บทที่ 146 เด็กชายตระกูลกู้
เด็กชายในชุดสูทมีดวงตาสีดำสนิท ทั้งมีชีวิตชีวาและสวยงาม ขนตายาวตรง ทอดเงาในแสงไฟสลัวหลี่เฟยฮวารอคอยอยู่นาน แต่อีกฝ่ายก็ไม่พูดอะไรเลย
ตอนที่เธอกำลังจะยอมแพ้และลุกขึ้นยืน จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงความเย็นที่ข้อมือ
เธอก้มมองลงไป เห็นมือน้อย ๆ ที่ดูสกปรกเล็กน้อยกำลังจับสือเธอไว้
“ป๋อ…เหวิน”
เด็กน้อยกะพริบดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น ราวกับกลัวว่าเสียงของตัวเองจะเบาเกินไปจนหลี่เฟยฮวาจะไม่ได้ยิน เขาจึงพูดอีกครั้ง “ชื่อ…กู้ป๋อเหวิน”
หลี่เฟยฮวาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบสนอง “อ้อ ที่แท้เธอพูดได้นี่เอง!”
ตำรวจก็หัวเราะ “ที่แท้ก็พูดได้ ก่อนหน้านี้ถามนานขนาดนี้ เด็กคนนี้ไม่พูดสักคำ พวกเราคิดว่าเป็นใบ้เสียอีก”
“อาจจะเป็นเพราะตกใจจริง ๆ ก็ได้” ความจริงแล้วหลี่เฟยฮวาไม่ค่อยเชื่อตั้งแต่แรกแล้วว่ากู้ป๋อเหวินจะเป็นเด็กใบ้
แต่สภาพของเขาดูไม่ค่อยปกตินัก ราวกับว่าเขาแยกตัวออกมา จมอยู่ในโลกของตัวเอง
เมื่อครู่ ตอนเธอคุยกับตำรวจ เขาก็มีปฏิกิริยาบ้าง มองตรงมาที่เธอ แต่ไม่พูดอะไร หลี่เฟยฮวาพูดต่อว่า “หนูน้อยรู้ไหมว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหน? พ่อของเธอชื่ออะไร?”
เด็กน้อยกางแขนทั้งสองข้างออก
หลี่เฟยฮวางงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เด็กตรงหน้าจะกระโจนเข้ามากอดขาของเธอทันที
หลี่เฟยฮวาจึงรีบอุ้มเด็กขึ้นมา
กู้ป๋อเหวินหาวหนึ่งที แล้วก็พิงไหล่ของหลี่เฟยฮวาแล้วหลับไปเลย
“อ้าว ไอ้หนูนี่!” ตำรวจเห็นแบบนี้ก็รู้สึกจนปัญญา
หลี่เฟยฮวากล่าว “คุณลองตรวจสอบในระบบของตำรวจในเมืองหลวงดูสิ ดูเหมือนเด็กคนนี้จะหายไปหลายวันแล้ว ครอบครัวของเด็กคนนี้น่าจะมีฐานะดี ญาติพี่น้องน่าจะแจ้งความไว้แล้ว”
ตำรวจรีบตอบสนองทันที รีบโทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจแต่ละเขต
แต่เมืองใหญ่ขนาดนี้ การตรวจสอบทั่วถึงต้องใช้เวลาพอสมควร
หลี่เฟยฮวาคิดสักครู่แล้วพูดว่า “คุณตำรวจคะ ฉันพาเด็กคนนี้ไปมหาวิทยาลัยก่อนได้ไหมคะ พรุ่งนี้เช้าเจ็ดโมงฉันจะพามาส่งที่นี้”
ตอนนั้นเอง ตำรวจถึงสังเกตเห็นว่ามือทั้งสองข้างของเด็กชายกำเสื้อผ้าของหลี่เฟยฮวาแน่น เธอพยายามแกะมือเขาออก แต่ไม่รู้ทำไมเจ้าตัวเล็กถึงได้มีแรงมากขนาดนี้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็แกะไม่ออก
เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่ง แถมปล่อยเด็กไว้ที่นี่ก็ใช่ว่าจะดี ตำรวจคิดสักครู่แล้วพยักหน้า “ได้ พรุ่งนี้พาเด็กมาส่งนะ”
หลี่เฟยฮวารับคำ แล้วกลับมหาวิทยาลัยพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องอีกไม่กี่คน
วันนี้ตู้หลี่เจียงก็ตกใจเช่นกัน ทั้งสองต่างอุ้มเด็กคนละคนกลับหอพัก
กู้ป๋อเหวินตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่งระหว่างทางกลับหอพัก
เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เด็กน้อยเริ่มตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ความตื่นตระหนกในใจของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหลี่เฟยฮวานั่งอยู่ข้างเตียง
