บทที่ 135 เสือซ่อนเล็บ มังกรซ่อนพลัง
ลู่ซือเจี้ยและเยว่ซูเม่ยตอบสนองตามมา “ยินดีด้วย ๆ การเปลี่ยนชื่อเป็นเรื่องดีนะ”
แม้ว่าในยุคนี้จะมีครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาวอยู่มาก แต่การตั้งชื่อว่า ‘จื่อเถิง’ จริง ๆ แล้วมีน้อยคนนัก
ตอนนี้เปลี่ยนชื่อแล้ว ก็เหมือนกับได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ต่างกัน
จากนี้ไปตู้จื่อเถิงจะเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ตู้เจียวเหม่ย’ โดยยังคงใช้แซ่ของฝั่งสามี หลังจากแม่ของเธอกลับบ้านไปชีวิตก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
ตู้เจียวเหม่ยรู้ว่าหลี่เฟยฮวาต้องทำวิจัยจนไม่มีเวลาไปกินข้าวที่โรงอาหาร ดังนั้นทุกคืนเธอจึงนำอาหารกลับมาที่หอพัก
เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ทางด้านลู่อันหยางก็อ่านหนังสือเสร็จเกือบหมดแล้ว
หลี่เฟยฮวาใช้ดินสอวาดเน้นจุดสำคัญบางส่วนให้ลู่อันหยางอย่างเบามือ แม้ว่าลู่อันหยางจะยังไม่ได้สัมผัสกับวิชาฟิสิกส์อย่างจริงจัง แต่ด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่ ทุกครั้งที่หลี่เฟยฮวาอธิบาย เขาก็เข้าใจได้ทันที
เหลือเวลาอีกสองสัปดาห์ หลี่เฟยฮวาใช้เงินยี่สิบห้าหยวนที่อาจารย์เหวินเทียนให้มาเป็นพิเศษ ไปซื้อของที่จำเป็นสำหรับการทดลองรวมเป็นเงินสี่ร้อยหยวน
ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวดีมาจากโรงงานเสื้อผ้าด้วย เฉินห่าวอี้นำแบบร่างกลับไปที่โรงงานเสื้อผ้าเพื่อเริ่มผลิตในวันเดียวกัน หลังจากปรับปรุงหลายครั้ง ในที่สุดก็ปรับแก้เสื้อผ้าทั้งห้าแบบเสร็จและเริ่มผลิตจำนวนมากอย่างเป็นทางการ
การผลิตเสื้อผ้าหนึ่งหมื่นชุดด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน ซึ่งตอนนั้นการทดลองของหลี่เฟยฮวาก็จะเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ตามเฉินห่าวอี้ได้ส่งเสื้อผ้าที่ปรับปรุงแล้วทั้งหกชุดมาที่มหาวิทยาลัย
ในเวลานั้นยังไม่มีเสื้อฮู้ด ดังนั้นเมื่อหลี่เฟยฮวาสวมกางเกงยีนส์รัดรูปทรงขาบานเล็กน้อยกับเสื้อฮู้ดหลวม ๆ ลู่ซือเจี้ยก็ตาค้าง
“หลี่เฟยฮวา เสื้อกับกางเกงของเธอดูเก๋มาก! ตอนนี้ในตลาดกำลังนิยมแบบนี้อยู่เหรอ?” ลู่ซือเจี้ยเอ่ยชมด้วยสายตาจับจ้องไม่วางตา
หลี่เฟยฮวาหัวเราะออกมา แล้วบอกกับลู่ซือเจี้ยว่าเป็นแบบที่ฉันออกแบบเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตาของลู่ซือเจี้ยเก็เบิกกว้างมองหลี่เฟยฮวาตาไม่กระพริบ ก่อนเอ่ยปากถามอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ “หลี่เฟยฮวา บอกฉันหน่อยสิ มีอะไรบ้างที่เธอทำไม่เป็น?”
