ตอนที่ 7 ยูเรีย อเทลิเยร์
ดูสิค่ะ ท่วงท่าอันสง่างามของคุณและควันที่สวยงามนี้
เอสราเดินนำหน้าโดยแบกชายสวมหมวกเฟโดราไว้บนไหล่ เธอดูตื่นเต้นที่จะได้ไปเยี่ยมชมเวิร์กช็อปที่เธอไม่เคยได้เข้าไปมาก่อน หนุ่มหน้ายุ่งพยายามเจรจากับเรา
“เฮ้ย! ขอร้องล่ะอย่าพาฉันไปหายูเรีย เธอจะจับฉันเป็นหนูทดลองแน่!”
“เราควรสนใจความเป็นอยู่ของคนที่พยายามฆ่าพวกเราด้วยเหรอ”
“…ใช่ ฆ่าฉันเลยดีกว่า ฉันอยากตายที่นี่มากกว่าที่จะไปเจอไอ้โรคจิตนั่น”
“อย่างนี้ก็ยิ่งมีเหตุผลมากขึ้นที่จะพานายไปหาเธอ”
ฉันตอบพลางสูบไปป์
“ว้าว~! เมื่อก่อนฉันได้แค่แอบมองตอนที่เดินผ่าน แต่ตอนนี้ในที่สุดเราก็จะได้เห็นว่าข้างในมีอะไรบ้างแล้ว!”
“มันคือที่นี้ใช่ไหม? มันดูจะเล็กเกินไปสำหรับเวิร์คช็อปชื่อดัง”
ตัวอาคารเป็นสี่เหลี่ยมสูงประมาณ 3 เมตรตั้งโดดอยู่ตรงกลางถนน ที่ประตูเวิร์คช็อปมีเขียนไว้ตัวเล็ก ๆ ว่า ‘ยูเรีย อเทลิเยร์’ ด้านล่างมีข้อความเป็นมิตรว่า “กรุณาเคาะประตูเฉพาะในกรณีที่คุณเป็นสมาชิกของเรา”
“ฉันอ่านในแคตตาล็อกมาว่า ‘ยูเรีย อเทลิเยร์’ ดำเนินการโดยคนคนเดียว! นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำไมมันถึงเล็กมาก”
“ถ้าอย่างนั้นคงผลิตสินค้าได้ปริมาณน้อย ใช่ไหม?”
“ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย! ฉันได้ยินมาว่าเวิร์คช็อปนี้ให้ความสำคัญทั้งคุณภาพและปริมาณ!”
“นั่นค่อนข้างน่าสงสัย แต่ตอนนี้… เราจะเข้าไปได้อย่างไร…”
ฉันให้เอสราพังประตูขนาดนี้ได้ แต่เช่นเดียวกับสิ่งต่าง ๆ ในนคร คุณไม่ควรตัดสินอะไรจากรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว ประตูอาจติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่บ้าบอซึ่งสามารถละลายทุกคนที่สัมผัสโดยไม่ได้รับอนุญาตได้
“เฮ้ เฟโดรา ฉันจะเข้าเวิร์กช็อปนี้ได้ยังไง?”
“…เธอต้องเป็นสมาชิก”
“นายเป็นไหม?”
“ซินดิเคทของเรารับงานนี้เพื่อที่จะได้เป็น…”
“อืม…”
“แล้วนายไปเจอกับยูเรียได้ยังไง?”
“คุณนักสืบ! คือ… ยูเรีย อเทลิเยร์เลือกลูกค้าเอง เวิร์กช็อปจะส่งคำเชิญเป็นสมาชิกให้กับลูกค้าที่มีศักยภาพ แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้รับอะไรเลย”
“อะไรที่มันทำให้ไอ้โง่ใส่หมวกนี่มีสิทธิ์แต่เรากลับไม่มีกัน”
“ฮึก… นั่นสินะ…”
“เฟโดรา ไปเปิดประตู”
“อะไรนะ? ไม่มีทาง ใครจะไปรู้ว่ามันมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบไหน…”
“แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ ถ้านายทำตามที่ฉันบอก ฉันจะไม่ส่งนายให้ยูเรีย”
“…สัญญานะ?”
