บทที่ 96 หลี่เยว่หานตื่นตระหนก
“เฮ้อ ท่านไปสำนักศึกษาและลองดูเด็ก ๆ ที่พึ่งเริ่มหัดเขียน ท่าทางการจับพู่กันของพวกเขาต้องพอ ๆ กับข้าแน่” หลี่เยว่หานกัดฟันอธิบายออกมา
เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนจึงไม่ได้เค้นถามอะไรต่อ
หลังจากตั้งใจล้างหน้าให้นางแล้ว เมิ่งฉีฮ่วนก็เริ่มหวีผมให้หลี่เยว่หานอย่างตั้งใจ
หลี่เยว่หานเอียงศีรษะไปมาอย่างรู้สึกไม่คุ้นชิน “เหตุใดวันนี้ท่านจึงดูเอาใจใส่เช่นนี้? คงจะไม่ได้คิดที่จะนอนกับข้าหรอกกระมัง?”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง เมิ่งฉีฮ่วนก็ยกยิ้ม ยื่นมือออกไปจับผมของนาง และค่อย ๆ หวีอย่างระมัดระวัง “ข้ารู้สึกดีแทนเจ้าที่ได้รับเงินก้อนแรก เจ้าควรได้รับการปฏิบัติเช่นนี้”
“หมายความว่า คืนนี้ท่านจะไปนอนกับคนขับรถม้าหรือ?” หลี่เยว่หานมองเมิ่งฉีฮ่วนผ่านกระจกทองสัมฤทธิ์
“ไม่ใช่เช่นนั้นแน่นอน” เมิ่งฉีฮ่วนพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “เจ้าเป็นฮูหยินของข้า ข้าเป็นคนแต่งงานพาเจ้าเข้าบ้าน หากข้าไปนอนห้องเดียวกับคนขับรถม้า ไม่แน่ว่าหากกลับไปยังหมู่บ้านแล้วอาจจะมีข่าวลือว่าเจ้าถูกข้าทิ้งเอาได้”
“ท่าน…” หลี่เยว่หานตกใจกับความไร้ยางอายของเขา “เมิ่งฉีฮ่วน ถึงอย่างไรท่านก็ถือว่าเป็นคนมีหน้ามีตา เหตุใดจึงพูดเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้กัน!”
“ข้าเป็นเพียงพรานล่าสัตว์หาเช้ากินค่ำในหมู่บ้านเท่านั้น มีหน้ามีตาอย่างไรกัน” เมิ่งฉีฮ่วนยังคงพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“…” หลี่เยว่หานรู้สึกโมโหเมิ่งฉีฮ่วนจริง ๆ
เขารู้จักกับคนอย่างเวินเทียนเหล่ย และยังผูกมิตรกับตระกูลหลิ่วแห่งอำเภอหย่งอัน ทั้งยังสามารถอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไป๋อวิ๋นได้โดยไร้ซึ่งหลักประกันใด ๆ หากจะบอกว่าเขาไม่มีภูมิหลังใด ๆ แต่เป็นเพราะเขาเพียงแค่มีพละกำลังมากมายสามารถนำหนังสัตว์ชั้นดีมาได้นั้น หลี่เยว่หานคงจะไม่มีทางทำใจเชื่อเช่นนั้นได้
แม้เธอจะไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้มากมายนัก แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เป็นยุคของระบบทุนนิยม เมิ่งฉีฮ่วนทำเช่นนี้ได้เพียงแค่อาศัยหนังสัตว์เพียงไม่กี่ชิ้นนั้น นับว่าเป็นไปไม่ได้
