บทที่ 86 มอบรางวัลในชนบท
เนื่องจากอาโม่เป็นผู้นำที่มีตำแหน่งสูง เขาจึงไม่ได้จากไปในทันที ด้วยไม่อาจเมินต่อกลุ่มคนที่จ้องมองมาอย่างไม่วางตาได้
อาโม่โบกมือให้ โดยที่ตัวเขายังไม่ได้ขึ้นรถ ด้วยกำลังยืนมองสมาชิกที่มายืนดูเหตุการณ์ นอกจากจ้าวเจี้ยนตงที่ตามมาทีหลัง ทุกคนล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด
เขาทักทายสมาชิกอย่างร่าเริง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมว่า “ขอบคุณพวกคุณทุกคน สำหรับการทำงานหนักนะครับ”
“ไม่หนักหรอกค่ะ ไม่หนักเลย” สมาชิกกลุ่ม รวมถึงแม่จ้าวดูตื่นตระหนกเล็กน้อย เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์เผชิญหน้ากับเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้
ต่างคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้จะพูดอะไรดี
ในที่สุดยุวชนหน้ากลมก็ยืนขึ้น แล้วพูดอย่างฉะฉานว่า “ยุวชนมีความทะเยอทะยานในทุกด้าน พวกเรามาทำงานในชนบท และตั้งรกรากในชนบท การได้มีส่วนร่วมในการผลิตและก่อสร้างในมาตุภูมิ พวกเราไม่เสียใจเลยค่ะ”
อาโม่เหลือบมองยุวชนหน้ากลม ด้วยความประหลาดใจ “พูดได้ดี คนนี้ก็เป็นยุวชนเหมือนกันสินะครับ พูดได้ไม่เลวเลย”
เลขาธิการประจำมณฑลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถามว่า “สหายลี่หรงก็เป็นยุวชนเช่นกันใช่ไหม แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้คุณไม่ต้องทำงานเหรอครับ?”
ในยุคนี้ที่ยุวชนได้รับการสนับสนุนให้ไปทำงานในชนบท หากลี่หรงที่เป็นยุวชนเดินทางไปชนบท แล้วปฏิเสธที่จะเข้าร่วมทำงาน แม้ว่าเธอจะสอบได้อันดับสอง ทว่าภาพลักษณ์ของเธอจะถูกมองในทางที่ไม่ดีนัก
ลี่หรงไม่ได้ตื่นตระหนกถึงเรื่องนี้เลย เธอเม้มปาก แล้วอธิบายว่า “ไม่นานหลังจากมาที่ชนบท ฉันก็ได้แต่งงานกับทหารปลดประจำการในหมู่บ้าน สามีของฉันพิการจึงถูกปลดประจำการจากกองทัพค่ะ ต่อมาก็ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านพ่อแม่สามี ทำให้มีงานหลายอย่างที่ต้องทำ แต่สามีรู้สึกสงสารฉัน กลัวว่าภาระงานจะหนักมากเกินไป ทั้งจากการทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้าน เขาจึงช่วยคุยกับประธานให้ ทำให้หลังจากนั้นก็ให้ฉันหยุดไปทำงานค่ะ”
สมาชิกรอบตัวต่างรู้ว่าลี่หรงกำลังกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ แต่พวกเธอไม่ได้โต้แย้งเพื่อสร้างปัญหาแต่อย่างใด
หลี่เซียงยังคงเจ็บใจที่ลี่หรงสอบได้อันดับสองของมณฑล เธอรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า และไม่คิดจะตอบสนองต่อสิ่งที่ลี่หรงพูด
หัวหน้าจ้าวเจี้ยนผิงได้ยินว่าตนถูกกล่าวถึง จึงลุกขึ้นยืนพูด โดยไม่ต้องคิดว่า “ใช่ครับ สหายลี่หรงทำงานหนักมาก เธอเป็นยุวชนที่ทำงานหนักมาโดยตลอด ทั้งยังไม่รังเกียจสามีของเธอที่มีปัญหาเรื่องขา และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองครับ”
แม่จ้าวก็พูดเช่นกัน “สวัสดีค่ะท่านผู้นำ ฉันคือแม่สามีของลี่หรงเองค่ะ สามารถเป็นพยานได้ว่าเสี่ยวหรงของเราขยันทำงานและประหยัดอดออม บ้านก็ได้รับการดูแลอย่างดี ฉันขอบคุณเธอเสียด้วยซ้ำที่ไม่รังเกียจลูกชายคนรองของฉัน และยอมแต่งงานเข้ามา ครอบครัวของฉันเสียมากกว่าที่เหมือนทำผิดต่อเสี่ยวหรง”
“พูดเรื่องอะไรคะแม่ หนูไม่ได้เสียใจเลยค่ะ” ลี่หรงมองแม่จ้าวด้วยความเข้าใจ
ความสัมพันธ์ที่กลมเกลียวกัน ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้นั้นชัดเจนทันที
หญิงสาวที่ทาลิปสติกดูทันสมัยพูดว่า “ไม่เลวเลยจริง ๆ ดีมาก ว่าแต่คุณไม่ได้ทำงาน แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่ไร่แบบนี้ล่ะคะ?”
