บทที่ 4 ช่วยชีวิตคน
หวงหมิงลู่พับผ้าห่มที่เอามาด้วยเมื่อคืนอย่างเรียบร้อย พอเห็นสายตาที่มองมาของหญิงสาวจึงเอ่ยถาม “มีอะไรหรือเปล่า? ถึงทำหน้าแบบนั้น”
หลี่เฟยฮวารีบส่ายหน้า “เปล่า ๆ! กลับบ้านกันเถอะ อยู่ที่นี่มันนอนไม่สบาย เมื่อคืนเหงื่อออกเยอะมาก รู้สึกเหนียวตัวไปหมด!”
หวงหมิงลู่พยักหน้ารับ เขาเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะพาหลี่เฟยฮวาออกจากโรงพยาบาล
เช้านี้อากาศสดใส หวงหมิงลู่ขอลาหยุดหนึ่งวันเพื่อมาดูแลหลี่เฟยฮวา ระหว่างทางแวะร้านสหกรณ์ ซื้อเนื้อหมูอวบ ๆ สองจิน เอาใจคนป่วยสักหน่อย
หลี่เฟยฮวายังคงมีอาการอ่อนเพลีย ทำให้เดินไม่ค่อยถนัด หวงหมิงลู่จึงคอยประคองอยู่ข้าง ๆ อย่างใจเย็น เขาแปลกใจไม่น้อยที่หญิงสาวไม่ได้แสดงท่าทีฮึดฮัดแต่อย่างใดที่เขาเข้ามาใกล้
ทันใดนั้น เสียงร้องไห้โหยหวนก็ดังมาแต่ไกล! ทั้งคู่เร่งฝีเท้าไปยังต้นเสียง พบฝูงชนมุงดูเหตุการณ์ระทึก เด็กน้อยคนหนึ่งกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดในลำธารเย็นเฉียบ น้ำเกือบจะท่วมหัวอยู่แล้ว!
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยลูกฉันที!”
แม่ของเด็กทรุดลงร้องคร่ำครวญแทบขาดใจอยู่ที่ข้างฝั่ง ผู้คนรอบข้างได้แต่ยืนมองเป็นตาเดียว ไม่มีใครกล้าลงไปช่วย!
ทันใดนั้น สายตาของผู้เป็นแม่ก็เหลือบไปเห็นหวงหมิงลู่ เหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เธอพุ่งเข้ามาคว้าแขนของหวงหมิงลู่ไว้แน่น “หวงหมิงลู่! ช่วยลูกชายฉันด้วย! เขาจมน้ำไปตั้งนานแล้ว ฮือ ๆ ๆ ถ้าเขาเป็นอะไรไป ฉันก็ไม่ขออยู่ต่อแล้ว!”
หลี่เฟยฮวาแอบยิ้มมุมปาก เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ‘จางอี้เฉิน’ หนึ่งในสมาชิกแก๊งนกกระจิบ ที่ซุบซิบนินทาเธอเมื่อบ่ายวานนี้ยังไงล่ะ!
แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าชีวิตน้อย ๆ หวงหมิงลู่ไม่รอให้เสียเวลา รีบถอดเสื้อคลุมออก แล้วโดดลงไปช่วยเด็กน้อยขึ้นมาจากน้ำอย่างไม่ลังเล
อากาศในช่วงนี้หนาวจัด อุณหภูมิต่ำมากเพียง 4-8 องศา ยิ่งกว่าตู้แช่แข็งซะอีก แค่ไม่กี่วันก่อนหิมะเพิ่งโปรยปรายลงมา ตอนนี้แม่น้ำกลายเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งไปแล้ว
อยู่ ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อมีคนเห็นเด็กตัวน้อยจมอยู่ในแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง! ทุกคนต่างตกใจ และไม่กล้าลงไปสู้กับน้ำที่เย็นเฉียบ แต่พอเห็นหวงหมิงลู่รีบพุ่งตัวลงไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิต พวกเขาจึงอาสาช่วยกันดึงร่างของเด็กน้อยขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ
แต่โชคร้าย ใบหน้าของเด็กน้อยซีดเผือด ปากเขียวคล้ำ ท้องป่องเหมือนลูกโป่ง ชัดเจนเลยว่าเจ้าหนูน้อยหยุดหายใจไปแล้ว!
