บทที่ 111 – ปราการเพลิง
กองกำลังจู่โจม 24 นายกำลังต่อสู้อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดยใช้เพลงยุทธ์, เวทมนตร์, และพลังคุ้มครองศักดิ์สิทธิ์ และยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บล้มตายแม้แต่คนเดียว
แต่จำนวนศัตรูที่ข้ามแม่น้ำมานั้นมีเป็นร้อยๆ! แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้อย่างองอาจดุจนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถต่อกรได้นับไม่ถ้วน แต่มันก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดยั้งทหารศัตรูทั้งหมดไม่ให้ผ่านไปได้
ฝ่าห่าฝนธนูและเวทมนตร์ อีกทั้งยังต้องผ่านคมดาบของหน่วยจู่โจมไปได้ ในที่สุดเหล่าทหารราบก็มาถึงกำแพงป้องกันของหมู่บ้านอัลซัสจนได้
แต่ถึงกระนั้น เหล่าทหารก็ยังไม่สามารถข้ามผ่านรั้วไม้ที่ดูบอบบางนี้ไปได้
“อะ อะไรวะเนี่ย ลวดเหล็กพวกนี้—“
เหล่าทหารเหยียบย่ำลงบนลวดหนามโดยไม่ลังเล
และในวินาทีต่อมาพวกเขาก็ต้องเสียใจ! ลวดเหล็กที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมเหล่านี้เจาะทะลุและพันรอบขาของพวกเขาสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก และยังทำให้การรุกคืบช้าลงอีกด้วย!
“เออ! กลับบ้านพวกแกไปซะ ไอ้พวกมนุษย์เวร!!”
เหล่านักผจญภัยที่อยู่อีกฟากของรั้วซึ่งยืนสกัดกั้นทหารที่ไม่สามารถขยับได้ ตะโกนด่าทอพวกเขาเช่นกัน
หน่วยนี้ประกอบด้วยนักผจญภัยระดับเฉลี่ยแรงค์ 2 และค่อนข้างอ่อนแอกว่า แต่เนื่องจากพวกเขาทำงานเป็นนักผจญภัยมาหลายปี พวกเขาก็ยังคงเป็นนักรบที่มีทักษะจากมุมมองของเหล่าทหารอยู่ดี
หอกที่แทงออกมาจากด้านในของรั้วสังหารเหล่าทหารที่ติดกับอยู่ในลวดหนามไปทีละคนอย่างชำนาญ
แต่ในทางกลับกัน พวกครูเสดเดอร์ก็ยังคงบุกเข้ามาด้วยจำนวนที่มากกว่า และในไม่ช้าทหารจำนวนมากก็ได้เข้าร่วมการต่อสู้ที่หน้ากำแพงป้องกันแล้ว
“พี่คะ นี่มันเริ่มจะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ!?”
สมาชิกของ [เจ้าหญิงนักล่าทั้งสาม] ซึ่งกำลังต่อสู้อยู่แนวหน้าราวกับเหล่าวาลคิรีผู้กล้าหาญ ฮันนา น้องสาวคนที่สาม ตะโกนขึ้น
“ใจเย็นน่า เรายังไหวอยู่ เอลฟ์จะไม่ตื่นตระหนกในทุกสถานการณ์ ลอร่า เตรียมการเสร็จรึยัง?”
“ค่ะ พี่หญิง”
ฮันนาเปลี่ยนไปใช้หอกแล้ว และกำลังสังหารทหารที่พยายามจะข้ามรั้วเข้ามาตลอด 5 นาทีที่ผ่านมา
ในทางกลับกัน อิริน่าพี่สาวคนโต และลอร่าพี่สาวคนรอง ได้น้าวศรสายฟ้าที่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมขึ้นบน [ซิลฟ์ไลท์] ของพวกเธอ
ศัตรูกำลังบุกเข้ามาอยู่ตรงหน้าพวกเธอ และมันเป็นสถานการณ์ที่พวกเธอสามารถยิงโดนได้แม้จะหลับตาอยู่ก็ตาม แต่ ทว่าศัตรูไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเธอในตอนนี้
“ทุกคน ถอยห่างออกจากรั้ว!”
