ตอนที่ 129 ช่างไม้หญิง
ข้างบ่อน้ำของหมู่บ้านมีต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง ใต้ต้นไม้นั้นมีแท่นไม้หลายอันวางอยู่เป็นประจำ ฉินเหยาหาที่ว่างนั่งลง หยิบสมุดไม้ทำเองและพู่กันที่เตรียมไว้ขึ้นมาแล้วเริ่มสัมภาษณ์ทีละคน
สามพี่น้องหลิวไป่มากันครบ ทั้งที่ยังมีที่นาอีกหลายสิบหมู่ที่บ้านยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จ นางจางบอกว่า ต่อให้ต้องจ้างคนงานมาช่วยเก็บเกี่ยวก็ตาม พวกเขาสามคนก็ต้องมาสมัครงานนี้ให้ได้
คนขุดหินได้วันละสิบสองเหวิน คนเจียรได้วันละสิบเหวิน รวมอาหารสองมื้อ แม้ว่าจะไม่เท่ากับตอนที่ฉินเหยาเคยให้พวกเขาทำหินโม่แผ่นละสี่ร้อยเหวิน แต่รายได้ระยะยาวย่อมต่างจากงานระยะสั้นแค่สิบวันแปดวัน
ส่วนเรื่องเกี่ยวข้าวที่บ้านก็สามารถจ้างคนงานระยะสั้น โดยตอบแทนเป็นอาหารมื้อกลางวัน แล้วจ่ายวันละหกหรือแปดเหวิน ส่วนต่างตรงนี้ก็มีกำไรแน่นอน
แรกๆ หลิวเหล่าฮั่นยังไม่อยากให้บุตรชายทั้งสามไปทำงานทั้งหมด นางเหอกับนางชิวร้อนใจแทบแย่ แต่ต่อมาพอได้ยินนางจางคำนวณรายได้ให้ดูเขาจึงยอมตกลง
แต่ชาวบ้านที่คำนวณเก่งอย่างนางจางนั้นมีไม่มาก เพราะสำหรับชาวบ้านแล้ว ปากท้องสำคัญที่สุด ฤดูเก็บเกี่ยวเป็นช่วงที่สำคัญยิ่งจึงไม่อยากให้ต้องล่าช้า
อีกส่วนหนึ่งคือข้าวของพวกเขายังไม่สุกดี จะต้องรอเก็บเกี่ยวไปจนถึงกลางหรือปลายเดือนแปด จึงทำได้แค่แอบอิจฉาคนที่สามารถแบ่งคนมาสมัครงานได้
บางคนก็เข้ามาถามฉินเหยาว่ารับสมัครคนงานระยะสั้นหรือไม่
ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งซื้อระยะยาวที่แน่นอน ฉินเหยาจึงไม่ปฏิเสธไปเสียทีเดียว นางให้คนที่สนใจทำงานตำแหน่งงานระยะสั้นยืนรอด้านข้างไปก่อน รอดูว่าตำแหน่งงานระยะยาวสามเดือนขึ้นไปจะเต็มหรือไม่
หลานชายคนโตของผู้ใหญ่บ้านก็มาด้วย รูปร่างสูงใหญ่ของเขาโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่ผอมดำและเตี้ยกว่า
ฉินเหยาถาม “ชื่อ อายุ สมัครตำแหน่งอะไร”
“หลิวฉี อายุสิบเจ็ด สมัครตำแหน่งขุดหิน”
พอได้ยินเช่นนี้ แม้ว่าสามพี่น้องหลิวไป่จะเชื่อว่าฉินเหยาไม่ทอดทิ้งคนบ้านตนเอง แต่ก็ยังอดรู้สึกกังวลไม่ได้
ฉินเหยามองสำรวจหลิวฉีอย่างใจเย็น ในหมู่บ้านนี้หากไม่นับพวกที่มียีนดีโดยกำเนิด คนที่แข็งแรงกำยำแบบเขานั้นนับได้แค่ไม่กี่คน
นางพยักหน้า ถามคำถามพื้นฐานว่าเคยขุดหินหรือไม่ มีประสบการณ์มาก่อนหรือเปล่า
หลิวฉีส่ายหน้า เขาไม่เคยขุดหินมาก่อน แต่เรียนรู้เร็วและมีกำลังมาก เขาสาธิตโดยการยกกระสอบข้าวที่วางไว้ใต้ต้นไม้เพื่อตากให้แห้งขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีพละกำลังมาก
ฉินเหยาจดลงสมุดไว้อย่างชัดเจน ไม่มีประสบการณ์ แรงเยอะ
“คนต่อไป” นางโบกมือเรียกให้คนด้านหลังเดินขึ้นมา
