บทที่ 45 มีเหล้า
หลังจากที่หลี่เยว่หานตื่นเต้นกับการคำนวณในใจ เธอก็อุ้มหลิงซีตัวน้อยที่กำลังสับสนกลับบ้านไปอย่างมีความสุข
สะใภ้บ้านหลิวมองไปที่ด้านหลังของหลี่เยว่หานด้วยความสับสนเช่นกัน ด้วยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง
นางไม่ต้องขึ้นเขาแล้วหรือ?
หลังจากที่หลี่เยว่หานกลับไปที่บ้านเมิ่งแล้ว เมิ่งฉีฮ่วนก็บังเอิญกลับมาถึงเช่นกัน
ทั้งสองพบกันที่ประตูบ้าน เมิ่งฉีฮ่วนกำลังคิดอยู่ว่าจะอธิบายเรื่องของหวังเฟิ่งอย่างไร แต่จู่ ๆ หลี่เยว่หานก็รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น “เจ้าต้องการทำเงินหรือไม่?”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็มองดูนางด้วยความงุนงง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“นี่! พี่สาวคนนี้มีวิธีที่ดีในการทำสุราที่กลมกล่อมและรสแรงมาก ปัจจุบัน ในตลาดสุราหมักหนึ่งชั่งมีราคาเพียงสิบห้าอีแปะเท่านั้น แต่สุราที่พี่สาวทำสามารถขายได้ในราคาห้าสิบอีแปะ!” เธอว่าพร้อมชูสองนิ้ว ก่อนกล่าวต่อ “อีกทั้งพี่สาวยังรู้วิธีทำน้ำส้มสายชูด้วย ว่าไง? ท่านจะให้ความร่วมมือหรือไม่?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เมิ่งฉีฮ่วนก็ยกมุมปากขึ้น แล้วก้มศีรษะลงพลางเอนตัวไปหาหลี่เยว่หาน เขามองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาวของนางและพูดด้วยเสียงที่ต่ำลง “ภรรยาพูดความคิดที่ดีเช่นนี้ที่ประตูบ้านได้อย่างไร? ถ้ามีคนฟังอยู่ กิจการนี้จะไม่ถูกทำลายรึ?”
หัวใจของหลี่เยว่หานเต้นเร็วขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำของเมิ่งฉีฮ่วน และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หลิงซีที่เชื่อฟังอยู่ในอ้อมแขนของเธอ พลันยื่นมือไปหาเมิ่งฉีฮ่วน ก่อนจะคล้องคอของเมิ่งฉีฮ่วนไว้
เมิ่งฉีฮ่วนดึงร่างเล็กออกจากอ้อมแขนของหลี่เยว่หาน ก่อนยืนตัวตรงและพูดว่า “ไปกันเถอะ เข้าไปในห้องแล้วค่อยคุยกัน”
“โอ้…” แม้ว่าหลี่เยว่หานจะเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า อย่าหลงใหลคนเจ้าเล่ห์อย่างเมิ่งฉีฮ่วน แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะถูกดึงดูดไปกับทุกการเคลื่อนไหวของเมิ่งฉีฮ่วน
หลังจากเข้าประตูแล้ว เมิ่งฉีฮ่วนก็เดินตรงไปที่ห้องครัว หลี่เยว่หานเดินตามหลังเขาไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็ได้รู้ว่ามีห้องใต้ดินอยู่ในครัวของบ้านเมิ่ง!
“นี่คือ…” ทันทีที่หญิงสาวเข้าไปในห้องใต้ดิน หลี่เยว่หานก็ได้กลิ่นหอมของสุราโชยมาที่หน้า ก่อนจะตัวแข็งทื่อทันที “ท่านก็รู้วิธีทำสุราด้วยหรือ?”
“การทำสุราไม่ใช่เรื่องยาก” เมิ่งฉีฮ่วนวางหลิงซีลงจับมือเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องเก็บสุรา “นอกจากนี้ นี่คือสุราหมักที่เจ้าพูดถึง ซึ่งรสมันไม่แรงพอ ถ้าเจ้ามีวิธีเพิ่มความแรงของสุรา ห้าสิบอีแปะต่อชั่งก็ไม่ใช่ปัญหาจริง ๆ ”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็เข้าใจได้ทันทีว่าเมิ่งฉีฮ่วนหมายถึงอะไร “ท่านต้องการให้ข้าช่วยปรับปรุงรสชาติของสุราเหล่านี้หรือ?”
