อิโอริควรจะได้กลับบ้านตามปกติเหมือนทุกวัน แต่กลับมีเพื่อนบ้านที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขามายืนรออยู่หน้าห้อง และในขณะที่กำลังเตรียมใจที่จะโดนเตือนเกี่ยวกับเรื่องอะไรสักอย่างอีกครั้ง เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่คาดคิดจากเธอ
เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยแล้ว
และที่สำคัญไม่ใช่คนในครอบครัวที่รู้ แต่กลับเป็นเพื่อนบ้าน
“เดี๋ยวนะ เธอพูดเรื่องอะไรหน่ะ? ‘คังคิทสึ’ นี่คือยังไง?”
อิโอริไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปก่อน เขาตัดสินใจจะเก็บอาการและรักษาท่าทีที่เยือกเย็น
“…เอาล่ะ ไปที่เลานจ์ข้างล่างกันเถอะ”
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน!”
อาสุมิเดินเข้าไปในลิฟต์อย่างมั่นใจ ราวกับว่ามีหลักฐานในมือครบ
อิโอริไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามไป
“เวลานี้ไม่ค่อยมีคนหรอก ไม่ต้องซ่อนก็ได้นะ คังคิทสึเซ็นเซย์”
“ไม่ เดี๋ยวสิ”
เมื่อมาถึง ทั้งสองก็นั่งลงที่โต๊ะที่จัดไว้
เลานจ์นี้เป็นพื้นที่พักผ่อนที่มีตู้กดน้ำอัตโนมัติและโต๊ะสามชุด แน่นอนว่าไม่มีใครมาที่นี่ในเวลานี้
แต่ถึงอย่างนั้น อิโอริก็ยังพยายามจะปกปิดความลับของเขาอยู่
แต่เพียงครู่เดียว เขาก็หมดหวังทันที
“นี่คะ ฉันให้”
“นี่มัน… เอ๊ะ? คือ…?”
“ใช่แล้ว นั่นแหละค่ะ”
อาสุมิยื่นกระดาษที่พับไว้ให้เขา
เมื่อเขาเปิดอ่านบรรทัดแรก ก็รู้ได้ทันทีว่าความพยายามทั้งหมดของเขาไร้ความหมาย
“ให้มันได้อย่างงี้สิ PROGRESS ”
“เราไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังค่ะ”
สิ่งที่เขาถืออยู่คือเอกสารจากเอเจนซี่วีทูบเบอร์ใหญ่ชื่อ PROGRESS
ที่อยู่บนเอกสารระบุชื่อผู้รับว่า โทกิซากะ อิโอริ พร้อมชื่อของซีอีโอของ PROGRESS เป็นผู้ส่ง
มันคือการ์ดอวยพรปีใหม่ที่ส่งมาจากซีอีโอ และถ้าอ่านแล้วก็จะรู้ได้ทันทีว่า คังคิทสึ คือโทกิซากะ อิโอริ
พูดอีกอย่างก็คือ การ์ดอวยพรนั้นเปิดเผยตัวตนของคังคิทสึให้กับอาสุมิรู้
ชัดเลยว่านี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
และจากนั้น อิโอริก็สังเกตเห็นอีกเรื่องหนึ่ง
“ “นายคือหม่าม้าของฉันสินะ? ” เอ่อ มินาเสะ เธอคือเฮียวกะงั้นเรอะ!?”
