บทที่ 73 แก้ปัญหา
“ไม่ล้มหรอกครับ” จ้าวชิงซงกระซิบ “อยู่ในนั้นคุณกลัวไหมครับ พวกเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า?”
ลี่หรงส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไรค่ะ คุณพาฉันออกมาได้ยังไง?”
จ้าวชิงซงจับมือลี่หรง แล้วพาเธอไปหาหลี่เฉิงจวิน “นี่พี่หลี่ อดีตสหายในกองทัพของผมเองครับ”
“ขอบคุณนะคะพี่หลี่” ลี่หรงกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เหล่าจ้าวกับผมสนิทกันมากกว่าพี่น้องซะอีก ไว้มาดื่มชาที่บ้านผมสักถ้วยก่อน จะได้ผ่อนคลายขึ้นนะครับ”
หลี่เฉิงจวินกวักมือเรียก พวกเขาทั้งสองมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นต่อกัน บางทีจ้าวชิงซงอาจไม่เคยจริงจังกับเรื่องนี้ แต่หลี่เฉิงจวินเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจเสมอ
ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวชิงซง เขาคงตายไปนานแล้ว
จ้าวชิงซงปฏิเสธคำชวนของหลี่เฉิงจวิน โดยกล่าวว่า “ครั้งหน้าแล้วกันครับพี่ ผมต้องรีบไปสืบหาว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หากไม่ได้จัดการเรื่องนี้ให้ดี ผมจะไม่มีวันรู้สึกสบายใจได้แน่ครับ”
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นนายก็กลับไปก่อนเถอะ แล้วฉันจะช่วยจับตาดูเรื่องนี้ไว้ให้ ฉันเองก็อยากดูเหมือนกัน ว่าใครกล้ามายุ่งกับน้องชายของฉัน”
ทั้งสองสามีภรรยากล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง แล้วกลับบ้าน
ระหว่างทาง จ้าวชิงซงจับมือลี่หรงไว้แน่น
ตอนที่จ้าวชิงซงรู้ว่าลี่หรงเริ่ม ‘ทำธุรกิจ’ ครั้งแรก ตอนนั้นเขาบอกเธอว่าอย่าทำเรื่องแบบนี้เลย ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมและให้เหตุผลว่าหากหญิงสาวถูกจับขึ้นมา จ้าวชิงซงจะสามารถพาเธอออกไปได้แน่นอน
ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้พิสูจน์แล้วว่า จ้าวชิงซงสามารถพาเธอออกมาได้จริง ๆ
เมื่อหญิงสาวได้ประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าวจริง ๆ ก็ยังคงมีความตื่นตระหนกตกค้างอยู่ในใจ
แต่ลี่หรงจะไม่หยุดหาเงินเพราะเหตุผลเพียงเท่านี้ เธอจับมือของจ้าวชิงซงแน่น แล้วเริ่มวิเคราะห์ “ฉันคิดว่าฉันไม่ได้มีปัญหากับคนที่นี่ และไม่รู้จักคนพวกนั้นสักคนเลยค่ะ”
ลี่หรงถูกขังไว้ในห้องมืดเล็ก ๆ จนกระทั่งจ้าวชิงซงมาถึง ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาอันสั้น
เธอคิดอย่างรอบคอบ และพบว่าทุกครั้งที่รวบรวมไข่จากพวกป้าในหมู่บ้าน ก็ไม่เคยมีเรื่องน่าสงสัยเกิดขึ้น
และราคาที่เธอเสนอก็ไม่ได้ต่ำแต่อย่างใด พวกเธอสามารถสร้างรายได้ด้วยการแลกเปลี่ยนไข่เป็นเงินกับลี่หรง จึงไม่มีเหตุผลที่จะเอาเรื่องเธอไปรายงาน
สักพักราวกับว่านึกอะไรบางอย่างออก จู่ ๆ ลี่หรงก็พูดว่า “หัวหน้าหญิงคนนั้นพูดถึงโรงงานเหล็ก… ผู้จัดการอู๋!”