ตามเสียงของอิริน่า ฮันนาและนักผจญภัยที่เหลือก็ถอยห่างออกจากรั้วหนึ่งก้าว
เมื่อเห็นโอกาสนั้น ทหารทั้งหมดก็เกาะรั้วและพยายามปีนข้ามมา!
“”[ธันเดอร์ เอมิชชั่น – ไลน์บลาสต์]!!””
เวทสายฟ้าพิสัยกว้างระดับต่ำถูกยิงออกจากคันธนู มันเป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีศัตรูทุกตัวด้วยการโจมตีเพียงสองครั้งเช่นนี้
แต่ทว่า ลวดเหล็กได้ถูกกางไว้รอบขาของพวกเขา รั้วเองก็ถูกพันไว้ด้วยลวดเหล็กเช่นกัน!
สายฟ้าที่ยิงออกจาก [ธนูวายุสายฟ้า – ซิลฟ์ไลท์] ถูกดูดซับโดยลวดหนามที่พันอยู่รอบรั้วก่อน แล้วสายฟ้าก็ไหลเวียนไปทั่วลวดหนามที่กางอยู่รอบๆ อย่างรวดเร็ว!
ในชั่วขณะนี้ ลวดหนามได้กลายเป็นลวดหนามช็อตไฟฟ้า!
เหล่าทหารที่เกาะอยู่บนรั้วพลันหยุดเคลื่อนไหวเหมือนแมลงที่โดนยาฆ่าแมลง และทหารที่ขาติดอยู่ในลวดหนามก็ถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดแรงที่จะต่อสู้!
“เห็นไหม เรายังสบายดีอยู่” (อิริน่า)
“เอ่อ ค่ะ…….” (ฮันนา)
ใบหน้าของอิริน่าแสดงความสงบนิ่ง ฮันนาเข้าใจถึงระดับความตึงเครียดที่แตกต่างกันระหว่างเธอกับพี่สาวคนโต
“ทุกคนเตรียมพร้อม! พวกมันมาอีกแล้ว!”
ทหารที่อยู่หน้ากำแพงป้องกันโดยตรงถูกกวาดล้างไปแล้ว แต่ศัตรูกลุ่มใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
พวกเขาไม่มีเวลามาดีใจเพียงแค่ฆ่าศัตรูไปได้ระลอกเดียว เหล่านักผจญภัยปลุกใจตัวเองอีกครั้งและเผชิญหน้ากับศัตรู
“พี่หญิง ครั้งต่อไปอาจจะไม่ได้ผลดีแบบนี้แล้วนะคะ”
เสียงเย็นๆ ของลอร่าดังมาถึงอิริน่า
“ทำไมล่ะ? รั้วก็ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีนี่”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ศพมันเยอะเกินไป”
ลอร่าชี้ไปยังอีกฟากของรั้ว ที่นั่นมีศพและทหารบาดเจ็บจำนวนมากนอนกองอยู่บนพื้น
เห็นได้ชัด แต่พวกเขานอนอยู่ ไม่ใช่บนพื้นดิน แต่บนลวดหนามต่างหาก
“แย่ล่ะสิ พวกมันจะใช้ศพเป็นฐานเหยียบ—“
ขณะที่อิริน่าตระหนักได้ มันก็กลายเป็นความจริงขึ้นมา!
พวกครูเสดเดอร์ที่บุกเข้ามา ใช้ศพและแม้กระทั่งสหายร่วมรบที่ยังหายใจอยู่เป็นฐานเหยียบโดยไม่ลังเล และเคลื่อนที่มายังกำแพงป้องกันโดยไม่ติดกับลวดหนาม!
“ไอ้พวกสารเลว! พวกแกถึงกับเหยียบย่ำพวกพ้องตัวเองเลยเรอะ!”
นักผจญภัยคนหนึ่งตะโกนขึ้น
สำหรับนักผจญภัยที่เน้นการทำงานเป็นทีม การกระทำของพวกครูเสดเดอร์ที่ ไม่ต้องพูดถึงศพของสหาย แม้แต่คนเป็นๆ ก็ยังไม่ช่วยแถมยังเหยียบย่ำซ้ำเติมนั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจให้อภัยได้!
