บทที่ 19 ฉันซื้อมาฝากคุณ
“หวงหมิงลู่!” ดวงตาของหลี่เฟยฮวาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ราวกับเห็นดาวตกในยามค่ำคืน “ทำไมคุณมาที่นี่ มารับฉันเหรอ?”
หวงหมิงลู่เม้มปาก ชั่วขณะไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ราวกับมีผีเสื้อบินว่อนอยู่ในท้อง
หลังจากฝึกลูกน้องในหน่วยกองร้อยเสร็จ เขาก็ต้องนวดขมับเพราะข้าวของมากมายที่มาส่งถึงบ้าน แต่ความโกรธเล็ก ๆ ของเขาก็ค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเห็นว่าฟ้ามืดลงแล้วหลี่เฟยฮวายังไม่กลับ ในใจอดเป็นห่วงไม่ได้ เหมือนมีเชือกที่มองไม่เห็นดึงเขาอยู่
หวงหมิงลู่คิดสักครู่ แล้วตัดสินใจพูดความจริงออกมา “เห็นเธอยังไม่กลับ ก็เลยมารออยู่ที่นี่สักพัก วันนี้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง?”
หลี่เฟยฮวาเดินไปพร้อมกับเขา พลางพูดอย่างยิ้มแย้ม “ฉันไปซื้อของกับพี่อี้เฉินที่ร้านสหกรณ์กับตลาด แล้วตอนบ่ายก็เกิดเรื่องนิดหน่อย”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” หวงหมิงลู่เลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ฉันไปโรงสีข้าวอู่ซินมาน่ะ พอดีเครื่องสีข้าวของเถ้าแก่เก่ามากจนใช้งานไม่ได้ ฉันเลยไปเป็นล่ามให้กับช่างชาวต่างชาติ และคิดว่า… จะซ่อมเครื่องสีข้าวให้เถ้าแก่”
หลี่เฟยฮวาตอบไปตามตรง เธอยังต้องไปที่โรงสีข้าวอีกครั้ง จึงไม่อยากโกหกคนที่เจอหน้ากันทุกวันอย่างหวงหมิงลู่
“เธอจะเป็นคนซ่อมเองเหรอ?” หวงหมิงลู่ถามเสียงเข้ม ตอนแรกคิดว่าเธอล้อเล่น แต่ด้วยนิสัยของเธอ เขาก็รู้ว่าเธอพูดความจริง
หลี่เฟยฮวาพยักหน้า “คุณไม่เชื่อฉันเหรอ ก็แหงล่ะ เราเพิ่งแต่งงานกันได้สี่เดือนเองนี่ ฉันยังมีอะไรที่คุณไม่รู้อีกเยอะเลยนะ”
หวงหมิงลู่มองผ้าพันแผลบนหัวของหลี่เฟยฮวาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองทางข้างหน้า ยิ่งอยู่กับเธอก็ยิ่งเจอกับเรื่องน่าประหลาดใจ แม้เขาจะแต่งงานกับเธอได้ไม่นาน แต่ก็พอรู้เรื่องราวของเธอมาบ้าง เธอดูไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นเลย จะให้เขาเชื่ออย่างสนิทใจได้ยังไง
เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องที่เขากังวลที่สุดคือการที่เธอจะไปซ่อมเครื่องสีข้าว เพราะตอนนี้เธอก็ยังถือว่าเป็นคนป่วย ตอนที่เขาไม่ได้อยู่ข้าง ๆ จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากบังคับเธอ
ความกังวลฉายชัดในแววตาของหวงหมิงลู่จนหลี่เฟยฮวาสังเกตเห็น เธอเดินเร็วกว่าชายหนุ่มสองสามก้าว ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แล้วยื่นมือไปลูบแขนของเขาอย่างต้องการปลอบประโลม “ฉันทำได้ ไม่ต้องห่วง ภรรยาของคุณน่ะเก่งที่สุดแล้ว!”
ใบหน้าเปื้อนยิ้มและคำพูดนั้นของหญิงสาวทำให้หวงหมิงลู่ราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ ความรู้สึกดีแล่นปราดเข้ามาในใจของเขา จนไม่อาจละสายตาจากภาพตรงหน้าได้
หลี่เฟยฮวาเห็นหวงหมิงลู่เอาแต่จ้องเธอโดยไม่พูดอะไร ก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา เธอจึงคว้าแขนของเขาแล้วเดินดุ่ม ๆ ไปที่บ้าน
“รีบเดินกันเถอะ ข้างนอกหนาวจะแย่แล้ว!”
