บทที่ 1 เย็นชา
ฟึ่บ
หลังร่วงลงมาจากชั้นที่ยี่สิบเจ็ด หลี่เยว่หานไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงผ่านมานานเท่าไหร่ ก่อนจะรู้สึกว่ามีใครบางคนกอดเอวของเธอเอาไว้
หลี่เยว่หานลืมตาขึ้นมา ท่ามกลางแสงจันทร์เธอเห็นชายมัดผมผู้หนึ่งอย่างเลือนลาง ชายผู้นี้มีใบหน้าคมเข้มท่าทางแข็งแกร่ง และกำลังว่ายน้ำพาเธอไปยังทิศทางหนึ่ง
นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เธอกระโดดลงมาจากตึกไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงอยู่ในน้ำ? แล้วผู้ชายคนนี้คือใคร? มันเป็นภาพหลอนก่อนที่เธอจะตายงั้นเหรอ?
หลังจากขึ้นไปบนฝั่งได้แล้ว เมื่อปราศจากน้ำเย็นเฉียบในแม่น้ำคอยระงับ ร่างของเธอก็ถูกความร้อนรุ่มแผดเผาทำให้ยากจะควบคุมตนเองได้ สมควรตาย! หวังเฟิ่ง แม่เลี้ยงคนนั้นถึงกับเอาเธอไปแลกกับเงินห้าแสน!
น่าสมเพช เธอเป็นถึงนักศึกษาเกียรตินิยมจากสาขาคลินิกเวชกรรมกับสาขาการเกษตรและวนศาสตร์ หลังจากเรียนจบก็ออกไปเป็นอาสาสมัครที่ต่างประเทศทันทีห้าปี เพื่อหนีออกไปจากความแตกแยกในครอบครัว
เธอไม่ได้ตายลงในต่างแดน แต่ถูกแม่เลี้ยงหวังเฟิ่งหลอกว่าพ่อของเธอป่วยหนักให้รีบกลับไปหา สุดท้ายเธอก็ตายลงในแผ่นดินเกิดของตัวเอง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว หัวใจของหลี่เยว่หานก็เจ็บปวดขึ้นมา
เป็นไปไม่ได้ที่พ่อของเธอจะไม่รู้ว่าหวังเฟิ่งทำสิ่งใดลงไปบ้าง ทว่าเมื่อรู้แล้วก็ยังคงปล่อยให้หวังเฟิ่งหลอกลวงกระทั่งลงมือกับเธอ และเขาก็ไม่ปรากฏตัวออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ แสดงให้เห็นว่าพ่อของเธอยินยอมในเรื่องนี้
กลับไปไม่ได้แล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเธอคงจะต้องหลับใหลไปตลอดกาล จะครั้งแรกของเธอ จะห้าแสนอะไรนั่น หรือจะเป็นผู้ชายหัวเหมือนหมูอย่างไร หลี่เยว่หานล้วนไม่อยากคิดถึง
เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเธอถึงอยู่ในน้ำหลังจากกระโดดตึกลงมา ความร้อนในร่างกายราวกับแผดเผาสมองของหลี่เยว่หานไปด้วย ทำให้เธอไม่สามารถคิดวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบัน หลงเข้าใจว่าทุกอย่างล้วนเป็นเพียงภาพหลอนที่ตนเองเห็นยามเข้าใกล้ความตาย
ชายคนนั้นตบใบหน้าของเธอด้วยความกังวล ตะโกนอะไรบางอย่างที่เธอไม่สามารถได้ยินอย่างชัดเจน
สติของเธอเลือนราง ทั้งหมดกลายเป็นเพียงภาพเบลอ
ชายหนุ่มเห็นว่าสติของหลี่เยว่หานไม่แจ่มชัดนัก เขาจึงพยุงตัวนางลุกขึ้นนั่ง ในยามนั้นเองที่เขาสัมผัสผิวบนร่างของนางโดยบังเอิญ
หลี่เยว่หานตัวสั่นระริกขึ้นมาทันที หญิงสาวยื่นมือออกไปอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ ต้องการจะโอบกอดชายหนุ่มผู้นั้นให้เข้ามาใกล้ขึ้นอีก
ยามนี้หลี่เยว่หานใกล้จะสิ้นสติลงเต็มที ทว่าเธอช่างแน่วแน่อย่างน่าทึ่ง ยังสามารถยื่นมือไปลูบคลำชายหนุ่มได้
หลังจากสัมผัสกล้ามเนื้อแน่นบนร่างชายหนุ่มแล้ว สุดท้ายมือของหลี่เยว่หานก็โอบรอบคอของเขาไว้อย่างไม่อาจควบคุมได้
เทียบกับผู้ชายที่เหมือนหมูคนนั้นแล้ว ผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้าดูน่าอร่อยกว่ามาก!
อย่างไรเสียเธอก็จะตายแล้ว ปล่อยให้ตนเองได้ดื่มด่ำกับจินตนาการก่อนตายเสียหน่อยก็ไม่เป็นไร
ในตอนนั้นเองสติของชายหนุ่มพลันหลุดลอยไปชั่วครู่ ทว่าเมื่อเผชิญกับการเคลื่อนไหวเชื้อเชิญของหลี่เยว่หาน เขาก็พลิกตัวกดร่างเล็กของหญิงสาวเอาไว้ใต้ร่างตน…
เช้าวันต่อมา หลี่เยว่หานตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง อาการปวดศีรษะทำให้เธอยกมือขึ้นจับหัวของตนเอง
ความปวดร้าวทั้งร่างบอกเธอว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ ไม่เพียงแต่มีชีวิตอยู่ แต่ยังข้ามเวลามาอีกด้วย
ไม่เพียงแต่ข้ามเวลามา แต่ยังสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว
ทั้งยังเป็นฝ่ายริเริ่มเชื้อเชิญเอง!
เมื่อคิดขึ้นมาได้เช่นนี้ หัวใจของหลี่เยว่หานก็เย็นเยียบลง
หลังจากจัดระเบียบความทรงจำในหัวแล้ว ภายในใจหญิงสาวก็ยิ่งเย็นยะเยือก
เจ้าของร่างเดิมเองก็ชื่อหลี่เยว่หาน แม่เลี้ยงเองก็ยังมีชื่อว่าหวังเฟิ่ง อีกทั้งนางยังมีน้องสาวต่างมารดาอีกหนึ่งคน!
เพราะเจ้าของร่างเดิมเกิดมามีผิวพรรณดี แม่ผู้ให้กำเนิดของนางจึงจัดเตรียมการแต่งงานดี ๆ ไว้ให้นางก่อนจะเสียชีวิต ทว่าแม่เลี้ยงหวังเฟิ่งกลับอยากให้นางยกการแต่งงานครั้งนี้ให้กับหลี่หรงหรงผู้เป็นน้องสาวต่างแม่ แต่เจ้าของร่างเดิมกลับปฏิเสธ จึงถูกแม่เลี้ยงหวังเฟิ่งวางยาหมายจะทำลายนาง
ทว่าผู้ใดจะคาดคิด แม่เลี้ยงวางยานางมากเกินไปจนทำให้นางตาย และเกรงกลัวว่าจะเป็นเรื่อง จึงมัดร่างของนางไว้กับก้อนหินแล้วโยนทิ้งลงน้ำไป
ไม่รู้เป็นเพราะนางขาดอากาศหายใจนานเกินไปหรือไม่ จึงไม่มีความทรงจำของร่างเดิมอยู่มากนัก แต่อย่างน้อยก็เพียงพอให้เธอเข้าใจสถานการณ์เบื้องหน้านี้
เจ้าของร่างเดิมถูกแม่เลี้ยงโยนลงน้ำ แม่เลี้ยงคงจะคิดว่าเจ้าของร่างเดิมตายไปแล้ว บางทีนางอาจจะถูกแม่เลี้ยงโยนข้อกล่าวหาบางอย่างใส่
หากไม่รีบกลับไปก่อนถูกกล่าวหา หลังจากนี้เธอคงยากจะมีชีวิตดี ๆ อยู่ในยุคราชวงศ์ที่ไม่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์นี้
เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว หลี่เยว่หานก็รีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่ชายหนุ่มจะตื่นขึ้นมา จากนั้นก็เร่งแต่งตัวให้เรียบร้อย
ยังดีที่ถึงแม้เมื่อคืนจะมีสถานการณ์ร้อนแรงเกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มตั้งใจหรือไม่ จึงไม่ได้ทำชุดของเธอเสียหาย
หลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หลี่เยว่หานก็รีบวิ่งกลับไปยังหมู่บ้าน เธอเร่งรีบเสียจนไม่ได้เหลือบตามองรูปร่างหน้าตาของชายที่นอนอยู่ข้างกายเลย
ทว่าเธอไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ว่าชายหนุ่มผู้นั้นลืมตาขึ้นมาและมองเธอวิ่งโงนเงนออกไป ก่อนรอยยิ้มคลุมเครือจะปรากฏขึ้นที่มุมปาก…
หมู่บ้านที่เจ้าของร่างเดิมอยู่มีนามว่าหมู่บ้านเฮยถู่ ขนาดของหมู่บ้านนั้นไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก
แม้ว่าพระอาทิตย์จะยังไม่ขึ้น แต่ชาวบ้านหลายคนก็ตื่นเพื่อเตรียมตัวทำงานกันแล้ว
หลี่เยว่หานใช้ความทรงจำของร่างเดิมหาเส้นทางหลบเลี่ยงผู้คนกลับบ้าน
ทว่าน่าเสียดายที่ประตูถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา ขณะที่เธอวางแผนจะปีนข้ามกำแพง ประตูใหญ่พลันถูกเปิดออกพร้อมเสียงดังเอี๊ยด
ทันทีที่หลี่เยว่หานเห็นผู้เปิดประตู เธอก็ผงะไปทันที ใช่แล้ว ผู้ที่เปิดประตูคือแม่เลี้ยงเจ้าของร่างเดิมที่มีนามว่าหวังเฟิ่ง อีกทั้งคนผู้นี้ยังดูเหมือนแม่เลี้ยงของเธอเป็นอย่างมาก
เมื่อหวังเฟิ่งเห็นหลี่เยว่หาน ก็พลันตกใจ บนใบหน้าปรากฏความหวาดกลัว ทั้งยังก้าวถอยหลังไปอีกหลายก้าว
“ท่านแม่ ท่านกำลังมองสิ่งใดอยู่?” มีเสียงหญิงสาวที่ยังเยาว์วัยดังขึ้น ก่อนที่ร่างน้องสาวต่างมารดาของเจ้าของร่างเดิมอย่างหลี่หรงหรงจะเดินออกมาจากด้านหลังหวังเฟิ่ง เมื่อเห็นหลี่เยว่หานยืนอยู่นอกประตูด้วยสภาพไม่ค่อยดีก็พลันขมวดคิ้ว
“หลี่เยว่หาน เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่? เมื่อคืนก็ไม่กลับบ้านมาทั้งคืน เจ้ากำลังทำให้ตระกูลหลี่ของพวกเราอับอายขายหน้า!” หลี่หรงหรงพูดด้วยเสียงอันดัง ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยเข้ามาทันที
หลี่เยว่หานได้สติคืนมาจากใบหน้าของหวังเฟิ่ง เธอมองไปที่หลี่หรงหรง ทว่าไม่ได้พูดจาอะไร เพียงแค่ก้าวไปข้างหน้าต้องการเข้าไปด้านใน เรื่องทั้งหมดแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง เธอต้องการสถานที่เงียบสงบเพื่อจัดการเรื่องความทรงจำทั้งหมด
แต่คาดไม่ถึงว่าหวังเฟิ่งที่ได้สติกลับมา ผลักร่างของหลี่เยว่หานจนล้มลงไปกับพื้น ก่อนจะท้าวเอวชี้เธอพร้อมก่นด่า “นางแพศยา! ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่เยว่หานก็เบนสายตาไปมองหวังเฟิ่ง แม้สีหน้าของหวังเฟิ่งจะดุร้าย แต่ในแววตากลับมีความตื่นตระหนกซ่อนอยู่
ใช่แล้ว เมื่อคืนหวังเฟิ่งมั่นใจว่าเจ้าของร่างเสียชีวิตไปแล้ว จึงมัดร่างหลี่เยว่หานเอาไว้กับก้อนหินก่อนจะถ่วงน้ำ
เมื่อเห็นว่านางกลับมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ หวังเฟิ่งที่เป็นคนยุคสมัยโบราณเชื่อเรื่องผีสางเทวดาย่อมเกิดความรู้สึกหวาดกลัว
ยังเล่ากันว่าผีสางเทวดากลัวอันธพาลดุร้าย หวังเฟิ่งจึงแสดงท่าทางออกมาเช่นนั้น หวังจะขู่ขวัญให้นางจากไป
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผี แต่นี่ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดี!
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว หลี่เยว่หานก็มีแผนการในใจ
MANGA DISCUSSION