“ถูกต้อง” เมิ่งฉีฮ่วนพยักหน้า
ขณะกลับมา เขาก็ได้คิดถึงเรื่องนี้ เนื่องจากเขายอมรับหลี่เยว่หานแล้ว เขาจึงวางแผนที่จะให้หลี่เยว่หานรู้ความลับทั้งหมดของบ้านเมิ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงประสบการณ์ชีวิตของสองพี่น้อง แต่ภายใต้เงื่อนไขว่าหลี่เยว่หานต้องเป็นคนที่หนักแน่นมั่นคง
เมิ่งฉีฮ่วนยังคงลังเลหากหลี่เยว่หานไม่ริเริ่มที่จะขอขายสุรา แต่เมื่อเขาเห็นดวงตาของหลี่เยว่หานที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ เมิ่งฉีฮ่วนก็ตัดสินใจได้
ถ้านางกล้าแม้แต่จะบ่มสุรา เช่นนั้นนางคงกล้าที่จะกบฏ!
ท้ายที่สุด ในราชวงศ์นี้ ไม่ใช่แค่ใครก็สามารถบ่มสุราได้…
“ข้ารู้วิธีทำสุรามากมาย แต่เพียงเพราะเจ้ากลั่นสุราเสร็จแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะเปลี่ยนรสชาติ” หลี่เยว่หานมองไปที่ถังขนาดใหญ่ ยี่สิบใบในห้องใต้ดินและพูดด้วยความประหลาดใจ
“หมายความว่ามันยาก แต่ก็ยังเป็นไปได้ใช่หรือไม่” เมิ่งฉีฮ่วนมองไปที่หลี่เยว่หาน และพูดว่า “แค่บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร แล้วข้าจะหาให้เจ้า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็พยักหน้า เธอเปิดถังสุราด้านหนึ่ง จิบสุราแล้วพูดว่า “ท่านเคยกินผลซิ่งไหม?”
“ผลซิ่ง?”
“ข้าชิมสุราของท่านแล้ว มันคงถูกเก็บไว้ประมาณสองปีแล้ว เมื่อเทียบกับสุราน้ำในท้องตลาด รสชาติจะกลมกล่อมกว่า” หลี่เยว่หานพูดอย่างจริงจัง “ถ้าท่านใช้สุรานี้เพื่อแช่ผลซิ่ง มันสามารถผลิตสุราผลซิ่งที่ใส อร่อย และมีกลิ่นหอมได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลี่เยว่หานอย่างอยากรู้อยากเห็น
ทั่วแคว้นตงฮั่นไม่เคยได้ยินว่ามีคนแช่ผลไม้ลงในสุราเพื่อปรับปรุงรสชาติของมัน หลี่เยว่หานไปเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการนี้มาจากที่ใดกัน?
“ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงพอดี ปลาในแม่น้ำต้องอวบอ้วนมาก พรุ่งนี้ ข้าจะไปจับปลาและหมักปลาดองสุราให้ท่านลอง!” หลี่เยว่หานพูดโดยไม่รู้ตัวเลยว่าดวงตาของเมิ่งฉีฮ่วนยามมองนางนั้นค่อย ๆ ร้อนแรงขึ้นมากเพียงใด
“ปลาดองสุราคืออะไร” เมิ่งฉีฮ่วนถามเบา ๆ
“ตามชื่อเลย มันเป็นปลาหมักด้วยสุรา หลังจากปรุงปลาแล้ว ไม่เพียงแต่จะไม่มีกลิ่นคาวของปลาแม่น้ำสด ๆ เท่านั้น แต่ยังมีรสหวานของสุราจากด้านในสู่ด้านนอกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นปลาดองสุราที่หมักไว้สามารถเก็บไว้ได้นาน ในฤดูหนาว สัตว์ป่าบนภูเขามีน้อย ในตอนนั้นเราสามารถนำปลาดองสุราไปขายในตลาดได้”
ขณะที่หลี่เยว่หานพูด หญิงสาวก็ก้มศีรษะลงเพื่อสังเกตสีของสุรา น่าเสียดายที่ตอนนี้หมดฤดูองุ่นแล้ว หากมีองุ่นจำนวนมาก หลี่เยว่หานก็จะสามารถทำสุราได้ด้วย ซึ่งรสนุ่มนวลของมันไม่ใช่สิ่งที่สุราผลซิ่งจะเทียบได้!
