บทที่ 58 กลับไม่ถึงบ้าน
จากนั้นสายตาของทั้งสามคนก็มองไปยังเรือนร่างของหลี่เฟยฮวาอย่างน่าขยะแขยง
“หัวหน้า ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยมาก พวกเรา…”
หลี่เฟยฮวาได้ยินเสียงสกปรกเหล่านั้น สายตาของเธอก็มืดมัวลง
ฉินลี่ลี่นี่ก็ช่างโหดร้ายเกินทน ในยุคนี้คนที่มีความคิดสุดโต่งจะสงสัยและโทษผู้ถูกกระทำก่อน ว่าเป็นเพราะสายตาของผู้ถูกกระทำยั่วยวนหรือแต่งตัวไม่เรียบร้อย
ไม่ว่าเมื่อไร ผู้หญิงก็มักจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในเรื่องเพศเสมอ
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ฉินลี่ลี่เลือกใช้วิธีนี้ในการทำลายเธอ
หลี่เฟยฮวาพยายามตั้งสติให้มั่น “พวกแกกล้าจริง ๆ นะ รู้ไหมว่าสามีฉันเป็นใคร”
เธอพูดพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ
บริเวณนี้เงียบเหงามาก ไม่ค่อยมีใครเดินผ่าน คนทั้งสามคงจะตามเธอมาตลอดทาง
ถ้าจะวิ่งหนี เธอคงไม่สามารถวิ่งหนีผู้ชายหลายคนได้ อีกอย่าง เธอเคยมาแถวนี้แค่ครั้งเดียว จึงไม่ค่อยคุ้นเคยเส้นทางนัก
ฝ่ามือของหลี่เฟยฮวาเริ่มมีเหงื่อซึม แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง “สามีของฉันเป็นหัวหน้ากองร้อย รู้ไหมว่าถ้าแตะต้องฉันจะเป็นยังไง”
พวกนักเลงตัวเล็ก ๆ ตกตะลึงไปชั่วขณะ
ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้ากองร้อยหรือผู้บังคับกองพัน พวกเขาไม่รู้จักตำแหน่งทางทหารพวกนี้เลย
แต่ฟังจากน้ำเสียงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหัวหน้ากองร้อยจะไม่ใช่คนที่ควรเข้าไปยุ่งสักเท่าไร และผู้หญิงที่สั่งให้พวกเขาลักพาตัวหลี่เฟยฮวามาก็บอกว่าสามีของเธอเป็นทหาร
ในชั่วพริบตา ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างลังเล
ถ้านี่เป็นคนธรรมดา พวกเขาก็ไม่สนใจหรอก ปกติพวกเขาก็ทำเรื่องขโมยไก่ขโมยหมาอยู่แล้ว เด็กสาวที่ถูกพวกเขาทำให้เสียหายกลับบ้านไปก็ไม่กล้าแจ้งความกันทั้งนั้น
แต่ภรรยาทหารนั้นไม่เหมือนกัน ถึงพวกเขาจะกล้าแค่ไหน ก็ไม่อยากยุ่งกับญาติของทหาร
“พวกแกต้องคิดให้ดีถึงผลที่จะตามมา ถ้าฉันเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว พวกแกหนีไม่พ้นแน่ แต่ถ้าวันนี้พวกแกปล่อยฉันไป ฉันจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และจะไม่มาหาเรื่องพวกแกอย่างแน่นอน ขอเสนอนี้เป็นไง”
คำพูดของหลี่เฟยฮวาทำให้พวกเขาทั้งสามคนยิ่งลังเลมากขึ้น
“ไม่ถูก!”
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อนวมสีดำตัวใหญ่ก็นึกขึ้นได้
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้บอกว่ายัยนี่เป็นภรรยาทหารนะ แถมดูเธอยังเด็กขนาดนี้ ใครจะรู้ว่าเธอบรรลุนิติภาวะหรือยัง บางทีอาจจะโกหกพวกเราก็ได้”
พวกนักเลงอีกสองคนรู้สึกตัวในทันที
หลี่เฟยฮวารู้สึกได้ถึงสายตาคุกคาม เมื่อเห็นพวกนักเลงค่อย ๆ เข้ามาใกล้ เธอไม่คิดอะไรมาก หันหลังวิ่งหนีทันที
ลมเย็นพัดปะทะใบหน้าของเธอ จากความเจ็บแสบกลายเป็นชา
เธออยากวิ่งไปยังที่ที่มีคนหมู่มากโดยเร็ว อยากวิ่งออกไปเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ
แม้กระทั่งได้ยินเสียงหอบหายใจของตัวเอง แต่เธอไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คิดเพียงแค่ว่าเธอต้องวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ทันใดนั้น ผมของเธอก็ถูกกระชากอย่างแรงจากด้านหลัง กระเป๋าสะพายบนตัวเธอร่วงลงพื้น กระดาษและหนังสือแปลภาษากระจัดกระจายไปทั่ว
เพียะ!!!
