บทที่ 61 ข่าวรวบรวมไข่ไก่แพร่ออกไป
ทันใดนั้นดวงตาของลี่หรงก็เป็นประกาย “ฉันหาไข่ไก่ให้คุณได้ค่ะ ที่หมู่บ้านสามารถผลิตไข่ได้หลายร้อยฟองในแต่ละครั้งเลยค่ะ”
ตอนที่เธออยู่เดือน จ้าวชิงซงฆ่าไก่วันละตัว เธอกินบ่อยมากจนแทบเอียน
หลังออกจากการอยู่เดือน ลี่หรงก็ไม่อยากดื่มซุปไก่อีกเลย
แต่แม่หลังคลอดต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง จ้าวชิงซงจึงพยายามหาเมนูไข่หลากหลายมาให้เธอกิน
ไข่ต้มน้ำตาลทรายแดง ไข่ตุ๋นและอย่างอื่นอีกมากมาย
ไข่ที่ได้มาจากป้าในชุมชน
เมื่อสมาชิกในครอบครัวจำเป็นต้องบำรุงสุขภาพ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะแลกไข่กับน้ำตาลทรายแดงในหมู่บ้าน ดังนั้น แม้ว่าจ้าวชิงซงจะประกาศรวบรวมไข่จากในหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครว่าอะไรเลย
เพราะเขามี ‘ภรรยาขี้เกียจ’ และลูกอยู่ที่บ้าน
ครั้งหนึ่งป้าหลิวมาส่งไข่ แล้วพูดกับลี่หรงว่า “สามีของเธอมารับซื้อไข่จากพวกป้า ช่วยให้ป้าประหยัดเงินได้จริง ๆ แต่เสียดายที่หลังจากนี้เธอไม่ได้กินมันบ่อย ๆ แล้ว และบางทีต่อจากนี้ก็คงไม่อยากกินอีก เฮ้อ… ถ้าขายไข่นี่ได้ก็คงจะดีมากเลยนะ”
ตอนนั้นลี่หรงตะโกนในใจว่า แน่นอนว่าไข่ก็ขายได้ มีคนมากมายขายไข่ไก่ใน ‘ตลาดเสรี’
แต่เธอก็รู้ด้วยว่าแม้ว่าตนจะพูดเช่นนั้นไป ทว่าพวกเธอก็ไม่กล้าขายมันใน ‘ตลาดเสรี’ อยู่ดี
แต่จะเกิดอะไรขึ้น หากลี่หรงเป็นคนรวบรวมไข่ไก่ในหมู่บ้านไปขาย?
เป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ ที่จะรวบรวมไข่ไปขายใน ‘ตลาดเสรี’ แต่ตอนนั้นอันอันยังเด็กมาก ลี่หรงทนทิ้งเด็กน้อยไว้ที่บ้านหรือพาเขาออกไปด้วยไม่ได้ ความคิดนี้จึงถูกเก็บเข้าลิ้นชักไปก่อน
แต่คำพูดของอู๋จื่อกังในวันนี้ ทำให้เธอเกิดความคิดใหม่
เธอจะรวบรวมไข่ไก่มาขายส่งให้โรงงานเหล็ก
ไม่จำเป็นต้องเอาไปขายที่ ‘ตลาดเสรี’
ขณะที่ทำธุรกิจ ก็สามารถดูแลครอบครัวไปด้วยได้
แต่เธอไม่แน่ใจนักว่านอกจากป้าหลิวแล้ว ยังมีใครในหมู่บ้านอีก ที่มีไข่เหลือในบ้านและยินดีแลกเปลี่ยนมันเป็นเงิน
อู๋จื่อกังเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “คุณสามารถรวบรวมไข่มาได้เหรอครับ?”
