บทที่ 184 – ปฏิบัติการของขวัญ
หลังจากคุโรโนะออกไปแล้ว ภายในห้องพัก ลิลี่และฟิโอน่าก็นั่งเผชิญหน้ากัน
เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ อย่างโต๊ะกับเก้าอี้นั้นไม่จำเป็นสำหรับนักผจญภัย ในห้องพักนี้จึงมีเพียงตู้เสื้อผ้าสำหรับเก็บสัมภาระกับเตียงนอนที่จำเป็นสำหรับการนอนหลับเท่านั้น คนทั้งสองจึงนั่งอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนมบนเตียงที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีขาว
และระหว่างคนทั้งสองนั้น มีภูเขาทองคำที่ส่องประกายเจิดจ้ากองสูงอยู่
“เห~ อย่างที่คิด มีอยู่เยอะเหมือนกันนี่นา” (ลิลี่)
แม้จะเป็นลิลี่ในร่างเด็กน้อย แต่บนใบหน้ากลับปรากฏรอยยิ้มที่เหมือนกับพ่อค้าหน้าเลือดตอนได้ยินเรื่องทำกำไรงามๆ
“ไม่ๆ ค่ะ คุณลิลี่ต่างหากล่ะคะ” (ฟิโอน่า)
ส่วนฟิโอน่านั้น แม้ถ้อยคำจะเหมือนกับพ่อค้าชั้นผู้น้อยที่กำลังติดสินบน แต่สีหน้ากลับยังคงเป็นใบหน้าไร้อารมณ์ง่วงๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
“อันนี้น่ะ—“ (ลิลี่)
ลิลี่ใช้มือเล็กๆ ราวกับใบไม้ หยิบเหรียญทองขนาดใหญ่ขึ้นมา ด้านหนึ่งเป็นภาพเหมือนของผู้หญิงหันข้าง อีกด้านหนึ่งเป็นวงเวทมนตร์ทรงกลมล้อมรอบด้วยลายคล้ายมงกุฎใบมะกอก
“—เหรียญทองซินเครียเนี่ย ถ้าเทียบเป็นแคลนแล้วจะได้สักเท่าไหร่กันนะ?” (ลิลี่)
นั่นคือเหรียญทองที่ฟิโอน่าหามาได้สมัยที่ยังใช้ชีวิตอยู่ในสาธารณรัฐซินเครีย ก่อนที่จะข้ามมายังทวีปแพนโดร่า
แน่นอนว่า เหรียญทองนั้นใช้หมุนเวียนอยู่ในสาธารณรัฐ หรือพูดให้กว้างคือในทวีปอาร์ค ที่ใช้กันในทวีปแพนโดร่าคงจะมีเพียงแค่ในเดดาลัสที่ถูกยึดครองไปแล้วเท่านั้นกระมัง
“ถ้าไม่ประเมินอย่างละเอียดก็คงบอกไม่ได้หรอกค่ะ แต่เมื่อพิจารณาจากปริมาณทองคำแล้ว คิดว่าหนึ่งเหรียญน่าจะเกือบๆ ถึงแสนแคลนกระมังคะ” (ฟิโอน่า)
เหรียญทองที่หนึ่งเหรียญมีค่าเกือบแสนแคลนนั้น วางซ้อนกันอยู่หลายร้อยเหรียญ!
มูลค่าทรัพย์สินนั้นคิดง่ายๆ ก็หลายสิบล้านแคลน ไม่ใช่จำนวนเงินที่นักผจญภัยเพิ่งขึ้นแรงค์ 2 ควรจะมีได้เลย!
ไม่ควรจะมีก็จริง แต่ความเป็นจริงก็คือ หากเขย่าหมวกสามเหลี่ยมของแม่มดซึ่งลงอาคม [เวทมิติ] ของฟิโอน่าแล้วล่ะก็ เหรียญทองซินเครียเหล่านี้ก็จะไหลทะลักออกมา กราว กราว ราวกับเขย่าค้อนมหาสมบัติไม่มีผิด!