ฝ่ามือหนาฟาดลงบนใบหน้าของหลี่เฟยฮวาอย่างแรงจนเสียงดังสนั่น
หลังจากนั้นประสาทการรับรู้ทั้งหมดของเธอก็ดับวูบลง
……
วันนี้หวงหมิงลู่ฝึกซ้อมเสร็จเร็วกว่าปกติ เขารีบร้อนกลับบ้านจนหวังอวี่ชุนที่อยู่ข้าง ๆ อดแซวไม่ได้ “จุ๊ ๆ ผู้ชายนี่พอแต่งงานแล้วก็ไม่เหมือนเดิมจริง ๆ แต่ก่อนนะ อยากจะอยู่ในสนามฝึกทั้งวัน ตอนนี้พอฝึกเสร็จก็อยากจะวิ่งกลับบ้านให้ไวที่สุดเลย!”
หวงหมิงลู่หันไปมองค้อนเพื่อนสนิทแต่ก็ไม่ได้เถียง เพราะเขานึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุขกับหลี่เฟยฮวา ช่วงแรก ๆ ทั้งคู่ไม่ค่อยลงรอยกัน เขาก็พยายามเลี่ยงปะทะ
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป พอกลับถึงบ้าน หลี่เฟยฮวาจะตั้งใจทำงานอยู่ที่โต๊ะ หรือไม่ก็นอนคว่ำหน้าอยู่ พอได้ยินเสียงประตูเปิด เธอก็จะเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมโตเป็นประกายแวววาวเหมือนลูกแมวน้อย พูดว่า ‘หวงหมิงลู่ คุณกลับมาแล้ว!’
ระหว่างกินข้าว หลี่เฟยฮวาก็จะชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกที่ขาดหายไป กำลังถูกเติมเต็มโดยหลี่เฟยฮวา
หวงหมิงลู่คิดแล้วก็ยิ้ม “นายไม่เข้าใจหรอก”
พูดจบหวงหมิงลู่ก็เร่งฝีเท้า เขาคิดถึงภรรยาจะแย่อยู่แล้ว
หวังอวี่ชุนเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่งเสียงแซว “นี่ ฉันยังโสดอยู่เลยนะ คืนนี้จะให้ฉันไปกินข้าวที่บ้านด้วยได้ไหมเนี่ย”
จริง ๆ แล้วหวังอวี่ชุนอยากไปบ้านหวงหมิงลู่นานแล้ว ตอนที่หวงหมิงลู่ยังไม่แต่งงาน พวกเขาก็มักจะไปกินข้าวด้วยกัน แต่พออีกฝ่ายแต่งงาน หลี่เฟยฮวาก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าพวกเขาเท่าไหร่ เขาและเพื่อนคนอื่น ๆ ก็กลัวจะเป็นภาระหวงหมิงลู่ เลยไม่ได้ไปรบกวนอีก
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าหลี่เฟยฮวาเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะยินดีต้อนรับพวกเขาหรือเปล่า “เอาเถอะ ถ้าหลี่เฟยฮวาทะเลาะกับนายอีกจะแย่เอา”
ไม่รู้ว่าประโยคไหนไปโดนใจหวงหมิงลู่ เขาถึงตอบตกลง “หลี่เฟยฮวาเพิ่งจะหัวแตกมา เธอจำอะไรหลาย ๆ อย่างไม่ได้ นิสัยเลยเหมือนเด็ก ๆ เธอน่าจะยินดีต้อนรับพวกนายนะ”
หวงหมิงลู่มั่นใจในคำพูดของตัวเองมาก
แต่หวังอวี่ชุนกลับรู้สึกแปลก ๆ “จำไม่ได้เหรอ?”
