ตอนที่ 234 แข่งเรือมังกร
………………..
ผู้ส่งสัญญาณที่ริมฝั่งเคาะค้อนลงบนฆ้องทองเหลือง!
“ตึง!” เสียงฆ้องดังขึ้น ผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดกลุ่มที่เกร็งประสาทรออยู่แล้วต่างก็วางพายลงทันที เรือมังกรทั้งแปดลำพุ่งออกไปจากใต้สะพานหินราวกับลูกศรที่ออกจากแล่ง!
ความเร็วของพวกมันนั้นรวดเร็วเสียจนผู้ชมริมฝั่งตาลาย ร้องตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
เรือมังกรทั้งแปดลำนั้นราวกับติดปีกเร่งความเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจก็แล่นผ่านหน้าผู้คนไป
ต้าหลางและน้องๆ ทั้งสี่ที่เห็นการแข่งเรือมังกรเป็นครั้งแรกเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจจนหุบไม่ลง
“เร็วจริงๆ เร็วมากๆ เลย!” ซานหลางเงยหน้าพูดกับท่านแม่ด้วยความตกตะลึง
สายตาของฉินเหยาเองก็ถูกดึงดูดไปที่เรือมังกรพลางพยักหน้าเห็นด้วย “โชคดีที่เรายืนอยู่สูง ตำแหน่งนี้ดี หากไม่เช่นนั้นคงเห็นเรือมังกรแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น”
เรือมังกรทั้งแปดลำปักธงสีต่างกัน โดยเฉพาะลำที่ปักธงสีขาวนั้นนำหน้ามาตั้งแต่เริ่มออกตัว หากไม่มีอะไรผิดพลาดคงจะคว้าที่หนึ่งไปได้
เรือมังกรอีกเจ็ดลำที่ตามหลังมาก็ไม่ยอมแพ้ พายเรือเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะกลองที่เร่งเร้าของคนตีกลองที่หัวเรือ คนพายต่างก็พายจนแทบจะเห็นเป็นเงาเลือนรางจนสามารถไล่ตามเรือธงขาวมาได้
สถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือดเช่นนี้ ทำให้ชาวบ้านชมดูด้วยความตื่นเต้น ฝูงชนต่างก็วิ่งตามเรือมังกรโดยไม่รู้ตัวจึงได้ยินเสียงคนตกลงไปในน้ำดังตูมตามติดๆ กัน
โชคดีที่ผู้จัดงานคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ทันทีที่ปล่อยไม้ไผ่ลงไป เรือเล็กก็จะเข้ามารับผู้ที่ตกน้ำขึ้นมา
ขณะนั้น เรือมังกรแล่นมาถึงช่วงกลางแม่น้ำ เสียงโห่ร้องที่ดังมาจากข้างหลังก็ไม่น้อยไปกว่าเสียงโห่ร้องจากช่วงต้นเลย
“มาแล้วๆ!” หลิวจี้ชี้ไปทางทิศตะวันออกด้วยความตื่นเต้น สีหน้าเปลี่ยนไป “ธงเหลืองนำเป็นที่หนึ่ง ธงขาวตกไปเป็นที่สามแล้ว!”
มีคนในฝูงชนกางผ้าสำหรับเล่นพนันที่เตรียมมาล่วงหน้าทันที ตะโกนเสียงดังเรียกลูกค้าว่า
“มาเร็วๆ มาเร็วๆ พวกเรามาเดิมพันกันสักหน่อย ข้าก่อน ข้าพนันว่าธงขาวจะแซงกลับมาเป็นที่หนึ่งได้!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้คนรอบข้างก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น มีเงินก็โยนเงิน ไม่มีเงินก็โยนเครื่องประดับผม อย่างไรเสียก็ต้องร่วมสนุกกับงานนี้ให้ได้
มีคนแทงว่าธงเหลืองจะได้ที่หนึ่ง มีคนแทงว่าธงเหลืองกับธงขาวจะเสมอกัน และยังมีคนแทงธงแดงที่อยู่ท้ายสุด สารพัดสารพัน
เนื่องจากแม่น้ำแคบ เรือมังกรจึงสามารถแล่นคู่กันได้เพียงสี่ลำ หากต้องการแซงอีกฝ่าย เรือจึงต้องปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อถึงทางเลี้ยว เรือหัวมังกรห้าลำเบียดเสียดกันเข้าไปแล้วติดค้างกันอยู่ตรงนั้น
เรือสามลำที่ตามหลังมาจึงแซงขึ้นมาได้ ทำให้เรือมังกรห้าลำที่เบียดกันอยู่เร่งพายกันใหญ่ ต่างก็ผลักหัวมังกรของอีกฝ่าย ดันหางมังกรของอีกคน
ครอบครัวหกคนของฉินเหยาบนต้นไม้ก็ร่วมสนุกไปกับผู้คนที่เดิมพันอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอย่างเต็มที่
เอ้อร์หลางตะโกนเสียงดัง “ธงขาวเจ้ารีบหนีไป! ไม่ต้องสนใจพวกเขา!”
