บทที่ 34 มาเพื่อทำให้ตัวเองต้องอับอาย
เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว หลี่เยว่หานจึงอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
เหตุใดจึงต้องแสร้งร้องไห้กัน! เธอไม่ได้ทำอะไรผิด! ในเวลาเช่นนี้ เธอจำเป็นต้องบอกให้คนในหมู่บ้านไป๋อวิ๋นรู้ว่า เธอไม่ใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่าย ๆ และไม่ใช่คนใจร้ายถึงจะถูก!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เยว่หานจึงผลักเมิ่งฉีฮ่วนออกไป จ้องมองแววตาทั้งสองของเขาพลางพูด “ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าไม่ได้สนใจความน้อยเนื้อต่ำใจของข้ามากนัก หากเรื่องของท่านกับหวังเหอฮวาไม่ถูกจัดการให้เรียบร้อย นี่จึงทำให้นางมีโอกาสพูดให้ร้ายข้าด้านนอกต่อไปได้ ถ้าหากวันนี้ท่านไม่พูดกับนางให้ชัดเจน ข้าจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว!”
เป็นสตรี ก็ควรเป็นสตรีที่มีอิสระ ให้มาแสดงท่าทางบีบน้ำตาร้องไห้อะไรเช่นนั้น เธอไม่สามารถแสร้งทำได้
แม้จะแค่ทำปลอม ๆ หญิงสาวก็แสร้งทำไม่ได้เช่นกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เยว่หาน ผู้คนในบริเวณนั้นต่างก็รู้สึกมึนงงขึ้นมาเล็กน้อย
หวังเหอฮวาพูดมาโดยตลอดว่าหลี่เยว่หานจิตใจโหดเหี้ยม แต่ดูจากเหตุการณ์ตรงหน้านี้ เหมือนจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนจึงจับจ้องไปยังเมิ่งฉีฮ่วน เพื่อรอดูว่าเขาจะพูดเช่นไร
“ขอโทษด้วยฮูหยิน ข้าผิดไปแล้ว” เมิ่งฉีฮ่วนยอมรับผิดอย่างไม่ลังเล จากนั้นจึงหมุนตัวไปมองหวังเหอฮวาที่ยังคงเอาแต่ร้องไห้และไม่ตอบโต้ใด ๆ พลางพูดขึ้น “แม่นางเหอฮวา หลังจากนี้ได้โปรดอย่ามาที่บ้านของข้าอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังเหอฮวาที่กำลังร้องไห้อยู่นั้นก็ตกตะลึงขึ้นมาทันที
ไหนใครบอกกันว่า น้ำตาของสตรีเป็นอาวุธที่ดีที่สุดสำหรับบุรุษมิใช่หรือ? เหตุใดเมิ่งฉีฮ่วนกลับไม่ตกหลุมพลางนี้?
“วันนี้เป็นความผิดของเสี่ยวเมิ่งที่ทำให้เรื่องวุ่นวายจนผู้คนระดมกันมามากมายเช่นนี้” เมิ่งฉีฮ่วนพูดพลางทักทายทุกคน “ถึงเวลาทานอาหารพอดี ทุกคนอยู่ทานอาหารที่บ้านข้าเสียก่อนเถิด”
ผู้คนที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายให้แก่หลี่เยว่หาน ได้อยู่ทานมื้อกลางวันที่บ้านตระกูลเมิ่งด้วยความงุนงง
หลี่เยว่หานเป็นคนฝีมือดี ทั้งยังมีมู่ชวนและหลิงซีเป็นลูกมือ มีเมิ่งฉีฮ่วนที่คอยช่วยอยู่ข้าง ๆ ดังนั้นจึงใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็จัดเตรียมอาหารสำหรับเจ็ดถึงแปดคนเสร็จเรียบร้อย
ต้องบอกว่า เตาฟืนในชนบทนั้นนับว่าเป็นของดี ถึงแม้ตอนนี้จะมีเครื่องปรุงไม่มากนัก แต่อาหารที่ทำออกมานั้นก็อร่อยไม่แพ้กัน
หลิวหยวนปินยังเด็ก เดิมทียังคิดว่าหลี่เยว่หานคุกคามความปลอดภัยของมู่ชวนและหลิงซีสองพี่น้อง แต่เมื่อหลังจบมื้ออาหารลง เด็กชายกลับติดตาม ‘พี่สาวหลี่’ ของมู่ชวนไม่หยุด
ว่ากันว่า ความรู้สึกของเด็กนั้นเป็นเรื่องจริงเสมอ หลี่เยว่หานจึงอดดีใจแทนมู่ชวนไม่ได้ที่มีเพื่อนที่ดีอย่างหลิวหยวนปินเช่นนี้