“แล้วทางคุณลิลี่ล่ะคะเป็นยังไงบ้าง? นอกจากเหรียญทองเดดาลัสแล้ว ดูเหมือนจะมีเหรียญทองหลายชนิดอยู่เลยนะคะ” (ฟิโอน่า)
บนมือของลิลี่เองก็มีเหรียญทองกองซ้อนกันเป็นภูเขาอยู่เช่นเดียวกับฟิโอน่า
แต่ อย่างที่ฟิโอน่าว่า ภูเขาทองคำนี้ประกอบไปด้วยเหรียญทองเดดาลัสที่สลักตรามังกรเป็นหลัก และมีเหรียญทองสปาด้าขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยที่มีตราดาบไขว้กับมงกุฎปะปนอยู่ นอกจากนั้นยังมีเหรียญทองขนาดเล็กใหญ่อื่นๆ ที่มีลวดลายแตกต่างกันผสมอยู่ด้วย
ในจำนวนนั้น ยังมีสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเหรียญทองโบราณที่น่าจะขุดค้นพบมาจากดันเจี้ยนประเภทซากโบราณสถานอยู่ด้วยซ้ำไป
“ถ้าเป็นแค่เหรียญทองล่ะก็ ฉันคงจะด้อยกว่าฟิโอน่านั่นแหละ แต่ถ้าบวกอัญมณีอื่นๆ เข้าไปด้วยล่ะก็ ก็น่าจะพอๆ กัน หรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยกระมังนะ” (ลิลี่)
“อัญมณีที่ว่านี่ หมายถึง [ควีนเบริล] รึเปล่าคะ?” (ฟิโอน่า)
ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอกน่า ลิลี่พูดด้วยสีหน้าที่ระอาเล็กน้อย พลางวาดวงเวทเล็กๆ ขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นอัญมณีมรกตที่ส่องประกายเจิดจ้าจนแทบจะเหมือนกับดวงตาของเธอเองก็ร่วงหล่นลงมา!
“ถ้าเอา [ควีนเบริล] ไปขายล่ะก็ แค่นั้นก็ได้เงินพอๆ กับเหรียญทองของฉันกับเธอรวมกันแล้วล่ะน่า ที่ฉันพูดถึงน่ะ คืออัญมณี ‘ธรรมดาๆ’ แบบนี้ต่างหาก ยังมีอยู่อีกหลายเม็ดเลยนะ” (ลิลี่)
แม้จะมีท่าทีราวกับจะบอกว่าใครๆ ก็มีของแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ แต่การจะมีของแบบนี้ไว้ในครอบครองได้อย่างปกตินั้น คงจะมีเพียงขุนนางระดับที่อาศัยอยู่ในย่านที่หรูหราที่สุดของเขตชั้นสูงในสปาด้าเท่านั้นกระมัง
“มีของแบบนี้อยู่เยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย” (ฟิโอน่า)
“นั่นมันคำพูดของฉันต่างหากล่ะย่ะ” (ลิลี่)
ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ประหลาดใจกับจำนวนเงินในครอบครองของอีกฝ่ายที่มากกว่าที่คาดไว้
“ฉันเองน่ะนะ ถึงจะบอกว่าเอาแต่เก็บตัวอยู่ในป่าแฟรี่ แต่พออยู่มาตั้ง 30 ปี มันก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นเยอะแยะเหมือนกันนะ” (ลิลี่)
เป็นถ้อยคำที่ให้ความรู้สึกถึงอายุขัยอันยาวนานซึ่งไม่สมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูอ่อนเยาว์เลยแม้แต่น้อย แต่นี่ก็เป็นความจริงที่ไม่ต้องสงสัยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น การช่วยเหลือผู้คนที่มาล้มพับหมดสติอยู่ในป่าแฟรี่เหมือนกับคุโรโนะ ลิลี่ก็เคยทำมาแล้วหลายครั้งในอดีต
