บทที่ 166 ลงทุนหนังดีไหม?
ปัจจุบันตั๋วหนังไม่ได้ถูกสำหรับคนทั่วไป สิ่งสำคัญที่สุดคือหวงหมิงลู่ยอมฟังความคิดเห็นของคนอื่นและเชิญเธอไปดูหนัง นี่เป็นสิ่งที่หลี่เฟยฮวาคิดไม่ถึงเลย
“คุณมีเวลาเหรอ?”
หลังจากพูดจบ หลี่เฟยฮวาก็รู้สึกว่าตัวเองถามโง่ ๆ เพราะหวงหมิงลู่ยื่นตั๋วมาให้สองใบ
“วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ฉันขออนุญาตลาแล้ว”
ดูเหมือนว่าเขาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
หลี่เฟยฮวาคิดในใจจู่ ๆ ก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “ตกลง”
หวงหมิงลู่ไม่เคยไปโรงหนังมาก่อน ส่วนหลี่เฟยฮวาก็เป็นครั้งแรกที่มาโรงหนังที่เรียบง่ายแบบนี้
แต่ชาติที่แล้ว เธอแทบไม่ได้ไปดูหนังที่โรงหนังเลย ตอนนั้นงานยุ่งมาก เทคโนโลยีจากต่างประเทศก็ไล่ตามมาติด ๆ ไม่ก็ต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้แซงหน้าคนอื่น ทุกวันต้องทุ่มเททำวิจัยจนแทบตาย
การได้มาดูหนังอย่างสบาย ๆ แบบนี้ สำหรับหลี่เฟยฮวาแล้วถือว่าหรูหราเกินไป
เมื่อหวงหมิงลู่เลือกภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มันเป็นหนังรักโรแมนติก แต่หลังจากหลี่เฟยฮวาได้ดูจบ เธอก็พบว่ามีสิ่งหนึ่งที่เมื่อเทียบกับหนังรักในชาติก่อน ภาพยนตร์เหล่านี้ช่างเป็นเรื่องของความรักบริสุทธิ์อย่างแท้จริง!
ดวงตาของหลี่เฟยฮวาเป็นประกายขึ้นมา จู่ ๆ เธอก็ค้นพบโอกาสทางธุรกิจบางอย่างจากสิ่งนี้
หวงหมิงลู่ไม่ค่อยรู้เรื่องอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ก็เคยได้ยินหวังอวี่ชุนพูดถึงบ้าง
ในยุคนี้ ความบันเทิงมีอยู่อย่างจำกัดจนน่าตกใจ ภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวจึงสามารถกลายเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าภาพยนตร์ที่พวกเขาได้ชมในวันนี้เป็นแนวโรแมนติก แม้ในเมืองหลวงจะยังคงมีบรรยากาศคึกคัก หรือแม้แต่ราคาตั๋วหนังที่ขายเพียงหนึ่งเหมา แต่เนื่องจากเนื้อหาของภาพยนตร์มีความโจ่งแจ้งในระดับหนึ่ง ทำให้สามารถฉายได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ทว่ากลับกวาดรายได้มหาศาลถึงหลักล้านหยวน
“คุณว่าถ้าฉันไปลงทุนกับหนังสักเรื่องจะเป็นยังไง?”
“แค่ก ๆ ” คราวนี้หวงหมิงลู่ตกใจจริงๆ
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
หลี่เฟยฮวาพูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่ได้ล้อเล่นน่ะ คุณก็รู้ว่าเศรษฐกิจในประเทศของเราเป็นอย่างไร ฉันอยากทำวิจัยด้วยตัวเอง แต่เงินทุนวิจัยพวกนั้นไม่พอเลย ถึงแม้ว่าอาจารย์และรัฐบาลจะยินดีให้ทุนฉัน แต่เงินพวกนั้นก็เหมือนขนวัวเส้นเดียวเท่านั้น”
สภาพการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในตอนนี้ลำบากมากจริง ๆ
“โดรนที่ฉันวิจัยก่อนหน้านี้ คุณคิดว่ามันเยี่ยมไหม?”