จ้าวชิงซงถือโอกาสตอนที่ไม่มีใครอยู่แถวนั้น กอดลี่หรงแล้วจับมือเธอไว้ ขณะพูดว่า “ผมจะพาคุณกลับบ้านก่อน แล้วผมจะไปหาผู้จัดการอู๋ครับ”
“ฉันจะไปกับคุณด้วยค่ะ”
จ้าวชิงซงมองลี่หรงอยู่พักหนึ่ง ก่อนพยักหน้า
พวกเขาทั้งสองไม่กล้าไปที่โรงงานเหล็กในทันที จึงเลือกที่จะโทรไปหาอีกฝ่าย ให้มาเจอกันที่ร้านสหกรณ์ของอำเภอ
อู๋จื่อกังรู้สึกประหลาดใจมาก หลังจากรับสายและได้ฟังสิ่งที่จ้าวชิงซงเล่าแล้ว เขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “รออยู่ตรงนั้นกันก่อนนะครับ ผมจะรีบไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ครับ”
อู๋จื่อกังคงรีบมาทันทีที่วางสาย เพียงสิบนาทีต่อมา เขาก็มาถึง
ก่อนอื่นเขาเหลือบมองลี่หรง แล้วถามว่า “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
ลี่หรงส่ายหน้า “ฉันสบายดีค่ะ แค่โดนขังอยู่ในนั้นไม่นานค่ะ”
อู๋จื่อกังถามลี่หรง “คุณแน่ใจเหรอครับว่าไม่เป็นอะไร?”
“ใช่ค่ะ ไม่เป็นอะไร ไม่มีเหตุผลที่จะรายงานฉันค่ะ ที่สำคัญคือผู้หญิงคนนั้นพูดถึงโรงงานเหล็กและโดยเฉพาะคุณ เหมือนต้องการจะลากฉันเข้าไปเกี่ยวข้องให้ได้ค่ะ”
จ้าวชิงซงถามว่า “พี่อู๋ ช่วงนี้พี่มีปัญหาอะไรที่โรงงานเหล็กหรือเปล่าครับ?”
อู๋จื่อกังเลิกคิ้วตอบ “ไม่… เอ๊ะ! ผมจำได้ว่าผู้จัดหาสินค้าคนหนึ่ง เพิ่งสร้างปัญหาไปไม่นานมานี้ครับ… ไม่สิ เขาไม่มีทางรู้ว่าพวกเราติดต่อกัน ไม่มีเหตุผลที่จะไปยุ่งกับพวกคุณ ผมกำลังมีปัญหากับผู้จัดหาสินค้าเรื่องนี้แหละครับ”
สีหน้าของจ้าวชิงซงเคร่งขรึม “รู้สึกเหมือนเรื่องมันจะไม่จบได้ง่ายแบบนั้นนะครับ เหมือนกับว่าพวกเขาจะต้องการตราหน้าลี่หรงว่าเป็น ‘นักเก็งกำไร’ และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาคงต้องการจะลากพี่อู๋เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย …”
“เดี๋ยวนะครับ” อู๋จื่อกังหรี่ตาลง ราวกับว่านึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “อีกไม่นานตำแหน่งผู้นำของโรงงานเหล็กกำลังจะถูกเปลี่ยนแล้วครับ ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือใคร หัวหน้าหญิงคนนั้นชื่ออะไรเหรอครับ?”
“สกุลเจิ้งค่ะ” ลี่หรงหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจิ้ง… เจิ้งสุ่ยฟางค่ะ”
“แบบนี้นี่เอง” อู๋จื่อกังมองพวกเขา “โชคดีที่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เดี๋ยวผมจะรีบจัดการส่วนที่เหลือเอง ช่วงนี้ก็ระมัดระวังกันด้วยนะครับ”
“เรื่องไข่ไก่ …”
อู๋จื่อกังกล่าวว่า “เก็บรวบรวมได้ตามปกติเถอะครับ ไม่ต้องห่วง ธุรกิจทั้งหมูและไข่ พวกเราก็ทำมานานแล้ว นี่ไม่ใช่ความคิดของผมคนเดียว”
เขาชี้นิ้วขึ้นฟ้า “คนข้างบนก็ด้วยครับ”
จ้าวชิงซงกล่าว “ทำไมคุณไม่พักเรื่องไข่ไว้ก่อนล่ะครับ รอให้คุณแก้ไขปัญหาก่อน แล้วเราก็ค่อยเริ่มกันใหม่ก็ได้นะครับ”
ในความเป็นจริง จ้าวชิงซงไม่อยากให้ลี่หรงต้องเสี่ยงอีก
พูดอีกอย่างคือเขาไม่อยากให้ลี่หรงทำแล้วด้วยซ้ำ สวรรค์รู้ดีว่าเขารู้สึกอย่างไร เมื่อได้ยินว่าลี่หรงถูกจับตัวไป ขณะอยู่ที่ฟาร์มสุกร
ขณะนั้นก็รู้สึกราวกับท้องฟ้ากำลังถล่ม เขาหรี่ตาลงทันใด แล้วกำหมัดแน่น ได้แต่บังคับตัวเองให้กลับสู่ความเป็นจริง
ตอนไปที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อติดต่อผู้จัดการอู๋และไปหาหลี่เฉิงจวิน ใจเขาเต้นระทึกอยู่เสมอ ระหว่างทางไม่กล้าเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว
เขากลัวมากว่าลี่หรงจะได้รับอันตราย หากไปสายเกินไป
เขาตกใจและหวาดกลัวมาก
อู๋จื่อกัง “ไม่เป็นอะไรครับ ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขภายในครึ่งเดือนแน่นอนครับ แล้วก็ …”
เขาหยุดชั่วคราว แล้วอธิบายให้จ้าวชิงซงกับภรรยาของเขาฟังว่า “… ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนแปลงแล้ว นโยบายใหม่จำนวนมากยังไม่ได้ประกาศออกมา แต่ผมได้ยินมาว่าอีกไม่นาน ‘องค์ประกอบสี่ประเภท’ จะถูกยกเลิก และการปฏิรูปด้วยนโยบายใหม่จะดำเนินการ เรื่องนี้จึงเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น”
จ้าวชิงซงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลี่หรงดึงแขนเสื้อของเขา
ลี่หรงเข้าใจสิ่งที่อู๋จื่อกังอธิบาย
ในปีหนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบเก้า นโยบายดังกล่าวจะได้รับความนิยมอย่างแท้จริง และจะถูกนำมาใช้ในพื้นที่ชนบท การปฏิรูปนโยบายจะใช้เวลาเกือบปี อาจนำมาใช้จริงในปีหนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบเก้า หรือปีหนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบ
แต่อู๋จื่อกังบอกว่าสามารถเก็บรวบรวมไข่ต่อไปได้ แน่นอนว่าลี่หรงจะไม่ยอมแพ้
จ้าวชิงซงถอนหายใจ ทำหน้าบูดบึ้ง แต่ก็ยอมประนีประนอม “ก็ได้ครับ”
หลังจากเผชิญศึกหนักกันมานาน เมื่อทั้งสองกลับถึงบ้าน ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
แม่จ้าวและคนอื่น ๆ ทานอาหารเย็นกันแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าจ้าวชิงซงกับภรรยาจะกลับมาเมื่อไร นี่ก็ดึกแล้ว พวกเขาจึงป้อนข้าวอันอันและพาไปอาบน้ำโดยไม่รีรอ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ ลี่หรงและสามีก็กลับมาถึง
ทุกคนในตระกูลจ้าวนั่งรออยู่ในห้องโถง เมื่อเห็นว่าทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย ก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ทันทีที่เด็กน้อยเห็นลี่หรง ก็ยื่นมือออกมา “แม่… อุ้ม …”
ลี่หรงอุ้มอันอันขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่ “กลัวเหรอจ๊ะ? ลูกรักของแม่!”
อันอันกอดคอของลี่หรงไว้แน่น
ลี่หรงลูบก้นเขาเบา ๆ เธอกลัวว่าเด็กน้อยจะยังคงตกใจกลัว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ จึงอุ้มเด็กน้อยไม่วางเลย
คุณแม่จ้าวพูดด้วยความตื่นเต้น “ดีแล้วที่กลับมา ดีแล้วที่กลับมา …”
พ่อจ้าวรีบถามว่า “แก้ไขปัญหาเสร็จแล้วเหรอลูก?”
จ้าวชิงซงตอบว่า “เรียบร้อยแล้วครับ”
จ้าวชิงหยางกล่าวว่า “เพราะพี่ไม่ได้เรื่องเอง เลยช่วยนายไม่ได้ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกมาได้เลยนะ”
จ้าวชิงซงตบไหล่จ้าวชิงหยาง “ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ ผมจะไม่เกรงใจหรอกครับ แต่เรื่องนี้แก้ไขได้แล้วจริง ๆ”
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อจ้าวก็ถามอีกว่า “แล้วพวกลูกยังอยากจะทำงานนี้ต่อไหมล่ะ?”
ลี่หรงตอบว่า “ทำค่ะ แต่เราจะต้องระวังให้มากขึ้น”
คุณพ่อจ้าวถอนหายใจ “เอาเถอะ ลูกหลานมีบุญกรรมของตนเอง พ่อแม่ไม่สามารถบังคับใจพวกลูกได้ ก็ลองคิดหาทางจัดการกันเองเถอะ”
คุณแม่จ้าวถาม “ลูกสองคนหิวหรือเปล่า ยังมีโจ๊กเหลืออยู่บนเตา ถ้าไม่พอก็ใส่ไข่เพิ่มไปอีกสองฟอง”
“ทุกคนไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะไปหาอะไรกินเอง” จ้าวชิงซงพูดกับพวกคุณแม่จ้าว
MANGA DISCUSSION