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการหาเงิน เมิ่งฉีฮ่วนก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร
ในแง่หนึ่ง เขาชื่นชมนิสัยรักอิสระของหลี่เยว่หานเป็นอย่างมาก ในทางกลับกัน เขารู้สึกว่าหลี่เยว่หานกำลังเร่งความเร็วในการแยกจากเขาไป
“อาเมิ่ง” หลิงซีดึงแขนเสื้อเมิ่งฉีฮ่วน ตั้งแต่แรกนางก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เมิ่งฉีฮ่วนเองก็จดจ่ออยู่กับหลี่เยว่หาน ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติกับเด็กหญิงตัวน้อย
เมื่อได้ยินคำเรียกของหลิงซีในขณะนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็กลับมามีสติ เขามองลงไปที่เด็กหญิงตัวน้อย “มีอะไรหรือ?”
“หลิงซีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย” หลิงซีพูดราวกับพยายามควบคุมตัวเอง แต่ก็ก้มหน้าอาเจียนลงบนพื้นพร้อมกับพูดว่า “โอ๊ก”
หลี่เยว่หานซึ่งกำลังสังเกตสุราอยู่ เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวก็รีบวางถังลง และย่อตัวลงตรงหน้าหลิงซีพลางถาม “เกิดอะไรขึ้น? หลิงซี ทำไมจู่ ๆ เจ้าถึงอาเจียนได้!”
ขณะที่เธอพูดนั้น หลี่เยว่หานก็ยกมือขึ้นแตะหน้าผากของหลิงซี สีหน้าพลันเปลี่ยนสีทันใด “เมิ่งฉีฮ่วน หลิงซีตัวร้อนมาก!”
“เป็นไปได้อย่างไร?” เมิ่งฉีฮ่วนขมวดคิ้ว ก่อนคุกเข่าลงและอุ้มหลิงซีขึ้น “ออกไปคุยกันข้างนอก!”
“ได้!” หลี่เยว่หานพยักหน้าและเดินตามเมิ่งฉีฮ่วนออกจากห้องใต้ดินไป
หลังจากกลับไปที่ห้องครัว หลี่เยว่หานก็นำไม้กวาดกลับไปที่ห้องใต้ดินเพื่อทำความสะอาดกองอาเจียนของหลิงซี จากนั้นก็กลับไปที่ห้องครัว หลี่เยว่หานเห็นเมิ่งฉีฮ่วนจับชีพจรของหลิงซีจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า “เจ้ารู้วิธีจับชีพจรรึ?”
“รู้เพียงเล็กน้อย” เมิ่งฉีฮ่วนตอบโดยไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้น
หลี่เยว่หานกังวลเกี่ยวกับหลิงซี ดังนั้นเธอจึงไม่กล้ารบกวนเมิ่งฉีฮ่วนอีกต่อไป
ตามประสบการณ์ชาติที่แล้ว เมื่อเกิดไข้ขึ้นสูงในสถานที่ขาดแคลน ไม่ว่าชาย หญิง เด็ก สิ่งแรกที่ต้องทำคือทำให้ไข้ลดลง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลี่เยว่หานก็หันหลังกลับไปที่ห้องเก็บสุราและนำสุราออกมามากกว่าหนึ่งถ้วย
จากนั้นก็ตั้งมันในหม้อ จุดไฟ และเริ่มนึ่งสุราอันเป็นวิธีในการทำให้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่เร็วที่สุดที่เธอรู้ หากไม่มียาปฏิชีวนะ การถูแอลกอฮอล์บนร่างกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดอุณหภูมิของร่างกาย!
“เจ้ากำลังทำอะไร?” เมิ่งฉีฮ่วนเอามือของหลิงซีเข้าไปในผ้าห่ม ก่อนจะถามหลี่เยว่หานอย่างสงสัย
“ทำให้มันบริสุทธิ์” หลี่เยว่หานตอบอย่างเรียบง่าย “เราต้องลดอุณภูมิร่างกายของหลิงซีโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นสมองของนางจะร้อนราวกับถูกไฟเผา”
MANGA DISCUSSION