“ตามนั้นเลยค่ะ ฉัน มินาเสะ อาสุมิ คือคนที่อยู่เบื้องหลังวีทูบเบอร์ชื่อ คานาโตเมะ เฮียวกะ ค่ะ”
“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย……”
“ไม่ได้พูดเล่นนะคะ นี่คือหน้าแอดมินของช่องของฉันค่ะ”
อาสุมิยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เผยความลับของตัวเอง
นี่คือหลักฐานที่เธอพูด พร้อมทั้งแสดงข้อมูลที่มีเพียงเฮียวกะเท่านั้นที่สามารถเห็นได้
เขาเคยคิดว่าเธอเป็นคนละคนกับเฮียวกะ ทั้งบุคลิกและทุกอย่างแตกต่างกันเกินไป แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้นแล้ว
และในที่สุด อิโอริก็ถึงทางตันอย่างแท้จริง
“เอาล่ะ ฉันจะเล่าให้ฟังว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“อืม ฝากด้วย”
“วันนี้ฉันกลับจากโรงเรียนแล้วเปิดพัสดุที่ได้รับจากเอเจนซี่ ข้างในคือสินค้าของเฮียวกะที่จะออกวางขาย และในนั้นก็มีการ์ดอวยพรใบนี้ค่ะ”
“เป็นอย่างงั้นสินะ”
ดูเหมือนว่าการ์ดอวยพรนั้นถูกผสมมากับตัวอย่างสินค้าที่พวกเขาพูดถึงหลังสตรีมกับเฮียวกะ
เธอบอกว่าเธอจะเปิดดูวันนี้ ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่อาสุมิซึ่งกลับมาก่อนอิโอริจะพบเจอก่อน――จนกลายเป็นเรื่องนี้
“น่าจะมีการสับสนเกิดขึ้นตอนส่งของให้ฉันและโทกิซากะซัง เพราะห้องของเราติดกัน”
“คนที่รับผิดชอบส่งพัสดุคงถูกลงโทษประหารชีวิตเลยมั้งเนี่ย”
“ถ้าเอเจนซี่รู้เรื่องนี้ พวกเขาคงวุ่นวายกันน่าดู เพราะมันคือการรั่วไหลของข้อมูล”
ต่างจากอิโอริที่อยู่ในสภาพตื่นตระหนกจนคิดไม่ออก อาสุมิกลับสงบนิ่งและมั่นใจ
เธอไม่เย็นชาเหมือนตอนเช้า หรือกระวนกระวายเหมือนเมื่อครู่ แต่กลับดูมีความสุขเล็กน้อย
“เธอหน่ะ ดูดีใจจังนะ”
“ขอโทษค่ะ ฉันแค่ตื่นเต้นที่ได้พบคังคิทสึเซนเซย์หน่ะ”
“ก็ดีอยู่หรอกที่ได้เจอกับนักวาดที่ชอบ แต่สำหรับฉันมันเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนเลยนะ”
“นั้นสินะค่ะ ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันตอนรู้ความจริง แต่ก็โล่งใจนิดหน่อย”
“เห้?”
“ก็เพราะฉันไม่ต้องรักษาระยะห่างจากโทกิซากะซังแล้ว”
อิโอริรู้สึกว่าความกังวลของเขาเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย แม้ว่าสถานการณ์จะยังยุ่งเหยิงก็ตาม
“จะว่าไป ทำไมคุณถึงเย็นชากับฉันจัง? ที่โรงเรียนเธอถูกเรียกว่า ‘นักบุญ’ นี่นะ”
“ขอโทษค่ะ… เพราะฉันอยู่คนเดียว ฉันต้องระวังตัวกับเพื่อนบ้าน และก็กลัวถูกรู้ตัวจริงด้วย…”
“เพราะงี้สินะ มินาเสะเถึงโดนพวกผู้ชายที่โรงเรียนรุมล้อม”
“เพราะแบบนั้นแหละค่ะ ฉันขอโทษจริงๆ”
อาสุมิก้มหน้าขอโทษ แม้ว่าเธอจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ
การรักษาความลับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอมากกว่าใคร เพราะความเสี่ยงของเธอไม่เหมือนกับอิโอริ
แม้ว่าจะสามารถใช้โปรแกรแปลงเพื่อปกปิดเสียงจริงได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาสุมิอาจถูกจับได้
ความเสี่ยงและผลกระทบที่อาสุมิจะได้รับหากถูกเปิดเผยนั้นแตกต่างจากอิโอริโดยสิ้นเชิง เธอไม่มีทางที่จะยอมให้ตัวตนของเธอถูกเปิดเผยได้
ยิ่งไปกว่านั้น การเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่อาศัยอยู่คนเดียวคงจะเต็มไปด้วยความกลัวและความเสี่ยงมากมาย
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะถูกตามจีบ และเธอไม่สามารถปล่อยให้ตนเองถูกจีบโดยเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นผู้ชายที่อยู่ข้างห้องได้ง่ายๆ
ถ้าอิโอริอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขาก็คงจะทำแบบเดียวกัน
เขารู้สึกสงสารเธอ คิดว่าการเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้คงลำบากมาก
“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงต่อ? ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้เอเจนซี่รู้พรุ่งนี้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเราควรปฏิบัติต่อกันยังไงจากนี้ มันดูอึดอัดนิดหน่อยใช่ไหม?”
“นั่นสินะ ฉันเองก็สับสนเหมือนกัน… แต่ว่า งั้นเราจัดการประชุมที่วางแผนไว้สำหรับวันเสาร์ตอนนี้เลยดีไหม?”
“ปรับตัวเก่งจริงๆ นะ”
“ฉันชินกับปัญหาแล้วค่ะ”
“คำพูดของคนที่โฮสอีเว้นและสตรีมเป็นประจำ ช่างน่าเชื่อถือจริงๆนะ”
อาสุมิเป็นสตรีมเมอร์ที่ไลฟ์สตรีมเป็นประจำ และมีส่วนร่วมในการจัดการและดูแลโครงการ อีเว้น และการแข่งขันอย่างเป็นทางการของ PROGRESS
เธอมีความสง่างามและความสามารถในการรับมือกับทุกสถานการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างสตรีม
“แล้วยังไงดี?”
“…เอางั้นเลยก็ได้ ฉันคิดว่าถ้าไม่จัดการตอนนี้ ฉันคงทำงานไม่ได้แน่ๆ”
พวกเขาวางแผนจะประชุมในเวลาที่สะดวกของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นมันจะไม่เป็นปัญหา ถ้าจะทำทันทีตอนนี้
ถ้าเป็นเช่นนั้น จะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะทำมันตอนนี้เลย
อิโอริเห็นด้วยกับข้อเสนอของอาสุมิ
“แล้วจะไปที่ไหนดี?”
“งั้นที่ห้องฉันมั้ย ถึงจะไม่มีใครมาก็เถอะ แต่จะคุยตรงนี้ก่อยยังไงอยู่ ”
อิโอริคิดว่าการยืนคุยกับเพื่อนบ้านในที่สาธารณะเช่นนี้ดูแปลกไปเล็กน้อย และทันทีที่เขาเสนอความคิดเห็นนั้น สีหน้าของอาสุมิก็เปลี่ยนไป
“น่าตกใจจริงๆนะ เชิญฉันไปที่ห้อง ทั้งๆ ที่เพิ่งจะบอกไปว่าทำไมถึงรักษาระยะห่างหน่ะ”
“อ๊ะ ไม่… ขอโทษนะ”
เมื่อเขารู้ตัวว่าพูดอะไรไปก็สายเกินไปแล้ว
ดวงตาของอาสุมิหรี่ลงเล็กน้อย และน้ำเสียงของเธอก็แฝงด้วยความสงสัย
ด้วยความที่เธอมักจะรักษาระยะห่างจากผู้ชาย เธอย่อมต้องมีความระแวดระวังและสงสัยเป็นธรรมดา
อิโอริรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อนพูด
“ช่างเถอะ ฉันไม่คิดว่า โทกิซากะซังจะทำอะไรแปลกๆ อยู่แล้ว และฉันก็เชื่อใจคุณ”
“ขอโทษจริงๆ คราวหน้าฉันจะระวัง”
เขาไม่เคยเข้าใกล้เธอเหมือนที่หนุ่มๆ คนอื่นทำ และในฐานะคังคิทสึ เขาก็เคยสตรีมกับเธอหลายครั้ง
บางทีเพราะเธอรู้จักนิสัยของเขาในระดับหนึ่ง อาสุมิจึงยินดีที่จะให้ยกโทษให้เขา
“และนายก็ชอบเด็กหนิ ถูกมั้ย?”
“หยุดเลย!”
อิโอริถูกล้อเลียนด้วยคำพูดที่โยงไปถึงเรื่องที่เขาถูกแกล้งในสตรีมเมื่อคืนก่อน
และอิโอริก็พาอากิซึมิไปที่ห้องของเขาพร้อมกับที่โดนแกล้งไปด้วย
MANGA DISCUSSION