“เรื่องนี้เราต้องขอกลับไปวางแผนก่อนค่ะ” ลี่หรงพูดตามตรง “ฉันจะกลับไปดูที่หมู่บ้านก่อน แล้วจะให้คำตอบคุณนะคะ”
“แบบนั้นก็ดีเลยครับ คุณหามาได้เท่าไหร่ ผมยินดีรับไว้ทั้งหมดเลยครับ”
หลังจากที่ลี่หรงกลับมาถึงหมู่บ้าน เธอก็เริ่ม ‘สำรวจ’ บ้านแต่ละหลัง
แน่นอนว่ามันไม่ใช่การสำรวจอย่างโจ่งแจ้ง
เธอใช้ประโยชน์จากวันอากาศกำลังดี เดินเล่นไปรอบหมู่บ้าน โดยอุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนด้วย ก่อนเห็นพวกผู้หญิงในหมู่บ้านยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน
ป้าหลิวถือด้ายฝ้าย ขณะสนทนาอย่างเพลิดเพลินอยู่ในกลุ่ม
ลี่หรงอุ้มลูกน้อยเดินไปหากลุ่มซุบซิบนั้น
เด็กน้อยตัวอ้วนขาว เป็นที่เอ็นดูของเหล่าผู้หญิงทุกคน บางครั้งเขาก็ส่งเสียงอ้อแอ้ดึงดูดความสนใจ
“โห! เด็กคนนี้เก่งจังเลย ไม่ร้องงอแงหรือฉี่เลยสักนิด”
ลี่หรงเผยรอยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร ด้วยก่อนพาลูกน้อยออกมา เธอเปลี่ยนผ้าอ้อมและให้นมเขาเรียบร้อยแล้ว เพราะเธอไม่อยากเปิดเสื้อให้นมลูกต่อหน้าคนมากมาย
ช่างน่าอายเกินไป
พวกหญิงชาวบ้านต่างชื่นชมลี่หรง เพราะเธอมีผิวพรรณผุดผ่อง หลังจากคลอดลูก ใบหน้าของเธอไม่ได้ดูซีดเซียว แต่กลับดูมีเลือดฝาด คล้ายอ่อนกว่าวัย
มีใครในหมู่บ้านบ้าง ที่คลอดลูกแล้วไม่ดูแก่กว่าวัยขึ้นหลายปี
แต่เมื่อคิดว่าลี่หรงไม่ต้องไปทำงานข้างนอก และสามีที่บ้านก็คอยดูแลอย่างดี ก็สามารถเข้าใจได้
ลี่หรงจับมือเด็กน้อย หยอกล้อเล่นด้วย จากนั้นค่อยแกล้งถามอย่างสบาย ๆ ว่า “คุณป้าคะ ที่บ้านคุณป้ายังมีไข่ไก่เหลืออยู่เยอะไหมคะ?”
“หืม… พวกเธออยากได้ไข่ไก่อีกแล้วเหรอ?”
ลี่หรงตอบกลับไปอย่างคลุมเครือ “คราวนี้ฉันตั้งใจจะรวบรวมเพิ่มค่ะ ถ้าคุณป้ายังมีเหลือเยอะอยู่ ก็แบ่งมาให้ฉันได้นะคะ เจ้าตัวเล็กจะได้กินไข่ตุ๋น พี่สะใภ้ของฉันที่บ้านก็ตั้งท้องเหมือนกัน เธอชอบกินไข่ไก่จากชาวบ้านเป็นพิเศษน่ะค่ะ”
“อยากได้เยอะแค่ไหนเหรอ ยุวชนลี่?” ป้าหลิวอดถามก่อนไม่ได้ เธอยังพอมีไข่ไก่เหลือที่บ้านอยู่บ้าง
ลี่หรงยิ้มอย่างพึงพอใจ ป้าหลิวคนนี้มาถูกทางแล้ว
“ตอนที่ฉันท้อง ครอบครัวของฉันส่งข้าวของหลายอย่างมาให้ ตอนนี้พี่สะใภ้ของฉันอยากกินไข่ ฉันเลยคิดจะส่งกลับไปให้เยอะ ๆ เหมือนกันค่ะ” ลี่หรงพูดอย่างสบาย ๆ
เธอยังกล่าวอีกว่า “ก่อนหน้านี้ จ้าวชิงซงรับซื้อจากพวกคุณป้า ในราคาฟองละสามเฟินใช่ไหมคะ คราวนี้ฉันจะให้ฟองละห้าเฟินเลยค่ะ ถ้ามีอยู่ ก็ช่วยขายให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
ไข่ไก่ราคาฟองละห้าเฟิน!
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป พวกชาวบ้านก็ฮือฮา
ไข่ไก่ขายได้ฟองละห้าเฟินเลยเหรอ?
“ยุวชนลี่ เธอไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
ปกติไข่ไก่ที่เลี้ยงตามบ้านจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หนึ่งจินจะมีไข่ไก่ประมาณแปดถึงสิบฟอง
ราคาที่ร้านสหกรณ์ อยู่ที่ห้าสิบห้าถึงหกสิบเฟินต่อจิน หนำซ้ำยังต้องใช้ตั๋วจ่ายด้วย
ไข่ไก่ใน ‘ตลาดเสรี’ สามารถขายได้เป็นสองเท่า ในราคาประมาณหนึ่งหยวนต่อจิน โดยไม่ต้องใช้ตั๋ว
ตามที่ชาวบ้านรู้กันดี ราคาไข่ในร้านสหกรณ์ อยู่ที่ประมาณห้าหรือหกเฟินต่อฟอง
พวกเธอไม่เคยคิดเลยว่าไข่ไก่จะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้เยอะขนาดนี้
ไข่หนึ่งฟองมีราคาห้าเฟิน ไข่สองฟองก็คิดเป็นหนึ่งเหมาแล้ว
ชาวบ้านที่มีไก่ออกไข่หลายฟองต่อวัน เริ่มใจเต้นแรง
ป้าสวี่เข้ามาคุยกับลี่หรง “ที่บ้านฉันมีไข่เยอะมาก ยุวชนลี่ เธอจะให้ราคาไข่ใบละห้าเฟินจริง ๆ ใช่ไหม?”