แต่สำหรับเหล่าทหารแล้ว มันคือการกระทำตามธรรมชาติที่ต้องทำ แม้แต่บนโลก การใช้ร่างของสหายเพื่อข้ามลวดหนามก็เป็นยุทธวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
แม้ว่าจะมีเพียงคุโรโนะเท่านั้นที่รู้ความจริงข้อนี้ในหมู่นักผจญภัย แต่สำหรับพวกครูเสดเดอร์แล้ว มันก็แค่การใช้ฐานเหยียบที่สะดวกสบายที่พวกเขาพบเท่านั้นเอง
“แน่นอนว่า นี่อาจจะเริ่มยุ่งยากแล้วล่ะ แบบนี้ ต่อให้เราใช้การโจมตีสายฟ้าอีกครั้ง มันก็คงไม่ได้ผลมากนัก” (อิริน่า)
จากนี้ไป พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดยั้งศัตรูด้วยกำลังล้วนๆ
เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น อิริน่าและลอร่าก็ชักอาวุธขึ้นมาและเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยความฮึกเหิมยิ่งกว่าเดิม ในตอนนั้นเอง—
“ข้ากลับมาแล้วโว้ย!!”
พร้อมกับเสียงตะโกนนั้น พวกครูเสดเดอร์ก็ได้ยินเสียงระเบิดอันน่าจดจำของปิศาจอีกครั้ง!
พร้อมกับเสียง แกรกๆๆๆ แสงวาบสีดำจากปากกระบอกปืน และกระสุนสีดำที่เจาะทะลุได้แม้กระทั่งเกราะก็พุ่งเข้ามา!
“ทำให้รอกันนานเลยนะทุกคน! ปืนกลกลับมาแล้ว!!”
อีกครั้งที่พายุกระสุนสังหารอันแน่นอนได้โจมตีเข้าใส่พวกครูเสดเดอร์!
มอสกำด้ามจับปืนกลไว้มั่นและยิงเข้าใส่พวกครูเสดเดอร์ที่กำลังโจมตีเข้าใส่กำแพงป้องกัน!
“ฟู่ กลับมาได้จังหวะดีจริงๆ”
อิริน่าแสดงสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อยและหันกลับไปเพื่อออกคำสั่ง
“งั้น ไปสมทบกับคุณคุโรโนะและคนอื่นๆ กันเถอะค่ะ” (ฟิโอน่า)
ผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือแม่มดในชุดสีดำที่แตกต่างจากคุโรโนะ ฟิโอน่า
“งั้น ฝากด้วยนะ” (อิริน่า)
“ค่ะ ไว้ใจฉันได้เลย”
ฟิโอน่าหยิบแตรขนาดใหญ่ออกมาจากภายในหมวกแม่มดอันเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ
จรดริมฝีปากเล็กๆ ลงบนแตร เธอเป่าลมเข้าไป
ปู๊นนนนนนนนนนนนน
เสียงดังสนั่นพอที่จะกลบเสียงตะโกนของเหล่าทหารและเสียงยิงปืนกลดังก้องกังวาน!
มันดังพอที่จะไปถึงหูของคุโรโนะและหน่วยจู่โจมที่เหลือซึ่งอยู่นอกกำแพงป้องกันได้อย่างแน่นอน!
.
.
.
(มุมมองคุโรโนะ)
“นั่นมันสัญญาณแตร! ทุกคนถอย!!”
ทันทีที่เสียงแตรดังมาถึงหู ผมก็ออกคำสั่งล่าถอย
ถึงจะพูดไปงั้น แต่ทุกคนก็น่าจะได้ยินเหมือนกัน คงไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งผมอยู่แล้วล่ะ
“เอออออ! เข้ามาเลยยยย!!”
