บทที่ 145 พบหลี่หรงหรง
ดูเหมือนว่าหลังการไปเมืองหลิวชิงเพียงลำพังครั้งนี้ของเมิ่งฉีฮ่วนถูกเปิดเผย กระทั่งมู่ชวนยังรู้สึกได้ว่าทุกวันนี้หลี่เยว่หานทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจห่างเหินจากชายหนุ่ม
ไม่ต้องพูดถึงมู่ชวน แม้แต่เมิ่งฉีฮ่วนก็สามารถรู้สึกได้ เขาทรมาน ทว่าพูดไม่ได้
ใครบอกให้เขาไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ… มันทำให้หลี่เยว่หานไม่มีความสุข
แต่หลี่เยว่หานไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น สิ่งที่เธอสนใจนั้นไม่ได้เกี่ยวกับเมิ่งฉีฮ่วนเลย แต่เกี่ยวกับตระกูลหลี่ หลี่หรงหรงและหวังเฟิ่ง
เป็นไปได้อย่างไรที่แม่และลูกสาวจะตั้งครรภ์เกือบจะพร้อมกัน?
ดังนั้นไม่กี่วันหลังจากที่เมิ่งฉีฮ่วนกลับมา หลี่เยว่หานเองก็จากไปโดยไม่มีการบอกล่วงหน้า และไปในอำเภอด้วยตัวเอง
ตระกูลหลิ่ว
“อาการบาดเจ็บดีขึ้นหรือไม่” ท่านปู่หลิ่วพอใจมากเมื่อเห็นหลี่เยว่หาน แต่ความพึงพอใจนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาเต็มใจให้อีกฝ่ายมาเป็นหลานสาวของเขา
“ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ” หลี่เยว่หานตอบอย่างสุภาพ “ขอบคุณผู้อาวุโสที่เป็นห่วงและส่งสิ่งดี ๆ มาให้ข้าได้บำรุงร่างกายเป็นครั้งคราว ไม่เช่นนั้นตอนนี้ข้าอาจจะยังลุกจากเตียงไม่ได้”
ทุกคนชอบคนเชื่อฟัง ท่านปู่หลิ่วเองก็รู้ว่าครั้งนี้หลี่เยว่หานมาเพื่อขอบคุณเขา ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงดีมาก ซีอิ๊วขนาดใหญ่หลายไหที่หลี่เยว่หานส่งมาให้เมื่อคราวที่แล้ว หลิ่วเทียนเสียงได้เพิ่มมันเข้าไปในร้านของตัวเองและมันขายดีมาก
สำหรับผู้ที่สามารถสร้างคุณค่าให้ตัวเองได้ ท่านปู่หลิ่วย่อมใจดีด้วย “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าถูกรังแก พ่อแม่บุญธรรมของเจ้าเองก็กังวลมาก โชคดีที่ศาลของอำเภอนั้นยุติธรรมและไม่เห็นแก่ตัว สอนบทเรียนให้คนเลวพวกนั้น ถึงยังไงเหอฮวาก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลหลิ่วเรา ดังนั้นเพื่อไม่ให้มากเกินไป ในตอนนั้นพวกเขาจึงถูกตัดสินให้เนรเทศ”
“ไม่นานข้าก็ได้ยินว่าเด็กสารเลวทั้งสามนั้นได้ทำร้ายคนสำคัญบางคน พวกเขาจึงตายอยู่ข้างถนน” ท่านปู่หลิ่วแสร้งทำเป็นประหลาดใจในขณะที่สังเกตการแสดงออกของหลี่เยว่หานอย่างใจเย็น
แต่หลี่เยว่หานพยักหน้าโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “เจ้าค่ะ ข้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้ แม้ทั้งสามคนจะก่อคดีชั่วร้าย แต่เรื่องของข้า พวกเขาก็ไม่ได้มีความผิดถึงตาย ทั้งการเนรเทศก็ถือเป็นโทษหนักแล้ว โชคร้ายที่พวกเขาไปก่อกวนคนน่ากลัวเช่นนั้น และยังกลับไปสร้างเรื่องใหญ่ที่หมู่บ้านไป๋อวิ๋น พวกเขาจึงต้องเสียชีวิต”
หลังจากพูดจบ หลี่เยว่หานก็แสร้งถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ครั้งนี้ข้ามาที่นี่ นอกจากจะมาขอบคุณท่านปู่ พ่อบุญธรรม และแม่บุญธรรมแล้ว ข้ายังได้ยินมาว่าหลี่หรงหรง น้องสาวของข้ากำลังตั้งครรภ์ ข้าจึงต้องการพบนางเจ้าค่ะ”
“เจ้าจะพบนางทำไมกัน?” ท่านปู่หลิ่วมีท่าทางแปลก ๆ เมื่อได้ยินหลี่เยว่หานพูดถึงหลี่หรงหรง
“ยังไงก็พี่น้องกันเจ้าค่ะ ตอนนี้แม่เลี้ยงของข้าเองก็กำลังตั้งครรภ์เช่นกัน มันเป็นโชคสองชั้น” หลี่เยว่หานกล่าวอย่างเสียใจ “ข้าแต่งงานกับเมิ่งหลางมานานกว่าครึ่งปีแล้ว แต่ท้องของข้าก็ยังไม่มีท่าทีใด ๆ เลย ข้าจึงอยากมารับความสุขของน้องสาวด้วย”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ท่านปู่หลิ่วก็อดมองไปที่หลี่เยว่หานไม่ได้ “เจ้ากังวลเรื่องมีลูกงั้นหรือ?”
“ข้าไม่ได้รีบร้อนเจ้าค่ะ เพราะมีเด็กสองคนในครอบครัวของเมิ่งหลางแล้ว” แน่นอนว่าหลี่เยว่หานจะไม่บอกว่าเธอรีบร้อน “ข้าก็แค่คิดว่าถ้าเลี้ยงลูกของคนอื่นได้ ทำไมไม่มีของตัวเองให้เร็วสักหน่อย? แต่ตัวข้านั้นไม่มีสัญญาณใดมากว่าครึ่งปีแล้ว ข้าจึงกังวลอยู่บ้างเจ้าค่ะ”
เมื่อพูดถึงเรื่องไร้สาระ หลี่เยว่หานก็เป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดเช่นกัน
แม้ว่าเธอจะไม่ถูกกับหลี่หรงหรง แต่ก็เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ว่าอีกฝ่ายตั้งครรภ์ได้ไม่นานหลังจากที่นางถูกพาเข้าไปในบ้านหลิ่ว และมันก็สมเหตุสมผลที่เธออยากจะได้รับความสุขด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ท่านปู่หลิ่วก็ส่งคนไปเรียกหลิ่วเทียนเสียง หลิ่วฟูเหรินและหลิ่วจื้อหย่วนมาที่ห้องโถงใหญ่
หลิ่วจื้อหย่วนกำลังพักผ่อนอยู่ในศาลาอันอบอุ่นของหวังเหอฮวา เมื่อเขาถูกเรียกไปที่ห้องโถงใหญ่อย่างกะทันหัน เขาก็อดที่จะไม่มีความสุขเล็กน้อยไม่ได้
ตอนนี้หวังเหอฮวาเป็นคนโปรดของหลิ่วจื้อหย่วน นางปัดเป่าความทุกข์ในใจของชายหนุ่มด้วยการทำตัวออดอ้อน เมื่อพวกเขาสองคนปรากฏตัวต่อหน้าหลี่เยว่หาน พวกเขาจึงตัวติดกันเหมือนแป้งข้าวเหนียว ทั้งพวกเขาก็ยังไม่อายแม้แต่น้อย
“ข้าไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าตอนนี้พี่สาวเหอฮวาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ใหญ่เช่นนี้” หลี่เยว่หานเห็นว่าหวังเหอฮวาดูไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นตน ดังนั้นหญิงสาวจึงเริ่มที่จะทักทาย “ไม่นานมานี้ ข้าได้ยินว่าหรงเอ๋อร์กำลังตั้งครรภ์ ข้าจึงกังวลว่าพี่ใหญ่จะไม่สนใจพี่สาวเหอฮวา”
“จะเป็นไปได้อย่างไร!” ตอนนี้หลิ่วจื้อหย่วนไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับหลี่เยว่หานแล้ว และพ่อแม่ของเขาก็ยอมรับอีกฝ่ายเป็นลูกสาวบุญธรรม ดังนั้นหญิงสาวจึงดูสบายตาขึ้นเล็กน้อย “ข้าเป็นคนรักหยกถนอมบุปผา”
เมื่อเห็นฉากนี้ หลี่หรงหรงที่มาหลังจากนั้นก็บิดผ้าเช็ดหน้าในมือด้วยความเกลียดชัง แต่นางก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกทางสีหน้าแม้แต่น้อย
ตอนนี้เมื่อหลี่เยว่หานเห็นหลี่หรงหรง เธอก็แสร้งทำเป็นประหลาดใจ “หรงเอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงน้ำหนักลดลงมากขนาดนี้?”
“นางป่วยหนัก” เมื่อหลิ่วฟูเหรินมองไปที่ท้องของหลี่หรงหรง นางก็ใจดีกับอีกฝ่ายมากกว่าปกติเล็กน้อย “ลูกคนแรกนั้นลำบากมาก เมื่อข้าให้กำเนิดพี่ชายคนโตของเจ้า ข้าผอมกว่าหรงเอ๋อร์อีก!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็รีบลุกขึ้นไปหาหลี่หรงหรง “มานั่งเถิด ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าอ่อนแอเช่นนี้ ข้าควรจะไปพบเจ้าที่ห้อง”
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร อย่างไรมันก็เป็นห้องของอนุ มันผิดกฎ!” จู่ ๆ หลิ่วจื้อหย่วนก็พูดเช่นนี้ออกมา ทำให้หลี่เยว่หานอดที่จะงุนงงเล็กน้อยไม่ได้
ก่อนหน้านี้… หลิ่วจื้อหย่วนชอบหลี่หรงหรงมากไม่ใช่หรือ? อะไรกัน นี่เบื่อแล้วรึ?
เมื่อมองหวังเหอฮวาและหลิ่วจื้อหย่วนที่อยู่ในโลกของพวกเขา ดวงตาของหลี่เยว่หานก็มืดมน ก่อนใช้ประโยชน์ตอนที่ทุกคนไม่สนใจกระซิบข้างหูของหลี่หรงหรง “อันไหนของปลอม? เจ้าหรือท้องของแม่เจ้า?”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่หรงหรงก็คว้ามือของหลี่เยว่หานทันที นางมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจและไม่พูดอะไร
หลี่เยว่หานยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากพยุงหลี่หรงหรงไปนั่งที่เก้าอี้ด้วยท่าทางปกติ เธอก็นั่งลงข้าง ๆ อีกฝ่าย “ข้ารบกวนแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ เดิมข้าแค่อยากจะมาขอบคุณ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นการเรียกให้ทุกคนมา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิ่วเทียนเสียงก็โบกมือ “เจ้าเป็นลูกสาวบุญธรรมของข้าแล้ว และเจ้าก็รวมอยู่ในลำดับสกุลของตระกูลหลิ่วแล้วด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องขอบคุณ ทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรให้ต้องขอบคุณ ”
“ท่านพ่อ ท่านพูดอย่างนั้นไม่ได้นะขอรับ ครั้งสุดท้ายที่เราออกหน้าช่วยหลี่เยว่หานเรามีปัญหามากมาย!” หลิ่วจื้อหย่วนได้ยินคำพูดของหลิ่วเทียนเสียง จึงผละจากหวังเหอฮวาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ไม่นานมานี้ มีบางคนถามข้าว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านเก้าแห่งพรรคมัจฉามังกรกับตระกูลหลิ่วของเราคืออะไรด้วย”
“จื่อหยวน อย่าพูดไร้สาระ” นายท่านหลิ่วดุ จากนั้นก็มองไปที่หลี่เยว่หาน “เยว่หานอย่าถือสาเลย จื้อหย่วนแค่ชอบพูดเรื่องไร้สาระน่ะ”
“ข้ารู้เจ้าค่ะ” หลี่เยว่หานพยักหน้าด้วยสีหน้าเข้าใจ “ข้าไม่มีของดีจากในหมู่บ้านไป๋อวิ๋นมาให้ พูดตามตรง ถานไคว่ที่ขายโดยนายน้อยเวินซึ่งเป็นพ่อค้าชั้นหนึ่งให้กับบรรดาผู้ร่ำรวยและผู้มีอำนาจเป็นของที่ข้าทำเอง และวันนี้ข้านำถานไคว่มาให้โดยเฉพาะ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสทุกคนจะยอมรับมันนะเจ้าคะ”
ในขณะที่พูดแบบนั้น หลี่เยว่หานก็มองหลี่หรงหรงที่เงียบตลอดเวลาอย่างอ่อนโยน ก่อนพูดอย่างมีความหมาย “ข้ายังหวังว่าจะได้รับความสุขจากน้องสาวของข้าด้วย”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ การแสดงออกของหลี่หรงหรงก็แข็งทื่อ แต่นางก็ฝืนฉีกยิ้มน่าเกลียดออกมา ไม่ว่าใครจะมองต่างก็รู้สึกได้ว่านางมีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหลี่หรงหรง ในใจหลี่เยว่หานก็ลอบมั่นใจมากกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นหลี่หรงหรงหรือหวังเฟิ่ง นางเกรงว่าจะมีอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครั้งนี้
MANGA DISCUSSION