กู้ป๋อเหวินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อเห็นหลี่เฟยฮวาก็เข้าไปแนบชิดทันที
หลี่เฟยฮวาไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาสองชาติ เมื่อกู้ป๋อเหวินเข้ามาใกล้ เธอรู้สึกแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่เมื่อสังเกตเห็นว่าเด็กชายไม่มีท่าทีอันตราย เธอก็ใช้มือลูบหลังของเขาเบา ๆ
“ตื่นแล้วก็ดี ไปอาบน้ำก่อนนะ”
ในห้องนอนไม่มีเสื้อผ้าสำหรับเด็ก หบี่เฟยฮวามองนาฬิกาและเห็นว่าไม่ทันไปซื้อเสื้อผ้าใหม่แล้ว เธอจึงหยิบชุดใหม่เอี่ยมออกมาให้กู้ป๋อเหวินใส่เป็นชุดนอน
ถึงแม้กู้ป๋อเหวินจะไม่พูด แต่ในสายตาของหลี่เฟยฮวาขาดูเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เมื่อเธอถามว่าเขาอาบน้ำเองได้ไหม กู้ป๋อเหวินมองเธออยู่นาน แล้วจึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย
หลี่เฟยฮวาเตรียมน้ำอุ่นให้เขา แล้วปล่อยให้เขาจัดการในห้องน้ำคนเดียว
เธอไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน จึงไม่มีความคิดที่จะเข้าไปช่วยเลย
จนกระทั่งตู้เจียวเหม่ยทนดูไม่ไหวอยากจะเข้าไปช่วย แต่ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมให้แตะต้องเลย หลี่เฟยฮวาไม่มีทางเลือก จำต้องยอมรับชะตากรรมและอาบน้ำให้กู้ป๋อเหวิน
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ดวงตาสีดำขลับคู่โตของกู้ป๋อเหวินดูมีชีวิตชีวามากขึ้น บนร่างกายมีรอยช้ำสีม่วงอยู่บ้าง คงเป็นผลจากความรุนแรงของพวกค้ามนุษย์
ในห้องนอนมีบัวหิมะอยู่หลี่เฟยฮวาจึงอุ้มกู้ป๋อเหวินขึ้นเตียงแล้วนวดบาดแผลให้เบา ๆ
หลังจากปิดไฟ เด็กชายก็กอดหลี่เฟยฮวาไว้ แม้จะอยู่ในความมืดก็ยังเห็นว่ากู้ป๋อเหวินยังไม่หลับ
หลี่เฟยฮวากระซิบเบา ๆ ว่า “ทำไมยังไม่นอนอีก ไม่ง่วงเหรอ?”
กู้ป๋อเหวินในอ้อมกอดขยับตัวเล็กน้อย หลี่เฟยฮวาลูบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม
หลี่เฟยฮวาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวกับสายน้ำ “กู้ป๋อเหวิน นอนเถอะ พรุ่งนี้พ่อแม่ของเธอจะมารับแล้ว”
กู้ป๋อเหวินไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นวันรุ่งขึ้นแล้ว
ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผ้าชุบน้ำอุ่น ๆ ก็มาอยู่บนใบหน้าของเขาแล้ว
“ล้างหน้าหน่อย เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปสถานีตำรวจ” หลี่เฟยฮวาพูดพลางวางถุงในมือลงบนโต๊ะ “ไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไร ก็เลยซื้อมาให้นิดหน่อย”
กู้ป๋อเหวินมองหลี่เฟยฮวาเหม่อลอย แล้วจึงล้างหน้าอย่างละเอียด
มองอาหารเช้าที่ยังมีไอร้อนลอยฟุ้ง เขาหยิบซาลาเปาขึ้นมาลูกหนึ่ง
กู้ป๋อเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองไส้ซาลาเปาโดยไม่รู้ตัว
ไส้ซาลาเปาเป็นผักกาดขาวสีเขียวสด ไม่มีน้ำมันเลย แต่หน้าตาดูน่ากินมาก ทว่าพอเข้าปากกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
เค็มเกินไปแล้ว!
