บทที่ 130 พื้นที่หลิงฉวน
“เพราะข้าไม่ต้องการให้เจ้าบาดเจ็บอีก” เมิ่งฉีฮ่วนมองไปที่หลี่เยว่หานอย่างจริงจังและพูดว่า “ตราบใดที่เจ้าเต็มใจ ให้หยดเลือดลงบนลัญจกรหยก จากนั้นเจ้าจะสามารถเข้าและออกพื้นที่ได้ตามที่ต้องการ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยสถานที่ใด ๆ เพียงแค่คิดเท่านั้น”
“…” หลี่เยว่หานรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้านั้นมหัศจรรย์เกินไป จึงไม่สามารถยอมรับมันได้ไปชั่วขณะ ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน
“ถ้าอย่างนั้น… ทำไมหลิงซีไม่ซ่อนตัวอยู่ในมิติ…” หลี่เยว่หานพยายามหาเสียงของตน
“หลิงซีเกิดมาพร้อมกับยาพิษ” เมิ่งฉีฮ่วนอธิบาย “ก่อนที่พิษในร่างกายของนางจะถูกล้างออกจนหมด นางจะถูกบีบและขับไล่โดยมิติ เมื่อนางเข้าไปในมิติเพียงลำพัง นางจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงขั้นเสียชีวิต ยามเจ้าได้รับบาดเจ็บ ข้าอยู่ในมิติ หลิงซีได้เสี่ยงชีวิตเข้ามาในพื้นที่หลิงฉวนเพื่อมาตามหาข้า ข้าจึงมาถึงได้ทันเวลา”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็มองไปที่เมิ่งฉีฮ่วน จากนั้นจึงมองไปที่หลิงซี เธอยังคงรู้สึกว่าทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นน่าอัศจรรย์เกินไป
“ข้าคงยังไม่ตื่นดีแน่ ๆ” หลี่เยว่หานพูดพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นเพื่อนอนต่อ
แต่เมิ่งฉีฮ่วนคว้าผ้าห่มไว้ ก่อนที่หลี่เยว่หานจะทันได้โต้ตอบ เขาก็กรีดนิ้วของหญิงสาว และหยดเลือดของเธอลงบนตราลัญจกรหยก
“นี่! ท่าน…” หลี่เยว่หานกำลังจะห้าม แต่เธอก็ได้แต่มองดูอย่างจนใจเมื่อเลือดของตนได้ซึมเข้าไปในตราลัญจกรหยกแล้ว จากนั้นก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้อะไร ก็ถูกดูดเข้าไปในพื้นที่หลิงฉวนทันที
“ท่านอา อาหญิงจะไม่เป็นไร…” หลิงซีมองดูเมิ่งฉีฮ่วนอย่างเป็นห่วง
“ไม่หรอก” เมิ่งฉีฮ่วนแตะหัวหลิงซี “ลืมไปแล้วหรือว่าอาหญิงของเจ้าเคยเข้าไปในมิติมาก่อน ดังนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ท่านอา” จู่ ๆ มู่ชวนที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นมาว่า “ก่อนหน้าท่านไม่บอกความลับนี้กับอาหญิง ทำไมจู่ ๆ ท่านถึงเปลี่ยนใจล่ะ?”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เพราะตัวตนอื่นของข้าถูกเปิดเผย”
“ท่านเก้า?” มู่ชวนถามด้วยความประหลาดใจ
เมิ่งฉีฮ่วนพยักหน้า “ศาลาว่าการของอำเภอตัดสินให้เนรเทศเดรัจฉานบ้านหวังทั้งสามตัว ข้าจึงฆ่าพวกมันทิ้งก่อนกลับมา”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ มู่ชวนก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “อาเมิ่ง ท่าน!…”
“อย่าถามเลย มันคุ้มค่า” เมิ่งฉีฮ่วนถอนหายใจ “รออาหญิงของเจ้าออกมาก่อน”
“อาเมิ่ง แม้ว่าเราจะไม่คัดค้านที่อาหญิงจะใช้พื้นที่หลิงฉวนร่วมกัน แต่ท่านเคยคิดไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาหญิงทรยศพวกเรา” ใบหน้าเล็ก ๆ ของมู่ชวนเต็มไปด้วยความจริงจัง
“ไม่” ก่อนที่เมิ่งฉีฮ่วนจะพูดอะไร หลิงซีก็โพล่งขึ้นก่อน “อาหญิงปกป้องหลิงซีตอนที่จะถูกทุบตี หลิงซีเชื่อว่าอาหญิงจะไม่หักหลังเรา!”
เมิ่งฉีฮ่วนพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน”
หลี่เยว่หานในมิติได้ยินการสนทนาทั้งหมดของพวกเขาอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เธอเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้และยังมาโผล่ศตวรรษที่ 21 อีกครั้ง
เธอยังคงเป็นผีในยุคนี้… หวังเฟิ่ง แม่เลี้ยงของเธอกำลังโต้เถียงกับหลี่ต้าเฉิง โดยบอกว่าเธอกำลังจะฟ้องทีมอาสาสมัครและไม่เชื่อว่าเจตจำนงของหลี่เยว่หานจะเป็นความจริง
พ่อของเธอบอกหวังเฟิ่งว่าอย่าสร้างปัญหาอีก เขาไม่มีอารมณ์จะมาเล่นตลกกับหวังเฟิ่ง
เห็นได้ว่าหลังจากที่เธอจากไป หลี่ต้าเฉิงก็แก่ขึ้นมากในชั่วข้ามคืน และเหมือนเช่นเคยหวังเฟิ่งยังคงต้องการเงิน เธอไม่ชอบเงินบำนาญอันน้อยนิดของหลี่ต้าเฉิง ทั้งยังสาปแช่งหลี่เยว่หานผู้ล่วงลับว่าเป็นหมาป่าตาขาว
เมื่อเห็นเส้นผมของหลี่ต้าเฉิงเต็มไปด้วยสีขาว หลี่เยว่หานก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
หญิงสาวนึกถึงครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นทั้งสองคน ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเป็นผลหลังจากที่เธอทายาที่เมิ่งฉีฮ่วนให้มา ดังนั้น เหตุผลที่เธอมาถึงยุคศตวรรษที่ 21 ได้อีกครั้ง มันอาจจะเชื่อมกับยุคในอดีตโดยใช้พื้นที่หลิงฉวนนี้
เมื่อภาพตรงหน้าจบลง เธอก็เห็นภาพการสนทนาระหว่างมู่ชวนและเมิ่งฉีฮ่วนในตอนนี้
หญิงสาวรู้สึกดีที่ได้รับความไว้วางใจ หัวใจของหลี่เยว่หานหวั่นไหวไปชั่วขณะ จากนั้นในใจของเธอก็สั่นไหว เมื่อเธอลืมตาขึ้น ก็เห็นตัวเองนั่งอยู่บนเตียง โดยมีเมิ่งฉีฮ่วนและคนอื่น ๆ อยู่ตรงหน้า
“เมิ่งฉีฮ่วน ท่านรู้แล้วหรือ?” เสียงของหลี่เยว่หานสะอื้นไห้
“…” เมิ่งฉีฮ่วนไม่ตอบ แต่ปล่อยให้เด็กทั้งสองกลับไปที่ห้องก่อน จากนั้นย้ายม้านั่งมานั่งข้างหน้าหลี่เยว่หาน และพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา
“ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นผีในหลายพันปีข้างหน้า ท่านไม่กลัวหรือ?” อาการบาดเจ็บของหลี่เยว่หานหายเป็นปกติแล้ว แค่วันนี้วันเดียวเธอก็รู้สึกอัศจรรย์ใจเกินพอแล้ว
“ตอนแรกข้าไม่รู้” เมิ่งฉีฮ่วนสารภาพตามตรง “หลังกลับมาจากเมืองหลิวชิง ข้าก็พบว่าเจ้ามีความลับมากเกินไป ข้าจึงใช้ตราประทับตรวจสอบความทรงจำของเจ้ายามเจ้าหลับ และข้าก็รู้ในตอนนั้น”
“ท่านไม่กลัวหรือ?” หลี่เยว่หานถามกลับ
“ไม่กลัว” เมิ่งฉีฮ่วนส่ายหัว “ตอนที่ข้าช่วยเจ้าในสระ เจ้าไม่หายใจแล้ว ข้าหยดน้ำพุจิตวิญญาณหนึ่งหยดป้อนให้เจ้าดื่ม จากนั้นร่างกายของเจ้าก็อุ่นขึ้นและฟื้น ข้าแค่ไม่รู้ว่าเจ้า…”
เมิ่งฉีฮ่วนไม่พูดต่อ แต่หลี่เยว่หานรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร
หลี่เยว่หานหายใจเข้าลึก ๆ มองไปที่ตราประทับที่ถืออยู่ในมือของเขาและพูดว่า “ท่านไม่กลัวว่าข้าจะทรยศท่านหรือ?”
“เจ้าจะไม่ทำ” เมิ่งฉีฮ่วนส่ายหัว “ข้าเห็นในความทรงจำของเจ้า เจ้ามักจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มคนเพื่อช่วยเหลือคนยากจน ช่วยพวกเขาบุกเบิกพื้นที่รกร้างว่างเปล่าและปลูกข้าวหาอาหาร หลังจากที่ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น เจ้าก็จะไปยังสถานที่ต่อไปกับสหายของเจ้าและทำสิ่งเดิมต่อไป ข้าจึงรู้ว่าแม้เจ้าจะรู้ความลับของพื้นที่หลิงฉวน เจ้าก็จะไม่ทรยศพวกเรา”
หลังจากได้ยินเหตุผลของเมิ่งฉีฮ่วนแล้ว หลี่เยว่หานก็พูดไม่ออก “ทำไมท่านถึงคิดว่าคนที่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้จะไม่ทรยศต่อผู้อื่น?”
“เพราะเจ้าทุ่มกำลังปกป้องหลิงซี”
“นั่นเป็นเพราะข้าไม่รู้ว่าท่านมีสิ่งนี้อยู่ในมือ ข้าคิดว่าหลิงซีเป็นเพียงเด็กธรรมดา!”
หลี่เยว่หานชี้ไปที่ตราลัญจกรในมือของเมิ่งฉีฮ่วน และตอนนั้นเองราวกับว่าเธอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หญิงสาวจึงเงยหน้ามองเมิ่งฉีฮ่วน “ตอนที่ท่านสวมชุดคลุมสีน้ำเงินนั่น ท่านหลอกข้าใช่หรือไม่? ดังนั้น สิ่งที่ข้าเห็นก็ยังคงเป็นหมู่บ้านไป๋อวิ๋นเหมือนเดิม แต่ไม่มีใครเลย แม้แต่สุนัขสักตัว!”
“ใช่” เมิ่งฉีฮ่วนพยักหน้า “มีคนมาที่หมู่บ้านไป๋อวิ๋นในเวลานั้น ดังนั้นข้าจึงเปิดพื้นที่และให้เจ้าเข้าไป เจ้ายังจำได้ไหมที่ข้าบอกเจ้าว่าอย่าปล่อยมือหลิงซี”
“จำได้”
“เพราะเมื่อเจ้าปล่อยหลิงซี เจ้าจะลอยกลับไปยังมิติเวลาเดิมของเจ้า อีกทั้งหลิงซีก็จะถูกมิติบีบจนตายเช่นกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที
“ท่านหมายความว่าข้าสามารถผ่านเข้าออกสิ่งนี้ได้งั้นหรือ?”
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของหลี่เยว่หาน เมิ่งฉีฮ่วนก็พยักหน้าด้วยความยากลำบาก “ถ้าเจ้าต้องการ เจ้าสามารถทำได้ทุกเมื่อ เพียงแต่ร่างกายของเจ้าถูกเผาไปแล้ว ถ้าเจ้ากลับไป เจ้าก็จะเป็นเพียงแค่วิญญาณเท่านั้น”
“…” หลังจากฟังคำพูดของเมิ่งฉีฮ่วน ดวงตาของหลี่เยว่หานก็จับจ้องไปที่ตราลัญจกร ก่อนที่เธอจะไม่ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน
กลับได้…กลับได้…
แล้วเธอล่ะ…ยังจะยอมกลับไปไหม…
MANGA DISCUSSION