อีกฝ่ายพยักหน้า “อืม หลังจากเสร็จการฝึกครั้งนี้ ฉันจะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลดี ๆ”
หวังอวี่ชุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันว่านิสัยของหลี่เฟยฮวาตอนนี้ก็น่ารักดีนะ ถ้าตรวจแล้วรักษาหาย นิสัยกลับไปแย่เหมือนเดิมจะทำยังไง ปล่อยไว้แบบนี้ก็ดีแล้วนี่”
หวงหมิงลู่เงียบไป เมื่อคืนเขาก็คิดแบบนี้เหมือนกัน เมื่อเทียบกับหลี่เฟยฮวาคนก่อน ตอนนี้เธอน่ารักกว่าเป็นไหน ๆ
แต่เขาจะเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้ นิสัยใจคอเปลี่ยนไปไม่เป็นไร แต่ถ้าสมองมีปัญหา อาจเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
“ไปกันเถอะ” เขาไม่ได้ตอบเพื่อนสนิทตรง ๆ แล้วพาอีกฝ่ายกลับไปบ้านพัก
พอถึงบ้าน หวงหมิงลู่ก็เคาะประตู แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
ปกติเขาจะพกกุญแจสำรองไว้ จึงเปิดประตูเข้าไปเอง
ภายในบ้านยังคงเหมือนเดิม ผ้าห่มบนเตียงในห้องนอนยังเป็นก้อนกลมอยู่อย่างนั้น
ถ้าเป็นปกติ พอหลี่เฟยฮวากลับมาบ้าน เธอจะนอนพักบนเตียง แล้วคลี่ผ้าห่มที่เป็นก้อนให้กางออก
“นี่ก็ห้าโมงเย็นแล้ว หลี่เฟยฮวายังไม่กลับมาอีกเหรอ?” หวังอวี่ชุนเห็นห้องโล่ง ๆ ก็อดสงสัยไม่ได้
หวงหมิงลู่ขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
รถของกองทัพจะกลับมาประมาณสี่โมงเย็น พอลองคำนวณเวลาดู หลี่เฟยฮวาควรจะถึงบ้านแล้ว
หวังอวี่ชุนเห็นสีหน้าหวงหมิงลู่ไม่ค่อยดี จึงรีบปลอบ “อาจจะมีธุระอะไร เลยกลับช้ามั้ง”
หวงหมิงลู่ส่ายหน้า “เมื่อคืนเธอบอกว่าทำธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับ เป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดรถ”
ว่าแล้วเขาก็รีบเข้าไปในห้องหลี่เฟยฮวา หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา บนนั้นมีเบอร์โทรศัพท์อยู่ชุดหนึ่ง
เขานึกขึ้นได้ว่าเธอเคยบอกว่า นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ของโรงสีข้าวอู่ซิน
หวงหมิงลู่ไม่รอช้า รีบไปที่สำนักงาน ปกติช่วงเย็น ๆ โทรศัพท์ในสำนักงานจะมีคนใช้เยอะ หวงหมิงลู่รอจนคนข้างหน้าวางสาย แล้วรีบโทรออกตามเบอร์บนกระดาษทันที
ณ โรงสีข้าวอู่ซิน
อู่ไฉวั่งกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน ก็มีพนักงานมาบอกว่ามีคนโทรศัพท์มาหา
พอรับสายก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำ บอกว่าเป็นสามีของหลี่เฟยฮวา
อู่ไฉวั่งถึงกับงงไปพักหนึ่ง แต่เขาก็จำได้เรื่องที่เธอแต่งงานแล้ว
“เถ้าแก่ครับ ขอถามหน่อยครับว่า หลี่เฟยฮวาออกไปตอนไหนครับ?”
อู่ไฉวั่งนึกอยู่ครู่หนึ่ง “วันนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานคุยกับหลี่เฟยฮวานานหน่อย เรื่องแบบแปลน ออกไปน่าจะประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง ตอนแรกฉันจะไปส่งเธอ แต่เธอบอกว่าต้องไปส่งงาน แล้วก็จะไปซื้อเนื้อที่ร้านสหกรณ์ เลยไม่ได้ให้ฉันไปส่ง”
พูดไป อู่ไฉวั่งก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ “หลี่เฟยฮวายังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”
MANGA DISCUSSION