ตอนที่ 114 ช่วงเวลาสังหาร
หญิงสาวในเพิงพักใช้เวลาประมาณสองนาทีถึงรู้ตัวว่าตนรอดแล้ว
ตรงหน้ามีเงาดำเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง เงานั้นยืนย้อนแสงไฟที่ส่องมาจากด้านนอกทำให้มองเห็นเพียงโครงร่างเลือนราง แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง
กริชเล่มหนึ่งถูกโยนมา
“ฆ่ามันแล้วข้าจะพาเจ้าออกจากรังโจรนี้” ฉินเหยากล่าวเสียงต่ำ
ไม่ใช่คำถาม ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสั่งโดยสมบูรณ์ ไม่มีตัวเลือกที่สอง
มีเพียงหญิงสาวลงมือสังหารโจรด้วยมือตัวเอง พวกนางจึงจะถือว่าอยู่ฝ่ายเดียวกันและลดโอกาสที่หญิงสาวจะเปลี่ยนใจมาหักหลังตน
เป็นสตรีอย่างนั้นหรือ!
หญิงสาวที่นอนอยู่กับพื้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง อยากถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่กลับได้ยินเสียง ชู่ ก่อนและสัมผัสถึงไอสังหารอันเยียบเย็น นางจึงเงียบลงโดยไม่รู้ตัว
นางคลำหา หยิบกริชขึ้นมาแล้วดึงออกจากฝัก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สองมือกุมด้ามกริชแน่นแล้วแทงเข้ากลางอกของชายผู้นั้น!
แค่ครั้งเดียวไม่พอ นางแทงซ้ำอีกครั้ง
ฉินเหยาใช้มือปิดปากชายคนนั้นไว้ก่อนจึงไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา
“พอแล้ว”
เห็นหญิงสาวกำลังจะลงมือเป็นครั้งที่สาม ฉินเหยาจึงสั่งให้หยุด
คนนั้นตายสนิทแล้ว หากปล่อยให้เลือดไหลมากไปจะดึงดูดความสนใจของคนอื่น
โชคดีที่ชายคนนี้เพิ่งถูกตัดนิ้วไปวันนี้ กลิ่นเลือดในเพิงพักจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“เจ้าเป็นใคร” หญิงสาวถามเสียงสั่น ขณะกำกริชไว้แน่น
ความหวาดกลัวถึงขีดสุดทำให้นางไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของการฆ่าคนครั้งแรก หัวใจเต้นรัวจนเหมือนกลองกระหน่ำ นางเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรและต้องทำอะไรต่อ
ดังนั้น ทุกคำพูดของฉินเหยาในตอนนี้ สำหรับนางแล้วไม่ต่างจากคำสั่งของโปรแกรม ฉินเหยาพูดอะไร นางก็ทำตาม
ฉินเหยาไม่ตอบคำถามของนาง แต่ถามกลับแทน “เจ้าชื่ออะไร”
หญิงสาวตอบ “อินเยว่”
“เจ้ารู้ว่าเสี่ยงหวังคือคนไหนหรือไม่”
“อืม”
“คือชายในชุดนักปราชญ์ที่เพิ่งโยนเจ้ามาให้คนผู้นี้หรือ”
“ใช่”
“สามคนนั้นคือสามยอดฝีมือ?”