ผลลัพธ์จะไม่ได้ประกาศทันที หลังจากฉินเหยาสรุปรายชื่อแล้ว นางต้องนำไปหารือกับช่างไม้หลิวอีกครั้ง จากนั้นจึงจะแจ้งให้แต่ละบ้านทราบ
มีคนมาสมัครทั้งหมดยี่สิบสามคนล้วนเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ในหมู่บ้าน คนที่อายุมากที่สุดคือสามสิบแปดปี ส่วนคนที่อายุน้อยที่สุดคือสิบห้าปี
เมื่อถึงตาของนางเหอ พอนางรู้ว่าตำแหน่งคนทำครัวไม่มีใครมาแย่งชิง สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตบอกตนเองอย่างมั่นใจต่อหน้าฉินเหยา โอ้อวดความสามารถในการกะปริมาณข้าวของตนเอง และเอ่ยรับรองว่าจะไม่ทำให้เมล็ดข้าวแม้แต่เม็ดเดียวสูญเปล่า
ชาวบ้านที่ยืนดูต่างหัวเราะออกมา บางคนบอกว่านางขี้เหนียวเกินไป แต่บางคนก็ชมว่านางทำอาหารเก่งจริงๆ
เวลามีงานเลี้ยงในหมู่บ้านมักต้องเชิญนางเหอและนางจางแม่สามีลูกสะใภ้คู่นี้มาช่วยงานเสมอ ฝีมือทำอาหารของนางเหอนั้นเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
เมื่อไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งนี้ ฉินเหยาจึงประกาศทันที “เหอฮวา หลังมื้อเย็นท่านมาที่บ้านข้า เรามานับจำนวนคนกัน จะได้ซื้อของให้พอดี”
“หา นี่ข้าผ่านแล้วหรือ” นางเหอถามด้วยความประหลาดใจ
ฉินเหยาหัวเราะเบาๆ อย่างจนใจ “ใช่ ต่อไปท่านก็เป็นแม่ครัวประจำโรงกังหันน้ำของหมู่บ้านตระกูลหลิวแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ข้าก็ว่าแล้ว! หากไม่เลือกข้า เจ้าจะเลือกใคร ไม่มีใครเก่งไปกว่าข้าอีกแล้ว!”
นางเหอดีใจสุดๆ ความมั่นใจพุ่งทะลุถึงขีดสุด นางมองชาวบ้านรอบๆ ด้วยสายตาภาคภูมิใจ
อาจเพราะมีใจลำเอียงต่อคนในครอบครัว ฉินเหยาจึงรู้สึกว่านางน่ารักไม่น้อย
ฉินเหยาส่งสัญญาณให้พี่ใหญ่พาพี่สะใภ้ใหญ่ไปยืนอีกฝั่ง เพราะนางยืนขวางทางคนอื่นอยู่
หลิวไป่ยิ้มบางๆ พลางดึงภรรยาออกไป เรียกน้องชายแล้วพากันกลับบ้านไปทำงานต่อ อย่างไรเสีย ฉินเหยาก็พูดแล้วว่าพวกเขาแค่มาสมัครงานพอเป็นพิธีเท่านั้น
ในเมื่อยังมีเวลาก็ต้องรีบเก็บเกี่ยวอีกสองสามหมู่ จะได้ประหยัดเงินค่าจ้างคนงานระยะสั้นไปได้อีกหนึ่งวัน
อวิ๋นเหนียงเดินเข้ามาหาฉินเหยาด้วยความกังวล นางเป็นผู้สมัครคนสุดท้าย
“เฉียวอวิ๋น อายุยี่สิบสอง สมัครตำแหน่งช่างไม้” นางพูดตามแบบคนก่อนหน้า
ฉินเหยาจดบันทึกแล้วถาม “เจ้าทำอะไรได้บ้าง”
พอพูดถึงสิ่งที่ตัวเองถนัด อวิ๋นเหนียงก็ไม่ประหม่าอีกต่อไป ตอบออกมาอย่างคล่องแคล่ว “ขึงเชือกวัดแนว ขูดไม้ ลงน้ำมันเคลือบ เข้าเดือยประกอบ ทำได้หมด”
ฉินเหยามองนางด้วยความประหลาดใจ “เคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือ”
อวิ๋นเหนียงพยักหน้าหนักแน่น “เคย ข้าช่วยพ่อทำโต๊ะ เก้าอี้และม้านั่งตอนอยู่บ้าน”
ดังนั้น ฉินเหยาจึงจดเพิ่มในข้อมูลของนางว่า มีประสบการณ์มาก เป็นช่างไม้ตัวจริง
ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเขียนหรือวาดภาพมักจะพออ่านออกเขียนได้บ้างและนับเลขเป็นอยู่บ้าง
