บทที่ 63 ต่อไปให้เรียกว่าอาหญิง
ตอนที่หลิงซีหาหลี่เยว่หานพบที่ท้ายเรือน หญิงสาวกำลังสังเกตความคืบหน้าของเมล็ดพันธุ์ที่ยังไม่เอาลงดินที่เหลืออยู่ พลางจดบันทึกอะไรบางอย่างลงบนกระดาษอยู่เป็นระยะ
หลิงซีแนบร่างบนประตูแอบมองอยู่สักพัก ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หลี่เยว่หานวางพู่กันและกระดาษลงแล้วหันกลับมา เห็นว่าหลิงซีพิงประตูแอบมองตนอยู่ก็ต้องตกใจ
“หลิงซี เจ้าหลบอยู่ตรงนั้นทำไม?” หลี่เยว่หานลูบอกพลางสงบสติอารมณ์
“ข้ากำลังแอบดูว่าพี่สาวทำอะไรอยู่” หลิงซีพูดแล้วลุกขึ้นวิ่งเตาะแตะโผเข้ามาอ้อมอกของหลี่เยว่หาน นางเงยหน้าพูดว่า “อาเมิ่งออกไปข้างนอกแล้วเจ้าค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น หลี่เยว่หานก็เบ้ปากอย่างไม่สนใจ “เขาออกไปข้างนอกก็ออกไปสิ เกี่ยวอันใดกับข้า”
“แต่หลิงซีคิดว่าอาเมิ่งไปช่วยพี่สาวรังแกคนนะเจ้าคะ” หลิงซีกล่าวพลางกะพริบตาปริบ ๆ
“เขาน่ะหรือจะทำ” หลี่เยว่หานปฏิเสธไปโดยไม่แม้แต่จะคิด เธอโอบหลิงซีน้อยเอาไว้พลางว่า “พี่สาวทำของอร่อยเอาไว้ อาศัยช่วงที่พี่ชายยังไม่กลับมา หลิงซีอยากแอบกินก่อนสักชิ้นดีไหม?”
“ไม่เอา” หลิงซีส่ายหน้า “แอบกินไม่ใช่นิสัยที่ดี หลิงซีไม่แอบกิน!”
เห็นเด็กน้อยกล่าววาจาจริงจังด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาเช่นนั้น หลี่เยว่หานอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย ใช้หลังนิ้วกวาดจมูกของหลิงซีเบา ๆ ยกยิ้มก่อนพูดขึ้นว่า “ดี พวกเราไม่แอบกินก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพี่สาวขอให้หลิงซีช่วยดูว่าเนื้อที่ทำไว้สุกหรือยังให้หน่อย ได้ไหม?”
“ได้เจ้าค่ะ!” หลิงซีปรบมือยิ้มร่าอย่างดีอกดีใจ
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เดินผ่านลานเรือนมาถึงเรือนหน้าค่อยได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งร้อน
หลี่เยว่หานขมวดคิ้ว เปิดประตูเรือนก็เห็นมารดาของหวังเหอฮวายืนอยู่ข้างนอกด้วยสีหน้าร้อนใจ “โธ่เอ๋ย นังหนูเยว่หาน เจ้าเปิดประตูได้เสียทีนะ!”
“มีอะไรหรือป้าหวัง?” หลี่เยว่หานไม่มีความรู้สึกดี ๆ ให้คนสกุลหวังแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างไรมารดาของหวังเหอฮวาก็เป็นผู้อาวุโส เธอจึงไม่แสดงออกชัดเจนเกินไป
“เจ้ารีบไปที่แม่น้ำข้างหมู่บ้านเถอะ! สามีของเจ้าโยนลูกสาวข้ากับน้องสาวเจ้าลงน้ำไปแล้ว ให้พวกนางจับปลามือเปล่า ถ้าจับไม่ได้ก็จะไม่ให้ขึ้นฝั่ง!” ป้าหวังพูดไปพูดมาก็ทรุดลงไปนั่งร่ำไห้โวยวายบนพื้น
ใครจะไปคิดว่าหลี่เยว่หานกลับเลิกคิ้ว อุ้มหลิงซี ลงกลอนประตูเรือนแล้วเดินออกมาทันที ไม่มองป้าหวังเลยสักนิด
ป้าหวังเคาะประตูอยู่นานแล้ว เวลานี้ยังเป็นช่วงที่ทุกคนกินข้าวพอดี คนไม่น้อยประคองถ้วยข้าวออกมาดูเรื่องสนุก เห็นว่าหลี่เยว่หานเดินจากไปแล้ว ผู้คนที่ไม่มีความบันเทิงหลังมื้ออาหารจึงตามหลังไปด้วยติด ๆ
หลี่เยว่หานเร่งฝีเท้า ในไม่ช้าก็มาถึงริมแม่น้ำข้างหมู่บ้าน เนื่องจากทางนั้นมีคนมุงอยู่ไม่น้อย หลี่เยว่หานจึงหาเมิ่งฉีฮ่วนพบอย่างรวดเร็ว
“ท่านทำอะไร?” หลี่เยว่หานไปหยุดอยู่ข้างกายเมิ่งฉีฮ่วน สีหน้าหมดคำจะบรรยาย “ท่านโยนเด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือนสองคนลงแม่น้ำไปอย่างนี้ ถ้าพวกนางใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างมาเรียกร้องให้ท่านรับผิดชอบเล่า?”