“ใช่”
“รู้ไหมว่าพวกมันนอนที่ไหน”
“ทั้งหมดอยู่ในถ้ำ มีแค่พวกเขาสี่คนที่ได้นอนในนั้น สามยอดฝีมือเก่งมาก คนหนึ่งจะนอนลืมตา หูไวมาก เสี่ยงหวังมักให้เขาเฝ้ายาม”
ฉินเหยาเลิกคิ้ว หญิงสาวพูดข้อมูลออกมามากขนาดนี้ ดูเหมือนจะเริ่มได้สติแล้ว
ภายในเพิงพักมืดมาก ฉินเหยามองไม่เห็นสีหน้าของหญิงสาวชัดเจน แต่สัมผัสได้ว่านางกำลังสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อย่ากลัว ข้าไม่ฆ่าเจ้า ข้อมูลที่เจ้าเพิ่งให้มา ถือเป็นค่าตอบแทนที่ข้าจะช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่”
พูดจบ นางก็ลากศพที่อยู่ข้างเท้าไปวางพิงไว้ที่มุมห้อง จัดท่าให้ดูเหมือนคนนอนหลับ
จากนั้นก็นั่งลงข้างประตูเพิงพัก
อินเยว่ถาม “เจ้าจะฆ่าเสี่ยงหวังหรือ”
ฉินเหยาไม่ตอบเพียงยื่นมือออกไปเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายคืนกริชเล่มนั้นมา
“ข้า… ข้าขอถือไว้อีกหน่อยได้หรือไม่ ข้ายังไม่มีอาวุธป้องกันตัว กริชเล่มนี้…”
“คืนมา!” ไม่รอให้อินเยว่พูดจบ ฉินเหยาก็คว้ากริชกลับมาเช็ดเลือดให้สะอาด ก่อนเหน็บไว้ที่เอว
ภายในเพิงพักเงียบสงัด อินเยว่พยายามฝืนตัวเองไม่ให้หลับ
การรอคอยยาวนาน แต่ฉินเหยาคุ้นชินกับมันแล้ว
พวกโจรภูเขาไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนนอกปะปนอยู่ในหมู่พวกมัน
ฉินเหยานั่งอยู่ริมเพิงพัก มองดูพวกมันดื่มกินจนเมามายและหมดสติไปเอง
กองไฟในค่ายค่อยๆ มอดลง เสียงกรนดังระงมไปทั่ว
ภายในถ้ำมีแสงไฟริบหรี่ เงาของชายร่างใหญ่เดินไปมาที่ปากถ้ำ ก่อนจะหาวเสียงดัง เอนตัวพิงหน้าผาแล้วหลับตา
แต่จากจังหวะการหายใจของอีกฝ่าย ฉินเหยารู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ได้หลับจริง
ไม่เป็นไร นางจะทำให้เขาหลับไปตลอดกาลเอง
ก้อนเมฆดำบดบังแสงจันทร์ รุ่งสางใกล้เข้ามา ช่วงเวลาล่าสังหารได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ฉินเหยาเดินออกจากเพิงพักอย่างไม่เกรงกลัว คนเฝ้าปากถ้ำเป็นเหมือนที่อินเยว่บอก เขาหูไวมาก พอได้ยินเสียงก็ตื่นขึ้นทันที หันขวับมองมา
ฟิ้ว! ลูกธนูพุ่งทะลวงผ่านอากาศ แรงมหาศาลเสียบทะลุคอหอยของเขาทันที
“อึก!” เสียงร้องสุดท้ายดังขึ้น ก่อนร่างนั้นจะทรุดลง
ฉินเหยาห้อตะบึงมายืนที่หน้าถ้ำ ใช้แสงไฟจากด้านในกวาดมองสามร่างที่หลับอยู่บนเตียงไม้ไผ่ด้านใน
นางก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว เดินผ่านคนที่ใกล้สุด ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันลืมตาตื่น นางก็ชักกริชออกมาแล้วปักเข้าที่ลำคอ
พอชักกริชออก เลือดสดๆ ก็พุ่งทะลัก ฉินเหยาเคลื่อนตัวไปยังเตียงถัดไปแล้ว
ชายคนนี้มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ มันดีดตัวลุกขึ้นหลบกริชของนางพร้อมคว้าดาบข้างเตียงขึ้นฟันใส่ฉินเหยา
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพละกำลังอันมหาศาล การต่อต้านนี้แทบจะไร้ค่า
สายธนูของฉินเหยาเฉียดผ่านคมดาบแล้วรัดแขนกำยำท่อนนั้นเอาไว้ ก่อนจะกดลงไปแรงๆ ทำให้อีกฝ่ายจำต้องปล่อยให้ดาบร่วงตกลงบนพื้น
ฉินเหยาชักดาบยาวในมือขวาขึ้นแล้วฟันลงไปในฉับเดียว! ศีรษะมนุษย์ก็กลิ้งตกลงบนพื้น!
“ผู้ใด…!?”
เสี่ยงหวังสะดุ้งลุกขึ้นนั่งจากเตียงไม้ไผ่ เสียงเพิ่งเปล่งออกมา ฉินเหยาก็กระโจนเข้าหา เหยียบอีกฝ่ายลงไปกับพื้น ใช้คันธนูในมือซ้ายรัดลำคอเขาไว้ ก่อนที่มือขวาจะฟาดดาบลงไปเต็มแรง!