อวิ๋นเหนียงไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู แต่พอเผลอก้มลงไปก็เห็นคำว่า ช่างไม้ ที่ฉินเหยาจดลงในสมุด ทำให้นางรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ฉินเหยาลุกขึ้น เก็บสมุดกับพู่กัน “ยังมีใครต้องการสมัครอีกหรือไม่ หากไม่มี วันนี้ก็พอแค่นี้ ทุกท่านกลับไปรอฟังข่าวเถอะ ข้าจะไปปรึกษากับช่างไม้หลิวแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที”
ทุกคนยังมีงานในนา พอได้ยินดังนั้นก็พากันแยกย้ายกลับ
ฉินเหยาหันหลังเดินไปทางปากหมู่บ้าน เดินได้ไม่ถึงสองร้อยเมตรก็ถึงพื้นที่รกร้าง ซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าหมู่บ้านไม่ถึงสองนาที
พอเห็นฉินเหยา ช่างไม้หลิวก็กำชับให้ลูกมือสองคนทำงานต่อแล้ววางเลื่อยลงเดินออกมาถาม “รับสมัครคนได้กี่คน”
เมื่อครู่เขาเห็นว่าที่บ่อน้ำมีคนเยอะมาก
ฉินเหยาชี้ไปยังพื้นหญ้าริมทางแล้วทั้งสองก็นั่งลงตรงนั้น โดยใช้กิ่งไม้ที่ยื่นออกมาบังแดด
ฉินเหยาเปิดสมุดแล้วกล่าว “มีคนสมัครทั้งหมดยี่สิบสามคน ลบสองคนที่ทำงานกับท่านตอนนี้ออกไป เหลือสิบหกตำแหน่ง ส่วนแม่ครัว ข้าตกลงให้เป็นเหอฮวาพี่สะใภ้ใหญ่ข้า”
“ส่วนตำแหน่งขุดหิน มีหลิวไป่ หลิวจ้ง และหลานชายคนโตของผู้ใหญ่บ้าน หลิวฉี ตกลงแน่นอนแล้วสามคน”
“หลิวเฝยสมัครเป็นช่างเจียรหิน นับเป็นอีกหนึ่งคนและข้ามีคนแนะนำให้ท่านอีกหนึ่งคน เป็นช่างไม้มืออาชีพชื่อเฉียวอวิ๋น หรือก็คืออวิ๋นเหนียงบ้านพ่อค้าหาบเร่หลิวนั่นแหละ”
ช่างไม้หลิวรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับคนกลุ่มแรกจึงไม่แปลกใจ อีกทั้งสามพี่น้องหลิวไป่เป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว ยังต้องให้พวกเขาช่วยสอนคนอื่นเสียอีก
แต่อวิ๋นเหนียงผู้นี้นี่มันยังไงกัน?
“พวกเรามีแต่บุรุษ เจ้าให้สตรีอย่างอวิ๋นเหนียงมาทำงานด้วยไม่ค่อยดีกระมัง”
ฉินเหยาส่งสมุดข้อมูลรับสมัครงานให้เขาดู “เช่นนั้นท่านลองดูว่ามีใครน่าสนใจบ้าง”
ช่างไม้หลิวยิ้มขื่นอย่างจนใจ “ข้าอ่านไม่ออก เจ้าส่งให้ข้าดูก็ไม่มีประโยชน์”
“เช่นนั้นข้าจะอ่านให้ฟัง” ฉินเหยาเริ่มอ่านข้อมูลของผู้สมัครตำแหน่งช่างไม้ทั้งหมดรอบหนึ่ง
คิ้วของช่างไม้หลิวขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ คนพวกนี้เหตุใดถึงมั่นใจกันนัก ทำอะไรก็ไม่เป็นยังจะมาสมัครช่างไม้?
เพราะค่าจ้างสูงน่ะสิ ทุกคนเลยอยากมาลองเสี่ยงโชคดู เผื่อจะได้งาน อีกอย่าง คู่แข่งที่ฝีมือดีจริงๆ ก็มีอยู่แค่สองคนเท่านั้น
แต่พอได้ยินฉินเหยาอ่านถึงตรงที่เขียนว่า ‘มีประสบการณ์มาก เป็นช่างไม้’ ช่างไม้หลิวก็ชี้นิ้วอย่างตื่นเต้น “นี่อย่างไร! คนนี้แหละดี เอาคนนี้เลย!”
“นี่ก็คืออวิ๋นเหนียง” ฉินเหยาเลิกคิ้ว เหลือบมองเขาด้วยสายตาลำพอง
MANGA DISCUSSION