เมิ่งฉีฮ่วนคิดไม่ถึงว่าหลี่เยว่หานจะมาถึงเร็วเช่นนี้ เขาลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับหลี่เยว่หานด้วยท่าทางไม่เป็นธรรมชาติ แล้วพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ ตอนข้าลากพวกนางมามีคนเห็นอยู่ตลอด ข้าไม่ได้ทำอะไรพวกนางเสียหน่อย!”
“ก่อนหน้านี้หวังเหอฮวาก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่าน แต่ก็เกือบจะทำให้ท่านเดือดร้อนแล้ว จำไม่ได้หรือ?” หลี่เยว่หานไม่สนใจว่าตอนนี้มีคนมากมายมุงดูอยู่ เธอพูดจาอย่างไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย “แล้วก็น้องสาวคนนั้นของข้า ข้าเตือนท่านไว้ก่อนเลยนะว่าตอนนั้นแม้แต่คู่หมั้นของข้านางยังกล้าไปข้องแวะด้วย ยากจะรับรองได้ว่านางจะไม่ยุ่งกับท่าน!”
ได้ยินเช่นนั้น เมิ่งฉีฮ่วนก็หัวเราะเสียงดังออกมา แล้วรับหลิงซีมาสู่อ้อมอกของตนเอง “เจ้าร้อนใจแทนข้าหรือ?”
“…” หลี่เยว่หานรู้สึกเหมือนมีกองทัพม้านับหมื่นวิ่งผ่านช่องอกไป “ข้าเปล่าเสียหน่อย! ท่านให้พวกนางขึ้นมาเถอะ”
“ใช่แล้วพี่เขย! พวกข้าสองคนเป็นผู้หญิงอ่อนแอไม่คล่องแคล่วเท่าพี่สาว จะจับปลาที่ตัวลื่นขนาดนั้นได้อย่างไร!” หลี่หรงหรงกล่าวเสียงดังปนสะอื้น “พี่เขยจงใจทำให้ชื่อเสียงข้าป่นปี้ชัด ๆ เลย ฮือฮือ…”
ได้ยินวาจานี้ เมิ่งฉีฮ่วนยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หลี่เยว่หานกลับโมโหขึ้นมาเสียแล้ว “หลี่หรงหรงเจ้ารู้จักมียางอายบ้างไหม? เจ้าขึ้นเตียงกับหลิ่วจื้อหย่วนไปแล้วยังจะมาเสแสร้งเป็นหญิงบริสุทธิ์อีกทำไม? ตอนนี้หลิ่วจื้อหย่วนไม่ต้องการเจ้าแล้ว เจ้าก็มาที่เรือนข้า เจ้าคิดอะไรอยู่คิดว่าข้าไม่รู้งั้นเรอะ!”
หลี่หรงหรงคงคิดไม่ถึงว่าหลี่เยว่หานจะพูดออกมาตรง ๆ เช่นนี้จึงอึ้งไปชั่วขณะ
“เยว่หาน ท่านพูดกับน้องสาวตัวเองแบบนี้ได้อย่างไร” หวังเหอฮวาที่อยู่ข้าง ๆ กลับหนักแน่นกว่ามาก “ท่านไม่ได้ดูแลคู่หมั้นของตัวเองให้ดี ทำให้เขามารักน้องสาวของท่าน นี่เป็นความผิดของหรงเอ๋อร์งั้นหรือ? มันเป็นความผิดของท่านต่างหาก!”
“หุบปาก!” หลี่เยว่หานมองมาด้วยแววตาวาวโรจน์ “หวังเหอฮวา ข้านึกว่าได้บทเรียนจากคราวก่อนแล้วเจ้าจะรู้จักมียางอายขึ้นมาบ้างเสียอีก คิดไม่ถึงว่าพอมาเจอหลี่หรงหรงแล้วกลับไร้ยางอายยิ่งกว่าเดิม!”
