บทที่ 100 เราจัดงานแต่งงานกันอีกรอบไหม
หลี่เฟยฮวาซื้อเมล็ดแตงโมหนึ่งถุงที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน และแจกให้คนที่มานั่งฟังคนละกำมือ
หลังดื่มน้ำหนึ่งอึกแล้วก็พูดขึ้น “หลังจากนั้นฉันทำให้แม่สามีโกรธ พวกเขาก็เลยกลับหนีกลับบ้านไปเลยค่ะ”
ทุกคนได้ยินแล้วก็สงสัย “เธอทำอะไรให้เหอม่านชิงโกรธล่ะ?”
หลี่เฟยฮวาถอนหายใจ สายตาเต็มไปด้วยความจนใจ “ก็หวงหมิงเจ๋อจะแต่งงานไง แม่จึงให้หวงหมิงลู่หาตั๋วจักรยานมาสักใบ แต่เขานอนอยู่บนเตียงคนไข้จะทำอะไรได้ล่ะ เธอก็เลยบอกว่าเขาไม่กตัญญู พวกคุณก็รู้นิสัยฉัน พอได้ยินก็เลยระเบิดออกมานิดหน่อย แล้วเถียงแม่ไป”
พูดจบหลี่เฟยฮวาก็แสดงท่าทางเสียใจ “ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ไม่ควรเถียงผู้ใหญ่ แต่ฉันก็จะพูดความจริงกับทุกคนนะ ตอนที่หวงหมิงลู่แต่งงานกับฉัน ทางบ้านเกิดของเขาก็ไม่พูดหรือทำอะไรเลย แต่พอแม่เขามา ฉันก็ให้เงินใช้นะ หวงมี่มี่ ยังเอาเสื้อตัวที่ฉันชอบที่สุดไปจากตู้เสื้อผ้าของฉันด้วย!”
ทุกคนได้ยินแล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “ตระกูลหวงไม่ได้จัดการเรื่องงานแต่งงานของพวกเธอเหรอ?”
หลี่เฟยฮวาพยักหน้าอย่างน่าสงสาร “ใช่แล้ว! ก่อนหน้านี้ฉันยังทะเลาะกับสามีเพราะเรื่องนี้ด้วยนะ!”
ทุกคนคิดดูแล้ว ก่อนหน้านี้ เหอม่านชิงบอกว่าหลี่เฟยฮวานิสัยไม่ดี เป็นจอมวายร้ายเลยทีเดียว แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว การที่เธอมีอารมณ์บ้างก็เป็นเรื่องปกติมากเลยนี่!
วันแต่งงานครอบครัวฝ่ายชายไม่มาไม่พอ แม้แต่คำอวยพรสักคำก็ไม่มี เมื่อเทียบกับงานแต่งงานของหวงหมิงเจ๋อแล้วมันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว หลี่เฟยฮวา จะดีใจได้ยังไงกัน!
อย่าพูดถึงอารมณ์เสียเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย ถึงจะอาละวาดจนบ้านพังพินาศก็ถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อเห็นทุกคนดูเหมือนกำลังครุ่นคิด หญิงสาวก็หลุบตาลงต่ำ พูดต่อไปอย่างนอบน้อม “ดังนั้นเช้านี้ ตอนที่หวงหมิงเจ๋อกับแม่มาขอลูกอมจากฉัน ฉันก็เลยไม่อยากให้!”
“อีกอย่างเมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันได้แบ่งให้เด็ก ๆ ไปแล้ว เลยไม่ได้เหลือมากมายอะไร ถ้าจะทำเป็นของฝากก็คงไม่พอ”
หลี่เฟยฮวาชอบของลูกอมหวาน ๆ มาก เพราะชาติก่อนมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เมื่อรู้สึกไม่สบายก็สามารถหยิบกินได้ทันที
เมื่อทุกคนได้ฟังคำพูดของเธอแล้ว ก็เพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วมีเรื่องซ่อนเร้นอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันก่อน เด็ก ๆ ในหมู่บ้านแต่ละบ้านก็ได้รับลูกอมคนละสองก้อนกลับบ้าน
แม้ลูกอมจะไม่ใช่ของแพงอะไร แต่ต้องคงจะใช้เงินจำนวนไม่น้อยซื้อมาเป็นแน่ แม้แต่พี่น้องแท้ ๆ ก็ยังต้องคิดบัญชีกันอย่างชัดเจน แต่หวงหมิงเจ๋อกลับอยากได้ทั้งหมด!