หวงหมิงลู่ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวข้อการสนทนาของหลี่เฟยฮวาถึงกระโดดไปไกลขนาดนี้ เขาพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ “เยี่ยมมาก ๆ ได้ยินท่านผู้บังคับการซุนบอกว่าโดรนจะถูกผลิตเป็นจำนวนมากในเร็ว ๆ นี้”
การมีโดรนบินนำหน้าไปสำรวจโดยไม่ต้องเสียกำลังคน สำหรับพวกเขาที่กำลังเดินบนเส้นลวดนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยทีเดียว
หวหงมิงลู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าโดรนตัวเล็ก แบบนี้จะสามารถทำหน้าที่แทนคนในการค้นหาและกู้ภัยได้ อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูงขนาดนี้
“หลี่เฟยฮวา เธอเก่งมาก” หวงหมิงลู่ชมหลี่เฟยฮวาตามเคย ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือที่ไหนก็ตาม
หลี่เฟยฮวารู้สึกจนปัญญา ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม “โดรนที่ฉันทำนั่นเป็นแค่รุ่นพื้นฐานที่สุด คุณจินตนาการออกไหมว่าของเล็ก ๆ แบบนี้สามารถทิ้งระเบิด หลบเลี่ยงเรดาร์ และใช้ได้ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ในอนาคตยังสามารถใช้เพื่อการพลเรือนได้อีกด้วย ถ้าติดกล้องไว้บนนั้น ก็จะสามารถเห็นสิ่งที่คุณมองไม่เห็นได้”
หวงหมิงลู่ไม่มีจินตนาการเท่าหลี่เฟยฮวา แต่แค่ได้ยินประโยชน์การใช้งานเหล่านี้ก็รู้สึกตื่นตะลึงแล้ว “ทำได้จริง ๆ เหรอ?”
“อืม ถ้ามีงบวิจัยเพียงพอ ฉันทำได้ทั้งหมดนั่นแหละ…”
หลี่เฟยฮวาหยุดชั่วครู่แล้วพูดอย่างจริงจัง “แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่สี่หมื่นหยวน หรือแม้แต่สามแสนหยวนก็ไม่สามารถทำได้ ถ้าฉันสามารถยืนหยัดในวงการได้เหมือนอาจารย์เหวินเทียน บางทีการได้รับทุนอาจจะง่าย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้”
ไม่ว่าเมื่อไหร่ คนอย่างผู้อำนวยการเหวินเทียนก็เก่งกว่าเธอเสมอ
ที่เธอสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ได้ เป็นเพราะเธอได้เรียนรู้แก่นสำคัญของการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั่วโลกในอีกหลายสิบปีข้างหน้า
ส่วนอาจารย์เหวินเทียนและคนอื่น ๆ พวกเขาคือผู้สร้างแก่นสำคัญเหล่านี้
หวงหมิงลู่ฟังแล้วเงียบ ไม่พูดอะไร
ทันใดนั้น หวงหมิงลู่ก็ถามว่า “เงินพอไหม?”
“หืม?” หลี่เฟยฮวางุนงง
“เธอต้องการลงทุน งั้นเงินพอไหม ฉันได้ยินมาว่าการลงทุนในภาพยนตร์ต้องใช้เงินเยอะ”
หลี่เฟยฮวางุนงงไปสามวินาที เมื่อตั้งสติได้ก็ยิ้มกว้างทันที “ฉันนึกว่าคุณไม่เข้าใจเสียอีก”
หวงหมิงลู่พูดอย่างจริงใจว่า “จริง ๆ แล้วไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เธอพูดหรอก แต่ตราบใดที่เป็นสิ่งที่เธออยากทำ ฉันก็สนับสนุนเธอทั้งหมด”
หลี่เฟยฮวาหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันก็เพิ่งนึกถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนจะทำหรือไม่ก็ต้องดูสถานการณ์ พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ถ้าฉันอยากทำอะไร ก็ควรปรึกษาคุณก่อน ฉันดีใจที่คุณสนับสนุนฉัน”