“สัญญา”
เฟโดราเดินไปที่ประตู เขาเหงื่อแตกพลั่ก ลังเลที่จะสัมผัสประตู ก่อนจะเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหมุนลูกบิดอย่างช้า ๆ และดึงมัน
เอี๊ยด
ประตูเปิดออกเผยให้เห็นบันไดลงไปใต้ดิน ดูเหมือนจะลึกพอสมควร ฉันรู้อยู่แล้วว่าเวิร์คช็อปไม่น่าเล็กแค่นี้
“ว้าว~ คุณนักสืบ! ฉันเดาว่าเวิร์คช็อปของจริงอยู่ข้างล่างนั่นแน่!”
“ฉันไปได้แล้วใช่ไหม…?”
“เดินนำลงไป”
“เวร…”
พวกเราเดินลงบันไดไป สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนมาจากด้านล่าง สัญชาตญาณบอกฉันว่านี่ไม่ใช่แรงสั่นธรรมดา มีบางอย่างกำลังเข้าใกล้พวกเราอย่างรวดเร็ว
“คุณนักสืบ! นั่นมันอะไรน่ะ!”
มันคืออะไร? หมูป่า? หมี? เจ้าสิ่งขนาดใหญ่นั้นกำลังเข้ามาหาพวกเรา
“มันคือตุ๊กตาหมีล่ะ! น่ารักมาก!”
เอสราพูดอย่างร่าเริงพร้อมประกายในตา
“…สิ่งที่มันกำลังจะทำกับเราคงไม่น่ารักเลย”
ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่พุ่งเข้าหาเราด้วยสี่ขา มันเป็นระบบรักษาความปลอดภัยของเวิร์คช็อปนี้หรือเปล่า น่าสงสัย หรือบางทีมัน…
“เอสรา! หยุดมันซะ!”
“เยสส~”
ตุ๊กตาหมีตะปบอุ้งเท้าใส่ผู้ชายที่อยู่หน้าเรา ดึงเอาครึ่งตัวบนของเขาออกไปในครั้งเดียว
“โหมดหมัดเผ็ดร้อน!”
เอสราสวมถุงมือเกราะของนามีร์เวิร์กช็อป(Namir Workshop)ไว้ที่มือทั้งสองข้างของเธอ
โค-รม
แรงกระแทกจากการปะทะของเอสรากับหมีเท็ดดี้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทางลงใต้ดิน ร่างกายของเอสราได้รับการเสริมความแข็งแกร่งด้วยกระบวนการราคาแพงและไม่ธรรมดา ฉันขอบอกว่าหมีเท็ดดี้ตัวนี้น่าประทับใจที่ทนความแข็งแกร่งของเธอได้
“ฮร่าาาา!”
เอสราตะโกนผลักตุ๊กตาหมีออกไปและเปิดใช้งานถุงมือเกราะของเธอ ซิงกูลาริตีของ G คอร์ปถูกนำมาใช้กับถุงมือเกราะของนามีร์เวิร์กช็อป ‘ทรงกลม’ ที่ฝังอยู่ตรงกลางถุงมือสามารถปรับน้ำหนักได้อย่างอิสระ เอสราเพิ่มน้ำหนักของถุงมือขึ้นและต่อยที่หัวของตุ๊กตาหมีที่พุ่งเข้ามา
แค-วก
สำลีระเบิดในอากาศพร้อมเสียงดัง
หมัดของเอสราสะบั้นหัวของตุ๊กตาเป็นรูใหญ่ เธอยังคงเหวี่ยงหมัดใส่ไม่หยุด เจาะทะลุเป็นรูเพิ่มอีกหลายรู สำลีลอยฟุ้งออกมาในอากาศ จนตุ๊กตาหมีขาดเละจำรูปเดิมไม่ได้
“ฮาฮ่า… ฉันทำได้ดีเลยใช่มะ?”
เอสราพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ทำได้ดีมาก”
ความจริงที่ว่าไม่มีอะไรนอกจากสำลีอยู่ข้างในตัวของตุ๊กตาหมี มันทำให้ฉันกังวล
เดินลงข้างล่างต่อไปก็มาถึงทางเดินขนาดใหญ่ และสิ่งที่รออยู่ข้างล่างทำให้เราประหลาดใจ
“ที่นี่เป็นระดับงานชิ้นเอกเลย ไม่แปลกใจที่เราไม่ถูกรับเป็นสมาชิก”
“จริงค่ะ… มันเกินที่ฉันคิดไปมากเลย…”
เวิร์กช็อปแห่งนี้คือการบิดเบือน ตุ๊กตาหมีหลายขนาดกำลังขยับอย่างขยันขันแข็ง สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนโรงงานอัตโนมัติ ใครก็ตามที่ดูแลโรงงานแห่งนี้ควรหลีกเลี่ยงพวกเรา ถ้าเขารู้เกี่ยวกับงานที่เราทำ พวกเขากำลังใช้การบิดเบือนในการทำงานเวิร์กช็อป เพราะอย่างนั้นพวกเขาคงไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกแก้ไข
“พวกมันน่ารักมากจริง ๆ!”
“หืม สำหรับเธอเลย อย่างน้อยด้วยแรงกายของเธอก็คงไม่โดนหมีพวกนั้นฆ่าตาย”
เดินผ่านพวกตุ๊กตาหมีที่ทำงานอย่างขยัน มาถึงปลายทางของทางเดิน มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงนั้น นอกจากขนาดที่ใหญ่แล้ว ยังมีสีสันหลากหลายมากเกินไป และมีบางคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับเธอกำลังรอเราอยู่
“กริ๊ดดดด! ยูเรียล่ะ!”
เอสรากระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเธอก็หยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าแล้วเดินเข้าหายูเรียอย่างรวดเร็ว ทำอะไรของยัยนั่นกัน?
“กรุณาเซ็นตรงนี้หน่อยค่ะ!”
เอสราก้มหัวอ้อนวอน
“ฉันกำลังสะสมลายเซ็นของผู้เชี่ยวชาญจากเวิร์กช็อปต่าง ๆ ในสมุดเล่มนี้ค่ะ!”
ยูเรียเดินเข้ามาหาฉันโดยไม่สนเอสรา
“คุณคงเป็นคุณโมเสสสินะคะ ฉันอยากพบคุณมากเลยค่ะ และไปป์ของคุณด้วย”
ยูเรียพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเด็ก เป็นเสียงสดใสและชัดเจน ประกายในดวงตาของเธอต่างจากของเอสรา
“มีอุปกรณ์ของเวิร์คช็อปมากมายที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ แต่ไปป์ของคุณแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ ฉันแน่ใจว่าคุณรู้เรื่องนี้ดี มันสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ทางกายภาพได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการใด ๆ คุณได้ไปป์นั้นมาเมื่อไหร่คะ? คุณเรียนรู้วิธีใช้มันได้อย่างไร? ฉันตามหาของแบบนี้มานานแล้ว”
“ฉัน… ฉันรู้?! ไปป์ของคุณนักสืบมันลึกลับมากเลยใช่ไหมล่ะ?”
เอสราพูดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบยัดสมุดของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าพร้อมหน้าแดง
“น่าปวดหัวซะจริง…”
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญจะเป็นเด็กพูดมากน่ารำคาญขนาดนี้ เธอเป็นคนประเภทที่ฉันอยากไม่อยากยุ่งด้วย
“คุณรู้จักหมอกแดง(Red Mist) ฟิกเซอร์ในตำนานไหมคะ?”
