บทที่ 124 บุกถ้ำทำลายศัตรู
ในเวลานี้ ณ บ้านหวัง
เมื่อหวังฉินได้ยินว่าไม่เพียงแต่พี่น้องทั้งสามจะล้มเหลวเท่านั้น แต่หวังหัวก็ถูกฟันด้วย นางก็รู้สึกเศร้าใจมากจนต้องกระทืบเท้า ขณะสาปแช่งหลิวโหย่วฉาย
“ท่านแม่ ข้าไม่อยากพูดถึงมัน นังหลี่เยว่หานสารเลวนั่นสุราคำนับไม่ดื่ม ชอบดื่มสุราลงทัณฑ์!*[1]” ขณะที่หวังหัวสบถด่า หวังฉินก็พันแขนให้เขา
“ถ้าเจ้าลอบติดตามนางไปตั้งแต่ตอนนั้นคงจะดีกว่า” หวังฉินพูดอย่างโกรธ ๆ “ด้วยวิธีนี้เจ้าจะได้ไม่ต้องพบกับหลิวโหย่วฉาย ช่างสารเลวยิ่งนัก! ทำไมหลิวโหย่วฉายถึงลงมาจากภูเขานั้นได้เร็วถึงเพียงนี้กัน!”
“ใช่! นี่มันฤดูใบไม้ร่วงแล้ว บนภูเขามีเหยื่อมากมาย ทำไมเขาไม่ขึ้นไปหาอีกสักสองสามรอบกัน?” หวังเฟิ่งที่อยู่ด้านข้างโกรธจนหน้าแดงก่ำ “หลิวโหย่วฉายผู้นี้ห่วงนางเด็กเยว่หานยิ่ง บางทีเขาอาจมีความสัมพันธ์กับนาง!”
“ข้าก็คิดอย่างนั้น” หวังหัวพยักหน้า “ท่านแม่ เหอฮวาอยู่ที่ไหนกัน?”
“เหอฮวาเอะอะและขอให้ข้าเรียกพวกเจ้าพี่น้องกลับ ดังนั้นข้าจึงขังนางไว้ในห้อง” หวังฉินกล่าวพลางผูกเงื่อนที่แขนของหวังหัวอย่างระมัดระวัง แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ยังดีที่บาดแผลไม่ลึกมาก ไม่เช่นนั้นข้าต้องไม่เลิกรากับหลิวโหย่วฉายแน่!”
“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องพูดแล้ว” หวังหัวพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “แต่เดิมเราพี่น้องกลับมาอย่างลับ ๆ หากเราปล่อยให้คนในพรรครู้ว่าเราหนีออกมาลำพัง มันจะเป็นเรื่องใหญ่ แม้ว่าพี่ใหญ่กัวจะปกป้องเราอยู่ ทว่าพี่ใหญ่กัวไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านตอนนี้ เขาออกไปท่องเที่ยว พวกเราพี่น้องจึงต้องอยู่เงียบ ๆ ไว้”
“ก็ได้ ช่างมันเถอะ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเจ้า คงต้องปล่อยหลิวโหย่วฉายไปก่อน!” หวังฉินถอนหายใจ
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน หม่าเวยก็วิ่งเข้ามาอย่างโงนเงน “หัวจื่อ เจ้าซ่อนตัวเร็ว เมิ่งฉีฮ่วนพาโจวต้าเป่ามาที่นี่แล้ว!”
“เร็วถึงเพียงนี้?!” หวังหัวและพี่น้องทั้งสองดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเมิ่งฉีฮ่วนจะมาทันทีเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างตื่นตระหนก “ให้ตายเถอะ วันนี้มันเลวร้ายจริง ๆ! ท่านแม่ พวกเราจะไปซ่อนในห้องใต้ดินที่เด็กนั่นถูกขังไว้นะ อย่าบอกใครว่าพวกเรากลับมาแล้ว!”
เมื่อพูดเช่นนั้นหวังหัวก็ไม่สนใจเรื่องเสื้อผ้าของตนอีก เขาพาน้องชายทั้งสองคนลงไปที่ห้องใต้ดินทันที
ในห้องใต้ดิน มู่ชวนถูกโยนลงบนพื้น มือและเท้าของเด็กชายถูกมัด ทั้งปากกับตาถูกปิด เมื่อเขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจึงตื่นตัวทันที
“ไอ้หนู ไม่ต้องกลัว พวกเราพี่น้องแค่อยากให้เจ้าโชคร้ายสักหน่อย แล้วหลังจากนั้นค่อยขายเจ้าให้คหบดีสักคน เจ้ายังสามารถเป็นคนรวยได้อยู่นะ!” หวังหัวเตะมู่ชวน ก่อนหามุมสะอาดนั่งลง…
“พี่ชาย เมิ่งฉีฮ่วนจะมาที่ห้องใต้ดินของเราหรือไม่?” หวังกุ้ยเป็นคนที่กล้าหาญน้อยที่สุด ดังนั้นเขาจึงถามด้วยความกังวลใจเล็กน้อย
“มารดามันเถอะ! ไม่ใช่ว่าคนแซ่เมิ่งไม่เข้าใจกฎของหมู่บ้านไป๋อวิ๋นหรอกนะ ถ้าดูห้องใต้ดินของใครก็ได้ตามใจ เช่นนั้นเจ้าจะต้องการห้องใต้ดินไปทำอะไรอีก!” หวังหัวตบที่หลังศีรษะของหวังกุ้ยอีกครั้ง นั่นทำให้หวังกุ้ยรีบหุบปากและไม่พูดอะไรอีก
“อย่าพูดบ้า ๆ ฟังการเคลื่อนไหวข้างบนสิ!” หวังหัวพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อเมิ่งฉีฮ่วนเตะเปิดประตูบ้านหวัง หวังเฟิ่งก็ถูกจับไว้โดยชายหนุ่ม ก่อนที่นางจะทันได้ออกไปทางประตูหลัง
“ข้ากำลังมองหาหวังหัว หวังกุ้ย หวังฟู่ และมู่ชวนของบ้านข้า” เมิ่งฉีฮ่วนมองไปที่หวังฉินอย่างเย็นชา ทำให้ทั้งหวังฉินและหวังเฟิ่งต่างตื่นตระหนก
“หัวจื่อสามพี่น้องไม่อยู่บ้านมานานกว่าครึ่งปีแล้ว! เจ้ามาหาผิดที่หรือไม่!” หม่าเวยจับมือหวังฉินแน่น และแสร้งทำเป็นสงบ “ทำไมเจ้าถึงมาหาหลานเจ้าที่บ้านข้า บ้านของข้าไม่มีหลานของเจ้าอยู่!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็จ้องไปที่หม่าเวย ทว่าไม่ได้พูดอะไร
โจวต้าเป่ายกมีดพร้าขึ้น และพูดด้วยใบหน้าที่คุกคามว่า “ถ้าเจ้าไม่อยากตาย ก็รีบส่งมู่ชวนและลูกทั้งสามของเจ้าออกมาเร็วเข้า! ไม่เช่นนั้นข้าเองก็ไม่รู้จะลงมือหนักเพียงใด!”
“โจวต้าเป่า! นี่คือบ้านของข้า! มิใช่ที่ให้เจ้ามาอวดเก่ง!” หม่าเวยด่าอย่างกล้าหาญ “ข้าบอกว่าลูกชายทั้งสามของข้าไม่อยู่บ้าน และเด็กที่เจ้ากำลังมองหาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านของข้าด้วยเช่นกัน!”
“จริงหรือ?” เมิ่งฉีฮ่วนเอียงศีรษะทันที เขาเหล่ตามองคนทั้งสามคนที่ดูคล้ายวัวสันหลังหวะอย่างเห็นได้ชัด พลางเอ่ย “ถ้าข้าหาพบ ก็อย่ามาคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนขอให้ข้าปล่อยเจ้าไปก็แล้วกัน”
“เมิ่งฉีฮ่วน อย่างไรเราก็เป็นญาติผู้ใหญ่ของเจ้าเช่นกัน นี่คือความคิดของเจ้ายามพูดกับผู้อาวุโสรึ!” หวังเฟิ่งตวาดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “เยว่หานของบ้านเราแต่งงานกับเจ้า ช่างเป็นความสูญเสียจริง ๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฉีฮ่วนก็รีบก้าวเท้าไปข้างหน้าหวังเฟิ่ง และตบนางคว่ำลงกับพื้น “ในช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าอ้างว่าเป็นผู้อาวุโสของข้ายกเว้นท่านปู่ซุน!” เมื่อมองไปที่หวังเฟิ่งที่ล้มอยู่บนพื้นแล้ว เขาก็ว่าต่อ “คนอย่างเจ้าคู่ควรด้วยหรือ?”
“เข้ามาเร็ว เขาจะฆ่าคนแล้ว!” หวังเฟิ่งตะโกนราวกับหมูที่ถูกเชือด เมื่อเห็นเช่นนี้ หม่าเวยก็ทนไม่ไหว และก้าวไปข้างหน้าเพื่อคว้าตัวเมิ่งฉีฮ่วน แต่ร่างของชายหนุ่มไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
“เสี่ยวเมิ่ง ถ้าเจ้ามีอะไรจะพูดก็พูด เจ้าเข้ามาในบ้านข้าได้ยังไง!” หม่าเวยพูด “แม้ว่าเจ้าจะซื้อเยว่หานไป ทว่าหวังเฟิ่งก็ยังเป็นแม่เลี้ยงของนาง ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม นางก็คือแม่ยายของเจ้า!”
“ผัวะ!” เมิ่งฉีหวนตบอีกครั้ง และกระแทกร่างหม่าเหว่ยให้ล้มลงไปกองกับพื้น
คนเดียวที่ยืนอยู่ตอนนี้คือหวังฉินที่ตัวสั่น
หวังฉินมองไปรอบ ๆ ด้วยความหวาดกลัวว่าเมิ่งฉีฮ่วนอาจจะตีตนด้วยเช่นกัน ดังนั้นนางจึงวิ่งออกจากบ้านด้วยความตื่นตระหนก
โจวต้าเป่ากำลังจะไล่ตาม ทว่าเมิ่งฉีฮ่วนหยุดเขาไว้ “การตามหามู่ชวนเป็นเรื่องสำคัญกว่า”
“ปัง! ปัง! นี่พี่เมิ่ง! ข้าคือเหอฮวา! พี่เมิ่ง ได้โปรดเปิดประตูให้ข้าด้วย ข้ารู้ว่ามู่ชวนอยู่ที่ไหน!”
เมื่อเข้าไปในลานด้านใน เมิ่งฉีฮ่วนที่กำลังจะแยกกับโจวต้าเป่าเพื่อไปตามหามู่ชวนก็ได้ยินเสียงของหวังเหอฮวา
หลังจากตามเสียงนั้นไป เมิ่งฉีหวนก็เตะประตูห้องของหวังเหอฮวา
หวังเหอฮวาซึ่งเกล้าผมเป็นมวยของหญิงที่แต่งงานแล้วยังคงงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าเมื่อเห็นเมิ่งฉีฮ่วน แต่นางก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็วและรีบพูด “ข้าได้ยินว่าพี่ชายของข้าและคนอื่น ๆ ซ่อนมู่ชวนไว้ในห้องใต้ดิน ข้าจะพาท่านไปที่นั่น!”
ขณะที่พูด นางก็ไม่ได้ชักช้า หญิงสาวยกกระโปรงขึ้นและนำทางไป
เมิ่งฉีฮ่วนและโจวต้าเป่าตามไป
เมื่อสามพี่น้องคิดว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว ห้องใต้ดินก็เปิดออก และเมิ่งฉีฮ่วนก็กระโดดลงมาจากด้านบนในทันที
หลังจากแก้มัดมู่ชวน และส่งเด็กชายให้โจวต้าเป่าแล้ว เมิ่งฉีฮ่วนก็พูดช้า ๆ ว่า “พาเด็กกับหลิ่วฟู่เหรินไปรอข้างนอก ข้าจะรีบออกไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวต้าเป่าก็ไม่สงสัยอีก เขาอุ้มมู่ชวนพลางผลักหวังเหอฮวาให้ออกจากห้องใต้ดินไป
ครั้นสามพี่น้องเห็นเมิ่งฉีฮ่วนเดินเข้ามาหาพวกตนพร้อมกับแผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือก พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“ข้าขอเตือนเจ้า! อย่าเข้ามาใกล้อีก! ห้องใต้ดินของเรามีกฎ! เจ้าละเมิดกฎของหมู่บ้านไป๋อวิ๋นแล้ว จากการที่บุกเข้าไปในห้องใต้ดินของคนอื่น! เราสามารถขับไล่เจ้าในฐานะคนนอกได้!” หวังหัวกัดฟันกล่าวอย่างกล้าหาญ
สิ่งที่เมิ่งฉีฮ่วนตอบโต้อีกฝ่ายก็คือกำปั้นที่แข็งแกร่งและทรงพลัง
ที่ด้านบนของห้องใต้ดิน หวังเหอฮวาได้ยินเสียงคร่ำครวญจากด้านล่าง และขอร้องโจวต้าเป่าอย่างทนไม่ได้ “พี่โจว เจ้าช่วยเกลี้ยกล่อมให้พี่เมิ่งอย่าทุบตีพี่น้องของข้าแรง ๆ ได้หรือไม่? อย่างไรบ้านหวังของเราก็เป็นคนในหมู่บ้านไป๋อวิ๋น ส่วนพี่ชายเมิ่งเป็นคนนอก หากมีปัญหาครอบครัวของเขาอาจจะถูกไล่ออกไปได้”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ โจวต้าเป่าก็เหลือบมองหวังเหอฮวาด้วยใบหน้าไม่แสดงความรู้สึก ก่อนจะไม่สนใจนางอีกต่อไป
[1] สุราคำนับไม่ดื่ม ชอบดื่มสุราลงทัณฑ์ 敬酒不吃吃罚酒 หมายถึง ในเมื่อพูดด้วยดี ๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ
MANGA DISCUSSION