บทที่ 80 เรื่องซุบซิบ
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจของหวังเหอฮวาก็แทบจะสลาย!
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระนะ!” ท่ามกลางฝูงชน หวังฉินมารดาของหวังเหอฮวากอดลูกสาวของนางไว้ในอ้อมแขนทันที ขณะตะโกนใส่สะใภ้หลิว “ระวังลิ้นเน่า ๆ ของเจ้าไว้!”
หลิวโหย่วฉายเองก็เป็นพวกปกป้องภรรยาคนหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงจ้องกลับด้วยความไม่พอใจทันที “หุบปากไปซะ! ทุกคนที่อยู่ในเวลานั้นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ลูกสาวของเจ้าไร้ยางอาย เจ้าที่เป็นมารดาก็ไร้ยางอายด้วยรึ?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา คนในฝูงชนก็สงสัยทันที “ถูกต้อง ภรรยาของหลี่ต้าเฉิงคือหวังเฟิ่ง น้องสาวของหวังฉินไม่ใช่หรือ? ไม่ใช่เป็นเพราะนางคบกับพี่เขยของนางอย่างหม่าเวยสามีที่แต่งเข้าบ้านของหวังฉินหรอกหรือ มารดาของพี่น้องคู่นี้จึงรีบแต่งหวังเฟิ่งออกไปยังหมู่บ้านเฮยถู่”
“สวรรค์! คนแบบนี้ยังมีหน้ากลับมาได้อย่างไร! เป็นไปได้ไหมที่หวังฉินจะไม่กลัวว่าหวังเฟิ่งกับหม่าเวยจะกลับมาคบกันอีกครั้ง?”
“ข้าเพิ่งได้ยินว่าลูกสาวของหวังเฟิ่งก็ล่อลวงพี่เขยในอนาคตของนางเหมือนกัน ทั้งสองคนช่างเหมือนกันนัก…”
“จุ๊ ๆ…เหมือนกันจริง ๆ…”
…
หวังเฟิ่งคงไม่คาดคิดว่าจะมีใครจำเหตุการณ์เมื่อสิบปีที่ผ่านมาแล้วได้ จึงหมดความอดทนทันที “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร! พี่เขยของข้าและข้าไม่ได้มีอะไรกันเลย! ต้าเฉิงและข้าก็ได้แม่สื่อมาสู่ขอเช่นกัน แต่งกันผ่านสามสือหกพิธี!”
เมื่อเห็นว่ามีการทะเลาะกันอีกครั้ง ท่านปู่ซุนก็ดูจะตื่นเต้น
“ทำไมถึงบอกพวกเราพูดไร้สาระ? เพราะบิดามารดาของพวกเจ้าพี่น้องทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว เจ้าจึงคิดว่าจะกลับมาได้รึ?”
“จุ๊ ๆๆ หน้าด้านกลับมาก็ช่างเถอะ แต่เจ้ากล้าใส่ร้ายพี่เมิ่งรังแกลูกสาวตัวเอง พวกเรามีใครไม่รู้บ้างว่าก่อนแต่งกับภรรยาคนปัจจุบันพี่เมิ่งไม่ได้มองผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นหวังเหอฮวาจะเสนอตัวหลายครั้งเช่นนั้น และคงไม่ถูกไล่ออกทุกครั้งหรอก!”
“โอ้ ข้าได้ยินมาว่าภรรยาคนแรกของผู้ชายที่นางแต่งงานด้วยก็เป็นคนน่าสงสารเช่นกัน นางเป็นคนนอกที่มาตั้งรกรากที่นี่ แต่ต่อมานางมีสุขภาพไม่ดี และว่ากันว่านางเสียชีวิตด้วยความโกรธ ข้าได้ยินว่าหวังเฟิ่งมีความสัมพันธ์กับหลี่ต้าเฉิงนานแล้ว ทั้งสินสอดทองหมั้นเดิมของภรรยาคนก่อนก็มีค่อนข้างมาก!”
“ข้าได้ยินมาว่านางเป็นผู้หญิงจากครอบครัวตกต่ำที่กำลังมองหาสถานที่ลงหลักปักฐาน และอยากจะมาที่หมู่บ้านไป๋อวิ๋นของเราในตอนนั้น แต่เมื่อข้าได้ยินว่านางเป็นผู้หญิงจากครอบครัวร่ำรวยที่ตกต่ำ จึงไม่มีคนช่วยรับรอง ท่านปู่ซุนจึงส่งนางไปที่หมู่บ้านเฮยถู่ด้วยตัวเอง!”