หรือบางที ก็เคยช่วยเหลือรถม้าของพ่อค้าที่เดินทางไปตามทางหลวงตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งถูกมอนสเตอร์โจมตีอยู่ด้วยเหมือนกัน
“ฉันในร่างเด็กน่ะ เป็นคนดีที่ไม่รู้จักคิดถึงผลได้ผลเสียเลยนี่นา ก็เลยเผลอช่วยคนไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังอยู่เรื่อยเลย” (ลิลี่)
ต้องขอบคุณเรื่องนั้น ตอนที่ไปช่วยพ่อค้าทาสใจโฉดเข้า ก็เกือบจะโดนจับไปเป็นสินค้าเสียเองด้วยซ้ำไป
ทว่า พ่อค้าทาสคนนั้นก็ได้กลายเป็นร่างที่ไม่สามารถทำการค้าได้ไปตลอดกาลแล้วก็เถอะ
“ของพวกนี้ ก็คือสิ่งที่คนที่ได้รับการช่วยเหลือให้เป็นของขวัญตอบแทนมาน่ะสิ ถึงสำหรับฉันที่เป็นแฟรี่แล้วมันจะไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ก็เถอะนะ” (ลิลี่)
แน่นอนว่า ในจำนวนนั้นก็รวมถึงรายได้ตามปกติอย่างการขายยาทิพย์เทวดา หรือการรับค่าตอบแทนจากหมู่บ้านไอร์ซในการกำจัดมอนสเตอร์ด้วย เธอกล่าวเสริม
ฟิโอน่าพยักหน้า “อย่างนี้นี่เอง” ต่อเรื่องเล่านั้น แล้วลิลี่ก็กระตุ้นให้เล่าเรื่องของอีกฝ่ายบ้าง
“ดิฉันก็แค่หาเงินมาในฐานะนักผจญภัยตามปกติเท่านั้นเองค่ะ” (ฟิโอน่า)
“ถ้ามีฝีมือพอจะปราบซาลาแมนเดอร์คู่หนึ่งได้ด้วยตัวคนเดียวล่ะก็ อืม การจะมีเงินเก็บประมาณนั้นก็คงจะสมเหตุสมผลอยู่กระมังนะ” (ลิลี่)
ไม่ได้ดูแปลกใหม่อะไรเป็นพิเศษ ลิลี่ไม่ได้แสดงท่าทีประหลาดใจออกมาเท่าไหร่ แต่ผลงานนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมจนเรียกได้ว่าเป็นนักผจญภัยชั้นหนึ่งแล้วโดยไม่เกินเลยไปนัก
แต่ว่า ตัวเธอเองก็มีความสามารถในระดับเดียวกันนั้นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ และเหนือสิ่งอื่นใด สำหรับลิลี่ผู้ซึ่งไม่เคยนำการประเมินค่าของคนทั่วไปมาใส่ใจอยู่แล้วนั้น ก็คงจะคิดได้แค่ว่า “เหรอ งั้นเหรอ อย่างที่คิดเลยสินะ” เท่านั้นเอง
อันที่จริงแล้ว หากฟิโอน่ามีความอยากอาหารในระดับเดียวกับเด็กสาวที่อายุเท่ากันล่ะก็ เงินเก็บนั่นคงจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าไปแล้วกระมัง ลิลี่คิด
“เอาเถอะน่า ถ้ามีเท่านี้ล่ะก็ อาวุธต้องสาปสักเล่มสองเล่มก็คงจะซื้อได้สบายๆ ทั้งคู่เลยสินะ” (ลิลี่)
“นั่นสินะคะ” (ฟิโอน่า)
ทั้งสองคนพยักหน้าเห็นพ้องกัน พลางเก็บภูเขาทองคำที่กองอยู่บนเตียงอย่างไม่ใส่ใจ กลับเข้าไปใน [เวทมิติ] ของตนเองอีกครั้ง
ฝ่ายหนึ่งเก็บเข้าไปในหมวกสามเหลี่ยมใบใหญ่ อีกฝ่ายหนึ่งเก็บเข้าไปในวงเวทแห่งแสง
“แต่ว่า ทั้งๆ ที่มีเงินอยู่ขนาดนี้แล้วจะให้ของขวัญคุณคุโรโนะเนี่ย มันไม่รู้สึกแปลกๆ ไปหน่อยเหรอคะ” (ฟิโอน่า)
“ก็เพราะว่าจนถึงตอนนี้มันไม่จำเป็นนี่นา คุโรโนะน่ะเป็นประเภทที่จะรู้สึกหนักใจมากกว่าดีใจนะถ้าได้รับของขวัญราคาแพงน่ะ” (ลิลี่)
