“ตัวข้าคือ บุตรแห่ง『ราชันย์ดาบ』เลออนฮาร์ท ทริสทัน สปาด้า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสปาด้า! ผู้ครอบครองทั้งดาบศักดิ์สิทธิ์สีขาว เวทมนตร์ต้องห้ามสีดำ และสติปัญญาแห่งสีเทาอันรอบรู้! วีรบุรุษผู้หาได้ยากยิ่ง การจุติกลับมาอีกครั้งของจอมมารโบราณ ใช่แล้ว ตัวข้าคือ! วิลฮาร์ท ทริสทัน สปา—”
ณ ประตูใหญ่ของหมู่บ้านดาเคีย วันนี้เจ้าชายรองแห่งสปาด้า วิลฮาร์ท ก็ยังคงประกาศชื่อเสียงเรียงนามของตนเองอย่างกระฉับกระเฉงเช่นเคย แต่ทว่า—
“หนวกหูจริงนะเจ้าพี่บ้า!”
“ด๊าาาาาาาาา!!”
วิลฮาร์ทผู้ซึ่งถูกดร็อปคิกอันรุนแรงเข้าใส่จากด้านหลังอย่างกะทันหัน ก็ปลิวกระเด็นกลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้นดินถึงสองสามตลบ
เสื้อคลุมสีแดงอันทรงเกียรติของผู้บริหารฝึกหัดของเขาก็เปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนเสียแล้ว
“นะ นี่มันใครกัน!? ลอบเข้ามาในอาณาเขตสัมผัสสัมบูรณ์ซิกเซนส์ฟิลด์ของข้าแล้วโจมตีได้ในครั้งเดียวเช่นนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่……หรือว่าจะเป็น ‘หมอนั่น’ ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายขององค์กรมือสังหารคลั่งชาโดว์มูนไลท์—”
“ใครเป็นผู้รอดชีวิตจากองค์กรมือสังหารกันยะ เลิกเพ้อเจ้อพล่ามเรื่องพวกนั้นได้แล้วเจ้าบ้า”
วิลฮาร์ทผู้กำลังครุ่นคิดถึงอดีตอันน่าเศร้าของมือสังหารยอดฝีมือผู้ครอบครองทักษะการลอบสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ก็ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืนอย่างโซเซ
เมื่อมองไป ก็เห็นเด็กสาวผมทวินเทลยาวสีแดงที่คุ้นเคยยืนเท้าสะเอวทำหน้าดูถูกอย่างเต็มที่อยู่เบื้องหน้า
“โอ้ น้องสาวข้าเองรึ การโจมตีเมื่อครู่นี้นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว ดูเหมือนจะฝึกฝนจนมีฝีมือระดับแนวหน้าในฐานะนักบวชนักรบแล้วสินะ”
“ข้าเป็นผู้ใช้เวทมนตร์! อย่ามาเปลี่ยนคลาสคนอื่นตามใจชอบสิ!!”
ทั้งสองต่างสวมเสื้อคลุมสีแดงของผู้บริหารฝึกหัดทับชุดเครื่องแบบ เจ้าชายรองและเจ้าหญิงสามแห่งสปาด้า วิลฮาร์ทและชาร์ล็อต สองพี่น้องได้มาเผชิญหน้ากัน
“แต่ว่า ทำไมชาร์ล็อตถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
เขาใช้นิ้วชี้ดันแว่นตาขาเดียวซึ่งเขาคิดว่าเป็นเครื่องหมายการค้าส่วนตัวขึ้นเล็กน้อย ทำท่าเท่ๆ ที่แอบฝึกมา แล้วเอ่ยถามน้องสาว
“ก็ต้องมาทำเควสต์สิยะ พวก ‘กลุ่มสำรอง’ อย่างเจ้าต่างหากที่มา ‘ตั้งแคมป์’ อะไรแบบนี้”
ผู้บริหารฝึกหัดนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่ม 1 ซึ่งรวบรวมผู้ที่มีผลการเรียนดีเด่น และกลุ่ม 2 ซึ่งเป็นกลุ่มรวมพวกผลการเรียนต่ำต้อย
พวกกลุ่ม 1 มักจะเรียกกลุ่ม 2 รวมๆ กันว่า ‘กลุ่มสำรอง’ ในความหมายว่าเป็นตัวสำรองของผู้บริหารฝึกหัดอีกที สรุปก็คือเป็นคำเรียกเชิงดูถูกนั่นเอง
“กึ๋ย ข้ายังไม่ได้พูดสักคำเลยนะว่าจะต้องมาฝึกภาคสนามอะไรแบบนี้ การตัดสินเรื่องต่างๆ จากการคาดเดาน่ะมัน—”
“สัมภาระกองโตขนาดนั้น แถมยังมากันเป็นกลุ่มละห้าคนหลายกลุ่ม แล้วยังมาที่หมู่บ้านดาเคียอีก ถ้าไม่ใช่มาตั้งแคมป์แล้วพวกเจ้าจะมาทำอะไรกันยะ?”
