บทที่ 218 ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่???
แม้ว่าจ้าวซินเอ๋อร์จะเป็นเด็กสาวชนบท แต่นางก็เป็นคนใจแข็งมากเช่นกัน เพราะเมื่อมีคนมาขอแต่งงานหลายคน แต่นางก็ไม่เคยเหลียวแลใครเลย
เมื่อเห็นเวินเทียนเหล่ยสวมใส่เสื้อผ้าหรูหรา และท่าทางที่ไม่ธรรมดาของเขาแล้ว จ้าวซินเอ๋อร์ก็ตัดสินใจในใจทันทีว่า ชายคนเดียวที่คู่ควรกับนางคือเวินเทียนเหล่ย นางจึงคุกเข่าต่อหน้าเขาโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ แล้วอ้อนวอนให้พ่อแม่ของนางต่อหน้าทุกคน
แต่ใครจะรู้! คาดไม่ถึงว่าเวินเทียนเหล่ย ไม่เพียงแต่กลอกตาใส่นางเท่านั้น แต่ยังพูดดูถูกนางอย่างตรงไปตรงมาด้วย!
จ้าวซินเอ๋อร์โกรธจัด แต่นางไม่ได้แสดงออกผ่านสีหน้า “ซินเอ๋อร์รู้ว่าคุณชายต้องโกรธแทนพี่หานเยว่ แต่สิ่งที่คุณชายไม่ทราบก็คือว่า ที่วันนี้แม่ของข้าพูดหยาบคายกับพี่หานเยว่ เป็นเพราะเรื่องในอดีตเจ้าค่ะ ในตอนนั้นพี่หานเยว่ไปช่วยคนที่มีเรื่องฉาวโฉ่ในหมู่บ้าน ด้วยการไปที่ร้านขายผ้าอวี้เยว่ในอำเภอ เพื่อขายตัวอย่างงานปักให้ โดยที่นางยังทำหน้าที่เป็นคนกลางเชื่อมโยงคนมีมลทินเช่นนั้นกับร้าน และทำให้อีกฝ่ายได้ทำงาน เป็นช่างปักชั้นสองของร้านขายผ้าอวี้เยว่”
“มาถึงตอนนี้ แม่ของข้าจึงขอให้พี่หานเยว่ช่วยส่งตัวอย่างงานปักของซินเอ๋อร์ ไปที่ร้านขายผ้าอวี้เยว่เพื่อลองเสี่ยงโชค แต่กลับถูกพี่หานเยว่ปฏิเสธด้วยท่าทางไม่ดีเจ้าค่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นัยน์ตาของจ้าวซินเอ๋อร์ก็แดงก่ำ แม้ว่านางจะคุกเข่าต่อหน้าเวินเทียนเหล่ย แต่หลังของนางยังตั้งตรง “พี่หานเยว่อยากช่วยเหลือคนมีมลทิน มากกว่ายื่นมือช่วยเหลือชาวบ้าน อีกทั้งนางยังดูถูกข้าอีกหลายครั้งด้วย ส่งผลให้ชื่อเสียงของข้าเสียหาย จนข้าไม่ได้แต่งงานออกเรือน ข้าอยู่บ้านจนอายุสิบแปดปีแล้ว ทำให้แม่ของข้าโกรธมาก นางจึงพูดจารุนแรงกับพี่หานเยว่ในวันนี้เจ้าค่ะ!”
จะเห็นได้ว่าจ้าวซินเอ๋อร์เป็นคนฉลาด มีความจริงสามส่วนและความเท็จสองส่วนในสิ่งที่นางพูด ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูไม่อาจเถียงได้ไปครู่หนึ่ง
เพราะหลี่เยว่หานปฏิเสธผู้หญิงคนอื่นทุกคน แต่ช่วยแค่วังหลานเท่านั้นจริง ๆ
แต่เหตุผลที่ทำให้จ้าวซินเอ๋อร์เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะความพยายามอย่างเต็มที่ของเนี่ยเตอเป่า ที่พยายามปกป้องนางในวันนั้นมิใช่หรอกหรือ?
เมื่อจ้าวซินเอ๋อร์คุกเข่าต่อหน้าเวินเทียนเหล่ย และกำลังพูดพล่าม เวินเทียนเหล่ยก็สั่งให้คนของเขาสองสามคนค่อย ๆ เคลื่อนย้ายหลี่เยว่หานที่ “หมดสติ” และมู่ชวนที่ “บาดเจ็บสาหัส” ขึ้นรถม้า จากนั้นท่ามกลางสายตาของทุกคน เขาก็หยิบเหรียญทองคำออกมามอบให้ชายหนุ่มสองเหรียญ แล้วบอกให้เขาพาไปหาหมอที่อำเภอ
หลังจากทำเช่นนี้ เวินเทียนเหล่ยก็ไม่แม้แต่จะมองไปที่จ้าวซินเอ๋อร์ ที่กำลังคุกเข่าพูดพล่ามอยู่ด้วยซ้ำ เมื่อเขากำลังจะปีนขึ้นไปบนรถม้า เพื่อพาหลี่เยว่หานกลับบ้าน จ้าวซินเอ๋อร์ก็ตื่นตระหนก นางจึงคว้าเสื้อคลุมของเวินเทียนเหล่ยไว้ “คุณชาย หากคุณชายไม่เชื่อสิ่งที่ซินเอ๋อร์พูด ท่านสามารถถามทุกคนที่อยู่ตรงนี้ได้เลยเจ้าค่ะ ตอนที่พี่หานเยว่ดูถูกข้า หลายคนก็เห็น!”
เวินเทียนเหล่ยถูกลากลงจากรถม้า ชายหนุ่มที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งมีใบหน้าบึ้งตึงยิ่งกว่าเดิม “หญิงสาวจากครอบครัวที่ดี ย่อมไม่แตะต้องเสื้อคลุมของชายแปลกหน้าในที่สาธารณะ เจ้าไม่ใช่เด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว พี่สะใภ้ของข้าไม่ช่วยเจ้าขายตัวอย่างงานปัก แล้วเหตุใดเจ้าไม่ขอให้ครอบครัวของเจ้าช่วยขาย?”
“ในหมู่บ้านเดียวกัน มันเป็นเรื่องของมิตรภาพที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ไม่มีหัวหน้าหมู่บ้านคนใด กล้ากำหนดว่าใครก็ตามที่มีความสามารถ จะต้องช่วยเหลือผู้อื่นตลอด เป็นไปได้หรือไม่ ว่าหากเจ้าเก็บเกี่ยวข้าวเพิ่มได้อีกหนึ่งร้อยจินในนาของเจ้า แล้วต้องแบ่งให้ชาวบ้านเท่า ๆ กัน?”
“เจ้าไม่รู้ดีชั่ว บังอาจมาพูดจาใส่ร้ายพี่สะใภ้ต่อหน้าข้า คงเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆ!”
หลังจากดุด่าแล้ว เวินเทียนเหล่ยก็อุ้มเสี่ยวหลิงซี ขึ้นไปบนรถม้าด้วยสีหน้าเย็นชา ขณะที่จ้าวซินเอ๋อร์คุกเข่าลงด้วยสีหน้าอับอาย มองท่านอาหรงขับเกวียนวัวที่มีนางเฉาถูกมัดไว้แล่นออกไป ไม่ได้เอ่ยคำใดอยู่นาน
“นังเด็กชั่ว!” เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเขาไร้ประโยชน์ จ้าวต้าเป่าก็โกรธมาก จนยกเท้าขึ้นถีบไหล่ของจ้าวซินเอ๋อร์ จ้าวซินเอ๋อร์ถูกถีบจนล้มหน้าคะมำ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ความคับแค้นใจก็พลันผุดขึ้นในใจ
“ท่านพ่อ! เหตุใดถึงถีบข้า! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!” เสียงของจ้าวซินเอ๋อร์สั่นเครือแล้ว ชื่อเสียงที่ดีที่นางอุตส่าห์สั่งสมมาหลายปี ได้ถูกทำลายลงจนย่อยยับหมดแล้วในวันนี้!
“หากไม่ใช่เพราะเจ้า เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้จะเกิดขึ้นกับแม่ของเจ้าได้อย่างไร!” จ้าวต้าเป่าดึงตัวจ้าวซินเอ๋อร์ขึ้นมา แล้วพูดว่า “ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้าจะบ้าอย่างไรบ้าง หากคุณชายผู้สูงศักดิ์คนนั้นไม่ยอมยกโทษให้แม่ของเจ้า ข้าจะไล่เจ้าออกจากบ้าน!”
ไล่ออกจากบ้าน!
จ้าวซินเอ๋อร์ดึงแขนของตัวเองออกจากมือของจ้าวต้าเป่า แล้วจ้องมองจ้าวต้าเป่าด้วยความไม่เชื่อ “ท่านพ่อ! ท่านพูดว่าอะไรนะ? ท่านบอกว่าจะไล่ข้าออกจากบ้านงั้นหรือ?”
“แล้วผิดตรงไหน! เจ้าทำให้แม่ของเจ้าต้องถูกพาตัวไปส่งเจ้าหน้าที่ ข้าแค่ไล่เจ้าออกจากบ้านก็บุญแล้ว!” จ้าวต้าเป่ามองจ้าวซินเอ๋อร์ด้วยความโกรธ “ข้าบอกแม่ของเจ้าแล้วว่าอย่าเอาอกเอาใจเจ้ามากเกินไปเช่นนี้ เอาล่ะ เจ้าอย่าคิดแม้แต่จะแต่งงาน หากเกิดเรื่องกับแม่ของเจ้า ข้าจะให้แม่ค้านายหน้ามาเอาตัวเจ้าไปขาย แต่หากแม่ของเจ้าต้องโทษ ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายเสีย!”
หลังจากได้ยินดังนั้น จ้าวซินเอ๋อร์ก็รู้สึกราวกับว่าตนกำลังฝันร้ายอยู่
ที่ผ่านมาพ่อแม่รักและตามใจนางมาก แต่ตอนนี้คนหนึ่งถูกมัดไว้ เพื่อจับไปส่งเจ้าหน้าที่ ในขณะที่อีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้านาง และขู่ว่าจะขายนางออกไป จ้าวซินเอ๋อร์ไม่เคยประสบกับเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้!
“ไม่จำเป็นต้องรอนานนักหรอก!” จ้าวซินเอ๋อร์กัดฟันพูด “ข้าขอประกาศตอนนี้เลยว่า ข้า จ้าวซินเอ๋อร์ และเจ้า จ้าวต้าเป่า จะตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเดี๋ยวนี้! จะไม่ติดต่อกันอีกชั่วนิรันดร์ หากผิดสัญญาก็ขอให้ถูกฟ้าผ่าตาย!”
พูดจบ จ้าวซินเอ๋อร์ก็หันหลังวิ่งตามรถม้าของเวินเทียนเหล่ย ทิ้งให้จ้าวต้าเป่าและชาวบ้านตกตะลึง
ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้
ในเวลานี้ ความรู้สึกดี ๆ ของจ้าวซินเอ๋อร์ที่มีต่อตระกูลจ้าวได้หายไปหมดแล้ว นางไม่สนใจมากนักว่านางเฉาจะเป็นหรือตาย ตอนนี้นางได้สาบานต่อหน้าทุกคนแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จ้าวซินเอ๋อร์จะกลับมาหาครอบครัวจ้าว
ตอนนี้นางวางเดิมพันทั้งหมดไว้กับเวินเทียนเหล่ย ตราบใดที่นางสามารถปีนขึ้นไปบนเตียงของใต้เท้าเวินได้ ครอบครัวจ้าวก็จะต้องมาขอร้องนาง! นางไม่จำเป็นต้องรอถึงอายุสิบแปดจึงจะแต่งงานได้!
ขณะนี้ในรถม้า
หลี่เยว่หานลุกขึ้นนั่งมองเวินเทียนเหล่ยที่กำลังตกใจ แล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอบคุณใต้เท้าเวินสำหรับความช่วยเหลือ ข้าได้ค้นคว้าสูตรทำเงินที่ข้าบอกท่านครั้งที่แล้ว และได้ทดลองทำตามสูตรแรกแล้ว ท่านสามารถนำไปลองที่ร้านอาหารของท่านก่อนก็ได้” หลี่เยว่หานพูดแล้วชี้ไปที่ตะกร้าที่ถูกเก็บขึ้นมาบนรถม้า
“เจ้า… เจ้าไม่ได้หมดสติหรือ?” เวินเทียนเหล่ยถามด้วยความตกใจ “เหตุใดตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย และมู่ชวน…”
ทันทีที่เขาพูดจบ มู่ชวนก็ลุกขึ้นมานั่ง พร้อมกับคร่ำครวญ “ท่านแม่ ข้าแกล้งบาดเจ็บเหนื่อยมาก”
“กลับไปแล้วข้าจะเตรียมของอร่อย ๆ ไว้ให้เจ้า” หลี่เยว่หานลูบศีรษะของมู่ชวน ยิ้มด้วยความรัก แล้วรับเสี่ยวหลิงซีมาจากมือของเวินเทียนเหล่ย
“ไม่ใช่ หลี่เยว่หาน บอกข้าหน่อยสิ ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่?” เวินเทียนเหล่ยไม่ยอมแพ้ เขาถามต่อว่า “แม้ว่าเจ้ากับมู่ชวนจะแสร้งทำ แต่หมอจะไม่รู้ได้อย่างไร? หรือว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับหมอล่วงหน้า?”
MANGA DISCUSSION