โลหิตพุ่งกระเซ็นใส่หน้าฉินเหยา นางใช้หลังมือที่ถือดาบเช็ดละอองเลือดออก หยิบหัวสองหัวขึ้นมา แล้วจัดการตัดที่เหลือให้ครบสี่หัว มัดรวมใส่ไว้ในชุดนักปราชญ์ของเสี่ยงหวัง จากนั้นรีบวิ่งออกไปทันที
นางวิ่งสุดกำลังไปหาอินเยว่ กระชากนางขึ้นแล้วพากันมุดเข้าไปในป่าข้างทาง ขณะที่ในค่ายโจรยังไม่มีใครรู้เลยว่าเสี่ยงหวังกับสามยอดฝีมือไปเฝ้ายมบาลแล้ว
ฉินเหยาลากอินเยว่ไปจนถึงยอดเขา ก่อนจะหันกลับไปมองค่ายที่อยู่หน้าปากถ้ำบริเวณเชิงเขา นางยิ้มอย่างพึงพอใจ
นางวางห่อผ้าที่หนักอึ้งลง หยิบพลุสัญญาณออกจากอกเสื้อแล้วยิงขึ้นไปติดกันสองลูก
ปัง! ปัง! เสียงดังสนั่นดังจากยอดภูเขาอวี๋ฮว่า กลางท้องฟ้าก่อนรุ่งสางปรากฏพลุสองลูกส่องแสงสีแดงสว่างโชติช่วง
ที่เชิงเขา รองนายอำเภอที่กำลังจะหลับสะดุ้งตื่นขึ้นทันที เมื่อเงยหน้ามองฟ้าเห็นแสงสีแดงจ้า หัวใจก็ทั้งตื่นตกใจทั้งยินดี
ตื่นตกใจที่ฉินเหยาทำสำเร็จได้ตรงตามแผน
ยินดีที่เสี่ยงหวังตายแล้ว ที่ว่าการอำเภอได้สร้างผลงานแล้ว!
“ตื่น! ทุกคนตื่นเดี๋ยวนี้!”
ทหารเวรรีบปลุกทุกคนขึ้นมา ทหารทั้งหมดสามสิบหกนายบุกขึ้นไปบนภูเขาอวี๋ฮว่าด้วยท่าทีฮึกเฮิมราวกับถูกฉีดเลือดไก่อย่างนั้น
ในค่ายโจร พวกโจรเองก็สังเกตเห็นพลุสัญญาณที่ฉินเหยายิงออกไปแล้ว ในที่สุดก็เริ่มมีคนรู้สึกถึงความผิดปกติ พอพุ่งไปดูที่ถ้ำก็พบศพไร้หัวสี่ร่าง เสี่ยงหวังกับสามยอดฝีมือถูกฆ่าตายหมดแล้ว!
“ราชาตายแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นมา ทั้งค่ายเกิดความโกลาหลขึ้นทันที
ขณะที่พวกเขายังไม่รู้จะทำอย่างไรนั้น ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นพร้อมเสียงนกหวีดเตือนภัยดังขึ้นจากแนวเฝ้ายาม
“ทหารทางการบุกขึ้นมาแล้ว!!!”
ยังเอ่ยไม่ทันจบ ฉินเหยาก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังอีกฝ่ายกะทันหันแล้วฟันดาบลงไปสังหารคนทันที
จากนั้น นางก็จัดการพวกโจรหน้ารั้วกั้นแล้วอาศัยพละกำลังอันมหาศาล ยกรั้วไม้สูงสองเมตรออก เปิดประตูใหญ่ให้เหล่าทหารบุกเข้ามา
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกโจรจนตรอกแล้วสู้แลกชีวิต นางจึงเปิดช่องทางหนึ่งเอาไว้ให้พวกเขาเห็นความหวังในการหลบหนีออกไป
ช่วยจัดการให้ถึงเพียงนี้แล้ว หากพวกทหารยังปราบโจรไม่ได้ ฉินเหยาคงกระอักเลือดออกมาแน่
โชคดีที่พอนางถอยกลับไปสมทบกับอินเยว่ที่บนยอดเขา ทหารกลุ่มใหญ่ของทางการก็บุกทะลวงเข้ามาในค่ายโจร ในชั่วพริบตาก็สังหารและจับเป็นพวกโจรรวมกว่าแปดสิบคน
ส่วนพวกที่เหลืออีกสิบกว่าคนที่พยายามหนีออกไปก็ถูกทหารกลุ่มย่อยของรองนายอำเภอที่ซุ่มรออยู่จับกุมได้ทั้งหมด
MANGA DISCUSSION