“เอาล่ะ ไม่แกล้งเจ้าแล้ว อีกประเดี๋ยวเสี่ยวเอ้อร์คงจะเอาน้ำสำหรับอาบมาให้ คืนนี้ข้าจะนอนที่พื้น” ขณะที่พูดนั้น เมิ่งฉีฮ่วนค่อย ๆ หวีผมดำขลับของหลี่เยว่หานอย่างระมัดระวัง
วางหวีในมือลง ไม่รอให้หลี่เยว่หานพูดใด ๆ เสียงก็ดังมาจากประตูห้อง
“เจ้าดูนั่น พูดถึงน้ำน้ำก็มา เจ้าอาบน้ำเสียก่อน ข้าจะออกไปรอด้านนอก แต่จำไว้ว่า อาบน้ำเสร็จแล้วก็เปิดประตูให้ข้า มิเช่นนั้นข้าคงต้องปีนหน้าต่าง” เมิ่งฉีฮ่วนพูดพลางลุกเดินออกไป
เปิดประตูแล้ว เมิ่งฉีฮ่วนและเสี่ยวเอ้อร์จึงเทน้ำสำหรับอาบลงไปในอ่าง และเดินออกไปพร้อมกับเสี่ยวเอ้อร์
หลี่เยว่หานลุกขึ้นเดินไปปิดประตูด้วยตัวเอง และเดินไปอาบน้ำด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น
การใช้สมองในการทำงานทำให้สูญเสียพลังกายไปมาก และยิ่งเมื่อวานใช้เวลาในการนั่งรถม้ามาทั้งวัน เมื่อหลี่เยว่หานก้าวลงไปในน้ำอุ่น ๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายจนถอนหายใจออกมา
ตอนนี้ในมือมีเงินอยู่สี่ร้อยตำลึง พรุ่งนี้ยังมีการค้าที่ต้องเจรจาอยู่ คิดว่าเงินที่เวินเทียนเหล่ยจะจ่ายนั้นน่าจะไม่น้อย เพราะอย่างไรพวกเขาคิดเงินตามคำพูด ดังนั้นหลี่เยว่หานจึงเริ่มคำนวณ ในมือมีเงินอยู่แล้ว ควรจะใช้เงินต่อเช่นไร
วันนี้ขณะที่กำลังเดินทางไปยังหอเซียนเมามาย หลี่เยว่หานมองสำรวจสองข้างทางถนนอย่างตั้งใจ พบว่าผู้หญิงที่จะออกมาทำกิจการอย่างเปิดเผยนั้นค่อนข้างน้อย ดังนั้นหากหลี่เยว่หานคิดจะเปิดร้านค้าขายล่ะก็ คิดว่าเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเป็นผู้หญิงคนจะปฏิเสธเอาได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เยว่หานก็บิดผ้าด้วยความโมโห สุดท้ายก็ยังหนีไม่พ้นต้องให้เมิ่งฉีฮ่วนช่วย!
อาบน้ำเสร็จแล้ว หลี่เยว่หานจึงสวมชุดนอนสบาย ๆ และเปิดประตูห้อง
เมิ่งฉีฮ่วนยืนกอดผ้าห่มรออยู่หน้าประตูจริง ๆ
“ว่ากันว่าผู้หญิงนั้นอาบน้ำช้า เจ้านับว่าเร็วมาก” เมิ่งฉีฮ่วนพูดพลางยิ้มและเดินกอดผ้าห่มเดินเข้าไปในห้อง
“ท่าน…” หลี่เยว่หานอยากจะพูดจาเหน็บแนมตอบโต้เมิ่งฉีฮ่วนกลับไป แต่เมื่ออ้าปากขึ้นกลับไม่รู้จะพูดอะไร
จึงทำเพียงปิดประตูลงด้วยความโมโห
เมื่อเห็นเมิ่งฉีฮ่วนปูที่นอนบนพื้น หลี่เยว่หานจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “ท่านจะนอนพื้นจริงหรือ?”