เมื่อหวงหมิงลู่ได้ยินคำว่า ‘สามีภรรยา’ สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลงทันที
หลี่เฟยฮวามักจะปรึกษาเขาในเรื่องสำคัญๆ เสมอ ความรู้สึกที่ได้รับความไว้วางใจแบบนี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ฉันก็ดีใจที่เธอปรึกษาฉัน” หวงหมิงลู่พูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหยุดชั่วครู่แล้วกล่าวต่อ “ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็มาหาฉันได้ตลอดนะ”
แม้ว่าเงินเดือนของเขาจะไม่มากนัก แต่เขาก็มีเส้นสายพอตัว หากลองสอบถามดู อาจจะติดต่อกับคนที่ทำงานในด้านนี้ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม หวงหมิงลู่ไม่ลืมที่จะเตือนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แต่การลงทุนก็คือการลงทุน อย่าลืมใส่ใจกับการเรียนด้วยล่ะ”
หลี่เฟยฮวายิ้มอย่างมั่นใจ “ฉันรู้ดี คุณดูสิ เทอมที่แล้วฉันทำตั้งหลายอย่าง แต่ผลการเรียนของฉันก็ยังเป็นที่หนึ่งของสาขาเลยนะ”
คำตอบนั้นทำให้หวงหมิงลู่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงผลการเรียนของหลี่เฟยฮวา ความมุ่งมั่นและความสามารถของเธอช่างน่าทึ่งเกินกว่าจะมองข้ามไปได้
หลี่เฟยฮวาเปรียบเสมือนปรากฏการณ์ที่ไม่เหมือนใครในแวดวงการศึกษา ไม่เพียงแต่เธอจะครองอันดับหนึ่งของสาขาวิชา แต่คะแนนของเธอยังทิ้งห่างอันดับสองแบบไม่เห็นฝุ่น
หลังจากกลับถึงหอพักบุคลากร หลี่เฟยฮวาก็เริ่มคิดเรื่องการลงทุนในภาพยนตร์ เธอไม่ค่อยรู้เรื่องราวในยุคนี้มากนัก จำได้แค่เหตุการณ์ใหญ่ๆ ไม่กี่เรื่อง และก็ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองด้วย
แต่สิ่งที่ทำให้เธอจดจำได้อย่างแม่นยำคือ อีกไม่กี่ปีต่อมา มีภาพยนตร์รักเรื่องหนึ่งที่โด่งดังไปทั่วประเทศจริง ๆ
ตั๋วหนังราคาแค่หนึ่งเหมา กลับทำรายได้ถึงร้อยล้านหยวน และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือเป็นต้นแบบของหนังรักอย่างแท้จริง
หลี่เฟยฮวาไม่แน่ใจว่าเป็นหนังในช่วงเวลาไหนแน่ แต่เธอจำได้ว่าผู้กำกับเคยให้สัมภาษณ์ว่าตอนนั้นเขาจนถึงขนาดแทบไม่มีเงินซื้อข้าวกิน
ถ้าหากหาผู้กำกับเจอ…
หลี่เฟยฮวาคิดไปไกล จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไปแล้ว
เรื่องที่ยังไม่มีอะไรแน่นอน แต่เธอกลับเริ่มคิดถึงการลงทุนและวิธีหาเงินเสียแล้ว
ตอนนี้เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้กำกับคนนั้นอยู่เมืองไหน
หลี่เฟยฮวาอดรู้สึกจนปัญญาไม่ได้
เธอคิดว่าถ้ารู้ว่าจะต้องข้ามเวลามา ตอนนั้นน่าจะดูข่าวสารของยุคนี้ให้มากกว่านี้ บางทีอาจจะกลายเป็นมหาเศรษฐีในพริบตาเหมือนตัวเอกในนิยายก็ได้
หลี่เฟยฮวาถอนหายใจอย่างจนปัญญา อาบน้ำแล้วเข้านอนพักผ่อนแต่หัวค่ำ
พอผ่านปีใหม่ การเปิดเทอมก็ถูกจัดเข้าตารางเวลาแล้ว ก่อนหน้านี้หลี่เฟยฮวาส่งแบบร่างไปให้โรงงานเสื้อผ้า ตอนนี้ก็ผลิตออกมาเป็นสินค้าสำเร็จรูปแล้ว ใช้ผ้าคุณภาพดีที่สุด ดังนั้นเมื่อสวมใส่จึงไม่ดูถูก ๆ
MANGA DISCUSSION