อาหารมื้อนี้ทุกคนทานกันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากหวังเหอฮวาที่ออกไปก่อนหน้านี้นั้น ก็ไม่มีผู้ใดพูดถึงหลี่เยว่หานอย่างเสีย ๆ หาย ๆ อีก ในทางกลับกัน ชื่อเสียงและความดีของหลี่เยว่หาน กลับค่อย ๆ แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้านไป๋อวิ๋นแล้ว
นับจากวันนี้เป็นต้นไป หากมีผู้ใดพูดถึงเรื่องที่หลี่เยว่หานคิดจะทำให้หลิงซีจมน้ำนั้น ก็จะมีคนแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ให้อีกฝ่ายทันที โดยอธิบายถึงต้นสายปลายเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด
แต่ระยะเวลาเพียงครึ่งเดือน ชื่อเสียงของหวังเหอฮวาในหมู่บ้านนั้น ก็เสื่อมเสียลงอย่างมาก บรรดาชายหนุ่มที่คิดจะไปพูดเรื่องแต่งงานกับตระกูลหวัง ต่างก็ถอยออกมา เพียงไม่นานหวังเหอฮวาที่เดิมทีมักเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง กลับไม่มีผู้ใดสนใจอีกต่อไป
ที่จริงแล้ว ในวันนั้นที่ทุกคนไปยังบ้านตระกูลเมิ่ง ทุกคนได้เห็นหวังเหอฮวายืนหันหลัง เพื่อติดหมุดที่เสื้อด้วยตาของตัวเอง และภายในห้องยังมีเพียงเมิ่งฉีฮ่วนชายคนเดียวที่นั่งดื่มชาอยู่ห่าง ๆ จึงยากที่จะทำให้ทุกคนไม่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ครึ่งเดือนต่อมา ต้นพริกป่าที่หลี่เยว่หานนำลงมาจากบนภูเขานั้น ผ่านการดูแลอย่างดีจนมันมีโอกาสรอดถึงแปดในสิบส่วน มีเพียงสองต้นที่เหี่ยวเฉาไป ส่วนที่เหลือก็เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลี่เยว่หานขุดดินให้มันเป็นพิเศษ เหง้าของต้นพริกป่าจึงฝังรากลึกอยู่ภายในดิน มันจึงมีโอกาสรอดสูง
เพื่อฉลองการมีชีวิตรอดของพริกป่า วันนี้หลี่เยว่หานจึงตั้งใจเด็ดพริกป่าเป็นพิเศษ เธอไปจับปลาตัวใหญ่สองตัวในแม่น้ำ คิดจะทำน้ำแกงปลากิน
ถึงแม้วัตถุดิบจะมีอย่างจำกัด แต่การทำน้ำแกงปลานั้นปลาต้องสดและน้ำซุปต้องเผ็ดร้อน
หลี่เยว่หานมีทักษะการใช้มีดที่ดี ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถนำก้างใหญ่ก้างเล็กออกมาจากเนื้อปลาได้ทั้งหมด จากนั้นจึงใส่ขิงสดและพริกป่าลงไป
หลังจากผัดแล้ว จึงโยนเนื้อปลาลงไป เติมน้ำเย็นจากบ่อ เมื่อตุ๋นซุปปลาหม้อใหญ่แล้ว จากนั้นจึงเติมผักลงไปตุ๋นต่อ
เมื่อมู่ชวนเลิกเรียนกลับมา ก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากไกล ๆ แม้แต่กระเป๋ายังไม่คิดที่จะนำไปเก็บในห้อง แต่กลับวิ่งไปยังห้องครัวแทน “พี่หลี่ วันนี้ทำของอร่อยอะไรหรือ!”
นับตั้งแต่หลี่เยว่หานมายังบ้านตระกูลเมิ่ง หญิงสาวก็กลายเป็นคนเตรียมอาหารอร่อย ๆ ให้พี่น้องได้ทานกัน
สิ่งของที่นางทำนั้นเหมือนจะทำให้ตายให้ได้ บ่อยครั้งที่คนในหมู่บ้านไป๋อวิ๋นต่างก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นของมันจนอยากจะกินอย่างเต็มปากเต็มคำ
ยิ่งพี่น้องคู่นั้นแทบจะไม่ต้องพูดถึง
เวลาผ่านไปเพียงครึ่งเดือน มู่ชวนและหลิงซีจึงดูมีน้ำมีนวลขึ้นมาก
“หอมมาก!” วันนี้เมิ่งฉีฮ่วนกลับมาเร็ว ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าประตูบ้าน ก็ได้กลิ่นหอมโชยแตะจมูก จึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอไป
“เจ้าช่างโชคดีเสียจริง!” หัวหน้าตระกูลหลิวที่เดินกลับมาพร้อมกับเขาพูดพลางตบไหล่เมิ่งฉีฮ่วน สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพูดออกมา “หอมมากจริง ๆ เจ้าจำเป็นต้องเลี้ยงข้าสักมื้อเสียแล้ว!”
