บทที่ 124 การลงโทษที่ไม่มีใครคาดคิด
“อาจารย์คะ หนูไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น!” เสี่ยวหลิวปฏิเสธเสียงแข็ง
หลังจากตั้งสติได้ เสี่ยวหลิวก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ “อาจารย์ม่อชงอวี้คะ เราไม่สามารถเชื่อคำพูดของคนอื่นเพียงฝ่ายเดียวได้นะคะ สิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด!”
ม่อชงอวี้เห็นท่าทางยืนกรานปฏิเสธของเสี่ยวหลิวจึงเอ่ยอย่างใจเย็น “หยางอู๋เจี๋ย นายว่าไง?”
เสียงของหยางอู๋เจี๋ย แหบแห้ง คาดว่าคงตกใจกับเหตุการณ์ในวันนี้ไม่หาย
เดิมทีเขาคิดว่าแค่ติดใบปลิวคงไม่น่าจะเป็นอะไร อย่างไรเสียสี่ห้าโมงเย็นฟ้าก็มืดแล้วคงไม่มีใครเห็น แต่พอติดเสร็จเพื่อนนักศึกษาและอาจารย์กลับโผล่มาจากทุกทิศทุกทางราวกับรู้ล่วงหน้า
ในตอนนั้นเลือดในกายเขาสูบฉีดไปทั่วร่าง ความรู้สึกนั้นมันเหมือนเป็นหายนะของหยางอู๋เจี๋ยเลยทีเดียว!
หยางอู๋เจี๋ยตัดสินใจพูดความจริงออกไปตรง ๆ ว่า “ทั้งหมดนี้เสี่ยวหลิว สั่งให้ผมทำครับ”
เสี่ยวหลิวไม่แสดงความตื่นตระหนกออกมาแม้แต่น้อย “งั้นนายบอกสิว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้ ใครจะรู้ว่าที่นายพูดแบบนี้เพื่อใส่ร้ายฉันหรือเปล่า?”
จนถึงตอนนี้เสี่ยวหลิวก็ยังคิดหาวิธีรับมืออะไรไม่ออกนัก แต่เธอรู้ว่าเรื่องนี้เธอต้องไม่ยอมรับเด็ดขาด
เสี่ยวหลิวมองหน้าซีดเผือดของหยางอู๋เจี๋ย แล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้นายไม่ได้บอกหรอกหรือว่าชอบหลี่เฟยฮวาแต่ เธอไม่สนใจนาย หรือว่านายเกลียดชังเธอเพราะไม่สมหวัง แล้วอยากแก้แค้นเธอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!” หยางอู๋เจี๋ยปฏิเสธทันที “ผมไม่ได้ทำ มันชัดเจนว่าเป็นเพราะคุณอยากลงสมัครเป็นกรรมการห้องแต่ไม่ได้รับเลือก ถึงได้แก้แค้นหลี่เฟยฮวา!”
จริงอยู่ที่หลี่เฟยฮวาไม่สนใจเขา แต่เขาก็ไม่ถึงขั้นจะแก้แค้นเธอเพราะเรื่องแค่นี้ แต่ตอนนีหยางอู๋เจี๋ยรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด
ม่อชงอวี้ปวดหัวตุบ ๆ เพราะถูกรบกวนการพักผ่อน
เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ถึงขนาดที่เขาต้องพักอยู่ที่มหาวิทยาลัยทั้งสัปดาห์โดยไม่ได้กลับบ้าน เพื่อจุดประสงค์ในการสืบหาตัวคนร้าย
ตอนนี้เขาไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มมาสี่วันแล้ว แต่ความจริงได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว เพียงแต่การตัดสินความผิดยังต้องการหลักฐาน
ขณะที่ม่อชงอวี้กำลังคิดอยู่นั้น หลี่เฟยฮวาก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “หนูมีหลักฐานค่ะ”
ม่อชงอวี้เงยหน้าขึ้น ได้ยินหลี่เฟยฮวาพูดว่า “หนูมีไฟล์เสียงบันทึกอยู่ชุดหนึ่ง เป็นสิ่งที่เสี่ยวหลิวพูดกับหนูเมื่อคืน”
พูดจบ เธอก็เปิดเสียงบันทึกนั้นต่อหน้าทุกคนในห้องทำงานทันที
เครื่องบันทึกเสียงนี้ไม่ได้บันทึกทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากแบตเตอรี่ใกล้หมด แต่โชคดีที่บันทึกส่วนสำคัญไว้ได้ทั้งหมด
เสียงในนั้นเป็นเสียงของหลี่เฟยฮวาและเสี่ยวหลิว อันที่จริงแล้วเพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ก็สามารถออกมาเป็นพยานยืนยันเหตุการณ์เมื่อคืนได้เช่นกัน
เสียงบันทึกชุดนี้ทำให้เสี่ยวหลิวจนมุมอย่างสิ้นเชิง
ในขณะนี้ไม่เพียงแต่อาจารยืที่ปรึกษาเท่านั้น แต่ผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยหลายคนก็อยู่ที่นี่ด้วย หลังจากฟังเสียงบันทึกจบ พวกเขาก็อึ้งไปนาน ในที่สุดคนหนึ่งในนั้นก็ลุกขึ้นยืนพูดว่า
“ม่อชงอวี้ ให้จัดการตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเถอะ”
ม่อชงอวี้พยักหน้า จากนั้นก็มองไปที่เด็กทั้งสามคน “เสี่ยวหลิว สร้างข่าวลือเกี่ยวกับเพื่อนนักศึกษา ต้องขอโทษต่อสาธารณะและถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ส่วนหยางอู๋เจี๋ยและชิงเหลียน ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดก็ต้องขอโทษหลี่เฟยฮวาต่อสาธารณะเช่นกัน และถูกกักบริเวณในมหาวิทยาลัยเพื่อสังเกตการณ์”
ทันใดนั้น ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าการลงโทษจะรุนแรงขนาดนี้
โดยเฉพาะเสี่ยวหลิวน้ำตาไหลพรากออกมาทันที
“อาจารย์ม่อชงอวี้ ขอร้องละ อย่าไล่หนูออกเลยนะคะ”
คาดว่าเรื่องคงจะจบลงแล้ว ไม่ต้องอดหลับอดนอนเฝ้าจับคนร้ายอีก น้ำเสียงม่อชงอวี้จึงอ่อนลงไม่น้อย แต่คำพูดที่ออกมากลับทำให้คนฟังโมโหได้
“ขอโทษด้วยนะ แต่ไม่ได้หรอก”
เมื่อพูดจบก็เห็นเสี่ยวหลิวยังคงมีท่าทางไม่พอ ม่อชงอวี้จึงพูดอย่างเรียบเฉยว่า
“เสี่ยวหลิว เธอควรจะรู้ว่าการสร้างข่าวลือมีผลกระทบต่อคนอื่นอย่างไร เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งควรจะรู้ว่าสิ่งที่เขียนในใบปลิวนั้นมันทำให้ หลี่เฟยฮวา ไม่กล้าเชิดหน้าชูตาในมหาวิทยาลัยได้ ดังนั้นในเมื่อเธอทำแบบนี้และเรื่องทั้งหมดถูกเฉลยความจริง เธอก็ควรจะได้รับการลงโทษ อีกอย่างความผิดครั้งนี้ก็จะแจ้งกับพ่อแม่ของเธอเช่นกัน เพราะฉะนั้นเตรียมเก็บของกลับบ้านได้แล้ว”
ม่อชงอวี้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว คิดสักครู่แล้วพูดว่า “ช่างเถอะ”
เสี่ยวหลิวได้ยินแล้วก็มีความหวังผุดขึ้นมาในใจ
แต่แล้วก็ได้ยินม่อชงอวี้ พูดว่า “พวกเธอทั้งสามคนไปขอโทษหลี่เฟยฮวา ต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นก่อน”
ทั้งสามคนมีสีหน้าสิ้นหวังในทันที
การบันทึกประวัติความผิดของพวกเขาเป็นเรื่องจริงจัง หลังจากจบการศึกษาแล้วมันจะติดตามประวัติไปตลอดชีวิต ซึ่งไม่สามารถลบออกได้เลย
เมื่อถึงเวลาออกไปทำงาน พอห้องวิจัยเห็นว่ามีประวัติอาชญากรรม แล้วใครจะกล้ารับพวกเขาเข้าทำงาน?