“รู้จัก ฉันเคยเจอเธออยู่สองสามครั้ง”
“หมอกแดงไม่ใช่แค่เรื่องเล่าขานวีรชนในตำนานเท่านั้น อาวุธที่เธอใช้กวัดแกว่งและเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่เป็นอุปกรณ์ประเภทเดียวกับไปป์ที่คุณมีค่ะ”
ยูเรียหยุดคิดสักครู่
“ฉันแน่ใจว่าคุณสัมผัสถึงมันได้เหมือนกัน ไปป์อันนั่น… ตอบสนองกับอารมณ์ของคุณ”
เธอพูดถูก ไปป์นี้ไม่เหมือนกับแขนกลที่แค่เคลื่อนไหวตามคำสั่ง มันตอบสนองกับอารมณ์ของฉัน ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของฉัน
“ที่ฉันเปิดเวิร์กช็อปนี้ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อหาเงินค่ะ แต่เพื่อรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่โดยรอบ สถานที่ทั้งหมดที่ฉันเคยไปก่อนหน้านี้ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ แต่ดูนี่สิค่ะ”
ซ่าา-
วิดีโอเริ่มเล่นจากจอด้านหลังของยูเรีย เป็นวิดีโอที่พวกเรากำลังต่อสู้กับซินดิเคทในลานโล่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้
“โอ๊ะ…!”
เอสราเอามือปิดปากด้วยความประหลาดใจ
“การบันทึกวิดีโอ… เธอกล้ามากที่ละเมิดข้อห้ามของเขตที่ 14 นี่เด็กสมัยนี้มันบ้าไร้หัวคิดเหมือนเธอกันหมดเลยหรือไง?”
ยูเรียยังคงพูดต่อไปโดยไม่สนใจเรา
“ดูสิค่ะ ท่วงท่าอันสง่างามของคุณและควันที่สวยงามนี้ รู้สึกตกหลุมรักเลยค่ะ ฉันคิดถูกจริง ๆ ด้วย คุณโมเสส คุณคือคนที่ฉันกำลังตามหา”
“ช่างเรื่องนั้นไป บอกฉันมาว่าเธอรู้ไหมไปป์ของฉันทำงานยังไง”
“ไม่รู้ค่ะ ในตอนนี้ฉันยังไม่รู้ แต่ฉันศึกษามันตอนนี้ได้เลยค่ะ บางทีฉันอาจพัฒนามันให้ดีขึ้นก็ได้ ถ้าเรามาทำงานร่วมกันค่ะ”
เธอเป็นตัวน่ารำคาญแน่นอน แต่ฉันต้องรู้จักมันเพิ่ม ฉันต้องรู้เกี่ยวกับพลังที่ฉันได้รับมามากกว่านี้…
“แล้วเธอจะศึกษามันอย่างไร?”
“โดยการมองเข้าไปในใจของคุณค่ะ ฉันต้องรู้จักคุณ และมันต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักกัน ว่าไงคะ คุณโมเสส? คุณพร้อมที่จะเปิดใจของคุณให้ฉันไหมคะ?”
“คุณนักสืบ! คุณจะเชื่อใจเธอจริงเหรอ? คือเธอดูน่าสงสัยมาก ๆ เลยนะ?!”
เอสราตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
“คุณโมเสส คุณต้องเชื่อใจฉัน แล้วคุณจะรู้”
“ได้… แล้วฉันต้องทำอะไร?”
ฉันตอบเบาๆ
“คุณนักสืบ!!!”
เอสราพยายามอย่างมากที่จะให้ฉันคิดใหม่ ยูเรียเดินเข้ามาหาฉันช้า ๆ และกระซิบที่หูฉัน
“ฉันจะเป็นผู้ช่วยของคุณค่ะ ฉันอยากดูคุณจากระยะใกล้ ฉันจะทำอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับคุณให้เอง ฉันอยากช่วยคุณ ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณเปิดใจให้ฉัน”
ยูเรียยิ้ม
ฉันวางมือบนหน้าผากของตัวเองอยู่ชั่วครู่ ความทรงจำที่ไม่อยากจำในอดีตผุดขึ้นมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเจอคนแบบเธอ ตอนนั้นฉันไม่มีทางเลือก ตอนนี้ฉันก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน เส้นทางชีวิตที่ทอดยาวลงหาในเวลาที่ฉันไร้หนทาง เชือกที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจับไว้ให้แน่น โอกาสจะมาหาฉันในรูปแบบนี้เสมอมา
“เอสรา! เราจะกลับไปสำนักงาน”
“ค่ะ หัวหน้า!”