การฝึกภาคสนามนั้น เป็นชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของวิชาที่นักเรียนเรียกว่าแคมป์
นี่คือวิชาอันน่าอัปยศที่บังคับให้เฉพาะผู้ที่ยังไม่สามารถเอาชีวิตรอดในป่าได้ด้วยตัวเองก่อนที่จะไปลงดันเจี้ยนปราบมอนสเตอร์ หรือก็คือพวกที่ยังไม่ถึงขั้นนักผจญภัยเท่านั้น
เนื้อหาของการฝึกภาคสนามหรือแคมป์นี้ ตามธรรมเนียมแล้วคือการใช้ชีวิตอยู่ในป่าทางตอนเหนือของเทือกเขากัลลาฮัดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
และเนื่องจากจะต้องแบกสัมภาระที่เกินความจำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์ไปด้วยเสมอ จึงทำให้มีสัมภาระมากกว่าปกติ และการจัดกลุ่มละห้าคนก็เป็นกฎที่กำหนดไว้เช่นกัน
และวิลฮาร์ทในปัจจุบัน ก็มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการในฐานะนักเรียนที่ต้องเข้ารับการฝึกภาคสนาม
แต่ทว่า สมาชิกอีกสี่คนในกลุ่มของเขานั้น กลับยืนอยู่ห่างจากวิลฮาร์ทพอสมควร
“หึ หึหึหึ—เป็นการคาดเดาที่ยอดเยี่ยมมากน้องสาวข้าชาร์ล็อตเอ๋ย ถูกต้องแล้ว ข้ามาเยือนหมู่บ้านดาเคียแห่งนี้เพื่อเข้ารับการฝึกตนในแดนอเวจีต้องสาปนี้ และบัดนี้ก็กำลังจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ฝึกตนแล้ว”
“แดนอเวจีงั้นเหรอ……มีเมดตามมาด้วย ช่างเป็นแดนอเวจีที่น่าสนุกเสียจริงนะ”
“อึ้ก อึ๋ย……”
วิลฮาร์ทผู้ถูกจี้ใจดำ กัดฟันแน่นพยายามอดทนต่อการโจมตีด้วยวาจาอันแหลมคมของน้องสาว
เบื้องหลังของเขานั้น มีเมดสาวสวยในชุดเอี๊ยมกระโปรงสะอาดสะอ้านยืนสงบนิ่งราวกับเงา
“นี่ เซเลีย เธอก็ลำบากแย่เลยนะที่ต้องมาดูแลเจ้าบ้านี่”
“มิได้เพคะ การดูแลรับใช้ท่านผู้เป็นนาย ถือเป็นหน้าที่อันพึงกระทำของเมดอยู่แล้วเพคะ”
เซเลียก้มศีรษะคำนับชาร์ล็อตผู้เป็นถึงเจ้าหญิงแห่งสปาด้าอย่างนอบน้อม พร้อมกล่าวทักทาย
ดูเหมือนว่าเด็กสาวที่ชื่อชาร์ล็อตคนนี้ จะเป็นห่วงเมดคนนี้มากกว่าวิลฮาร์ทผู้เป็นทั้งเจ้าชายแห่งสปาด้าและพี่ชายแท้ๆ ของตนเสียอีก
“ฝากดูแลเจ้าพี่บ้านี่ด้วยนะเซเลีย อย่าให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้สมาชิกในแคมป์ล่ะ
ทุกครั้งที่เจ้าหมอนี่พล่ามเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระออกมา เกียรติยศของราชวงศ์สปาด้าก็ยิ่งตกต่ำลงทุกที”
ขอรับทราบเพคะ เซเลียตอบรับ วิลฮาร์ทมองเธอด้วยสายตาราวกับมองคนทรยศ
แต่เขาก็สรุปได้ว่า การเปลี่ยนเรื่องคุยน่าจะดีกว่าการพูดอะไรที่ไม่จำเป็นแล้วโดนน้องสาวด่าว่าเพิ่มอีก
“เควสต์ งั้นรึ มันเป็นเควสต์แบบไหนกัน?”