หลี่เฟยฮวาเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะพบกับกล่องใหญ่หลายใบวางอยู่
“ของที่ฉันซื้อนี่!” หลี่เฟยฮวารีบเดินไปสำรวจกล่องแต่ละใบที่เต็มไปด้วยข้าวของ แล้วหันไปมองหวงหมิงลู่ที่อยู่ด้านหลัง
“ฉันซื้อของที่จำเป็นทั้งนั้นเลยนะ อีกอย่าง เงินยังเหลือ!” เธอพูดพร้อมกับตบกระเป๋าเงินที่อยู่ในเสื้อโค้ท ไม่ต้องการให้เขารู้สึกแย่ เพราะคิดว่านิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของเจ้าของร่างเดิมยังแก้ไม่หาย
พอเห็นท่าทางแบบนั้นของหญิงสาว ความโกรธในใจของหวงหมิงลู่ก็หายไปหมดแล้ว เขาเอ่ยกับเธออย่างนึกเอ็นดู “อืม งั้นฉันไปทำอาหารเย็นก่อนนะ”
หลี่เฟยฮวาพยักหน้าให้เขา ก่อนจะเริ่มจัดแจงข้าวของที่ซื้อมาให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็มานั่งกินข้าวกับหวงหมิงลู่ที่โต๊ะ
“ฉันซื้อนี่มาฝากคุณด้วย” หลี่เฟยฮวายกถุงเล็ก ๆ ถุงหนึ่งมาวางบนโต๊ะ ขณะพูดคุยและถามไถ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้อีกฝ่ายฟังหลังกินข้าวเสร็จ
หวงหมิงลู่เลิกคิ้ว มองขนมชิงถวนตรงหน้าที่ถูกจัดวางใส่กล่องอย่างสวยงาม ในใจพลันรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้ง
“ฉันเห็นว่าคุณทำงานมาเหนื่อย ๆ ควรจะได้กินของอร่อย ๆ บ้างน่ะ” หลี่เฟยฮวายิ้มให้เขา “พี่อี้เฉินบอกว่าร้านนี้ทำขนมอร่อยมาก”
ตั้งแต่เธอข้ามเวลามาอยู่ในยุค 70 เธอไม่เคยโดดเดี่ยวเลย หวงหมิงลู่ทำทุกอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ เธอจึงอยากตอบแทนเขาบ้าง แม้จะเป็นแค่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
“ขอบใจนะ” หวงหมิงลู่ไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้ให้เขา เป็นครั้งแรกหลังจากแต่งงานที่หญิงสาวไม่ลืมนึกถึงเขา แววตาจริงใจของหลี่เฟยฮวา ทำให้หัวใจของเขามีชีวิตชีวา
รอยยิ้มบางถูกส่งไปให้หลี่เฟยฮวา พร้อมกับขนมชิงถวนหนึ่งลูก “กินด้วยกันสิ”
หลี่เฟยฮวารับมา ก่อนจะกัดไปคำหนึ่งอย่างอารมณ์ดี หวงหมิงลู่มองภาพนั้นด้วยแววตาเป็นประกายราวกับนักเดินทางที่พบเจอดาวเหนือของตัวเอง
‘ถ้าเธอเป็นแบบนี้ตลอดไปก็คงจะดี’ หวงหมิงลู่คิดในใจ
วันนี้หลี่เฟยฮวาได้ใช้ทั้งความรู้ที่สั่งสมมาจากชาติก่อน และได้ตอบแทนน้ำใจให้คนที่อยู่ข้างเธอ เธอจึงรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าคืนนี้คงได้นอนหลับฝันดีแน่นอน
แต่สมองของเธอเหมือนเครื่องจักรที่ทำงานไม่หยุด เธอยังคงครุ่นคิดถึงปัญหาอุปกรณ์ที่เจอมาวันนี้อยู่บนเตียง
“มอเตอร์ของเครื่องสีข้าวที่เถ้าแก่ซื้อมา มันเป็นรุ่นที่เลิกใช้ไปแล้ว” หลี่เฟยฮวาพึมพำกับตัวเอง “…เทคโนโลยีพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งจริง ๆ”
ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ เม็ดเงินที่จะทำได้จากการผลิตเครื่องจักรกลหรือเครื่องยนต์ต่าง ๆ ย่อมมากขึ้น ขนาดเครื่องสีข้าวยังขายได้เป็นแสนหยวน
“ถ้าฉันสามารถใช้ความรู้พัฒนาเทคโนโลยีในยุคนี้ได้…” ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาทันที “เงินมากมายก็จะตกอยู่ในมือฉัน และประเทศของเราก็จะรุดหน้าอย่างรวดเร็วสุด ๆ!”