ซานหลางและซื่อเหนียงชอบเรือธงเหลืองที่มาทีหลังแต่สามารถแซงลำก่อนหน้าไปได้ แม้จะไม่ได้ตะโกนออกมา แต่ก็โบกมือเล็กๆ พร้อมกับเปล่งเสียงเบาๆ ว่า “สู้ๆ สู้ๆ!”
หากไม่ถูกฉินเหยาหนีบไว้ที่ขา เกรงว่าคงกลายเป็นเช่นเดียวกับเหล่าผู้คนที่วิ่งตามเรือมังกร แล้วพลาดตกลงน้ำ กลายเป็นลูกเจี๊ยบเปียกโชกไปแล้ว
หลิวจี้เชียร์เรือธงเหลือง ส่วนหลิวลี่เชียร์ธงขาว ทั้งสองต่างก็ตะโกนให้กำลังใจกลุ่มที่ตัวเองชอบ พร้อมกับเบ้ปากแยกเขี้ยวใส่กันเพื่อแสดงความไม่พอใจ
ภายใต้อิทธิพลของบรรยากาศเช่นนี้ ฉินเหยาก็ผ่อนคลายลง อารมณ์ของนางขึ้นลงตามสถานการณ์การแข่งขันเรือมังกร
ต้าหลางมองนางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
บางทีแม่เลี้ยงเองก็อาจจะไม่รู้ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสักครั้งที่นางจะผ่อนคลายเช่นนี้
ปกติแล้ว แม้แต่ตอนที่พูดคุยหัวเราะกับคนในหมู่บ้าน มือของนางก็จะกำเป็นหมัดโดยไม่รู้ตัว รักษาความระแวดระวังเอาไว้เสมอ
ก่อนฝึกวรยุทธ์ ต้าหลางไม่สังเกตเห็นท่าทางเล็กๆ เช่นนี้
แต่หลังจากฝึกวรยุทธ์แล้ว เขาก็สามารถสังเกตเห็นว่า แม้สภาพแวดล้อมจะปลอดภัยมาก ไม่มีภัยคุกคามใดๆ จู่ๆ แม่เลี้ยงก็มักจะเหลือบไปมองข้างหลังอยู่เสมอ
หลังจากพบว่าไม่มีอะไรแล้ว นางถึงจะลอบถอนหายใจยาวๆ ออกมาอย่างเงียบๆ แล้วแสดงสีหน้าโล่งอกออกมา
ราวกับเป็นนายพรานที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายและสัตว์ร้ายตลอดเวลา จนเกิดเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายตามสัญชาตญาณ
สัญชาตญาณทางร่างกายเช่นนี้ ทำให้นางที่แม้จะลงมาถึงเชิงเขาที่ปลอดภัยแล้ว ก็ยังคงตื่นตัวพร้อมต่อสู้กับทุกการเคลื่อนไหว
ต้าหลางคาดเดาว่า บางทีนางอาจจะค่อยๆ คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่สงบสุขด้านล่างภูเขานี้แล้วกระมัง
เด็กหนุ่มคิดในใจอย่างมีความสุขว่า แบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะเขาหวังว่าแม่เลี้ยงจะมีความสุขจริงๆ
เรือมังกรห้าลำที่เบียดกันอยู่ ในที่สุดก็ฝ่าทางเลี้ยวออกมาได้ โดยมีเรือสองลำพลิกคว่ำ
เหลือระยะทางอีกเพียงหนึ่งร้อยเมตรก็จะถึงเส้นชัย ในแม่น้ำเหลือเรือมังกรหกลำ แข่งขันกันอย่างดุเดือด
เส้นเลือดที่แขนของฝีพายปูดนูดไปหมด พวกเขากัดฟันแน่น ต่างก็ใช้แรงทั้งหมดที่มี พุ่งไปข้างหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทำให้ผู้คนที่ชมดูรู้สึกฮึกเหิม
เหลืออีกห้าสิบเมตร ธงขาวสมกับเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด เรือธงขาวสามารถแซงกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง ทิ้งห่างธงแดงซึ่งเป็นที่สองประมาณสามสี่เมตร กลายเป็นที่หนึ่ง
เหลืออีกยี่สิบเมตร ธงขาวนำหน้าอย่างขาดลอย
เหลืออีกห้าเมตร ธงเหลืองกลับแซงเรือสามสี่ลำมารวดเดียวด้วยความเร็วสูง กลายเป็นที่สอง
เหลืออีกหนึ่งเมตร ธงเหลืองกับธงขาวแล่นคู่กัน จนไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยตาเปล่าว่าใครนำใครตาม
“ตึง!” เสียงฆ้องดังขึ้น เรือมังกรทั้งสองลำก็แล่นผ่านใต้สะพานหินพร้อมกัน ตามมาด้วยเรือธ.สีแดง สีน้ำเงิน และเรือลำอื่นๆ
หลิวจี้ตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ธงขาวที่หนึ่ง!”
หลิวลี่ก็ตะโกนออกมาพร้อมกันว่า “ธงเหลืองที่หนึ่ง!”
“จะเป็นธงเหลืองไปได้อย่างไร ข้าเห็นชัดเจนว่าหนวดมังกรของธงขาวผ่านสะพานไปก่อน!” หลิวจี้โต้ตอบหลิวลี่อย่างไม่พอใจ
หลิวลี่รู้สึกว่าคำพูดของเขาช่างไร้สาระสิ้นดี “เห็นชัดๆ ว่าแถบสายรุ้งของธงเหลืองผ่านสะพานหินไปก่อน!”
ชาวบ้านที่เปิดโต๊ะพนันอยู่บนพื้นก็ทะเลาะกัน เจ้ามือที่รับแทงธงขาวก็ย่อมหวังให้ธงขาวได้ที่หนึ่ง ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างรุนแรง สุดท้ายก็หาข้อสรุปไม่ได้จึงได้แต่หันไปมองท่านผู้ว่าการที่อยู่บนอัฒจันทร์พร้อมกัน
เหล่าขุนนางบนอัฒจันทร์ก็วุ่นวายกันพักหนึ่ง เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นคือเรือทั้งสองลำออกจากใต้สะพานพร้อมกัน
แต่ที่หนึ่งมีได้เพียงหนึ่งเดียว
หลังจากปรึกษากันพักหนึ่ง ท่านผู้ว่าการก็ประกาศว่าธงขาวได้ที่หนึ่ง เพราะคนตีกลองของธงขาวแตะซุ้มประตูสะพานก่อน
“แบบนี้ไม่ได้นะ!”
เด็กหญิงยกชายกระโปรงที่เกะกะขึ้น เผยให้เห็นกางเกงผ้าโปร่งบางลายโคมไฟที่อยู่ข้างใต้ นางก้าวสองสามก้าวขึ้นไปบนม้านั่งแล้วตะโกนใส่กลุ่มขุนนางที่กำลังปรึกษาผลการแข่งขันว่า
“ไม่มีใครบอกว่าการข้ามสะพานต้องจับซุ้มประตูถึงจะนับ ข้าไม่ยอม! เรือของธงเหลืองผ่านสะพานหินไปก่อน ธงเหลืองถึงจะเป็นที่หนึ่ง!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนี้ เหล่าขุนนางต่างก็มองไปยังผู้ว่าการเฮ่ออย่างจนปัญญา
“เฮ่อจางหัว เจ้าทำอะไร” ผู้ว่าการเฮ่อตะคอกเสียงดัง “เจ้าลงมา ใครอนุญาตให้เจ้าขึ้นไปบนม้านั่ง!”
ผู้ชมริมฝั่งแม่น้ำกระจ่างทันที ที่แท้ก็เป็นคุณหนูจากจวนผู้ว่าการนี่เอง
“ดูเหมือนว่าคุณหนูเฮ่อจะแทงธงเหลือง” ฉินเหยากล่าวกับหลิวลี่
หลิวจี้โกรธแทบตาย “เมียจ๋า ทำไมเจ้าถึงเข้าข้างคนอื่นเช่นนี้ เจ้าสายตาดีขนาดนี้ ต้องเห็นชัดเจนแล้วว่าใครผ่านสะพานไปก่อน ธงขาวใช่ไหม”
ฉินเหยาไม่ตอบ ย้อนถามเขาว่า “เจ้าก็ไม่ได้แทงพนันนี่ จะร้อนใจไปทำไม ดูสนุกๆ ก็พอแล้ว”
หลิวจี้เงยหน้ามองนางอย่างอ่อนแรง ริมฝีปากสั่นระริก อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก เงินเก็บส่วนตัวทั้งหมดของเขา! เมื่อคืนเขาแทงธงขาวไปหมดแล้ว!
ฉินเหยาเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นนัยน์ตาก็หรี่ลงอย่างอันตราย…
………………..
MANGA DISCUSSION