ท่ามกลางเหล่าทหารเปื้อนเลือด ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่ลืมแม้กระทั่งสัญญาณและยังคงสู้ต่อไป
ผมกำลังพูดถึงแกนั่นแหละ วัลแคน
“[เมจิกบุลเล็ตอาร์ตส์]”
ผมส่งกระสุนนัดหนึ่งไปที่ขมับของเขา เป็นกระสุนแบบอ่อนๆ ที่ผมเคยใช้ตอนดวลนั่นแหละ
“โอ๊ย! อะไรวะคุโรโนะ!? อย่ามาขวางสิวะ!”
ทหาร 2 นายที่โดนลูกหลงจากวงดาบของเขากระเด็นไป ขณะที่เขาหันกลับมาพร้อมกับคำพูดเกรี้ยวกราด
“ถอยได้แล้ว ไม่ได้ยินเสียงแตรงั้นรึ?”
“อ๋า เออ ใช่ มีสัญญาณแบบนั้นด้วยนี่หว่า”
แกเนี่ยนะ ถ้าผมไม่พูดอะไร แกจะสู้ไปถึงเมื่อไหร่กัน? จนกว่าจะตายเลยรึไง?
“[แบล็ก สโมค]”
ในตอนนี้ผมปล่อยม่านควันออกไปขณะที่พาเจ้ามนุษย์หมาป่าบ้าพลังคลั่งการต่อสู้คนนี้กลับเข้าหมู่บ้านไป
เมื่อมีควันดำปรากฏขึ้นทั่วบริเวณ เหล่าทหารก็ดูระแวดระวังขึ้นมา คิดว่ามันอาจจะเป็นพิษ แต่โชคไม่ดีที่ควันนี้ไม่มีความสามารถในการโจมตีใดๆ มันเป็นแค่ม่านควันธรรมดา
เป็นเวทมนตร์ที่ผมจำได้ว่าเคยใช้ครั้งแรกกับซาเรียลเพื่อหนีจากเธอ แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่มีการโจมตีใดที่อาจจะโดนผมได้อย่างแม่นยำแม้จะมีควันนี้อยู่ มันจึงเป็นสถานการณ์ที่สบายกว่าตอนนั้นมาก
“สมกับเป็นนักผจญภัยฝีมือดีจริงๆ แม้แต่ทักษะในการล่าถอยยังดูอลังการ”
ทุกคนที่ถูกทหารล้อมและกำลังต่อสู้ระยะประชิดอยู่ในขณะนี้ ใช้โอกาสนี้หลุดรอดผ่านช่องว่างและเริ่มล่าถอย
แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่มีทางอื่นที่จะหยุดยั้งศัตรูที่นี่บนที่ราบเปิดโล่งนี้ได้ อย่างที่คาดไว้ เหล่าทหารไล่ตามพวกเราที่กำลังถอยกลับมา
“พวกปิศาจกำลังล่าถอย!”
“ตามพวกมันไป!”
เมื่อพวกเราเริ่มล่าถอย พวกครูเสดเดอร์ก็กลับมาคึกคักขึ้น
ถ้าเรายังคงถอยกลับไปตรงๆ แบบนี้มุ่งหน้าสู่ประตู พวกมันก็จะบุกเข้ามาทางประตูได้เช่นกันตอนที่เราเข้าไป
ที่ไหนสักแห่ง เราจำเป็นต้องตรึงพวกมันไว้เพื่อซื้อเวลาให้เพียงพอสำหรับพวกเราที่จะกลับเข้าไปข้างใน
แต่ นั่นไม่ใช่งานของผม
“หลีกไป โอร่า!!”
