บทที่ 70 ลี่หรงถูกจับ
ภาษาอังกฤษนั้นง่ายที่สุด เธอจึงไม่จำเป็นต้องทบทวนมากนัก
แต่ภาษาอังกฤษไม่ใช่วิชาบังคับ
ลี่หรงค่อนข้างปวดหัว ภาษาจีนกับคณิตศาสตร์นั้นไม่ได้ยากเกินไป ที่ต้องเน้นอ่านคือฟิสิกส์และเคมี สูตรคำนวณของสองวิชานี้เยอะและเข้าใจได้ยากมาก…
เธอมีความจำดี สามารถท่องจำประวัติศาสตร์การเมืองได้ หลังจากท่องไปเพียงสองสามครั้ง
หนังสือเหล่านี้พิมพ์ออกมาเมื่อนานมากแล้ว แต่ก็เต็มไปด้วยข้อมูลความรู้ที่จำเป็นทั้งหมด
ลี่หรงต้องอ่านทบทวนตามแผน ต้องพยายามอ่านให้หนัก แม้ว่ามันจะยากก็ตาม
เธอจำได้ว่าในปีแรกที่เปิดให้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ผลคะแนนสอบหลายวิชาที่ออกมาไม่ได้สูงนัก
ลี่หรงไม่ได้คาดหวังกับตัวเองสูงนัก มหาวิทยาลัยนั้นได้รับความนิยมมากในยุคนี้ การสอบผ่านก็นับว่าดีมากแล้ว
ลี่หรงรวบรวมสมาธิ ฝึกทำโจทย์ต่อไป
วันหนึ่งในเดือนเมษายน ตอนเที่ยงวัน
ลี่หรงเพิ่งกินข้าวเสร็จ และกำลังป้อนข้าวลูกน้อยอยู่
จู่ ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาในลานบ้านด้วยสีหน้าจริงจัง พวกเขาคุยกับแม่จ้าวที่กำลังยุ่งอยู่ในลานบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คนไหนคือลี่หรง?”
หัวใจของคุณแม่จ้าวเต้นรัว ผู้มาเยือนเหล่านั้นมองเจ้าของบ้านด้วยสายตาไร้ความปรานี
ผู้ใหญ่บ้านนั่นเอง!
คุณแม่จ้าวตื่นตระหนก “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
ผู้นำกลุ่มพูดอย่างใจร้อน “ลี่หรงอยู่ห้องไหน?”
ลี่หรงฟังสองสามคำจากในห้อง แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอไม่รู้จักคนเหล่านั้นเลย แต่จำผู้ใหญ่บ้านต้าเจียงได้ แม้ว่าจะยังไม่เห็นตัวก็ตาม
คนเหล่านั้นดูเคร่งขรึมมาก
ลี่หรงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ เธอรีบเก็บหนังสือเข้าไปในช่องใต้เตียง ฉีกเอากระดาษออก และเขียนอะไรบางอย่างลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนพับกระดาษซ่อนไว้ในเสื้อของลูกน้อย
จ้าวชิงซงเคยเจาะช่องใต้พื้น เพื่อซ่อนเงินของครอบครัวไว้
หลังจากกวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างระมัดระวัง ลี่หรงก็แน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ขณะที่เธอกำลังจะออกไป ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกอย่างแรง
หลังจากลี่หรงผ่านช่วงเริ่มทำธุรกิจมาสักพัก ความกล้าหาญของเธอก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า
แต่ในขณะนี้ หลายคนมาถึงหน้าประตู หากลี่หรงจะบอกว่าเธอไม่กลัว ก็คงเป็นเรื่องโกหก
เธอแสร้งทำเป็นสงบ ขณะถามด้วยรอยยิ้ม “ผู้ใหญ่บ้านเหรอคะ?”
ผู้ใหญ่บ้านมองลี่หรง แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณคือลี่หรงหรือเปล่าครับ?”
“ฉันเองค่ะ” ลี่หรงดูไม่ตื่นตระหนกเลย แต่ความจริงมือของเธอกำลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ “อยากพบฉัน… มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ?”