“หากเจ้าเสียใจ ข้าก็สามารถนอนร่วมเตียงกับเจ้าได้” เมิ่งฉีฮ่วนปูที่นอนไปพลางพูดขึ้นมาโดยไม่เงยหน้า
หลี่เยว่หานไม่ได้ตอบใด ๆ หมุนตัวเดินกลับไปนอนลงบนเตียง
ทันใดนั้น หลี่ยว่หานก็ได้ยินเมิ่งฉีฮ่วนตะโกนเรียกเสี่ยวเอ้อร์ให้มาเปลี่ยนน้ำสำหรับอาบให้
เสียงน้ำตกกระทบกันอยู่ด้านหลังม่าน อดปลุกความทรงจำที่เลือนลางของหลี่เยว่หานขึ้นมาไม่ได้
ในคืนวันนั้นที่หญิงสาวมาถึงยังโลกใบนี้ จำได้ลาง ๆ ว่าเธอกำลังสัมผัสร่างของเมิ่งฉีฮ่วนอยู่ กล้ามเนื้อบนร่างกายเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก
หวนกลับไปคิดถึงภาพนั้น หลี่เยว่หานก็อดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ หมุนตัวไปกอดผ้าห่มไว้และพยายามข่มตาลงให้ตนหลับให้ได้
อาจเป็นเพราะการทำงานในช่วงบ่ายนั้นเหนื่อยเกินไป เพียงไม่นานหลี่เยว่หานก็ผล็อยหลับไป
หลังจากเมิ่งฉีฮ่วนอาบน้ำและเปลี่ยนชุดเดินออกมาจากหลังฉากกั้นแล้ว เขาก็ตั้งใจมองมายังหลี่เยว่หาน เมื่อเห็นว่านางหลับไปแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะบีบแก้มนางเบา ๆ ก่อนจะระบายยิ้ม
“ช่างเป็นเด็กสาวที่ดื้อรั้นนัก” พูดจบ เมิ่งฉีฮ่วนจึงลุกขึ้นและเดินออกไป หลังจากให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอ่างอาบน้ำออกไป เขาจึงดับไฟตะเกียงน้ำมันก่อนจะนอนลงบนพื้นและผล็อยหลับไป
วันรุ่งขึ้น หลี่เยว่หานตื่นขึ้นมาแต่เช้า เมื่อหันไปมองจึงเห็นว่าเมิ่งฉีฮ่วนนอนอยู่บนพื้นจริง ๆ ก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
ตอนกลางคืนอากาศหนาวเย็น แม้ว่าเมิ่งฉีฮ่วนจะมีร่างกายที่แข็งแรง แต่การนอนบนพื้นเช่นนี้ก็น่าจะไม่สบายนัก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เยว่หานจึงค่อย ๆ ลงจากเตียง หอบผ้าห่มของตนมาห่มให้เมิ่งฉีฮ่วนอย่างเบามือ
ขณะที่หญิงสาวห่มผ้าให้และกำลังจะเดินออกไปนั้น จู่ ๆ เมิ่งฉีฮ่วนก็ลืมตาขึ้นมา และคว้าข้อมือของเธอไว้ “ฮูหยินตื่นเช้าจริง”
พูดจบเขาก็หาววอดใหญ่
“ปล่อยมือ!” หลี่เยว่หานหน้าแดง
“เช้าเกินไป ข้าออกแรงมากไม่ได้ สู้ฮูหยินนอนกับข้านานกว่านี้อีกหน่อย” พูดจบ เมิ่งฉีฮ่วนจึงเลิกผ้าห่มขึ้น และโอบกอดหลี่เยว่หานเข้ามา
ร่างกายใหญ่โตที่ดูแข็งแรงเป็นพิเศษของเขาโอบกอดหลี่เยว่หานไว้ หญิงสาวจึงพยายามที่จะขัดขืน แต่กลับพบว่าขาของเขากลับพาดอยู่บนร่างกายของเธอ เพื่อกักขังเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่นหนา
“เมิ่งฉีฮ่วน ท่านอย่าทำตัวอันธพาลเช่นนี้!” หลี่เยว่หานพูดด้วยความอับอายและรำคาญใจ
“ง่วงมาก เจ้าเลิกพูดเถิด ให้ข้ากอดอีกครู่หนึ่ง” เมิ่งฉีฮ่วนพูดสั้น ๆ และโอบกอดหลี่เยว่หานไว้ในอ้อมแขนของตน และลูบผมของเธอราวกับลูกสุนัขตัวน้อย เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับไป
หลี่เยว่หานซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเมิ่งฉีฮ่วน โดยไม่กล้าขัดขืนใด ๆ ทำได้เพียงปล่อยให้เขาโอบกอดตนไว้เช่นนั้น
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เยว่หานก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
เวลาเช่นนี้เมิ่งฉีฮ่วนยังจะหลับต่อไปได้อย่างไร!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เยว่หานจึงพยายามดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของเมิ่งฉีฮ่วน ยื่นมือออกไปแนบบนหน้าผากของเมิ่งฉีฮ่วน
ถึงแม้จะดูเป็นชายร่างกายแข็งแกร่งเช่นนี้ แต่เมื่อนอนอยู่บนพื้นทั้งคืนก็มีไข้ขึ้นมาได้!
“เมิ่งฉีฮ่วน เมิ่งฉีฮ่วน ท่านตื่นสิ ท่านมีไข้แล้ว!” หลี่เยว่หานแตะไปยังแก้มของเมิ่งฉีฮ่วน แต่เขากลับพึมพำออกมาโดยไม่ลืมตา
จึงทำให้หลี่เยว่หานรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาจริง ๆ
MANGA DISCUSSION