ณ จุดที่ได้พบกับคุโรโนะครั้งนั้น ลิลี่ก็ครอบครองทรัพย์สินมูลค่าหลายสิบล้านแคลนนี้อยู่แล้ว
ถึงแม้จะมีเงินพอที่จะเลี้ยงดูผู้ชายคนหนึ่งไปได้ตลอดชีวิต แต่การที่เธอไม่ได้จงใจซื้อหาข้าวของให้เขานั้น ก็เป็นเพราะลิลี่เข้าใจความรู้สึกของคุโรโนะเป็นอย่างดีนั่นเอง
ต่อให้ไม่สามารถอ่านอารมณ์ด้วยเทเลพาธีได้ หากมองดูคำพูดและการกระทำของคุโรโนะแล้ว ก็ย่อมจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ว่าไม่อยากจะสร้างความเดือดร้อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ควรจะรับการช่วยเหลือแต่เพียงฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน
“ถึงจะไม่ได้ตั้งใจปิดบังอะไรเป็นพิเศษก็เถอะค่ะ แต่ก็รู้สึกพูดเรื่องเงินกับคุณคุโรโนะได้ยากอยู่เหมือนกันนะคะ” (ฟิโอน่า)
“คุโรโนะน่ะพยายามจะหาเงินด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นนี่นา แต่ว่า—“ (ลิลี่)
ตอนนี้คงไม่ใช่ขั้นตอนที่จะมามัวรู้สึกพูดได้ยากอะไรแบบนั้นแล้วกระมัง ลิลี่คิด
เมื่อลองมองย้อนกลับไปแล้ว ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่คุโรโนะจำเป็นต้องใช้เงินสดจำนวนมาก
สมัยที่ใช้ชีวิตนักผจญภัยอยู่ที่หมู่บ้านไอร์ซนั้น ก็มีรายได้เพียงพอที่จะใช้ชีวิตสองคนอย่างสมถะแต่ก็มีความสุขได้อยู่แล้ว
ต่อมา ในช่วงเควสต์ฉุกเฉินจากการรุกรานของพวกครูเสดเดอร์ หรือการรบป้องกันหมู่บ้านอัลซัสเองก็ตาม ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกิลด์และหมู่บ้าน ทำให้คุโรโนะแทบจะไม่ต้องควักเงินส่วนตัวเลย
แต่ว่า ตอนนี้ เพื่อที่จะโค่นล้มครูเสดเดอร์และอัครสาวก นอกจากจะต้องเสริมสร้างพลังแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แข็งแกร่งขึ้นมาด้วย
การจะเตรียมกำลังรบส่วนตัวเพื่อรับมือกับพวกครูเสดเดอร์ที่จะต้องบุกเข้ามาอีกครั้งอย่างแน่นอนในอนาคตนั้น แน่นอนว่าย่อมต้องใช้เงิน
ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้คุโรโนะยังไม่สามารถซื้อชุดป้องกันที่เหมาะสมกับฝีมือมาแทน [อ้อมกอดแห่งบาโฟเมต] ได้เลย แถมยังไม่มีแม้กระทั่งไม้เท้าซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาวุธหลักของจอมเวทอีกต่างหาก
หากมองในแง่ของอุปกรณ์แล้วล่ะก็ คุโรโนะในตอนนี้ไม่ใช่จอมเวทมนตร์ดำอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเพียงแค่นักดาบธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
“คุโรโนะน่ะต้องการเงินนะ เงินที่มากพอจะเตรียมอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งพอจะต่อกรกับอัครสาวกได้ไงล่ะ” (ลิลี่)
แน่นอนว่า คุโรโนะเองก็กำลังพยายามทำเควสต์เพื่อเลื่อนแรงค์ด้วยนโยบายนั้นอยู่เช่นกัน