เมื่อพูดจบ ไม่รอให้เมิ่งฉีฮ่วนตอบรับ หลิวโหย่วฉายพ่อของหลิวหยวนปินจึงเป็นฝ่ายเดินเข้ามาในบ้านตระกูลเมิ่งเสียเอง
เมื่อเห็นเช่นนั้น เมิ่งฉีฮ่วนจึงรีบร้อนขึ้นมา “เจ้า เหตุใดจึงดูมูมมามเช่นนี้!”
“พี่เมิ่ง” น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นมา หยุดเมิ่งฉีฮ่วนที่กำลังจะเดินตามหลิวโหยว่ฉายไป
เมิ่งฉีฮ่วนหันไปมอง จึงได้เห็นหวังเหอฮวา
“มีเรื่องใดหรือ?” เมิ่งฉีฮ่วนไม่อยากให้หลี่เยว่หานเข้าใจผิดอีกครั้ง คำพูดของหลี่เยว่หานเมื่อครึ่งเดือนก่อน ยังคงดังก้องสะท้อนอยู่ภายในใจของเขา
ถึงแม้ว่าตอนนี้ ผู้หญิงตัวเล็กนั่นจะยังไม่ยอมรับว่าตนเป็นสะใภ้ตระกูลเมิ่ง แต่ภายในใจของเมิ่งฉีฮ่วนรู้ดีว่าระหว่างคนทั้งสองได้เกิดสิ่งใดขึ้นแล้ว ถ้าหากหลี่เยว่หานคิดจะจากไปจริง ๆ เขาคงต้องพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นออกมา
แต่ก่อนอื่นนั้น ตอนนี้จะต้องไม่มีหวังเหอฮวา แต่นางกลับปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง
“ข้ามาขอโทษท่าน” หวังเหอฮวาบิดม้วนชายเสื้อของตนอย่างเหนียมอาย “ข้ารู้ดีว่าก่อนหน้านี้ทำเกินไปนัก แต่พวกท่านทั้งสองก็ต่อว่าข้าไปแล้ว จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้แม่นางหลี่ออกมาพูดอะไรเสียหน่อย ทุกคนจะได้หยุดพูดถึงเรื่องของข้าเสียที”
เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “ในตอนที่เจ้าพูดเรื่องของเยว่หานจนแพร่กระจายออกไป ไม่เคยคิดหรือว่าสักวันหนึ่งตนจะถูกผู้อื่นพูดถึงเช่นนั้นบ้าง?”
“ข้าขอโทษพี่เมิ่ง ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้วจริง ๆ” หวังเหอฮวาเงยหน้าขึ้น ขอบตาร้อนผ่าว “หลายวันมานี้ ข้าคอยหาโอกาสที่จะขอโทษแม่นางหลี่มาโดยตลอด แต่นางไม่ปรากฏตัวออกมา ไม่ออกจากบ้าน ข้าจึงไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไร จึงทำได้เพียงรอท่านอยู่ตรงนี้…”
แท้จริงแล้วก็คิดที่จะมาขอโทษหลี่เยว่หาน
เมื่อเมิ่งฉีฮ่วนได้ยินนางพูดเช่นนี้ จึงคิดว่านางควรจะขอโทษหลี่เยว่หานอย่างจริงใจเสียที มิเช่นนั้นความคับข้องใจของหลี่เยว่หานก็อาจจะสูญเปล่าได้
“ได้ เจ้าตามข้าเข้ามา ขอโทษเสร็จแล้วก็กลับไปซะ” เมิ่งฉีฮ่วนพูดจบจึงเดินเข้าไปในบ้านก่อน
“ได้!” เมื่อเห็นเมิ่งฉีฮ่วนคลายกังวล หวังเหอฮวาจึงมีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที ยกชายกระโปรงขึ้นพลางเดินเข้าประตูไป แต่กลับถูกเมิ่งฉีฮ่วนขวางไว้
“ข้าขอคิดดี ๆ ก่อน เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนจะดีกว่า” เมิ่งฉีฮ่วนพูดขึ้นมา “ในเมื่ออยากจะขอโทษเยว่หาน เช่นนั้นก็ควรจะขอโทษอย่างเปิดเผย ดังนั้นเจ้ารออยู่ตรงนี้ ข้าจะไปเรียกหลี่เยว่หานออกมา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังเหอฮวาจึงหุบรอยยิ้มลงทันที
ขอโทษอย่างเปิดเผย???
MANGA DISCUSSION