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เจอกันบ่อย ๆ แม้ในใจจะดูถูก แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา หลี่เฟยฮวาก็ไม่สนใจ ขอแค่บรรลุเป้าหมายก็พอ
ในวันแต่งงาน คนตระกูลหวงยุ่งจนไม่มีเวลาสนใจหลี่เฟยฮวากับหวงหมิงลู่
วันนี้ หลินเซียวอี้สวมชุดแต่งงานสีขาว ซึ่งเธอเป็นคนแรกในชนบทที่ใส่ชุดแต่งงานแบบนี้ ดังนั้นเมื่อหญิงสาวปรากฏตัวขึ้น ทุกคนก็มองมาที่เธอ
หลี่เฟยฮวานั่งบนม้านั่งกินเมล็ดแตงโม ข้าง ๆ มีหวงหมิงลู่คอยแกะให้เธอ
“ชุดแต่งงานของหลินเซียวอี้ดูสวยดีนะ”
งานแต่งงานของน้องสะใภ้คนนี้หรูหราอลังการมาก ทำเอาหวงหมิงลู่ที่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ นั้น ชะงักไปชั่วครู่
พอนึกย้อนกลับไป งานแต่งงานของเขากับหลี่เฟยฮวานั้นเรียบง่ายจนแทบเรียกว่า รีบร้อน ชุดเจ้าสาวก็เป็นชุดสำเร็จรูปธรรมดา ๆ แขกเหรื่อก็มีเพียงเพื่อนฝูง ไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนงานแต่งงานที่กำลังเห็นอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
“คิดอะไรอยู่เหรอ” เสียงหวานใสของหลี่เฟยฮวา ดึงหวงหมิงลู่ให้กลับมาสู่ปัจจุบัน พร้อมกับมือเรียวบางที่โบกไปมาอยู่ตรงหน้า
“เปล้า ไม่มีอะไร” เขาปฏิเสธเสียงอ่อย แต่เธอก็พอจะรู้ทัน
“ไม่จริงหรอก ฉันเรียกตั้งหลายครั้ง เห็นคุณมองชุดเจ้าสาวบนเวทีไม่วางตาเลย”
หวงหมิงลู่หยุดชะงักนิดนึง ก่อนจะสบตากับหลี่เฟยฮวาที่จ้องมองมาด้วยสายตารู้ทัน
“คือ… พอรวบรวมเงินได้ก้อนนึงแล้ว เราจัดงานแต่งงานกันใหม่ดีมั้ย?”
เขาอยากให้ภรรยาได้สวมชุดเจ้าสาวสวย ๆ เหมือนที่เห็นบนเวที แต่ไม่กล้าพูดออกไปตรง ๆ
หลี่เฟยฮวาถึงกับอึ้งไป “ไม่ต้องหรอก เปลืองเงินเปล่า ๆ”
“ตอนนั้น…ฉันไม่ได้ใส่ใจเรื่องงานแต่งงานมากนัก คิดแค่ว่าแค่กินเลี้ยงกันก็พอแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่างานแต่งงานมันสำคัญ เราน่าจะมีรูปถ่ายชุดแต่งงานสวย ๆ เก็บไว้ดูบ้าง” หวงหมิงลู่ไม่อยากให้ตัวเองหรือหลี่เฟยฮวาต้องมานั่งเสียใจทีหลัง
หญิงสาวเงียบไปนาน จนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้
“หลี่เฟยฮวา เธอตกลงไหม?”
ความจริงแล้วเธออยากปฏิเสธ แต่แววตาจริงจังของหวงหมิงลู่ทำให้เธอพยักหน้าตกลงอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเห็นรอยยิ้มกว้างของเขาแล้ว
“เอ่อ คือ…”
หวงหมิงลู่ไม่ปล่อยให้เธอได้พูดเปลี่ยนใจ “เรื่องจัดงานแต่งงานอาจจะต้องใช้เวลาอีกหน่อย งั้นเราไปถ่ายรูปชุดแต่งงานกันก่อนก็ได้”
หลี่เฟยฮวาได้แต่พยักหน้ารับอย่างมึนงง
“ได้”
ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน บนเวทีก็ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย เจ้าบ่าวเจ้าสาวร้องไห้ซาบซึ้ง แม้แต่แขกที่มาร่วมงานก็พลอยตื้นตันใจไปด้วย
หลี่เฟยฮวาไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน จึงไม่เข้าใจความรู้สึกของคนเหล่านั้น แต่ถ้าเธอได้แต่งงานกับหวงหมิงลู่และมีญาติมิตรมาร่วมแสดงความยินดีแบบนี้บ้างก็คงจะดี
หลี่เฟยฮวาหัวใจเต้นแรง
ทว่า…นี่ไม่ใช่ร่างกายของเธอ เธอไม่ควรเห็นแก่ตัวแบบนี้ ถ้าเจ้าของร่างเดิมกลับมาหวงหมิงลู่จะเป็นยังไง?