วัลแคนเริ่มจัดการศัตรูที่หลุดรอดผ่านพวกเราไปและไปถึงกำแพงป้องกันแล้ว
เหล่าทหารที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแบบคีม ถูกขับไล่ออกไปอย่างง่ายดายภายใต้คมดาบของหน่วยจู่โจม ใช่แล้ว อย่างแรกเลยเราต้องกำจัดศัตรูใกล้ประตูให้หมดก่อน
หน่วยจู่โจม 24 คนรวมตัวกันอยู่หน้าลวดหนามที่ถูกวางไว้หลังจากที่เราเพิ่งออกไปจากที่นี่
สิ่งที่เหลืออยู่คือรอให้พวกเขามาสมทบกับเรา
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะ คุณคุโรโนะ”
คำพูดของฟิโอน่าดังมาถึงหูพร้อมๆ กับที่ประตูเปิดออก
“อืม กลับมาแล้ว”
ฟิโอน่ายืนอยู่ที่ประตูด้วยสีหน้าง่วงๆ ตามปกติของเธอ จากทั้งสองข้างของเธอ นักผจญภัยสองคนถือไอเทมคล้ายกรรไกรหรือคีมตัดลวดด้ามยาวปรากฏตัวขึ้น
ไอเทมที่พวกเขาถือไม่ใช่อาวุธ มันคืออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเก็บลวดหนาม
ต้องขอบคุณการฝึกซ้อมนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยการเคลื่อนไหวอันรวดเร็ว ลวดหนามหน้าประตูก็ถูกเก็บออกไปและสร้างทางเดินขึ้น
แต่ในเวลานั้น ผมก็เห็นทหารนับไม่ถ้วนที่ต้องการใช้โอกาสนี้บุกเข้ามาทางประตูที่เราเปิดเช่นกัน
“งั้น ฝากด้วยนะ” (คุโรโนะ)
“ค่ะ—“ (ฟิโอน่า)
โดยไม่แม้แต่จะสนใจทหารที่กำลังเข้ามาใกล้จากด้านหลัง พวกเราก็เดินเข้าประตูไปอย่างใจเย็นขณะฟังเสียงร่ายคาถาของฟิโอน่า
“لھب النار إیقاف جدار حاجز لمنع الثابت لھب ھیروشي ثلاثاء كیكو (กำแพงปราการเปลวอัคคีหยุดยั้งเพลิงฮิโรชิอังคารเคย์โกะ)”
ผมซึ่งไม่ใช่จอมเวทธรรมดา ไม่รู้ว่าคาถานั้นหมายถึงอะไร แต่ ผมรู้ว่าเวทมนตร์อะไรกำลังจะถูกใช้งาน
มันคือเวทมนตร์สายเดียวกับที่เคยช่วยผมไว้ที่หมู่บ้านไอร์ซ
ผมเคยเห็นเวทมนตร์ที่ดูเหมือนกำแพงเพลิงยักษ์ระดับสูง แต่เวทมนตร์ที่เธอกำลังจะใช้ตอนนี้เพื่อหยุดยั้งศัตรู ครั้งนี้ มันคือเวทป้องกันระดับสูงอย่างแท้จริง
“—[อิกนิส แรมพาร์ท ดีเฟนซ์]!”
มันคือการปะทุอย่างแท้จริง!
โล่แห่งไฟ กำแพงแห่งเพลิง คำพูดเช่นนั้นคงไม่เหมาะสมกับมัน ภูเขาขนาดใหญ่แห่งเปลวเพลิงสีแดงอันร้อนแรงซึ่งมีอุณหภูมิสูงยิ่งยวดได้ผุดขึ้นมาที่นี่!
เช่นเดียวกับที่ลาวาจากภูเขาไฟไม่สามารถหยุดยั้งได้ไม่ว่ามนุษย์จะกระโดดเข้าไปกี่คนก็ตาม [อิกนิส แรมพาร์ท ดีเฟนซ์] นี้ก็ได้หยุดยั้งกองทหารนับไม่ถ้วนได้อย่างชัดเจน!
“……สุดยอด” (คุโรโนะ)
“ขอบคุณมากค่ะ” (ฟิโอน่า)
ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่คิดเช่นนั้น เหล่านักผจญภัยรวมถึงพวกครูเสดเดอร์ที่พยายามจะโจมตีต่างก็ตกตะลึงไปกับมัน
และ โดยไม่สูญเสียสมาชิกแม้แต่คนเดียวจากหน่วยจู่โจม 24 นาย ทุกคนก็ได้กลับเข้ามาในหมู่บ้านอย่างปลอดภัยและประตูก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
และในขณะเดียวกันปราการเพลิงก็สั่นไหวราวกับภาพลวงตา และในวินาทีต่อมา มันก็หายไปอย่างสมบูรณ์ราวกับเป็นเพียงภาพมายา
Translater : Eidolonwww.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION