที่หาไม่ได้ในถิ่นทุรกันดารแบบนี้”
ถ้ามันเป็นของดีจริงก็คงดี แต่เมื่อดูจากเงินที่หมุนเวียนแล้ว ดูเหมือนจะไม่ได้ดีอะไรมากมายนัก
ในดินแดนที่มีการสู้รบอยู่บ่อยครั้ง และมีผู้เชี่ยวชาญด้านมอนสเตอร์มากมาย คุณภาพของดาบจึงไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่
เพราะมันเป็นของสิ้นเปลืองน่ะสิ?
จะว่าไปแล้ว การดูแลรักษาดาบทุกวันต่างหากที่สำคัญกว่า
ดาบที่ใช้ทุกวันและลับคมทุกวันก็จะสึกหรอจนใช้การไม่ได้เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเราจึงสั่งซื้อดาบมือสองจำนวนมากมาใช้ แต่ถ้าทำบริการระดับสูงแบบนั้น คงไปไม่รอดหรอก
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเดินทางจากเมืองหลวงที่มีคนมากมายมาทำธุรกิจในดินแดนเบรฟนี้ด้วย จุดประสงค์ของพวกนั้นคือมาจับตาดูอลิเซียใช่ไหม? หรือว่าพวกนั้นมีเจตนาที่จะทำร้ายเรา?”
“นักผจญภัยคนหนึ่งเห็นพวกเขาลอบทำอะไรบางอย่างตอนกลางคืนนะขอรับ เขาเห็นตอนที่เขากำลังเดินเตร่อยู่แถวนั้นตอนกลางคืนเพื่อขโมยของมีค่าเพราะไม่พอใจการทำธุรกิจแบบไม่สนใจลูกค้าของพวกเขาขอรับ”
“การกระทำรวดเร็วเกินไปจนน่าขำเลยนะ”
…ทั้งสองฝ่ายก็สุดโต่งจริงๆ
แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ ที่เมื่อทำตัวน่ารังเกียจก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
นักผจญภัยในดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่คนดีอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ตระกูลเบรฟรับหน้าที่อันตรายในการออกหน้าก่อนใครเพื่อน
ด้วยภูมิหลังแบบนั้น พวกคนเถื่อนจึงให้ความเคารพเรา
“กระผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ของพวกเขา แต่ดูเหมือนจะมีคนเก่งอยู่หนึ่งคนในกลุ่มนั้น เพราะนักผจญภัยที่รายงานมาถูกฟันแขนขาดไปข้างหนึ่งขอรับ”
“โอ้…”
นักผจญภัยที่ทำอะไรเลวร้ายมักจะเป็นพวกอ่อนแอ แต่ถึงอย่างนั้นพวกนั้นก็ยังแข็งแกร่งกว่านักผจญภัยในดินแดนอื่นๆ
การอยู่รอดในฐานะนักผจญภัยในดินแดนเบรฟหมายความว่าอย่างนั้น
การที่พวกเขาไม่ฆ่า แต่ฟันแขนขาดเพื่อขับไล่ไป แสดงว่าเป็นการกระทำที่สุขุมรอบคอบมาก
“จะเอายังไงดีขอรับ?”
เซบาสถามผมแบบนั้น
ปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของเซบาสที่จะต้องห้ามปรามผมเมื่อผมพูดอะไรออกไปก่อน แต่การที่เขาถามแบบนี้หมายความว่าผมจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบครับ
“กำจัดทิ้งไปซะ”
สมมติว่าจุดประสงค์ของพวกนั้นไม่ใช่เจตนาที่ร้ายแรง แต่เป็นแค่การสอดแนม ต่อให้เป็นอย่างนั้น คนที่มาลอบสอดแนมคนในตระกูลเบรฟอย่างเธอตอนนี้ ก็ต้องถูกกำจัดทิ้งไป
“เช่นนั้น กระผมจะตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในคืนนี้ขอรับ”
“ฝากด้วยล่ะ”
“จะมอบรางวัลอะไรให้นักผจญภัยที่รายงานมาไหมขอรับ?”
“นั่นมันกรรมตามสนองตัวเองไม่ใช่เหรอ?”
นักผจญภัยที่สะเพร่าไปแหย่รังแตนแล้วถูกกัดก็ไม่มีทางรอดแล้ว
หรือว่าความทะนงตัวที่รอดมาได้?
ยังไงซะพวกเขาก็คงต้องตายในไม่ช้า การให้รางวัลอะไรไปก็เปล่าประโยชน์
“รับทราบขอรับ”
“จริงสิ เซบาส ฉันมีเรื่องจะรบกวนหน่อย”
“มีอะไรหรือขอรับคุณชาย?”
“ตอนไปโรงเรียน ช่วยหาทางให้ฉันอยู่ใกล้ๆ อลิเซียให้มากที่สุดได้ไหม?”
อีกไม่นานผมจะต้องออกจากดินแดนเบรฟพร้อมกับเธอเพื่อไปยังโรงเรียนในเมืองหลวง
โรงเรียนนั้นเป็นระบบหอพัก และทั้งผมกับเธอก็จะต้องเข้าหอพักด้วยกัน ซึ่งอาจทำให้มีบางสถานการณ์ที่ผมไม่สามารถปกป้องเธอได้
“นั่นหมายถึงการอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเลยใช่ไหมขอรับ? กระผมไม่ได้ติดใจอะไรหรอกขอรับ แต่การตั้งครรภ์ขณะเป็นนักเรียนนั้น กระผมคิดว่าการเรียนกับการเลี้ยงลูกไปพร้อมกันคงจะยากลำบากนะขอรับ”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น! ไม่ใช่เรื่องนั้นเลย!”
คิดอะไรอยู่กันแน่ นั่นมันยังเร็วเกินไปสำหรับพวกเรา
ผมไม่อยากเป็นสัตว์ร้ายแห่งเบรฟหรอกนะ
“ฉันแค่อยากให้อยู่ในระยะที่ปกป้องได้เท่านั้น! มีความเป็นไปได้ที่จะถูกหมายหัวอยู่แล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะสายเกินไปนะ!”
“การรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน…ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แต่มีคนจับตาดูอยู่มากมาย และกระผมก็คิดว่าคงไม่มีใครวางแผนทำอะไรที่สะดุดตาหรอกนะขอรับ?”
“แค่เผื่อไว้เท่านั้นเอง ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นก็ไม่เป็นไร”
หอพักหญิงและหอพักชายแยกอาณาเขตกัน และถ้าเป็นขุนนางระดับสูง ก็จะมีอาณาเขตส่วนตัวขนาดใหญ่ให้ด้วย แต่อลิเซีย แม้จะมาอยู่ตระกูลเบรฟ แต่เธอก็ยังคงเป็นสายเลือดดยุก
หากเธอต้องไปอยู่ในพื้นที่เฉพาะของขุนนางระดับสูง การรักษาความปลอดภัยก็จะเข้มงวดขึ้น
อนึ่ง ตระกูลเบรฟเองก็มีศักดิ์สูงพอที่จะสามารถแต่งงานกับตระกูลดยุกได้ แต่ก็ถือว่าถูกปฏิบัติเหมือนขุนนางชั้นผู้น้อย
โลกนี้มันโหดร้าย แต่ก็เป็นแบบนี้ตามที่ตั้งค่าไว้สินะ?
“อืม…ก่อนอื่นก็พวกคนจากเมืองหลวงนั่นแหละนะ”
ก่อนไปโรงเรียน เราไปกวาดล้างพวกนั้นกันก่อนดีกว่า
MANGA DISCUSSION