ลี่หรงเขย่าตะกร้าในมือ “ฉันทำขนมโก๋ถั่วเขียวมาให้แม่ของฉันค่ะ แล้วก็เอามาแบ่งให้ป้าคนอื่น ๆ ด้วย ทุกคนทำงานหนักกันขนาดนี้ ฉันทำได้เพียงช่วยสนับสนุนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นค่ะ”
สมาชิกหลายคนที่ได้กินขนมโก๋ถั่วเขียว รีบกล่าวชมลี่หรง
ฟังจากสิ่งที่พวกเธอพูด ทำให้รู้เลยว่าลี่หรงส่งขนมมาให้แม่จ้าว และคนอื่น ๆ มากกว่าหนึ่งครั้ง
สะท้อนให้เห็นว่าลี่หรงเป็นคนนิสัยดี เธอขยันทำงานและมีน้ำใจ
เมื่อเห็นพวกเขาพยักหน้า ลี่หรงก็รู้ว่าเธอได้รับความไว้วางใจนี้แล้ว
เธอเอ่ยชวนได้ถูกเวลา “คุณอาโม่ไปกันเถอะค่ะ ไปนั่งที่บ้านก่อน ยืนรับลมตรงนี้ สมาชิกจะทำงานกันไม่สะดวกนะคะ”
อาโม่ก็ตอบว่า “ครับ งั้นเราเข้าไปในบ้านกันเถอะ จะได้ไม่รบกวนชาวบ้านทำงาน”
ชายหนุ่มผมเรียบแปล้ เปิดประตูรถอีกครั้ง
อาโม่ปฏิเสธที่จะขึ้นรถ แล้วพูดว่า “ผมเหนื่อยจากการนั่งอยู่ในรถมานานแล้ว ทำไมเราไม่ไปเดินเล่นด้วยกันล่ะครับ เสี่ยวหวัง นายค่อย ๆ ขับรถตามมาช้า ๆ ก็ได้”
เสี่ยวหวังเป็นคนขับรถ เขาพยักหน้า
เมื่ออาโม่อยากลงเดิน อีกสามคนย่อมไม่เข้าไปในรถ ทุกคนต่างพยักหน้า
ลี่หรงยกยิ้ม โดยไม่แสดงท่าทีอวดดีแม้แต่น้อย เธอพูดว่า “ตรงนี้ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านสักเท่าไหร่นะคะ งั้นฉันจะถือโอกาสพาคุณอาโม่ชมทิวทัศน์ของหมู่บ้านต้าเจียงของพวกเราเองค่ะ”
เรื่องการไปมาหาสู่กันนั้น จ้าวเจี้ยนตงรู้ว่าเขาไม่สามารถแสดงความเห็นได้ เพราะผู้นำไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบเขาตั้งแต่แรก
แม้ว่าเขาจะถูก ‘เพิกเฉย’ แต่ก็ไม่อาจบ่นได้ เมื่อได้ยินคำพูดของลี่หรง เขาก็รีบพยักหน้า ในใจคิดว่ายุวชนลี่ทำถูกต้องแล้ว
ลี่หรงพาผู้นำเยี่ยมชมหมู่บ้านต้าเจียง ผู้นำพึงพอใจที่เห็นว่าการผลิตและการก่อสร้างในหมู่บ้านต้าเจียงนั้นได้ผลผลิตดี บางทีจ้าวเจี้ยนตง เลขาประจำหมู่บ้าน อาจถูกผู้บังคับบัญชาพูดชื่นชมเพราะเรื่องนี้ก็ได้
จ้าวเจี้ยนผิง หัวหน้าฝ่ายผลิตไม่กล้าพูดในขณะนี้ เพราะเขาเห็นหลี่เซียงอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเธอเป็นแม่สามีของหลานสาวเขา
จ้าวเจี้ยนผิงพลันคิดไม่ตกจนเหงื่อไหลซึมออกมา หวังว่าจะไม่มีความขัดแย้งระหว่างคนทั้งสองนี้
ลี่หรงพาอาโม่และคนอื่น ๆ ก้าวไปข้างหน้า
จ้าวเจี้ยนตงกับจ้าวเจี้ยนผิงตามไปอย่างเด็ดเดี่ยว เมื่อผู้นำที่มีอำนาจมาหมู่บ้านต้าเจียงทั้งที แน่นอนว่าเลขาประจำหมู่บ้านและหัวหน้าฝ่ายผลิตต้องออกมารับหน้า
จ้าวเจี้ยนตงเดินตามไปสองสามก้าว จากนั้นรีบหันไปพูดกับแม่จ้าว “ภรรยาของเจี้ยนกั๋ว รีบไปบอกให้สามีของคุณกลับบ้านด่วน นายใหญ่มาถึงที่แล้ว”
“โอ้! จะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” แม่จ้าววิ่งไปเรียกพ่อจ้าวทันที โดยไม่สนใจเรื่องงานเลย