แม้ชาร์ล็อตคนนี้จะมือไวปากร้าย แต่ก็ยังเป็นน้องสาวร่วมสายเลือดอยู่ดี
เขายอมรับในความสามารถทางเวทมนตร์อันสูงส่งของเธอ แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเธออาจจะใจร้อนไปรับเควสต์อันตรายเข้า วิลฮาร์ทจึงอดที่จะแสดงความเป็นห่วงแบบพี่ชายที่หวงน้องสาวเกินเหตุออกมาไม่ได้
“หา จะอะไรก็ช่างเถอะน่า—”
“—ปราบซาลาแมนเดอร์น่ะสิ”
เสียงของผู้ชายอีกคนดังแทรกคำพูดของชาร์ล็อตขึ้นมา แล้วบอกรายละเอียดเควสต์ให้วิลฮาร์ทรู้
“……เนโรรึ”
“โย่ว เจ้าก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ”
แม้จะเป็นนักเรียนเหมือนกัน แต่วิลฮาร์ทก็เป็นถึงเจ้าชายแห่งสปาด้า
ผู้ที่สามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างสนิทสนมเช่นนี้ คงจะเป็นเพราะเนโร ยูลิอุส เอลโรด ผู้นี้ก็มีฐานะเป็นเจ้าชายเช่นกัน หรืออาจจะเป็นเพราะนิสัยโดยกำเนิดของเขาก็เป็นได้
ไม่ว่าจะอย่างไร วิลฮาร์ทกับเนโรก็มีฐานะทัดเทียมกันอย่างแท้จริง อย่างน้อยก็ในทางเปิดเผย ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่จะต้องมาพูดจาสุภาพต่อกัน
“ซาลาแมนเดอร์งั้นรึ หรือว่าจะเป็นรังมังกรเพลิง?”
“ถูกต้อง หัวดีเหมือนกันนี่นาวิลฮาร์ท”
เนโรผู้มีผมสีดำและดวงตาสีแดงอันดูลึกลับเผยรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าอันงดงามเสียจนหากเป็นหญิงสาวก็คงจะหลงใหลได้ไม่ยาก
แต่วิลฮาร์ทไม่ใช่หญิงสาว ดังนั้น นอกจากจะรู้สึกอิจฉาในความงามของเจ้าชายแห่งอวาลอนผู้ซึ่งเคยพบหน้ากันมาหลายครั้งตั้งแต่เด็กคนนี้อยู่บ้างเล็กน้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ
สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือเนื้อหาของเควสต์ที่จะต้องไปท้าทาย 『รังมังกรเพลิง』 ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่อาศัยของซาลาแมนเดอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเทือกเขากัลลาฮัด
“ต่อให้เลื่อนเป็นแรงค์ 4 แล้วก็จริง แต่มันจะไม่อันตรายไปหน่อยรึ?”
แม้จะยังคงใช้คำพูดที่ดูโอ้อวด แต่ก็เป็นคำพูดที่จริงจังปราศจากการล้อเล่นใดๆ ทั้งสิ้น
“ไม่ต้องห่วงน่า ถ้าเป็นพวกข้าล่ะก็ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครก็รับมือได้ทั้งนั้น”
ปลายสายตาของเนโรนั้น คือสมาชิกปาร์ตี้ที่เขาภาคภูมิใจยืนอยู่
บุตรแห่งดาบ กัลเบรซ และ 『เนตรมาร』 ไฮดรา ฝีมือของทั้งสองคนนั้น วิลฮาร์ทผู้ซึ่งเรียนอยู่ปีเดียวกันก็รู้จักดี
แต่ทว่า เขารู้จักเพียงแค่ฝีมือเท่านั้น ไม่ได้มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด
กัลเบรซเคยพูดว่า “ข้าน่ะ จำชื่อพวกอ่อนแอไม่ได้หรอกนะ” ส่วนไฮดราก็เคยพูดกับเขาแค่คำเดียวว่า “น่ารังเกียจ” แล้วก็ตัดบทสนทนาไป
ไม่ใช่คำพูดที่ควรจะใช้กับราชวงศ์ของประเทศที่ตนเองรับใช้อยู่เลยแม้แต่น้อย แต่ชายที่ชื่อวิลฮาร์ทคนนี้ก็ไม่ได้ใจแคบพอที่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องแค่นั้น หรือควรจะเรียกว่าเป็นคนขี้ขลาดกันแน่
ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเถอะ แน่นอนว่าหากเป็น [วิงโร้ด] ของเนโร ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่มีฝีมือโดดเด่นในหมู่ผู้บริหารฝึกหัดแล้วล่ะก็ ก็น่าจะสามารถต่อกรกับซาลาแมนเดอร์ที่รออยู่ใน 『รังมังกรเพลิง』 ได้อย่างไม่น้อยหน้า
แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ดี
“อย่าเอาน้องสาวคนนี้ไปรวมกับพี่ชายไม่ได้เรื่องอย่างเจ้านะ ต่อให้เจ้าไม่เป็นห่วง ข้าก็ปราบซาลาแมนเดอร์ได้สบายๆ อยู่แล้วย่ะ”
“……งั้นรึ”
ถึงกระนั้น หากชาร์ล็อตยังคงมีท่าทีเช่นนี้ ก็คงจะพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์
“ถ้าบาดเจ็บล่ะก็ ให้ท่านหญิงเนลช่วยรักษาให้ดีๆ ด้วยล่ะ”
ดังนั้น อย่างน้อยก็ขอให้เธอกลับมาอย่างปลอดภัย โดยที่ผิวอันอ่อนนุ่มของหญิงสาวนั้นไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน เขาจึงได้แต่ส่งคำพูดเช่นนั้นไปให้ชาร์ล็อต
“ไม่ต้องบอกก็ทำอยู่แล้วย่ะ ว่าแต่……เนลไปไหนแล้วล่ะ?”
ชาร์ล็อตมองไปรอบๆ แต่ดูเหมือนว่าดวงตาสีทองของเธอจะไม่สามารถหาสมาชิกคนที่ห้าเจอ
“อืม อา เผลอแป๊บเดียวก็เป็นแบบนี้ทุกที”
เนโรยักไหล่อย่างระอาใจ
จริงสิ น้องสาวของเขา เจ้าหญิงองค์แรกแห่งอวาลอนที่ชื่อเนลนั้น มักจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอยู่บ่อยๆ วิลฮาร์ทนึกขึ้นได้
แถมยังเป็นพวกหลงทิศอีกต่างหาก คนตามหาก็ลำบากแย่ เพราะแทบจะไม่เคยมีครั้งไหนที่ไปแล้วจะกลับมาเองได้เลย
“บางทีอาจจะกำลังไปช่วยใครอยู่ที่ไหนสักแห่งกระมัง”
ด้วยนิสัยที่ใจดีราวกับเทพธิดาของเธอ ทำให้เธอไม่อาจทอดทิ้งผู้ที่กำลังเดือดร้อนได้
แม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่ใช่ประชาชนในประเทศของตนเอง เธอก็ยังคงปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน รูปลักษณ์เช่นนั้นควรจะเรียกว่านักบุญหญิงมากกว่าเจ้าหญิงเสียอีก
แต่ทว่า ต่อให้ยื่นมือเข้าไปช่วย สิ่งที่เธอผู้ซุ่มซ่ามจะทำได้ก็มีจำกัด ที่จะมั่นใจได้ว่ามีประโยชน์จริงๆ ก็คงมีเพียงการรักษาอาการบาดเจ็บหรือโรคภัยไข้เจ็บด้วยพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์เยียวยาอันหาได้ยากของเธอเท่านั้น
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าทำเรื่องอันตรายแบบนั้น แต่ก็ไม่เคยฟังกันเลยนี่นา”
ดูเหมือนว่าเจ้าชายแห่งอวาลอนผู้นี้ก็กำลังกลุ้มใจกับความดื้อรั้นของน้องสาวอยู่เช่นกัน
แต่ทว่า เด็กสาวที่ชื่อเนลนั้น ไม่ได้มาดร็อปคิกใส่ใครตั้งแต่แรกพบ หรือเรียกพี่ชายว่าเจ้าบ้า เธอมีนิสัยที่เหมาะสมจะเป็นเจ้าหญิงผู้น่ารักอ่อนหวานอย่างแท้จริง
วิลฮาร์ทคิดอยู่เสมอว่าอยากให้ชาร์ล็อตผู้แก่นแก้วเกินเหตุนั้น เอาอย่างความสงบเสงี่ยมของเธอบ้างสักนิดก็ยังดี
“โอ้ มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นด้วยแฮะ กลับมาจริงๆ ด้วยรึ”
บางทีอาจจะสัมผัสได้ถึงตัวตนของเธอก่อนใคร เนโรหันกลับไปมอง และที่นั่น ในจังหวะที่พอดิบพอดีราวกับนินทาถึงก็มา เจ้าหญิงองค์แรกแห่งอวาลอน เนล ยูลิอุส เอลโรด ก็ปรากฏกายขึ้น
แม้วิลฮาร์ทจะไม่ได้มีความสามารถในการรับรู้ตัวตนของผู้อื่นเป็นพิเศษ แต่หากมองจากระยะไกล เขาก็สามารถจำแนกรูปลักษณ์ของเธอได้ในทันที
เพราะว่า เธอมีลักษณะเด่นที่หาได้ยากในทวีปแพนโดร่า นั่นคือปีกสีขาวขนาดใหญ่ที่งอกออกมาจากแผ่นหลัง
เนลผู้มีรูปร่างหน้าตาราวกับเทพธิดาในภาพวาดสมัยโบราณ เมื่อเห็นพี่ชายและสมาชิกปาร์ตี้รวมตัวกันอยู่ ก็วิ่งเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม พลางทำให้หน้าอกใหญ่โตไม่สมวัยนั้นสั่นไหวอย่างมาก
“อ้าว ท่านชายวิลฮาร์ทนี่เอง บังเอิญจังเลยนะคะ”
ด้วยความรู้สึกที่ราวกับได้รับการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจแม้อีกฝ่ายจะยังไม่ได้ใช้เวทมนตร์รักษา วิลฮาร์ทก็กล่าวทักทายกับเนลที่เดินเข้ามา
“ให้ตายสิ ไปเถลไถลอยู่ที่ไหนมากัน”
เนโรบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงระอาใจ
“ขอประทานอภัยเพคะท่านพี่ แต่ว่า หม่อมฉันได้พบพานเรื่องดีๆ มาเพคะ”
“เหอะ นานๆ ทีเจ้าจะทำประโยชน์ให้คนอื่นได้สินะ”
“เพคะ! หม่อมฉันได้ช่วยเหลือท่านนักเวทฝึกหัดที่กำลังเดือดร้อนเพราะม้าไม่ยอมฟังคำสั่งมาเพคะ!”
ช่างเป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจเสียจริง
แต่ทว่า หากเจ้าหญิงผู้งดงามท่านนี้มอบความเมตตาราวกับเทพธิดาให้เช่นนี้แล้วล่ะก็ นักเวทฝึกหัดผู้นั้นก็อาจจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของแฟนคลับท่านหญิงเนลผู้ทรงเกียรติไปเสียแล้วก็ได้
เมื่อคิดเช่นนั้น ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ที่ทำให้ชีวิตของผู้ชายอีกคนหนึ่งต้องพลิกผันไปเสียแล้ว
“ถ้างั้น สมาชิกก็ครบแล้ว ไปรังมังกรเพลิงกันเถอะ”
ชาร์ล็อตผู้ซึ่งดูมีกำลังใจเต็มเปี่ยม กำลังจะก้าวเท้าออกไปอย่างกล้าหาญ แต่—
“เดี๋ยวก่อน ชาร์ล็อต”
—วิลฮาร์ทก็รั้งเธอไว้
“อะไรยะ?”
แม้ชาร์ล็อตจะส่งเสียงไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน แต่การที่เธอยังไม่เมินเฉย ก็อาจจะกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ของสองพี่น้องยังไม่ได้แตกร้าวถึงที่สุด
“เทือกเขากัลลาฮัดทางตอนเหนือนี้น่ะ ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งซึ่งอาศัยอยู่ส่วนลึกโผล่ออกมาแถวตีนเขาด้วยนะ”
“แล้วยังไงล่ะ? ก็แค่การเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไม่ใช่รึไง?”
แม้จะเป็นมอนสเตอร์ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
แม้แต่ในดันเจี้ยนประเภทซากโบราณสถานซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้าง ชั้นที่มอนสเตอร์ปรากฏตัวหรือเส้นทางที่พวกมันเดินลาดตระเวนก็ยังเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน
ยิ่งเป็นภูเขาและทุ่งหญ้าตามธรรมชาติแล้ว การที่อาณาเขตที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
“ไม่สิ ดูเหมือนว่าแนวโน้มนั้นจะเกิดขึ้นกับมอนสเตอร์ทุกชนิดเลยต่างหาก”
แต่ การที่มอนสเตอร์ทุกชนิดที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เป็นเรื่องที่คิดได้ยาก
“บางทีซาลาแมนเดอร์อาจจะแข็งแกร่งเกินไป จนทำให้มอนสเตอร์แถวยอดเขาพากันหลีกหนีเป็นพิเศษก็ได้กระมัง”
ไม่ใช่แค่ซาลาแมนเดอร์เท่านั้น หากมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเกินไปปรากฏตัวขึ้น มอนสเตอร์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็อาจจะเปลี่ยนอาณาเขตที่อยู่อาศัยราวกับกำลังหลบหนีได้เช่นกัน
แต่ทว่า การที่จะส่งผลกระทบต่อมอนสเตอร์ทุกชนิดนั้น หมายความว่ามันจะต้องเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังอันดุร้ายและท่วมท้นชนิดที่โจมตีไม่เลือกหน้าเกือบจะโดยสิ้นเชิง
มอนสเตอร์ที่อันตรายเกินไปเช่นนั้น ไม่ค่อยจะปรากฏตัวในขอบเขตที่มนุษย์จะมองเห็นได้บ่อยนักหรอก
“ถ้างั้น ก็ยิ่งน่าสนุกที่จะได้สู้กับซาลาแมนเดอร์น่ะสิ”
“ไม่สิ แบบนั้นมันยิ่งน่ารำคาญไม่ใช่รึไง”
ชาร์ล็อตกับเนโรผู้ซึ่งได้ฟังเรื่องราวของวิลฮาร์ท ต่างก็แสดงปฏิกิริยาที่ตรงกันข้าม แต่กลับไม่เพิ่มความระมัดระวังเหมือนกันอย่างสิ้นเชิง แล้วก็เดินจากไป
ก่อนจากไป เนลได้คำนับอย่างสุภาพและงดงามสมกับเป็นราชวงศ์ ซึ่งช่วยให้ความรู้สึกแย่ๆ จากท่าทีล้อเล่นของคนทั้งสองนั้นหายไปจนหมดสิ้น
“เฮ้อ หวังว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”
“ท่านวิล”
เซเลียผู้ซึ่งเข้าใกล้มาโดยไร้สุ้มเสียง เอ่ยเรียกวิลฮาร์ทผู้กำลังเป็นห่วงน้องสาวอย่างเงียบๆ
“อะไรเหรอ?”
“การที่มอนสเตอร์ลงมาจากภูเขานั้น หมายความว่าการฝึกภาคสนามของท่านวิลก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นไปด้วยนะเพคะ ก่อนที่จะเป็นห่วงคนอื่น ควรจะกังวลเรื่องของตัวเองก่อนจะดีกว่าเพคะ”
“อึ้ก!?”
หากเกิดอะไรขึ้นก็ฝากด้วยนะ เจ้าชายหนุ่มแห่งสปาด้าผู้ซึ่งเอ่ยคำพูดอันน่าสมเพชเช่นนั้นกับเมดของตน ก็ได้แต่ภาวนาต่อทวยเทพสีดำไม่ให้ถูกมอนสเตอร์โจมตี แล้วก็ออกเดินทางจากหมู่บ้านดาเคียไป
Translater : Eidolonwww.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION