ปึง เสียงทึบๆ ดังขึ้น ฉินเหยาลากหมีดำจากเปลมาวางไว้บนใบตองที่ปูเตรียมไว้หลังครัวที่โรงเตี๊ยม
พ่อครัวใหญ่ผู้รับผิดชอบทำอาหาร พร้อมด้วยเสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารและผู้ดูแลร้านต่างพากันล้อมวงมองหมีดำตัวใหญ่ยักษ์ด้วยความประหลาดใจ
แขกในโรงเตี๊ยมหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามามุงดู พวกเขายืนอยู่หน้าประตูครัวหวังจะได้เห็นเจ้าหมีตัวนี้สักครั้ง
คนเหล่านี้หลายคนทั้งชีวิตเคยเห็นหมีตัวใหญ่แบบนี้เพียงครั้งเดียวก็สามารถนำไปเล่าอวดลูกหลานได้ทั้งชีวิตแล้ว
ขณะที่ฉินเหยาเคลื่อนย้ายตัวหมี มือของนางก็เปื้อนไปด้วยเลือด เถ้าแก่ฟ่านจึงรีบสั่งเสี่ยวเอ้อร์ให้ตักน้ำร้อนมาอ่างหนึ่งให้นางล้างมือ
รอจนฉินเหยาจัดการทางนี้เสร็จ พ่อครัวใหญ่ก็พาศิษย์สองคนมาปรึกษากันว่าจะไปหาคนฆ่าสัตว์จากทางตะวันออกของเมืองมาช่วยชำแหละหมี
ปกติพวกเขาจะทำเพียงเนื้อที่ผ่านการแล่มาแล้ว แต่สัตว์ตัวใหญ่ที่ยังสมบูรณ์แบบนี้กลับไม่กล้าลงมือ
หนึ่งเพราะกลัวจะทำลายหนังของหมีตัวนี้ สองเพราะต้องเก็บส่วนสำคัญของหมีไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อจะได้ทำอาหารดีๆ ขายในราคาสูง
การชำแหละหมูยังต้องใช้ทักษะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการชำแหละหมีเลย
การจ้างคนฆ่าสัตว์มายังต้องเสียค่าจ้างอีกจำนวนหนึ่ง
ฉินเหยากำลังจะไปคิดบัญชีที่ห้องโถงใหญ่ แต่เมื่อได้ยินเสียงจากในครัว นางจึงชะโงกหน้าเข้าไปถามว่า
“ข้าชำแหละหมีเป็น ถลกหนัง เลาะเส้นเอ็นทำได้หมด ข้าไม่เอาค่าจ้าง ขอแค่มื้อดึกหนึ่งมื้อกับที่พักหนึ่งคืนก็พอแล้ว”
ฟ้าใกล้มืดแล้ว แทนที่จะออกไปหาที่พักข้างนอก มิสู้พักที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ดีกว่า
ประหยัดทั้งเงินและเวลาด้วย
พ่อครัวใหญ่เริ่มสนใจจึงรีบให้ลูกศิษย์ไปถามเถ้าแก่ฟ่านว่าทำได้หรือไม่
ลูกศิษย์วิ่งไปถามอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็กลับมา เถ้าแก่ฟ่านที่กำลังเขียนป้ายรายการอาหารเนื้อหมีอยู่ในห้องโถงเองก็ตามมาด้วย เขาเอ่ยกับฉินเหยาว่า
“แม่นาง เอาเช่นนี้แล้วกัน เหยื่อที่ล่ามาได้เหล่านี้โรงเตี๊ยมข้ารับซื้อไว้ทั้งหมด รอให้ข้าจัดการเสร็จค่อยคิดเงินทีเดียว ส่วนเรื่องชำแหละหมีนั้นก็ดูตามสมควรได้เลย เจ้าชำแหละได้เลย โรงเตี๊ยมมีห้องว่างอยู่หลายห้อง ข้าจะเก็บห้องไว้ให้เจ้าหนึ่งห้อง คืนนี้เจ้าก็พักที่นี่เถิด”
ตอนนี้เถ้าแก่ฟ่านมั่นใจแล้วว่าฉินเหยาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เดิมเขาก็ชื่นชมเหล่ายอดฝีมือผู้เร้นกายในโลกเป็นอย่างมาก เมื่อได้พบเจอก็ต้องสานสัมพันธ์ไว้สักหน่อย ที่พักก็ให้อยู่เปล่า ไม่คิดเงิน
ฉินเหยาขอบคุณอย่างใจกว้าง ก่อนจะขอผ้ากันเปื้อนจากลูกศิษย์แล้วเข้าไปในครัวเพื่อเลือกเครื่องมือ
พ่อครัวใหญ่มีมีดแถวหนึ่ง หลากหลายรูปแบบ ฉินเหยาเลือกมีดเล่มเล็กคมกริบเล่มหนึ่งมาแล้วเริ่มลงมือ
นางเคลื่อนไหวคล่องแคล่วมาก รู้ว่าจะต้องเริ่มถลกหนังตรงไหน ตำแหน่งใดถลกยาก ตรงไหนมีกระดูก ดวงตาราวกับมองทะลุได้อย่างนั้น ลงมือไม่พลาดเลยสักครั้ง
พ่อครัวใหญ่และศิษย์ทั้งสองคนยืนล้อมดูอยู่ด้านข้าง เดิมคิดจะช่วยเหลืออะไรบ้าง แต่กลับพบว่าไม่มีช่องให้พวกเขาเข้าไปช่วยเลย
ช่วงเพียงเวลาสองก้านธูป ฉินเหยาก็ถลกหนังหมีออกมาได้อย่างสมบูรณ์
ศิษย์สองคนมองนางด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความเลื่อมใส หากมิใช่ว่ามีอาจารย์ของตนยืนอยู่ด้วย คงอยากคุกเข่าขอฝากตัวเป็นศิษย์ใหม่แล้ว
หนังหมีถูกนำไปตากไว้ที่ราวในลานด้านหลัง จากนั้นผู้ดูแลจะหาคนมาจัดการต่อเอง
ฉินเหยาเปลี่ยนไปใช้มีดปลายแหลมแล้วย้ายหมีที่ถลกหนังออกไปยังลานบ้าน ผ่าท้องแยกกระดูก ตีนหมี ถุงน้ำดีและส่วนที่มีค่าอื่นๆ
ในโถงด้านหน้า เถ้าแก่ฟ่านออกไปป่าวประกาศรอบหนึ่งแล้วทำให้มีคนอยากลิ้มลองอุ้งตีนหมีร้อนๆ ฉินเหยาแล่เนื้อไป พ่อครัวใหญ่ก็จุดเตาปรุงอาหารไป โรงเตี๊ยมทั้งหลังสว่างไสวและวุ่นวายด้วยความเร่งรีบ
ความวุ่นวายนี้ยืดเยื้อจนถึงดึกดื่น รอจนโรงเตี๊ยมปิดร้านถึงจะจบสิ้น
พ่อครัวใหญ่ใส่ของที่เหลือทุกอย่างลงเคี่ยวในหม้อใหญ่ แต่ละคนได้บะหมี่หนึ่งชามและหมั่นโถวลูกใหญ่หนึ่งลูกไว้ทานคู่กับน้ำแกง อร่อยเพียงใดนั้นไม่ต้องพูดถึง
เถ้าแก่ฟ่านรู้ว่าฉินเหยากินจุจึงกำชับพ่อครัวใหญ่ให้เพิ่มหมั่นโถวอีกสองลูกให้นาง
ปริมาณอาหารของนางคนเดียวมากกับเท่ากับผู้ใหญ่ถึงห้าคน บรรดาคนงานในโรงเตี๊ยมล้วนมองดูด้วยความตกตะลึง พากันสงสัยว่าร่างเล็กๆ ของนางเหตุใดถึงใส่อาหารลงไปได้มากมายถึงเพียงนี้ กระเพาะจะไม่แตกเอาหรือไร
แต่หลังจากผ่านค่ำคืนนี้ไป คำชื่นชมที่เถ้าแก่ฟ่านมีต่อฉินเหยานั้นก็มากเสียจนไม่รู้จะมากอย่างไรแล้ว เรียกฉินเหนียงจื่อทุกคำราวกับเป็นสหายรู้ใจกันไปแล้ว
หลังจากยุ่งวุ่นวายมาทั้งคืน เถ้าแก่ฟ่านก็ดื่มเหล้าเล็กน้อยเพื่อผ่อนคลาย นั่นทำให้ฉินเหยารู้ว่า เขาเป็นแฟนนิยายกำลังภายใน หากมิใช่พ่อครัวใหญ่ในครัวคอยมองอยู่ เขาคงคุกเข่าขอฝากตัวเป็นศิษย์ของฉินเหยาไปแล้ว
ฉินเหยาทั้งขำทั้งอึ้ง คิดว่าลุงวัยกลางคนผู้นี้ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
เสียงระฆังยามสองจากบนหอเมืองดังขึ้น ทุกคนจึงช่วยกันเก็บกวาดและแยกย้ายกันไปพัก
ฉินเหยาได้ห้องพักเดี่ยวธรรมดาหนึ่งห้อง ในครัวยังเหลือน้ำร้อนอยู่บ้าง เมื่อรู้ว่านางอยากอาบน้ำ ศิษย์ทั้งสองก็ช่วยกันยกน้ำร้อนมาให้ ฉินเหยายืนอยู่ข้างถังน้ำ ส่องดูเงาในน้ำก็ต้องสะดุ้งตกใจเพราะภาพ ‘ผีสาว’ หัวกระเซิงสกปรกในนั้น