“พร้อมกับยูเรีย เคลียร์ห้องเก็บของให้เธอด้วย”
“ค่ะ?!”
ยูเรียเดินตามหลังฉันมาติด ๆ ในขณะที่เอสรานิ่งไปสักครู่
ห้องเก็บของในสำนักงานของเราได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของยูเรีย เธอสัญญาว่าจะทำอุปกรณ์ให้เรา โดยมีเงื่อนไขหนึ่งข้อคือเราต้องพาเธอไปด้วยทุกครั้งที่เราออกไปไขคดี
“คุณนักสืบ มันแปลกจริง ๆ นะ! ทำไมคุณไม่แก้การบิดเบือนของเธอล่ะ? แถมเธอยังละเมิดข้อห้ามของเขตด้วย”
เอสราบ่นขณะที่กำลังยัดแซนด์วิชมายองเนยจากร้านแฮมแฮมปังปังเข้าปาก
“ฉันแค่ใช้ความสามารถของยูเรียให้เป็นประโยชน์ วางใจได้ ไม่ต้องกังว”
ฉันปลอบเอสรา เธอคงจะงอนฉันไปสักพัก
ฉัน โมเสส ฉันไม่ไว้ใจมนุษย์คนอื่น
ฉันไม่เชื่อคำพูดของคนแปลกหน้า ที่ชื่อยูเรีย
ฉันเชื่อในดวงตาของฉัน
เธอไม่ได้บิดเบือน
ฉันไม่เห็นการบิดเบือนจากยูเรีย
-สิ่งที่จะเกิดขึ้นในตอนต่อไป…
“ไม่ตื่นจากฝันสินะ…”
“ฝันแบบไหนกันที่ทำให้พวกเขาทำหน้าแบบนี้”
เอสราพูดพลางเอียงหัวไปด้านข้าง
“พวกเขาดูเหมือนจะหนีเข้าไปในความฝัน เราควรตรวจสอบบันทึกการทำงานล่าสุดของพวกเขาค่ะ”
ยูเรียพูดด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
ฉันเห็นด้วย
“อี๊ก…!”
เอสราครวญคราง
ให้ตายเถอะ ฉันพยายามทำให้เอสราพอใจมาสักพักแล้วนะ…
Chapters
Comments
- ตอนที่ 11 คลื่น 3 วัน ago
- ตอนที่ 10 สิ่งกีดขวาง 3 วัน ago
- ตอนที่ 9.2 [รายงาน] ฮัน ฮีจุน 3 วัน ago
- ตอนที่ 9.1 คลื่น 3 วัน ago
- ตอนที่ 9 จุดแดงฉาน 3 วัน ago
- ตอนที่ 8 บริษัทแทยองโปรดิวซ์ 3 วัน ago
- ตอนที่ 7 ยูเรีย อเทลิเยร์ 3 วัน ago
- ตอนที่ 6.1 [รายงาน] โมเสส(Moses) & เอสรา(Ezra) 3 วัน ago
- ตอนที่ 6 ไปป์ 3 วัน ago
- ตอนที่ 5 การสอบจำลอง 3 วัน ago
- ตอนที่ 4 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ 3 วัน ago
- ตอนที่ 3 ช่างภาพ 3 วัน ago
- ตอนที่ 2 ความขัดแย้งในตัวเอง 3 วัน ago
- ตอนที่ 1 ฉันมองเห็นการบิดเบือน 3 วัน ago
MANGA DISCUSSION