ในบางกรณี ก็เคยมีการพูดคุยกันถึงเรื่องที่จะต้องกู้ยืมเงินจากพวกเธอทั้งสองคนด้วย แต่การที่คุโรโนะจะเอ่ยปากขอยืมเงินเองนั้น หากไม่ถึงขั้นอดตายจริงๆ ก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรื่องนั้นสามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดาย
“ถ้าจะเตรียมอุปกรณ์ล่ะก็ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีไม่ใช่เหรอ” (ลิลี่)
ดังนั้น ลิลี่จึงคิดที่จะใช้เงินก้อนใหญ่ที่ตนเองเก็บสะสมมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีโดยไม่ได้ใช้อย่างสูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย เพื่อคุโรโนะ
“แต่ว่านะคะ ถ้าจู่ๆ ไปให้ของขวัญเป็นอุปกรณ์มูลค่าเทียบเท่า 100 ล้านแคลนเลยล่ะก็ คุณคุโรโนะ……จะเป็นอย่างไรบ้างนะคะเนี่ย” (ฟิโอน่า)
แม้จะไม่เท่าลิลี่ แต่ฟิโอน่าเองก็ได้ใช้เวลาร่วมกับคุโรโนะมาโดยตลอดนับตั้งแต่ก่อตั้งทีมปรมาจารย์ธาตุขึ้นมา
เธอพอจะสังเกตเห็นได้ลางๆ แล้วว่าสามัญสำนึกด้านการเงินของคุโรโนะนั้นอยู่ในระดับสามัญชนทั่วไปที่ขยันหมั่นเพียรประหยัดอดออมในทุกๆ วัน
อย่างน้อยที่สุด เธอก็เข้าใจดีว่าเขาไม่ใช่พวกขุนนางที่ถือว่าการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นหน้าที่ หรือมีนิสัยงกเงินเกินจำเป็นเหมือนพวกที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ในย่านสลัมแน่นอน
“นั่นสินะ เพราะงั้นก็ค่อยๆ ให้ทีละนิด เริ่มจากบอกว่าเป็นของขวัญฉลองที่เลื่อนเป็นแรงค์ 2 ก่อนก็แล้วกัน” (ลิลี่)
“อย่างนี้นี่เองค่ะ ถ้าเป็นอาวุธสักสองชิ้นก็น่าจะยอมรับได้ง่ายๆ สินะคะ” (ฟิโอน่า)
การที่ไม่พูดว่าชิ้นเดียวนั้น คงเป็นเพราะเธอคิดว่าลิลี่จะให้หนึ่งชิ้น และตนเองก็จะให้อีกหนึ่งชิ้นสินะ
“ถามไว้ก่อนก็แล้วกันนะ ฟิโอน่า เธอน่ะสามารถให้ของขวัญราคาแพงเกิน 1 ล้านแคลนเพื่อคนอื่นได้โดยไม่ลังเลเลยเหรอ?” (ลิลี่)
แม้จะเป็นคำพูดที่ฟังดูเหมือนจะลองเชิงอยู่บ้าง แต่ฟิโอน่าก็ไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองแต่อย่างใด ตอบกลับมาอย่างเรียบเฉย
“ถ้าบอกว่าเป็นเงินเก็บทั้งหมดในตอนนี้ ก็คงจะลังเลอยู่บ้างเล็กน้อยค่ะ แต่ถ้าเป็นแค่ประมาณครึ่งหนึ่งล่ะก็ เพื่อคุณคุโรโนะแล้วใช้ไปก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีกอย่าง ปาร์ตี้นี้ แค่เพียง 100 ล้านแคลน หาใหม่ได้ทันทีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ” (ฟิโอน่า)
ลิลี่เผยรอยยิ้มที่ดูพึงพอใจออกมาเล็กน้อย แล้วกระโดดลงจากเตียง
“ใช่แล้ว ถ้างั้นก็ไปซื้อของขวัญให้คุโรโนะกันเลยดีกว่า” (ลิลี่)
Translater : Eidolonwww.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION