บทที่ 144 ในที่สุดก็กลับมา
“เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องข้า” หลังจากที่เมิ่งฉีฮ่วนพูดจบ ชายหนุ่มก็ยืนขึ้นและวางแหวนที่สวมนิ้วโป้งในมือของเขาลงตรงหน้าเวินเทียนเหล่ย “ในเมื่อความไม่สงบทั้งหมดมาจากเจ้า ดังนั้นเจ้าควรจะแก้ไขมัน นี่ก็เลยเวลาแล้ว ข้าต้องกลับก่อน”
“หากกลับไปตอนนี้ ท่านจะปะทะกับคนเหล่านั้นระหว่างทาง” เวินเทียนเหล่ยพูดน้ำเสียงอู้อี้ “คนกลุ่มนั้นดูเหมือนจะเชื่อว่าท่านเก้าพาหลานชายของจักรพรรดิไป พวกเขาจึงได้วางกับดักไว้ในหมู่บ้านไป๋อวิ๋นและอำเภอหย่งหนิงแล้ว หากท่านย้อนกลับไป ท่านจะถูกจับกุมตัวได้แน่”
“เช่นนั้นข้าจะกลับพรุ่งนี้” หลังจากพูดจบ เมิ่งฉีฮ่วนก็นั่งลงอีกครั้งด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า “ใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ข้าจะต้องเตรียมของปีใหม่ให้คนในครอบครัวซะด้วย จะได้ช่วยให้พวกเขาไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองมาอีกรอบ”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ เวินเทียนเหล่ยก็ถอนหายใจอย่างจนใจ “ท่านวางแผนที่จะให้ข้ารับตำแหน่งท่านเก้าจริง ๆ หรือ?”
“มีทางอื่นอีกรึ?” เมิ่งฉีฮ่วนพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะความอยากรู้อยากเห็นของเจ้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นท่านเก้าแล้ว”
“ข้าเพียงทำตามความปรารถนาสุดท้ายของท่านแม่…” เวินเทียนเหล่ยพึมพำ
เมิ่งฉีฮ่วนไม่ได้จริงจังกับมันนัก แต่เขานึกสิ่งหนึ่งได้ “ข้าได้ยินจากกัวอี้ว่าเขาเป็นแขกที่จวนของเจ้า?”
“ผู้ชายคนนั้นไร้ยางอายเกินไป เขายืนกรานให้ข้าซื้อของหายากจากเขา ข้าเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนทำของเหล่านั้นขึ้นอย่างหยาบ ๆ และเลียนแบบของแปลก ๆ ที่หายากในตลาดเท่านั้น ข้าจึงไม่ต้องการพวกมัน” เวินเทียนเหล่ยดูมีความมั่นใจ “ต่อมาข้าได้คุยกับเขาครั้งหนึ่ง และรู้สึกถูกชะตา ข้าจึงชวนเขาไปที่จวนเพื่อทานอาหาร จากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพียงเพราะเขาทานอาหารที่จวนของเจ้าครั้งหนึ่ง เขาจึงค้นพบว่าไหเนื้อตุ๋นในจวนของเจ้าคือเนื้อตุ๋นที่เยว่หานทำ” เมิ่งฉีฮ่วนมองไปที่เวินเทียนเหล่ยด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าสมองของเจ้าทำให้กิจการใหญ่โตขึ้นมาได้อย่างไร”
วันนี้เวินเทียนเหล่ยโดนโจมตีมามากพอแล้ว ดังนั้นเมื่อโดนอีกครั้ง คนจึงนิ่งเฉยและไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบกลับ “ข้ารู้ ต่อไปภายหน้าข้าจะไม่ไปรบกวนอีก ถ้าข้าต้องรบกวน ข้าจะคุยกับท่านก่อน ดีหรือไม่?”
“ไม่จำเป็น เจ้าอยากรบกวนก็รบกวนต่อไป ยังไงซะถ้าจู่ ๆ หยุดไป มันจะทำให้คนรู้สึกแปลกใจมากกว่าเดิม” เมิ่งฉีฮ่วนกล่าวและเริ่มหลับตาพักผ่อน
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ เวินเทียนเหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะรำคาญเล็กน้อย “ท่านคงไม่ได้จากหมู่บ้านไป๋อวิ๋นมาที่นี่ เพียงเพื่อมาหาข้าเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้หรอกนะ?”
“อืม”
“ข้าไม่เข้าใจ แม่นางหลี่เยว่หานมีอะไรดีถึงทำให้ท่านทุ่มเทเช่นนี้” เวินเทียนเหล่ยพูดอย่างไม่เชื่อสายตา “เพราะเห็นแก่นาง ท่านจึงยอมเปิดเผยตัวเองงั้นรึ?”
“ข้าไม่ได้เปิดเผย” เมิ่งฉีฮ่วนไม่ลืมตา
“ทั้งเมืองหลิวชิงรู้ว่าท่านเก้ามาหอเซียนเมามายของข้าแล้ว!” เวินเทียนเหล่ยโกรธ “ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังต้องแสร้งทำเป็นท่านเก้า! ข้า… ข้าเกลียดท่านจริง ๆ!”
“เจ้าเกลียดข้ามานานไม่ใช่แค่วันสองวันเสียหน่อย” เมิ่งฉีฮ่วนไม่สนใจ “ส่งคนไปจับตาดูตระกูลหลิ่วด้วย”
“เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลหลิ่วอีกแล้ว!” เวินเทียนเหล่ยรู้สึกว่าเขาหยุดกังวลไม่ได้เลย
“น้องสาวต่างมารดาของเยว่หานกำลังตั้งครรภ์ แม้ว่าเยว่หานจะไม่ได้พูดอะไร แต่ข้าบอกได้เลยว่านางเป็นห่วงเรื่องนี้”
“ได้ ข้าจะช่วยท่านดูแลน้องสะใภ้”
“ไม่ใช่ช่วยข้าดูแล” เมิ่งฉีฮ่วนลืมตามองไปที่เวินเทียนเหล่ย และยิ้มเล็กน้อย “เจ้าแค่คิดวิธีที่จะทำให้หลี่หรงหรงฟื้นกลับมาไม่ได้ก็พอแล้ว”
หลังจากได้ยิน เวินเทียนเหล่ยก็ผงะ “ท่านไม่ได้ขอให้ข้าช่วยน้องสะใภ้ของท่านหรือ?”
“เจ้าไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความคับข้องใจระหว่างเยว่หานกับหลี่หรงหรงอีกรึ?” หลังจากพูดจบ เมิ่งฉีฮ่วนก็หลับตาลงอีกครั้ง
“ได้ ข้ารู้ว่าข้ามันเป็นแค่เด็กรับใช้ของท่าน” ต่อหน้าเมิ่งฉีฮ่วน เวินเทียนเหล่ยได้แต่ยอมจำนน
หมู่บ้านไป๋อวิ๋น
มืดแล้ว แต่เมิ่งฉีฮ่วนก็ยังไม่กลับมา หลี่เยว่หานเป็นกังวลจริง ๆ ท่านปู่ซุนกล่าวว่ามันเป็นเช่นนี้ทุกปี แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่
“ท่านอาหญิง วันนี้ท่านอาอาจจะไม่กลับมา ท่านอย่ารอเขาเลย” เมื่อค่ำคืนค่อย ๆ มืดลง หลิงซีและมู่ชวนยืนกรานที่จะอยู่รอกับหลี่เยว่หานในครัว อาหารที่เหลือสำหรับชายหนุ่มนั้นยังถูกอุ่นอยู่ในหม้อ ทว่าเด็กทั้งสองดูง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่เยว่หานจึงทำได้เพียงแค่ส่งเด็ก ๆ กลับไปที่ห้อง ส่วนเธอนั่งรออยู่ที่โต๊ะในครัว
การรอคอยนี้กินเวลาทั้งคืน
จนกระทั่งบ่ายวันรุ่งขึ้น เมิ่งฉีฮ่วนก็กลับมาพร้อมพายุหิมะ
“อาเมิ่ง!” เมื่อเห็นเมิ่งฉีฮ่วนเข้ามาในบ้าน มู่ชวนรีบเปิดประตูครัวพุ่งออกไป “อาหญิงรอท่านมาทั้งคืน จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่ยอมไปพักผ่อนเลย!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็ถือของที่เขานำกลับมาเข้าไปในครัว และเริ่มแบ่งของอย่างมีความสุข
“ข้าไปเมืองหลิวชิงมา คิดว่าใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว เลยต้องซื้อของขวัญปีใหม่ เยว่หาน นี่คือเสื้อผ้าที่ข้าซื้อให้เจ้า พวกนี้ของหลิงซี และทางนี้ของมู่ชวน ”
ขณะที่พูด เมิ่งฉีฮ่วนก็หยิบออกมาให้ทีละคน
นอกจากเสื้อผ้าแล้วเขายังซื้อผ้าโพกศีรษะให้หลี่เยว่หาน น้ำตาลก้อนสำหรับหลิงซี และสี่สมบัติในห้องหนังสือ*[1]สำหรับมู่ชวน นอกจากนี้เขายังนำข้าวขัดสีสิบชนิดและแป้งสาลีสิบชนิดกลับมาด้วย
เมิ่งฉีฮ่วนคิดว่าหลี่เยว่หานจะมีความสุขมาก แต่เขาไม่ได้คาดว่านางจะเฝ้าดูตนทำทุกอย่างโดยไม่พูดจา
“เยว่หาน มีอะไรหรือ?” เสียงของเมิ่งฉีฮ่วนนั้นอ่อนโยน แต่มู่ชวนที่สังเกตคำพูดและการแสดงออกได้ดีนั้นพาน้องสาวของเขาวิ่งหนีไปก่อนแล้ว
อาหญิงเป็นห่วงท่านอาทั้งวันทั้งคืน การที่เขาซื้อเสื้อผ้ากับเครื่องประดับมาให้นั้นเทียบไม่ได้เลย…
“เหตุใดตอนท่านจะไปเมืองหลิวชิง ท่านจึงไม่บอกกล่าวอะไรเลย?” หลี่เยว่หานมองเมิ่งฉีฮ่วนด้วยท่าทางสงบ “ท่านรู้ไหมว่าข้ากังวลทั้งวันทั้งคืน! ข้ายังไปถามข่าวจากท่านปู่ซุน เขาบอกว่าท่านเป็นแบบนี้ทุกปี ส่วนท่านไปทำอะไรทุกปี ข้าไม่กล้าถามด้วยซ้ำ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ “ข้าขอโทษ ตอนแรกข้าวางแผนที่จะซื้อของบางอย่างในอำเภอหย่งหนิงแล้วกลับมา แต่มันเย็นแล้ว ในอำเภอหย่งหนิงจึงไม่มีอะไรให้ซื้อ ดังนั้นข้าจึงกัดฟันและไปที่เมืองหลิวชิง เมื่อคืนนี้ข้าคิดว่าจะกลับมาได้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดความล่าช้า”
“ท่านคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงหลังจากที่ท่านซื้อของบางอย่างกลับมางั้นหรือ?” หลี่เยว่หานกัดฟัน “เมิ่งฉีฮ่วน เมื่อไหร่ท่านจะเลิกทำสิ่งต่าง ๆ อย่างประมาทเสียที! ท่านไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ท่านต้องดูแลมู่ชวนและหลิงซี ก่อนจะไป มันยากนักรึที่จะฝากคำพูดไว้?”
“ข้าขอโทษ” เมิ่งฉีฮ่วนไม่คิดว่าหลี่เยว่หานจะโกรธขนาดนี้ เขากุมมือนางพลางขอโทษจากก้นบึ้งของหัวใจ “ข้าสัญญาว่าจะไม่มีครั้งต่อไป”
“ลืมไปเถอะ คำพูดบุรุษเชื่อไม่ได้แม้แต่คำเดียว!” หลี่เยว่หานสะบัดมือของเมิ่งฉีฮ่วน ก่อนนั่งลงที่หน้าเตาด้วยความโกรธพลางสุมไฟข้างใน “ยังมีอาหารอยู่ในหม้อ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็ผงะเล็กน้อย แล้วหัวเราะ “ได้! ข้าก็หิวเหมือนกัน!”
[1] สี่สมบัติในห้องหนังสือ ได้แก่ พู่กัน กระดาษ หมึก และจานฝนหมึก
MANGA DISCUSSION