หลี่เฟยฮวาอมยิ้มพลางมองเพดานอย่างคนเหม่อลอย ภายในหัวกำลังคิดแผนการยิ่งใหญ่
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูจากด้านนอกปลุกหวงหมิงลู่ที่นอนอยู่ในห้องหนังสือให้ลืมตาตื่น พอเปิดประตูออกไปก็เห็นหลี่เฟยฮวากำลังส่งยิ้มให้เขา
“คุณนอนแล้วเหรอ?” หลี่เฟยฮวาเห็นใบหน้าที่ยังนอนไม่เต็มอิ่มของหวงหมิงลู่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“มีอะไรหรือเปล่า?” หวงหมิงลู่มองหลี่เฟยฮวาที่ยังคึกคักอย่างนึกแปลกใจ วันนี้เธอเดินทางตั้งแต่เช้าและทำนู่นทำนี่ทั้งวัน แต่กลับดูไม่เหนื่อยเลย
“หวงหมิงลู่ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” หลี่เฟยฮวาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น หลังจากคิดแผนการออก เธอก็กระโดดลงจากเตียงมาเคาะห้องของหวงหมิงลู่ทันที
“เมื่อไม่นานมานี้เขาฟื้นฟูการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใช่ไหม ฉันอยากเข้าร่วมการสอบปีหน้า ฉันอยากเรียนต่อ”
เธอพูดสิ่งที่คิดเอาไว้ในใจ ถึงเธอจะมีความรู้ติดตัว แต่พอมาอยู่ในร่างนี้ เธอก็เป็นหลี่เฟยฮวาที่เรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย แม้จะถือว่าจบสูงแล้วในยุคนี้ แต่ยิ่งเรียนสูงเท่าไหร่ โอกาสของเธอก็จะมีมากขึ้นไม่ใช่เหรอ? อีกอย่าง วุฒิการศึกษามันยังเป็นหลักฐานยืนยันว่าความรู้ของเธอไม่ได้มีขึ้นมาลอย ๆ
ดังนั้นขั้นตอนแรก เธอต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้! เธอคิดอย่างมุ่งมั่น ราวกับนี่คือภารกิจลับสุดยอด
“คุณช่วยถามให้หน่อยได้ไหมว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ฉันอยากเป็นนักศึกษา!”
หวงหมิงลู่ไม่เคยเป็นนักศึกษามาก่อน ทั้งยังเรียนจบแค่ชั้นมัธยมต้น เขาจึงจับต้นชนปลายไม่ถูก ราวกับเพิ่งได้ยินว่าโลกแบน แต่ก็พยักหน้า “ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ พรุ่งนี้ฉันจะช่วยถามให้ ถ้าเธออยากเรียนต่อ ฉันก็อยากสนับสนุน”
แม้เขาจะยังสงสัยในความสนใจและความสามารถของเธอเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างการซ่อมเครื่องสีข้าว แต่ต้องยอมรับว่าตอนเรียน ผลการเรียนของหลี่เฟยฮวาอยู่ในเกณฑ์ดี เธอจึงสามารถเรียนจบชั้นมัธยมปลายได้
แต่ด้วยนิสัยเอาแต่ใจและรักสบายที่เธอเคยเป็น ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย ที่อยู่ ๆ เธอก็อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เขาก็ยินดีอาสาจะช่วยสอบถามข้อมูลให้ เพราะถึงยังไง การเรียนก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว
วันรุ่งขึ้น หวงหมิงลู่ออกไปข้างนอกแต่เช้า ก่อนจะกลับมาพร้อมเอกสารการสอบทั้งหมดในมือที่เขาลงทุนควักกระเป๋าซื้อมาให้หลี่เฟยฮวา
MANGA DISCUSSION