ชายคนนั้นตอบว่า “มีคนรายงานว่าคุณทำธุรกิจ ‘รับซื้อของไปขายต่อ’ เป็นการส่วนตัวครับ”
“เป็นการใส่ร้ายป้ายสีกันค่ะ!” ลี่หรงทำหน้าประหลาดใจ “ฉันเป็นชาวนาผู้บริสุทธิ์ สามีของฉันเป็นทหารปลดประจำการ ฉันแค่ช่วยเขาทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเองค่ะ”
ลี่หรงกล่าวถึงจ้าวชิงซง โดยหวังว่าคนเหล่านี้จะมีความเกรงใจกันบ้าง
แต่อีกฝ่ายกลับไม่แยแส ใบหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย “ไม่ว่าเขาจะเป็นการใส่ร้ายกันหรือไม่ก็ตาม พวกผมจะตัดสินด้วยตัวเอง”
ชายคนนั้นโบกมือให้สัญญาณ
ลี่หรงหน้าตาไม่สบอารมณ์ เธอขมวดคิ้วเฝ้ามองคนหลายคนที่ติดตามเขามา รื้อค้นทั่วทั้งบ้านอย่างถือวิสาสะ
เสื่อและผ้าห่มบนเตียงเตาถูกพลิกกลับด้านจนหมด ข้าวของในห้องถูกย้าย ตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออก และเสื้อผ้าที่อยู่ข้างในก็ถูกผู้หญิงสองคนรื้อค้นออกมาสะบัดทีละชิ้น …
รื้อค้นไปทั่วทั้งบ้าน
เด็กน้อยอาจสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของผู้ใหญ่ เมื่อรู้ว่าคนเหล่านี้กำลังคุกคาม เขาก็ตกใจกลัว แล้วเริ่มร้องไห้จ้า
ลี่หรงอุ้มเขาขึ้นมาปลอบโยน “เด็กดี แม่อยู่นี่นะ …”
“เสี่ยวหรง” แม่จ้าวรีบเดินเข้ามายืนข้างลี่หรง เธอมีสีหน้าหวาดกลัว เพราะรู้สึกตื่นตระหนกและไม่สบายใจกับสถานการณ์ตรงหน้า
ลี่หรงเหลือบมองคุณแม่จ้าว แล้วขยับปากบอกว่า ไม่เป็นอะไร
ต้าหนิวกับเอ้อร์หนิวไปโรงเรียน ส่วนคนอื่น ๆ ในครอบครัวจ้าวก็ยังไม่กลับบ้าน แม่จ้าวกลับมาบ้านเร็ว เพราะรีบมาทำอาหาร ทั้งบ้านจึงมีแค่เธอกับลี่หรง
ไม่มีผู้ชายสักคนอยู่บ้าน แล้วผู้ใหญ่บ้านก็พาคนติดตามหลายคนมาที่นี่
คงจะไม่เป็นอะไรถ้าลี่หรงไม่ได้ทำ ‘ธุรกิจ’ แต่เมื่อคุณแม่จ้าวรู้ว่าเธอทำ สถานการณ์เช่นนี้จึงทำให้ลี่หรงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ลี่หรงเห็นว่าแม่จ้าวตัวสั่นเล็กน้อย เธอจึงยื่นอันอันให้อุ้ม แล้วกระซิบว่า “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่ อย่าเพิ่งตกใจกลัวไปเลย แค่ช่วยอุ้มอันอันไว้ให้หนูหน่อยนะคะ”
แม่จ้าวกลืนน้ำลาย แล้วอุ้มอันอันไว้ ขณะที่มือยังคงสั่นเบา ๆ
พวกผู้ใหญ่บ้านพบแค่เงินหลายสิบหยวนในตู้เสื้อผ้า และตั๋วเงินสองสามใบในตู้เสื้อผ้า
ผู้นำกลุ่มขมวดคิ้ว และมองหน้ากันกับคนข้าง ๆ หรือว่าพวกเขาจะเข้าใจผิดจริง ๆ?
เงินหลายสิบหยวนเหล่านั้น ลี่หรงจงใจรีบเอาไปวางไว้
ถ้ามีเงินจำนวนมากให้เห็น ก็ยากที่จะอธิบาย แต่หากไม่มีเงินเลย จะไม่สามารถอธิบายได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ลี่หรงเห็นผู้ใหญ่บุกเข้ามาค้นหาทั่วบ้าน แม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อพิจารณาจากที่ผ่านมา หากถูกจับได้ ก็จะต้องถูกลงโทษแน่นอน
เมื่อเห็นว่าในที่สุดพวกเขาก็หยุดค้น ลี่หรงจึงพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณไปรู้มาจากไหนว่าฉันทำธุรกิจ แต่ฉันไม่ได้ออกจากหมู่บ้านตลอดทั้งวัน จะมีเวลาไปทำได้อย่างไรกัน ต้องมีใครสักคนใส่ร้ายแน่นอนค่ะ”
ชายคนนั้นเหลือบมองลี่หรงด้วยสีหน้าลังเล ทันทีที่เขาอ้าปากกำลังจะพูด ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างเขา ก็เข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู
คุณแม่จ้าวกับลี่หรงมองหน้ากัน รอให้พวกเขาพูดกันให้จบ
ชายคนนั้นพาพรรคพวกออกไปมองห้องข้าง ๆ แล้วเปิดประตูเดินเข้าไป
นั่นคือห้องครัวของลี่หรง
สีหน้าของลี่หรงเปลี่ยนไป แย่แล้ว ไข่ไก่!