กู้ป๋อเหวินหันหน้าไปเล็กน้อย เห็นหลี่เฟยฮวากำลังกัดซาลาเปาอยู่เช่นกัน ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ เด็กชายหันกลับมามองซาลาเปาในมือตัวเองอีกครั้ง เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกัดอีกคำ
อืม… จริง ๆ แล้วก็อร่อยดีนะ
กู้ป๋อเหวินดื่มนมถั่วเหลืองหมดหนึ่งแก้วและกินซาลาเปาสี่ลูก ท้องอิ่มแน่นขณะมาถึงสถานีตำรวจ
พอเข้าประตูมา ตำรวจคนเมื่อวานก็พูดอย่างร่าเริงว่า “เราพบผู้ปกครองของเด็กแล้ว!”
หลี่เฟยฮวาไม่ได้แปลกใจ เพราะกู้ป๋อเหวินสวมชุดสูทตัวเล็ก ดูไม่ใช่เด็กจากครอบครัวยากจน ดังนั้นพ่อแม่ของเขาต้องกำลังตามหาเขาแน่นอน
ตำรวจเห็นหลี่เฟยฮวาไม่ตกใจก็ไม่ได้คิดอะไร พูดต่อไปว่า “อีกสองชั่วโมงผู้ปกครองถึงจะมาถึง”
คราวนี้หลี่เฟยฮวาตกใจเล็กน้อย “ทำไมต้องนานขนาดนั้น?”
ตำรวจรีบโบกมือ “อย่าเข้าใจผิด เด็กคนนี้เป็นคนในเมืองหลวงจริง แต่ไม่ได้หายตัวไปในเมืองหลวง”
เมื่อเห็นหลี่เฟยฮวาไม่พูดอะไร ตำรวจจึงพูดต่อว่า “เด็กคนนี้หายตัวไปที่เมืองหยานโหรวรายละเอียดที่แน่ชัดต้องรอให้พ่อของเด็กมาถึงก่อนถึงจะรู้
สรุปคือคนในครอบครัวของเด็กตามหากันจนบ้าไปหมดแล้ว เมื่อวานหลังจากที่พวกเราติดต่อครอบครัวของเขาได้ พวกเขาก็รีบเดินทางกลับมาในคืนนั้นเลย”
หลี่เฟยฮวาจึงพยักหน้า “งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเด็กที่สถานีตำรวจรอพ่อของเขามารับค่ะ”
แม้ว่าจะอยู่กับกู้ป๋อเหวินwม่นาน แต่เด็กคนนี้ก็ติดเธอแจ ถ้าหากเธอจากไปเขาอาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ได้
ตอนนี้เธอสอบเสร็จแล้ว ไม่มีอะไรให้รีบร้อน
ตำรวจก็ยินดีเช่นกัน นี่ก็คือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเด็กคนนั้น พ่อของเด็กควรจะขอบคุณด้วย
หลี่เฟยฮวานั่งอยู่พักหนึ่ง จู่ๆ ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมา “เอ่อ แล้วเมื่อวานนี้ สองคนที่ลักพาตัวเด็กสารภาพแล้วหรือยังคะ?”
ตำรวจส่ายหน้า “สองคนนั้นอดทนเก่งมาก พวกเราตำรวจ ผลัดกันมาแล้วสามชุด จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ยอมพูดอะไรเลย”
การสอบสวนในตอนนี้ ไม่ได้นุ่มนวลเหมือนในอนาคต ยุคนี้ การทรมานให้รับสารภาพก็มี ไม่ต้องพูดถึงการสอบสวนต่อเนื่องยี่สิบสี่ชั่วโมง โดยไม่หยุดพัก
MANGA DISCUSSION