“เรามาเต้นกัน เอสรา”
เอสรา เด็กน้อยที่ขยันขันแข็งแต่ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เอสราจะสวมหน้ากากที่แตกต่างกันในแต่ละวัน ฉันอ่านสีหน้าของเธอผ่านหน้ากากที่เธอปิดบังได้เท่านั้น ฉันจึงไม่รู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงภายใต้หน้ากากนั้นเป็นอย่างไร แต่ฉันตัดสินใจยอมรับสีหน้าบนหน้ากากตามที่เอสราอยากแสดง ฉันเลยไม่ฝืนใจแก้ไขการบิดเบือนของเด็กคนนั้น
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เธอใกล้จะสูญเสียตัวตนของตัวเอง จากการถูกคลื่นของการบิดเบือนพัดพา หน้ากากหลายอันบนตัวของเธอเป็นสิ่งยืนยัน เอสราจะเตรียมหน้ากากสำหรับแต่ละคนที่เธอพบเจอ และเตรียมอารมณ์สำหรับแต่ละหน้ากากที่เธอใส่ ภายในตัวของเธอคงเหมือนมีพายุโถมกระหน่ำอยู่ภายใน
ชั้นใต้ดินชั้นที่ 15 ฉันกับเอสรากำลังเผชิญหน้ากันภายในห้องสีขาวนี้ เสียงดังมาจากหน้ากากของเอสรา เสียงหัวเราะ, เสียงร้องไห้, เสียงโกรธเคือง, เสียงกังวล, เสียงโศกเศร้า, เสียงเคลือบแคลง, เสียงรังเกียจ, เสียงสุขสันต์ ดังก้องไปทั่วห้อง
ฉันม้วนแส้สีม่วงพันรอบมือ
“เรามาเต้นกัน เอสรา”
ฉันฟาดแส้ไปที่เอสรา เป้าหมายแรกคือหน้ากากหัวเราะสีเหลืองที่ขาขวาของเธอ มีเสียงเข้ามาในหัวเมื่อแส้จับหน้ากาก
“คุณชอบแซนวิชแบบไหนหรอ คุณโมเสส?”
“ฉันชอบรสมัสตาร์ด”
“งั้นมัสตาร์ดก็เป็นรสโปรดของฉันเหมือนกัน!”
ฉันใช้แส้กระชากหน้ากากสีเหลืองออก มันทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้ เอสรากรีดร้องออกมา
“ช่วยอดทนอีกซะหน่อยนะ”
หน้ากากสีแดงบนไหล่ซ้ายของเอสรากรีดร้องโหยหวน เอสราจับแส้ดึงฉันเข้าไป ฉันผ่อนแรงตามร่างกาย ในพริบตาฉันก็ลอยเข้าไปหาเธอ
“อ๊ากกกกกก!!! ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด! ไอ้พวกสมควรตายจะขยี้ให้เละตายห่าให้หมด!”
เอสราเหวี่ยงหมัดใส่ฉันที่กำลังถูกดึงกลางอากาศเข้าไปหา ฉันใช้แรงเหวี่ยงจาการดึงขยับร่างกายหลบเส้นทางหมัดของเอสรา ฉันพันแส้รอบตัวเอสราแล้วกระโดดขึ้นบนไหล่ของเธอ ฉันใช้มือจับหน้ากากสีแดงแล้วกระชากออก
“ความรุนแรงต้องใช้ในเวลาที่จำเป็น”
หน้ากากสีแดงกรีดร้องน่าหวาดหวั่นขณะถูกกระชากและร่วงลงพื้น มือของฉันไหม้แดงจากความร้อนของหน้ากาก เอสราดิ้นอย่างรุนแรงแล้วเหวี่ยงฉันฟาดกับพื้น ฉันรู้สึกเจ็บแสบข้างใน คงมีกระดูกหลายชิ้นหักแน่เลย
“เฮ้อ… ค่ารักษาหลังของฉันต้องใช้ไม่น้อยเลย…”
ฉันเผชิญกับหน้ากากของเอสรา กระชากมันทีละอัน ทุกครั้งที่หน้ากากหลุด อารมณ์ของเอสราจะระเบิดออกมา หน้ากากที่เย็นราวน้ำแข็ง, หน้ากากที่กัดกินจิตใจ, หน้ากากที่ถูกตอกด้วยตะปูขึ้นสนิม…
“นั้นไม่ใช่อารมณ์ที่แท้จริงของเธอ มันเป็นแค่ฉากหน้า ฉากหน้าที่เธออยากแสดงให้คนอื่นเห็น”
ฉันถูกลวก, เลือกไหลจากเสี้ยม, น้ำแข็งกัด, และอ้วกเพราะคลื่นไส้
เหลือเพียงแค่หน้ากากสุดท้าย
มันคือความเสียใจ หน้ากากของเอสราที่ฉัน… ไม่อยากเผชิญมากที่สุด
“ฉันช่วยพวกเขาไม่ได้! ตอนนั้นฉัน… ปกป้องใครไม่ได้… ฉันเสียใจ”
หน้ากากสีน้ำเงินฝังอยู่กลางอกของเอสรา มันกำลังร้องไห้ น้ำตาไหลออกจากตาคู่นั้น
“ไม่หรอกเด็กน้อย ความเสียใจนี้ไม่ใช่ของเธอ มันคือความเสียใจที่ถูกยัดเยียดโดยคนรอบข้าง ถ้าเธอไม่ได้เสียใจเธอไม่จำเป็นต้องเสียใจ ไม่ว่าคนอื่นจะมองเธออย่างไร”
“แต่ฉันเสียใจจริง ๆ นี่ค่ะ?”
“เธอไม่ได้เสียใจที่ในวันนั้นเธอช่วยใครไว้ไม่ได้…”
มันเป็นเรื่องที่ปวดใจที่จะพูดแต่ฉันจะพูดต่อไป
“เธอเสียใจที่ฉันแบกรับความเสียใจนั้นไว้”
หน้ากากอ้าปากร้องโอดครวญเสียงดัง หัวของฉันเหมือนกับกำลังระเบิดจากเสียงร้อง มีน้ำตาไหลออกมาจากตาของฉันไม่หยุด
แกร๊ง
หน้ากากแตกออก มีเศษหลายชิ้นของมันปักอกของฉัน สิ่งที่ไหลออกมาจากแผลไม่ใช่เลือดแต่เป็นน้ำตา
เอสรากลับสู่สภาพเดิม เธอนั่งคุกเข่าก้มมองพื้น
ฉันเดินไปหาเธอ
“ตอนนี้มันจบลงแล้วเด็กน้อย”
และลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน
“ฮึกฮึก… คุณนักสืบฉันขอโทษ…”
เอสราพูดสะอึกสะอื้น
ปัญหาต่อไปคือยูเรีย อาการของเธอเข้าขั้นวิกฤต ถึงดูแล้วเธอจะไม่ได้ถูกกลืนกินโดยคลื่นของการบิดเบือน แต่จากร่างกายของเธอในตอนนี้…
ฉันเอามือแตะหน้าผากและจุดไฟไปป์
MANGA DISCUSSION