ใต้ตู้มีไข่ไก่สองถึงสามร้อยฟอง
ลี่หรงวางแผนจะรวบรวมให้ครบห้าร้อยฟอง ภายในอีกไม่กี่วัน จากนั้นจะให้จ้าวชิงซงส่งมันไปที่โรงงานเหล็ก
โดยปกติแล้วคนที่เข้ามาในครัว จะเป็นสมาชิกในครอบครัว ลี่หรงจึงไม่มีความคิดที่จะซ่อนสิ่งเหล่านี้ไว้ ด้วยคิดว่าคงไม่มีใครจงใจบุกเข้ามาเช่นนี้
ลี่หรงรีบคิดในใจ เธอควรหาเหตุผลอะไรมาอธิบาย…
กำมือแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือตัวเอง ลี่หรงบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์
แน่นอนว่าพวกเขาค้นพบไข่ไก่เหล่านั้น
ชายสองคนถือตะกร้าไม้ไผ่สานที่เต็มไปด้วยไข่ไก่ที่ลี่หรงรวบรวมไว้ออกมา
ไข่ไก่เกือบสามร้อยฟอง ที่วางอยู่ในตะกร้าใบเดียวดูน่าตกใจมาก
ทุกวันนี้ บ้านหลังไหนจะสามารถเก็บไข่ไว้ได้มากมายขนาดนี้?
ต้องเป็นคนที่แอบเก็บไปขายต่อ ถึงได้เก็บสะสมไว้มากมายเช่นนี้
ตะกร้าไข่ถูกกระแทกลงกับพื้น ฟังจากเสียงก็รู้ว่าไข่หลายใบในตะกร้าคงแตกไปแล้ว
ลี่หรงเม้มปาก รู้สึกเสียดายมาก
ไข่ไก่เป็นสิ่งล้ำค่า ไม่ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร ในสายตาของแม่จ้าว พวกมันก็ล้วนเป็นของเธอเอง เมื่อเธอเห็นตะกร้าไข่ถูกโยนลงกับพื้นอย่างแรง ก็พลันรู้สึกปวดใจขึ้นมา “โอ๊ย! นี่มันอาหารทั้งนั้น อย่าทำลายสิ”
ผู้หญิงคนหนึ่งยกตะกร้าขึ้น แล้วพูดว่า “ดูสิ หลักฐานชี้ชัดว่าเธอ ‘ทำธุรกิจ’ จริง ๆ ด้วย จับตัวเธอไป!”
คนที่เป็นผู้นำกลุ่มไม่ฟังคำอธิบายของลี่หรง เขาเรียกชายสองคนให้มาจับเธอออกไป
เขากล่าวว่า “จับตัวไปสอบสวน”
ลี่หรงขมวดคิ้ว ไม่สามารถขัดขืนคนที่มาจับตัวเธอได้ “คุณไม่ฟังฉันอธิบาย แต่ด่วนตัดสินฉันด้วยไข่ในตะกร้าเหรอ?”
ก่อนที่ชายคนนั้นไม่จะทันได้พูด ผู้หญิงคนนั้นก็ชิงพูดขึ้นก่อน “ยังต้องฟังเธออธิบายอีกเหรอ มีใครบ้างที่เก็บไข่ไว้ในบ้านเยอะแยะขนาดนี้?”
ลี่หรงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอมาก หญิงสาวจึงตั้งใจมองหน้าอีกฝ่ายอย่างละเอียด แล้วแน่ใจว่าเธอไม่รู้จัก น่าจะไม่ใช่คนหมู่บ้านต้าเจียง
ลี่หรงไม่รู้ว่าตนไปทำให้อีกฝ่ายเคียดแค้นตอนไหน
ลี่หรงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วโบกมือก่อนพูดว่า “อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ฉันจะไปกับพวกคุณก็ได้ แต่อย่ามาใช้ความรุนแรงกันแบบนี้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ภายหลัง แล้วพวกคุณใช้ความรุนแรงกันแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าหมู่บ้านนี้จะจัดการยังไง”
……………………………………………………………………………………………………………………..
CI4UKCC7
MANGA DISCUSSION