หลี่เฟยฮวาถอนหายใจ และเลิกคิดเรื่องนี้ เอาเป็นว่าถ่ายรูปแต่งงานสักครั้งก็พอ ขอเห็นแก่ตัวแค่นี้แหละ
งานแต่งจบลงพร้อมแสงดาว หลี่เฟยฮวาเหนื่อยสายตัวแทบขาด แม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด รีบกลับไปนอนที่บ้านของลุงหยางตั้งแต่หัวค่ำ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หลี่เฟยฮวารู้สึกเหมือนเตียงยุบลงเบา ๆ และรู้สึกตัวเหมือนมีใครบางคนมานั่งข้าง ๆ
เมื่อลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ก็เจอแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งก็คือหวงหมิงลู่นั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ข้างเตียง
เธอตาสว่างขึ้นมาในทันที ความง่วงหายวับไป ในหัวมีแต่เสียงกรี๊ดดังสนั่น
หลี่เฟยฮวาลุกพรวดขึ้นมาบนเตียง ตาจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังของสามี
โอ้แม่เจ้า! กล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ไหล่กว้าง เอวคอด ดีงามเป็นที่สุด!
หลี่เฟยฮวากลืนน้ำลายดังอึกในความเงียบสงัด
หวงหมิงลู่สะดุ้งโหยง พลางหันหน้ากลับมาอย่างเขิน ๆ ก่อนสบตากันนิ่งอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น “ตื่นแล้วเหรอ? ฉันจะไปใส่เสื้อผ้านะ”
หลี่เฟยฮวาใจลอย มองหุ่นล่ำ ๆ ของหวงหมิงลู่ตาไม่กระพริบ “ไม่ ไม่ ไม่ต้องหรอก”
‘แบบนี้ดีแล้ว!’ หลี่เฟยฮวาคิดในใจ
แต่หวงหมิงลู่ก็ยังเขินอาย คว้าเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งมาใส่ “ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ คิดว่าเธอหลับแล้ว ขอโทษนะ”
ความจริงเขาได้ยินที่เธอบอกว่าไม่ต้องหรอก ในใจจึงร้อนรุ่มไปหมด แต่ก็ยังต้องทำหน้านิ่งขรึมเอาไว้
ถึงจะแต่งงานกันแล้ว แต่ก็แทบไม่ได้ทำอะไรแบบสามีภรรยาเลย เมื่อกี้หลี่เฟยฮวาจะโกรธไหมนะ?
หวงหมิงลู่แอบมองภรรยาอย่างกังวลใจ ส่วนเธอที่อยู่บนเตียงก็มองเขาตาเยิ้มเชียว
ผ่านไปเนิ่นนาน ในที่สุดหลี่เฟยฮวาก็พูดขึ้น “นายเหนื่อยแล้วสินะ รีบนอนเถอะ”
หวงหมิงลู่พยักหน้า
คืนนั้น ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ส่วนหลี่เฟยฮวาก็หลับเป็นตาย จนกระทั่งตื่นเช้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่าหัวของตัวเองก็ซุกอยู่ที่อกหวงหมิงลู่ซะแล้ว
หลี่เฟยฮวาเงยหน้ามองเล็กน้อยและเห็นหวงหมิงลู่ตาแดงก่ำอยู่จึงเอ่ยถามขึ้นมา
“นอนไม่หลับเหรอ?”
หวงหมิงลู่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและเก็บสีหน้านิ่งได้เป็นอย่างดี
“เปล่า”
หลี่เฟยฮวาไม่ได้คิดอะไรต่อ หาวหวอด ๆ แล้วลุกจากเตียงทันที ส่วนหวงหมิงลู่ก็รีบลุกตามไปต้มน้ำให้ เพราะเขาเป็นคนละเอียด รู้ว่าเธอรักสะอาด แม้แต่หน้าหนาวยังต้องอาบน้ำอุ่น ๆ นับประสาอะไรกับหน้าร้อน แต่เมื่อคืนเธอคงเหนื่อยมากเลยหลับไปเลย
หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จยังไม่ทันที่ตัวจะหายเปียกก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากหน้าบ้านลุงหยาง
เมื่อเดินออกไปดูก็เห็นหวงชิงหยูกับเหอม่านชิงยืนอยู่หน้าบ้าน กำลังคุยอะไรบางอย่างกับหวงหมิงลู่
เธอแอบฟังอยู่พักใหญ่จึงได้รู้ว่าหวงชิงหยูกับเหอม่านชิง จะให้ทั้งคู่กลับบ้าน
MANGA DISCUSSION