“รีบพาส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!” หวงหมิงลู่ร้องตะโกนอย่างร้อนรน
ท่ามกลางความโกลาหล หลี่เฟยฮวาที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็พูดขึ้นมาเสียงดังฟังชัด “หยุดก่อน!”
ทุกคนต่างหันไปมองหลี่เฟยฮวาด้วยความสงสัย หวงหมิงลู่ถึงกับขมวดคิ้ว
หลี่เฟยฮวารีบอธิบาย “กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลก็ปาเข้าไปสิบนาทีแล้ว แต่รู้ไหมว่าเวลาทองในการช่วยชีวิตคนจมน้ำมีแค่สี่นาทีเท่านั้น”
คำพูดของหลี่เฟยฮวาเหมือนเป็นคำพิพากษาชีวิตของเด็กน้อย จางอี้เฉินถึงกับปล่อยโฮออกมาด้วยความสิ้นหวัง
แต่ทันใดนั้น หลี่เฟยฮวาก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เธอคุกเข่าลงข้าง ๆเด็กน้อย แล้วเริ่มกดหน้าอกของเด็กน้อยอย่างรวดเร็วและมีจังหวะ
“โอ้สวรรค์! นี่เธอทำอะไรอยู่เนี่ย!” จางอี้เฉินร้องเสียงหลง สีหน้าตื่นตระหนกสุดขีด
ในช่วงชีวิตที่แล้ว หลี่เฟยฮวาเคยผ่านการฝึกอบรมช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานมาก่อน ตอนทำโปรเจกต์ใหญ่ ๆ กับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เธอจึงรู้วิธีที่ถูกต้องในการกู้ชีพ
จางอี้เฉินพยายามดึงหลี่เฟยฮวาออก แต่เธอกลับนิ่งราวกับหินผา มือน้อย ๆ กดลงบนหน้าอกของเด็กน้อยอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อเสียงกรีดร้องรอบข้าง แถมยังใจเย็นเช็ดคราบโคลนและสิ่งแปลกปลอมออกจากปากและจมูกของเจิ้งมู่หยางอย่างคล่องแคล่ว
จางอี้เฉินถึงกับไปไม่เป็น ท่าทางของหลี่เฟยฮวาดูเชี่ยวชาญราวกับมืออาชีพ เธอมองภาพตรงหน้าด้วยความตะลึงงัน
หวงหมิงลู่ใจคอไม่ดี เขากลัวว่าเด็กน้อยจะเป็นอะไรไป แต่พอเห็นท่าทางของหลี่เฟยฮวา เขาก็ชะล่าใจ ทันใดนั้น ก็มีเสียงหวานใสดังขึ้นจากฝูงชน “เกิดอะไรขึ้นคะ”
หลี่เฟยฮวาหันขวับไปตามเสียง ร่างสูงเพรียวในเสื้อโค้ทสีดำเดินฝ่าฝูงชนเข้ามา ใบหน้าคุ้นเคยปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา ฉินลี่ลี่! ผู้หญิงที่อยู่กับเจ้าของร่างเดิมในวันที่เกิดอุบัติเหตุ!
ฉินลี่ลี่ไม่ทันได้สังเกตเห็นหลี่เฟยฮวา สายตาของเธอมุ่งตรงไปยังร่างน้อยที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “พี่อี้เฉิน มู่หยางตกลงไปในน้ำเหรอคะ นั่งเฉยทำไม รีบพาไปโรงพยาบาลสิ!”
จางอี้เฉินเหมือนถูกสะกิดต่อม เทียบกับหลี่เฟยฮวาที่ความรู้ทางการแพทย์เป็นศูนย์ ฉินลี่ลี่ที่เคยเป็นพยาบาลมาก่อน ย่อมน่าเชื่อถือกว่าเป็นร้อยเท่า!
“ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่ได้! หวงหมิงลู่ หนูน้อยยังมีโอกาสรอด ช่วยเชื่อใจฉันนะ!” หลี่เฟยฮวาราวกับเทพเจ้าที่กำลังต่อสู้กับยมทูตเพื่อแย่งชิงลมหายใจของหนูน้อยเจิ้งมู่หยางกลับคืนมา สายตาของเธอแน่วแน่มุ่งมั่น มีเพียงแวบเดียวเท่านั้นที่หันไปมองหน้าฉินลี่ลี่ ก่อนจะกลับไปตั้งใจทำภารกิจกู้ชีพต่อ
“แต่หลี่เฟยฮวา การจมน้ำไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ! ฉันเคยเป็นพยาบาลมาก่อน ในสถานการณ์แบบนี้ การพาไปโรงพยาบาลคือทางเลือกที่ดีที่สุด…” ฉินลี่ลี่ดูเป็นกังวล
“เธอนี่! หยุดพูดสักทีได้ไหม!” หลี่เฟยฮวาตัดบททันควัน เธอมองหน้าฉินลี่ลี่อย่างเอาจริงเอาจัง ก่อนจะประกาศกร้าวว่า “หนูน้อยเจิ้งมู่หยางจมน้ำมาเกือบสิบนาทีแล้วนะ ถ้ารอไปโรงพยาบาล คงไม่ทันการณ์หรอก หวงหมิงลู่ ช่วยหารถให้ที การปั๊มหัวใจจะหยุดทำไม่ได้เด็ดขาด!”
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยียังไม่ทันสมัย การช่วยชีวิตแบบฉุกเฉินจึงเป็นเรื่องท้าทาย แม้แต่ทฤษฎีช่วยชีวิตในสี่นาทีทองคำ ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน
แม้อำเภอต้าซิงจะเป็นเมืองเศรษฐกิจดี แต่ก็ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย การกู้ชีพด้วยวิธีปั๊มหัวใจจึงเปรียบเสมือนแสงสว่างสุดท้ายที่ปลายอุโมงค์
ฉินลี่ลี่มองหลี่เฟยฮวาด้วยความไม่เข้าใจ เหมือนกับกำลังมองเด็กน้อยที่ทำเรื่องเกินตัว เธอหันไปพูดกับหวงหมิงลู่ว่า “ตอนที่ฉันเป็นพยาบาล ฉันเคยเจอเด็กจมน้ำแบบนี้ แต่เพราะไปโรงพยาบาลไม่ทัน เด็กคนนั้นก็เลย…” ฉินลี่ลี่เว้นวรรค น้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้โรงพยาบาลอยู่ใกล้แค่นี้ ยังมีความหวัง หลี่เฟยฮวา… อย่าดื้อเลยนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก ใครจะรับผิดชอบ!”
แต่หลี่เฟยฮวาไม่สนใจเสียงรอบข้าง เธอยังคงมุ่งมั่นกับการปั๊มหัวใจต่อไป
หวงหมิงลู่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย คำพูดที่หนักแน่นของหลี่เฟยฮวา ‘เชื่อใจฉัน’ ดังก้องอยู่ในหัว เขาตัดสินใจทันที “ฉันเชื่อใจหลี่เฟยฮวา ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจิ้งมู่หยาง ฉันจะรับผิดชอบเอง!”
“พี่มันบ้าไปแล้ว!” ฉินลี่ลี่ร้องลั่น ตากลม ๆ จ้องหวงหมิงลู่อย่างไม่อยากจะเชื่อ หลี่เฟยฮวาไม่ใช่หมอด้วยซ้ำ เธอจะช่วยชีวิตคนได้ยังไง?
หลี่เฟยฮวาถึงกับจะเงยหน้าขึ้นมาผสมโรง แต่ก็ต้องก้มหน้าลงไปช่วยปั๊มหัวใจต่ออย่างรวดเร็ว งานนี้ชีวิตคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย เถียงกันไปก็เท่านั้น!
ทันใดนั้นเอง เจิ้งมู่หยางที่นอนแน่นิ่งเหมือนคนตาย ก็สำลักน้ำโคลนสกปรกออกมาพรวดพราด! ท้องที่ป่องก็ยุบลงอย่างเห็นได้ชัด
เจิ้งมู่หยางยังอยู่ในอาการมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้แค่ว่าตอนนี้เจ็บหน้าอกไปหมด ทั้งอึดอัด แสบร้อน ทรมานไปทั้งตัว จนอดร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดไม่ได้
เสียงโห่ร้องของชาวบ้านดังสนั่นราวกับได้รับชัยชนะ! เด็กน้อยรอดแล้ว!
ฉินลี่ลี่มองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ นี่มันหลี่เฟยฮวา ผู้หญิงไร้ค่าที่เคยรู้จักจริง ๆ น่ะเหรอ?!
แต่หลี่เฟยฮวาไม่สนใจสายตาใคร ตอนนี้เธอมีแต่ความโล่งอก เห็นท้องของเด็กน้อยขยับขึ้นลงตามลมหายใจ
MANGA DISCUSSION