ชื่อของหมู่บ้านต้าเจียง มาจากข้อเท็จจริงที่ว่ามีแม่น้ำสายใหญ่ล้อมรอบหมู่บ้าน ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นน้ำแข็งหมดแล้ว
ลี่หรงพาอาโม่และคนอื่น ๆ เดินชมไปทั่ว ระหว่างทางมีการถามตอบกันเป็นครั้งคราว ท่ามกลางบรรยากาศอันแจ่มใส
เมื่อมาถึงลานบ้านสกุลจ้าว ลี่หรงก็พาพวกเขาเข้าไปในห้องรับแขก
ข้างนอกอากาศหนาวเย็น ในตอนที่ลี่หรงออกไปส่งขนมโก๋ถั่วเขียวให้กับคนอื่น ๆ อันอันก็อยู่บ้านเล่นกับพวกต้าหนิว
เมื่อเห็นคนแปลกหน้าหลายคนเข้ามาพร้อมกัน พวกต้าหนิวก็หยุดเล่นกันทันที
อันอันเห็นลี่หรง ก็ตะโกนออกมาเสียงดังฟังชัด “แม่”
“ว่าไงจ้ะ ลูกรัก”
อาโม่และคนอื่น ๆ ประหลาดใจเล็กน้อย “คุณมีลูกแล้วจริงเหรอครับ?”
ลี่หรงยิ้ม “ฉันแต่งงานกับสามีมาเกือบสี่ปีแล้วค่ะ”
ลี่หรงเชิญให้พวกเขานั่งลง แล้วรินน้ำให้ทุกคน
ระหว่างทางการถามตอบเป็นเพียงการอารัมภบทเท่านั้น ตอนนี้มาถึงประเด็นที่ทำให้พวกอาโม่มาที่ชนบทแล้ว
หลังจากพูดคุยประเด็นลี่หรงสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว อาโม่ก็กระแอม ก่อนพูดว่า “ประเทศได้กลับมาดำเนินการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง มณฑลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และได้ให้ความร่วมมือกับการเตรียมการสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สำหรับนักเรียนที่เข้าสอบครั้งนี้ พวกเราเป็นห่วงเรื่องผลสอบมากครับ ทว่าในตอนนี้จากผลสอบของคุณเป็นที่น่าพึงพอใจทั้งในระดับประเทศ และสามารถนำชื่อเสียงมาสู่นครเอกของมณฑลด้วยครับ”
โม่อธิบายจุดประสงค์ของการมาที่นี่ว่า “สำหรับคนที่สอบได้สามอันดับแรก ในนครเอกของมณฑล ทางมณฑลได้จัดเตรียมรางวัลไว้ให้ เพื่อลดภาระทางการเงินต่อชีวิตของคุณ เมื่อต้องเข้าไปเรียนในมหามหาวิทยาลัยครับ”
ลี่หรงอุ้มอันอัน ขณะตั้งใจฟัง
เธอไม่แปลกใจเลย ถ้าเขาให้อะไรบางอย่างกับเธอ
คะแนนของเธอสูงพอที่จะไปชิงเป่ย ในยุคปัจจุบัน จากชนบทสู่เมือง ย่อมมีรางวัลให้ในทุกระดับ
ขณะนี้คุณพ่อจ้าวที่รีบกลับบ้านมาถึงแล้ว เขากับแม่จ้าวยืนลังเลอยู่ที่ประตู
“พ่อแม่เข้ามานั่งสิคะ” ลี่หรงยืนขึ้น โดยมีอันอันอยู่ในอ้อมแขน ขณะเชิญให้ผู้อาวุโสทั้งสองเข้ามานั่งลง
อาโม่รู้ว่าพวกเขากำลังประหม่า จึงพูดด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ “ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เข้ามานั่งก่อนได้ คุณคือพ่อแม่สามีของสหายลี่หรงหรือเปล่าครับ เรากำลังพูดถึงรางวัลที่ทางมณฑลมอบให้ลี่หรง เสี่ยวจางไปเอาของเข้ามาเร็ว”
เสี่ยวจางก็คือชายหนุ่มผมเรียบแปล้นั่นเอง
เขาตอบรับ แล้วเดินออกไป
อาโม่กล่าวชื่นชมลี่หรง ต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลจ้าว
MANGA DISCUSSION