“เจ้าพูดแบบนั้นข้าก็จำได้ จิ๊ ๆ โชคชะตาเล่นตลกนัก ท้ายที่สุดลูกสาวของหญิงผู้นั้นก็แต่งมาที่หมู่บ้านของเรา”
“หวังเฟิ่งช่างไร้ยางอายจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ลูกสาวที่นางให้กำเนิดจะ…”
…
ไม่ว่าหวังเฟิ่งจะเป็นคนผิวหนาแค่ไหน ยามนี้ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนสีแดงดังโดนไฟเผา ก่อนนางจะปกป้องตัวเองอย่างรวดเร็ว “อวี๋ปิงซูเองก็อายุสั้น ยามแม่สื่อมาสู่ขอ ถ้าข้าไม่เห็นว่าต้าเฉิงเป็นผู้ชายที่ทำงานหนักเพื่อลูกสาวของตนคนหนึ่ง ใครจะไปแต่งกับพ่อม่ายกัน!”
“พูดไปแล้ว! เดิมทีอวี๋ปิงซูก็เป็นหญิงสาวบอบบาง ไม่สามารถทนลำบากได้ นางจึงสมควรตายไปแต่เนิ่น ๆ อยู่แล้ว!”
เมื่อได้ยินหวังเฟิ่งใส่ร้ายมารดาของเจ้าร่างเดิม หลี่เยว่หานก็โกรธทันที หญิงสาวขึ้นไปตบหวังเฟิ่งอย่างดุเดือดและผลักหวังเฟิ่งลงกับพื้นโดยไม่คิด “ข้าขอเตือนท่าน มันไม่เป็นไรถ้าท่านจะด่าทอข้า แต่ไม่ใช่ให้ท่านกล้ามาบอกว่าแม่ของข้าสมควรตายไปแต่เนิ่น ๆ วันนี้ข้าจะฆ่าท่านทิ้ง!”
เมื่อพูดเช่นนั้น หลี่เยว่หานก็ยกเท้าขึ้นเหยียบหัวของหวังเฟิ่ง
เมิ่งฉีฮ่วนเป็นผู้ที่มีตาและมือที่ฉับไว จึงพาตัวหลี่เยว่หานกลับมาในอึดใจ “อย่าหุนหันพลันแล่น มันจะไม่ดีถ้านางเอามาข่มขู่เจ้าภายหลัง”
ในขณะนี้ ท่านปู่ซุนก็กระแอมในลำคอหลังจากเห็นความตื่นเต้นเพียงพอแล้ว ก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่ได้คาดว่าเจ้าจะเป็นลูกสาวของปิงซู ถ้าข้าปล่อยให้ผู้หญิงที่ดีอย่างปิงซูอยู่ที่หมู่บ้านไป๋อวิ๋น บางทีนางอาจจะไม่จากไปตั้งแต่ยังสาว ข้าต้องขอโทษจริง ๆ เด็กน้อย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็มองไปที่ท่านปู่ซุนด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าในน้ำเต้าอีกฝ่ายกำลังขายยาชนิดใด*[1]
“ข้าเข้าใจเรื่องราวแล้ว” ท่านปู่ซุนถือไม้เท้าก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หยุดตรงหน้าหวังเฟิ่งและหวังฉิน ก่อนพูดว่า “ในเมื่อเสี่ยวเมิ่งโยนเด็กผู้หญิงจากครอบครัวของเจ้าทั้งสองลงแม่น้ำด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่อาจถือว่ารังแกเด็กสาวทั้งสอง”
“หวังฉิน ในฐานะผู้อาวุโส ข้าเห็นความรักของเหอฮวาที่มีต่อเสี่ยวเมิ่ง แต่เสี่ยวเมิ่งไม่ได้สนใจลูกสาวของเจ้านัก ดังนั้นเจ้าจึงมิอาจเล่นเล่ห์กับผู้อื่นได้ ยัยหนูเหอฮวา เจ้าเองก็เป็นสตรีบริสุทธิ์คนหนึ่งเช่นกัน อย่าได้ทำลายชื่อเสียงของเจ้าเช่นนี้”
“หวังเฟิ่ง ข้ารู้ดีถึงความคับข้องใจระหว่างเจ้ากับสองพี่น้องในตอนนั้น แต่เนื่องจากเรื่องผ่านไปหลายปีแล้ว และพวกเจ้าพี่น้องก็กลับมาคืนดีกันแล้ว จากนี้ไปครอบครัวจงอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข อย่าไปรบกวนบ้านเมิ่ง เพราะถึงอย่างไร ยัยหนูเยว่หานคนนี้ก็ต้องทนทุกข์จริง ๆ”
“นอกจากนี้ ถ้าเจ้าต้องการทำให้เรื่องใหญ่จริง ๆ เจ้าต้องไปที่ตระกูลหลิ่วในอำเภอหย่งหนิง และเชิญคุณชายใหญ่หลิ่วและนายท่านผู้เฒ่าหลิ่วมาพร้อมกัน”