แม้จะไม่ถูกไล่ออก แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันยังแย่กว่าถูกไล่ออกเสียอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการต้องขอโทษ หลี่เฟยฮวาต่อหน้าทั้งชั้นเรียน
แต่ถ้าไม่ขอโทษ…
ชิงเหลียนกัดฟัน ระหว่างการถูกไล่ออกกับการเรียนต่อ…
แน่นอนว่าเธอเลือกอย่างหลัง
“ฉันจะขอโทษหลี่เฟยฮวา”
หยางอู๋เจี๋ยเห็นดังนั้น ก็รู้ว่าต้องพูดอะไร “ผมก็ยินดีที่จะขอโทษหลี่เฟยฮวาครับ”
เสี่ยวหลิวในที่สุดก็ทนไม่ไหว กลอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะเป็นลมล้มลงไป
ภายในเวลาเพียงหนึ่งวัน ข่าวเรื่องคนที่ติดโปสเตอร์ถูกค้นพบก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
ชิงเหลียนและหยางอู๋เจี๋ยได้กล่าวคำขอโทษอย่างจริงจังต่อหลี่เฟยฮวาในชั้นเรียนระหว่างการบรรยาย
แต่การขอโทษก็เป็นเพียงแค่คำพูด หลี่เฟยฮวาจึงไม่ได้คิดจะให้อภัยพวกเขาทั้งสองคนง่าย ๆ
ในสายตาของชิงเหลียนและหยางอู๋เจี๋ยพวกเขารู้สึกว่าเรื่องราวมันดูเกินกว่าเหตุ คิดว่าแค่พวกเขาเอ่ยคำขอโทษแล้วเรื่องก็น่าจะจบลงได้ ไม่ว่าจะโกรธแค่ไหนก็ไม่กล้าแสดงออก
แม้ม่อชงอวี้จะไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ ต่อท่าทีของหลี่เฟยฮวาแต่ในใจเขาก็เห็นด้วยกับเธอเป็นอย่างยิ่ง
ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว เหตุใดเพียงแค่เอ่ยคำขอโทษคำเดียว…แล้วทุกอย่างจะจบลง?
กระทั่งใกล้เวลาอาหารกลางวันม่อชงอวี้จึงได้จัดประชุมชั้นเรียนขึ้นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ในขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ติดประกาศชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์โปสเตอร์บนกระดานข่าวอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมกับประกาศตำหนิพฤติกรรมของทั้งสามคน
หลี่เฟยฮวาไม่ได้ทราบเรื่องนี้ เพราะตอนเที่ยงหวงหมิงลู่ได้รีบมาหาเธอที่มหาวิทยาลัย
หลังจากหลี่เฟยฮวาเลิกประชุม เธอก็เห็นหวงหมิงลู่สวมชุดทหารยืนอยู่ที่หน้าประตูภาควิชาฟิสิกส์จนเธอตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
อันหยางตบไหล่หลี่เฟยฮวาเบา ๆ “หลี่เฟยฮวา หวงหมิงลู่รอนานแล้วนะ”
เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบวิ่งไปหาหวงหมิงลู่ทันที
แม้สีหน้าของหวงหมิงลู่จะดูเคร่งเครียด แต่พอเห็นหลี่เฟยฮวาวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “ทำไมต้องรีบวิ่งขนาดนี้ล่ะ?”
“แล้ววันนี้ทำไมถึงมาที่นี่ได้คะ?” หลี่เฟยฮวาเอ่ยถามทันทีที่มาถึง
แล้วก็เป็นไปตามคาด เธอได้ยิน [พพูดว่า “อาจารย์ของเธอโทรหาฉัน ฉันเลยรีบขออนุญาตมาดู”
เมื่อพูดจบแววตาของหวงหมิงลู่ก็ฉายแววคาดโทษทันที ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม
“เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่ยอมบอกฉัน?”
หลังจากที่เขาได้รับโทรศัพท์จากทางมหาวิทยาลัย และได้ฟังอาจารย์เล่าเรื่องราวให้ฟัง เขาทั้งตกใจและเป็นห่วงอย่างมาก
เขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าตลอดหลายวันที่ผ่านม หลี่เฟยฮวาใช้ชีวิตอย่างไร
MANGA DISCUSSION