“มีอีกเยอะแยะที่ฉันทำไม่เป็น ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะอยากทำการทดลองแต่ไม่มีเงินไงล่ะ ถ้าเธอชอบ เดี๋ยวฉันจะบอกให้เจ้าของโรงงานเก็บไว้ให้เธอหนึ่งชุด ฉันให้ราคาเพื่อนด้วยนะ”
ลู่ซือเจี้ยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
ท้ายที่สุดแล้ว เสื้อผ้าและกางเกงชุดนี้ดูดีจริง ๆ คงจะแพงมากแน่ๆ
ทางโรงงานเสื้อผ้าต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเห็นผล แต่เรื่องการทดลองนั้นไม่อาจรอช้าได้
ตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์ก่อน นักศึกษาแต่ละกลุ่มได้เริ่มทำการทดลองกันแล้ว
เนื่องจากต้องทำเพียงแค่โมเดลเดียว บางกลุ่มถึงกับทำเสร็จแล้ว ในชั่วโมงเรียนมีเพื่อนบางคนถามถึงความคืบหน้าของหลี่เฟยฮวา เธอก็ไม่ได้ปิดบัง บอกว่ายังไม่ได้เริ่มทำ
สาเหตุที่ได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะชื่อเสียงของหลี่เฟยฮวาดังมาก พอได้ยินว่าผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วเธอยังไม่ได้เริ่มทำการทดลอง ทุกคนต่างรู้สึกไม่อยากเชื่อ
ต่อมาเมื่อถามไปถึงลู่อันหยาง คู่หูของเธอ เขาตอบอย่างจนปัญญา “ฉันไม่ได้โกหกพวกนายหรอก พวกนายก็รู้ว่าหัวข้อที่ฉันกับหลี่เฟยฮวา จับได้ยากที่สุด ระบบขับเคลื่อนใต้น้ำนี่แม้แต่ประเทศยังแก้ไม่ได้เลย จะไม่ต้องพูดถึงพวกเราเลย นี่ก็กำลังคิดว่าจะแก้ปัญหายังไงอยู่”
พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ไม่พูดอะไรอีก ต่างพากันสงสารว่าหลี่เฟยฮวากับลู่อันหยางโชคไม่ดี
ลู่อันหยางได้ยินแล้วอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้
นี่มันไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาโชคไม่ดีสักหน่อย ชัดเจนว่าหลี่เฟยฮวาต้องการทำอะไรที่ยิ่งใหญ่
ลู่อันหยางนึกถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะเอามือทาบลงหน้าอกตัวเอง รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่เฟยฮวาถึงรักฟิสิกส์มากขนาดนี้ แต่พอนึกถึงสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำต่อไป หัวใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเต้นระรัว
ถ้าเป็นไปตามที่หลี่เฟยฮวาคิดไว้ก่อนหน้านี้ หากทำโมเดลนี้สำเร็จ เทคโนโลยีการทำงานใต้น้ำของจีนคงติดอันดับ 3 ของโลกแน่นอน
หลังจากที่หลี่เฟยฮวาได้รับวัสดุครบแล้ว ทั้งสองคนก็จมอยู่ในห้องทดลองโดยไม่หลับไม่นอน
ทั้งคู่เรียนหนังสือในตอนกลางวัน ใช้เวลาว่างคุยกันเรื่องสูตรและความเป็นไปได้ในการจำลอง พอถึงตอนกลางคืนถึงขั้นที่ว่าแต่ละคนขนผ้าห่มมาคนละผืน บางครั้งทำการทดลองดึกเกินไปก็นอนในห้องทดลองเลย
ส่วนอาจารย์เหวินเทียนต้องกลับไปดูแลสถาบันในช่วงครึ่งเดือนหลัง จึงไม่มีคาบเรียนของเขา
แต่อาจารย์คนอื่น ๆ เห็นทั้งสองคนมีรอยคล้ำใต้ตาทุกวันก็อดไม่ได้ที่จะถามสองสามคำ
พอรู้ว่าทั้งสองคนกำลังทำการทดลองเรื่องพลังงานใต้น้ำก็รู้สึกสนใจ หลังเลิกเรียนก็อยากจะไปดูที่ห้องทดลองสักหน่อย
หลี่เฟยฮวาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ลู่อันหยางกลับพูดเสียงดังว่า “แบบนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าอาจารย์ดูตอนนี้ แล้วผมกับหลี่เฟยฮวาจะเอาอะไรมาทำให้อาจารย์ตกตะลึงล่ะครับ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและด่าเล็กน้อย แต่นึกถึงคำพูดของลู่อันหยางจึงไม่ได้มอง
เวลาสองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว การทดลองเสร็จสิ้นก่อนวันกำหนดส่งหนึ่งวัน
ระหว่างการทดลอง หลี่เฟยฮวาต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่แก้ไขได้อย่างยากลำบาก แต่สิ่งที่ทำให้เธอหนักใจที่สุดกลับไม่ใช่ความซับซ้อนของปัญหา แต่เป็นความเสียดายเงิน
ทุกครั้งที่การทดลองล้มเหลว ชิ้นส่วนต่าง ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว นอกจากนี้ เธอยังต้องบันทึกผลการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ
แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ สุดท้ายหลี่เฟยฮวาก็สามารถแก้ไขทุกปัญหาได้สำเร็จ และการทดลองก็ลุล่วงไปอย่างราบรื่นในที่สุด
ในที่สุด อาจารย์เหวินเทียนก็กลับมาจากฐานในวันถัดมาเพื่อตรวจสอบงานกลางภาคของนักศึกษาในชั้น
หลี่เฟยฮวาเป็นกลุ่มสุดท้ายที่นำเสนอผลงาน ลู่อันหยางจัดวางโมเดลและอุปกรณ์ไว้หลังประตูอย่างระมัดระวัง พร้อมคลุมด้วยผ้าแดงอย่างมิดชิด โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้
เขาวางแผนจะสร้างความประหลาดใจให้ทั้งอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้น
ลู่อันหยาง ผู้ที่เคยมีผลการเรียนเพียงธรรมดา ครั้งนี้ตั้งใจจะสร้างชื่อเสียงและความประทับใจให้กับทุกคน
แต่ในความเป็นจริง ยุคนี้นักศึกษาที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่งได้ ต่างก็เป็นผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นและไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
หลี่เฟยฮวาดูการทดลองของกลุ่มต่าง ๆ แล้ว ทุกกลุ่มล้วนมีความคิดสร้างสรรค์อย่างมาก แม้กระทั่งในอนาคตหากนำไปปฏิบัติจริงก็มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
หลี่เฟยฮวาจำหน้าตาของเพื่อนร่วมชั้นได้ทุกคน แต่กลับจำชื่อไม่ได้ ลู่อันหยางที่คุ้นเคยกับเพื่อน ๆ ดีจึงช่วยแนะนำชื่อของคนที่ขึ้นไปนำเสนอบนเวทีให้เธอฟัง
หลี่เฟยฮวาฟังอย่างใจเย็นก่อนจะพยักหน้ารับ เธอกวาดสายตามองเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่รอบห้อง
‘อืม… ทุกคนดูแล้วไม่ธรรมดาเลย’ เธอคิดในใจ
พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้ที่มีศักยภาพสูง และในอนาคตอาจกลายเป็นบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆ สมแล้วที่เป็นนักศึกษารุ่นแรกที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ล้วนเป็นเหมือนเสือซ่อนเล็บ มังกรซ่อนพลังอย่างแท้จริง!
ความคิดนั้นทำให้ดวงตาของหลี่เฟยฮวาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เดิมทีเธอนั่งอยู่แถวหลังสุด แต่หลังจากได้ดูการทดลองของเพื่อน ๆ เธอกลับรู้สึกกระตือรือร้นจนอดไม่ได้ที่จะขยับมานั่งแถวหน้าสุด
จนกระทั่งเธอรู้สึกถึงสายตาจริงจังของอาจารย์เหวินเทียนที่มองตรงมาที่เธอ หลี่เฟยฮวาจึงได้สติ รีบหันไปมองกลับด้วยความสงสัย
หลี่เฟยฮวา “???”
เหวินเทียนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่หนักแน่น “หัวหน้าฝ่ายการศึกษา การทดลองของเธอเป็นยังไงบ้าง?”
MANGA DISCUSSION