“ตอนบ่ายที่ข้ามาจับปลาอยู่ตรงนี้พวกเจ้าสองคนพูดอะไรยังจำได้หรือไม่?”
“บอกว่าสามีข้าไม่ทะนุถนอมข้าไม่ใช่รึ? ตอนนี้ข้าบอกพวกเจ้าไว้เลยว่าเป็นเพราะข้าสงสารสามีตัวเองที่หลายวันมานี้เหน็ดเหนื่อยเกินไป ตอนกลางวันยังแบกต้นไม้กลับเรือน ถึงไม่ได้ให้เขามาจับปลาด้วย ตอนนี้สามีของข้ารู้เรื่องที่พวกเจ้าพูดจาลบหลู่ข้าแล้ว คงรู้แล้วสินะว่าสามีของข้าทะนุถนอมข้าหรือไม่?”
“ข้าบอกเจ้าไว้เลย วันนี้พวกเจ้าทำเรื่องงามหน้าขนาดนี้ ต่อให้พวกเจ้าบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ต้องมลทินแม้น้อยนิด สามีของข้าก็ยังเป็นสามีของข้าอยู่ดี ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้ากับหลี่หรงหรงสักนิด! ถ้าจะทำเรื่องต่ำช้าอะไรอีก ข้าก็ไม่ถือสาหากพวกเจ้าจะอยากลงไปแช่ในบ่อเกรอะใต้ห้องปลดทุกข์ให้หนำใจหรอกนะ!”
พูดจบ หลี่เยว่หานก็ดึงตัวเมิ่งฉีฮ่วนที่อมยิ้มอยู่ข้าง ๆ เดินฝ่าฝูงชนกลับบ้านไป
หลี่เยว่หานตีหน้าเย็นชามาตลอดทาง เมิ่งฉีฮ่วนอยากพูดอะไร แต่ก็ถูกหลิงซีคอยห้ามเอาไว้
ตอนที่พวกเขากลับมาถึงหน้าประตูเรือน มู่ชวนก็เลิกเรียนกลับมาถึงพอดี
ตอนเห็นหลี่เยว่หานมีสีหน้าขุ่นเคืองและเมิ่งฉีฮ่วนที่ทำท่ากลั้นยิ้มเดินกลับมา มู่ชวนก็อึ้งไป “อาเมิ่ง พี่สาว พวกท่านเป็นอะไรไป?”
“ต่อไปห้ามเรียกว่าพี่สาว จำไว้ว่าต้องเรียกว่าอาหญิง” เมิ่งฉีฮ่วนบอก แล้ววางหลิงซีลงข้าง ๆ มู่ชวน ล้วงเอากุญแจจากในอกเสื้อออกมาเปิดประตูเรือน
หลี่เยว่หานถูกคำพูดของเขาทำให้หน้าแดง แต่ก็ติดตรงที่ตอนนี้มีคนจำนวนมากกำลังมองอยู่ จึงไม่ได้อธิบาย พอประตูเปิดออก เธอก็พุ่งเข้าไปเป็นคนแรก
หญิงสาวเพิ่งนึกออกยามนี้เองว่าตนเองตุ๋นพะโล้ไว้บนเตา ไม่รู้ว่าถึงตอนนี้ตุ๋นจนแห้งไปแล้วหรือยัง…
หลี่เยว่หานเข้าไปในครัวแล้วเปิดฝาหม้อออกดู ค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ยังดียังดี หมูพะโล้ยังดีอยู่
หมูตุ๋นพะโล้วันนี้เธอใช้โป๊ยกั๊ก ใบกระวาน อบเชย ยี่หร่าป่าและเครื่องเทศอื่น ๆ รวมเกือบสิบชนิดเชียวนะ ถ้าการตุ๋นพะโล้ครั้งนี้ทำออกมามีรสชาติไม่เพี้ยนจนเกินไป เธอก็จะพิจารณาการทำหมูตุ๋นพะโล้ครั้งต่อไปรวมถึงย้ายต้นเครื่องเทศเหล่านี้มาปลูกที่เรือน
เครื่องเทศนอกจากสามารถนำมาทำอาหารแล้ว ยังสามารถใช้เป็นยาได้อีกด้วย หากนำมาทำถุงหอมยังช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไล่แมลงและไล่ความชื้นอีกด้วย
“โห หอมจัง…” มู่ชวนกับหลิงซีที่ตามหลี่เยว่หานเข้ามาในครัวได้กลิ่นหอมของหมูตุ๋นพะโล้แล้วก็พลันน้ำลายสอ
MANGA DISCUSSION