อยู่ในป่านางไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน ร่างกายทั้งสกปรกและเหม็น ฉินเหยาคิดถึงภาพที่ตนเพิ่งนั่งกินข้าวร่วมกับคนอื่นพลันรู้สึกว่าทุกคนช่างเป็นคนดียิ่งนักที่สามารถทนนางได้
นางรีบลงกลอนประตูให้แน่นหนาแล้วอาบน้ำสระผมทันที
นางมีเพียงเสื้อผ้าสกปรกชุดเดียวและไม่มีอะไรมาเปลี่ยน อีกทั้งไม่ใส่ก็ไม่ได้ ฉินเหยาจึงทำได้เพียงชุบน้ำมาเช็ดถูเฉพาะบางจุดก่อนสวมกลับไปอีกครั้ง
ดึกมากแล้ว นางเทน้ำทิ้งก่อนกลับไปที่ห้อง พอหัวถึงหมอนก็หลับไปใยทันที
การหลับครั้งนี้ เป็นการนอนหลับที่สบายที่สุดของฉินเหยานับตั้งแต่ทะลุมิติมา
ห้องพักของโรงเตี๊ยมทั้งกว้างขวางและสะอาด ผ้าห่มนุ่มนิ่มอบอุ่น เตียงเองก็มั่นคงมาก ไม่โยกไหวไปมาเวลานอนเปลี่ยนท่าและไม่มีเสียงลมพัดหลังคาดังรบกวนในยามดึกด้วย
เมื่อแสงของยามเช้าส่องสว่าง ฉินเหยาก็ตื่นขึ้นเอง นางล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายๆ แล้วหยิบคันธนูพร้อมมีดสั้นลงมาที่ห้องโถงใหญ่
เถ้าแก่ฟ่านตื่นแล้ว เมื่อเห็นนางออกมาก็รีบจัดการจ่ายเงินให้
ค่าชำแหละหมีห้าสิบเหวิน ส่วนไก่ป่าสี่ตัว คิดราคาตามน้ำหนักที่จินละยี่สิบเหวิน รวมเป็นสี่ร้อยเหวิน
ตัวเพียงพอนหนึ่งตัว ขนของมันมีค่าเพราะนำไปทำพู่กันได้ คิดราคาแปดร้อยเหวิน
กระรอกสองตัว เนื่องจากอ้วนพีและขนสวย ตัวละแปดสิบเหวิน รวมหนึ่งร้อยหกสิบเหวิน
เนื้อกวางหนักเจ็ดสิบห้าจิน ราคาจินละสี่สิบเหวิน รวมเป็นสามตำลึงเงินพอดี
หนังกระต่ายสีเทาเจ็ดผืน ผู้ดูแลให้ราคาเก้าร้อยเหวิน
รวมกับเงินจากหมีดำแปดสิบตำลึงเงิน เป็นแปดสิบห้าตำลึงกับอีกสามร้อยสิบเหวิน
เถ้าแก่ฟ่านมอบเงินให้ฉินเหยาเป็นเงินแท่งสี่แท่ง แท่งละยี่สิบตำลึง พร้อมเศษเงินห้าตำลึงและเหรียญทองแดงอีกสามร้อยสิบเหรียญ รวมกันใส่ในถุงผ้าส่งให้
เมื่อถือถุงเงินไว้ในมือก็รู้สึกหนักอึ้ง เป็นถุงใบใหญ่มาก
ตอนนี้ฉินเหยาเริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าพวงเหรียญเต็มรอบเอวแล้ว ในยุคที่ไม่มีธนบัตร การพกเงินออกจากบ้านช่างไม่สะดวกเอาเสียเลย ไม่แปลกใจที่คนรวยต้องเดินทางด้วยรถม้า เพราะหากต้องถือหีบใหญ่ที่เต็มไปด้วยเหรียญทองแดงหนักอึ้ง คงไม่มีทางเดินซื้อของอย่างมีความสุขได้
แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวธรรมดามักพกเศษเงินไม่กี่ตำลึงเมื่อออกจากบ้านซึ่งไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว
หากเดินทางข้ามแคว้น ยังมีร้านเงินที่ออกตั๋วเงินให้ได้ สามารถนำตั๋วไปแลกเป็นเงินสดที่ร้านเงินในพื้นที่ปลายทางเพื่อลดความยุ่งยากในการพกเงินระหว่างทาง
เมื่อได้เงินมาแล้ว ฉินเหยาก็กล่าวขอบคุณเถ้าแก่ฟ่านสำหรับการต้อนรับเมื่อวาน จากนั้นนางก็ออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อเริ่มต้นการซื้อของครั้งใหญ่
MANGA DISCUSSION