“เพราะทั้งหมดนี้ เป็นปิงซูช่วยผู้เฒ่าหลิ่วจากภูเขาลึกโดยเกือบเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก ไม่ว่าจะยังไงตระกูลหลิ่วก็เป็นหนี้บุญคุณนาง แต่เดิมปิงซูแลกเปลี่ยนการแต่งงานของเยว่หานกับบุญคุณนี้ ในเมื่อ เจ้าหวังเฟิ่งไม่ดูแลลูกสาวเจ้าให้ดี ดังนั้นเจ้าจึงไม่อาจตำหนิยัยหนูเยว่หานที่ยกเลิกการหมั้นเองได้”
“ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างลูกสาวของเจ้ากับคุณชายหลิ่วจริง ๆ เหตุใดนางถึงแต่งงานกับเด็กยากจนอย่างเมิ่งฉีฮ่วน แทนที่จะไปเป็นนายหญิงดี ๆ เล่า”
หลังจากคำพูดไม่กี่คำของท่านปู่ซุน ประสบความสำเร็จในการวิจารณ์เกี่ยวกับครอบครัวของหวังเฟิ่งและหวังฉินทั้งสอง จนพวกนางไม่สามารถพูดผายลมได้อีก
ผู้คนรอบข้างมองพวกเขาสองคนด้วยสายตาเหยียดหยาม
“มันจบลงแล้ว มันจบลงแล้ว” ท่านปู่ซุนชอบดูความตื่นเต้น ตอนนี้เขาดูมามากพอแล้ว และเขาก็จัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงวางแผนที่จะจากไป แต่เมื่อเห็นว่ายังมีคนจำนวนมากเกาะอยู่ที่ประตู เขาจึงยกไม้ค้ำขึ้นและเริ่มไล่พวกเขาออกไป
เมื่อท่านปู่ซุนเดินไปถึงประตู เขาก็หยุดเดินและหันกลับมามองที่เมิ่งฉีฮ่วน ก่อนพูดว่า “เสี่ยวเมิ่ง ท่านปู่ของเจ้าจะกลับไปก่อน ไว้ท่านปู่เจ้าจะมาขอเครื่องดื่มจากเจ้าภายหลัง ฝีมือทำอาหารของภรรยาเจ้าทำให้ทั้งหมู่บ้านไป๋อวิ๋นหิวโหยมาหลายเดือนแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็ตอบรับทันที “ไม่มีปัญหา! ข้าจะให้เยว่หานเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ตอนเย็น ท่านปู่ก็อย่าคิดว่าสุราไม่ดีพอเสียเล่า!”
“ฮ่า ๆๆ เจ้ายังรู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่!” ท่านปู่ซุนหัวเราะและจากไปหลังจากพูดจบ ขณะที่เขาเดินไปก็ขับไล่ผู้พบเห็นทั้งหมดออกไป และบอกให้พวกผู้ใหญ่ไปทำงานโดยเร็ว
เมื่อเห็นว่าทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว แต่หวังเฟิ่งกับครอบครัวของหวังฉินยังคงยืนอยู่ที่ลาน หลี่เยว่หานจึงคว้าคบเพลิงขึ้นมาทันที “ไม่ออกไปรึ! เช่นนั้นก็รอข้าหักขาสุนัขของพวกเจ้า!”
ท่านปู่ซุนได้จากไปและผู้ชมก็แยกย้ายกันไปแล้ว ดังนั้น เมิ่งฉีฮ่วนจึงไม่หยุดหลี่เยว่หานอีก
เมื่อเห็นหลี่เยว่หานวิ่งเข้ามาพร้อมคบเพลิง หวังเฟิ่งและหวังฉินก็รีบลากลูกสาวของพวกนางวิ่งออกไปทางประตูด้วยความตื่นตระหนก
ขณะยืนอยู่ที่ประตู หลี่เยว่หานก็พลันรู้สึกโล่งใจที่เห็นคนเหล่านั้นวิ่งหนีหายไป
เมิ่งฉีฮ่วนซึ่งยืนอยู่ข้างหลังนางและมองดูนางแสดงพลัง เมื่อเขาเห็นรูปลักษณ์ของหลี่เยว่หานก็รู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ได้
ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ช่างทำให้เขาประหลาดใจตลอดเวลาจริง ๆ
[1] 葫芦里卖的什么药 คือสำนวนที่หมายความว่า (ใครสักคน) ที่ในใจมีความคิดหรือแผนการอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้
MANGA DISCUSSION