ป้าสวี่มีลูกชายห้าหกคน แต่งงานแล้วทุกคน เนื่องจากเป็นครอบครัวใหญ่ จำนวนไก่ที่เลี้ยงไว้ย่อมขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในครอบครัว ทำให้ครอบครัวของเธอมีไก่หลายตัว
เมื่อคนในหมู่บ้านเลี้ยงไก่ ส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกเลี้ยงแม่ไก่
เพราะแม่ไก่สามารถวางไข่ได้
“จริงสิคะ ถ้าไข่มีคุณภาพดี ฉันก็จะรับซื้อแน่นอน ป้าสวี่ อย่าลังเลที่จะรับไว้เลยนะคะ”
ราคาที่ลี่หรงเสนอนั้น มากกว่าราคาที่จ้าวชิงซงเสนอไว้ก่อนหน้านี้ถึงสองเฟิน เหล่าป้า ๆ อยากให้ไก่ออกไข่ได้ทุกวัน จะดีมากถ้าไก่แต่ละตัวออกไข่ได้สองฟอง
พวกชาวบ้านมีความคิดที่แตกต่างกัน
ในที่สุดลี่หรงก็ตกลงเรื่องเวลารับซื้อไข่กับพวกเธ0อ จากนั้นจึงขอตัวพาเด็กน้อยที่ฉี่ใส่ผ้าอ้อมกลับบ้านไป
ทันทีที่เธอเดินจากไป ป้าคนหนึ่งที่นิ่งเงียบมาตลอดก็พูดว่า “ฉันมักจะรู้สึกว่ายุวชนลี่มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล จะมีใครต้องการรวบรวมไข่ไปเยอะแยะขนาดนี้บ้าง?”
ป้าสวี่มองเธออย่างไม่เห็นด้วย “จะเป็นอะไรไป เธอไม่ได้ยินเหรอว่ายุวชนลี่เพิ่งบอกว่าจะส่งไปให้พี่สะใภ้ที่บ้าน ทุกคนควรจะขอบคุณนะ”
“แต่มันเยอะเกินไป จะรวบรวมไปเยอะขนาดนี้ได้ยังไงไหว”
“เมื่อกี้เธอไม่เห็นทารกน้อยคนนั้นเหรอ เขาดูแข็งแรงมาก ไม่รู้ว่าป้อนไข่เขาไปกี่ฟองแล้ว แล้วยุวชนลี่ก็กินเองด้วย”
ป้าหลิวเก็บด้ายฝ้าย แล้วพูดว่า “ยังไงก็ขอแลกเป็นเงินอยู่แล้ว ถ้าที่บ้านไม่กิน เอามาแลกเป็นเงินได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว?”
ลี่หรงกลับบ้าน วางเด็กน้อยลงในเปลและเตรียมทำอาหาร
ทันทีที่ปล่อยมือ ก็ได้ยินเสียง “ปู้ด”
ทันใดนั้น กลิ่นแปลก ๆ ก็โชยอยู่ในอากาศ
ลี่หรงคิดในใจ เอาแล้วสินะ
เด็กน้อยคนนี้เล่นโจมตีแม่แบบไม่บอกกล่าวกันเลย
ลี่หรงใช้มือข้างหนึ่งจับมือลูกน้อยไว้ ส่วนอีกมือถอดผ้าอ้อมของเขาออก แน่นอนว่ามีของเหลวสีเหลืองอยู่ข้างใน
ลี่หรงได้แต่อุทานต่อกลิ่น ขณะล้างก้นให้เด็กน้อยด้วยน้ำอุ่น แล้วเปลี่ยนเป็นผ้าอ้อมผืนใหม่
เธออุ้มอันอันขึ้นมาหอมฟอดใหญ่ จากนั้นเอื้อมมือไปตบก้นเด็กน้อย “ต่อไปถ้ายังอึแบบนี้อีก แม่จะตีนะ”
“แอะแอ๊… แอะแอ๊ ฟู้ ฮะ ๆ ๆ” ขาเล็ก ๆ ของอันอันดีดไปมา ปากพ่นฟองน้ำลายแล้วยิ้มกว้างขณะมองลี่หรง
น่ารักมากจนเธอโกรธไม่ลง
ลี่หรงอดไม่ได้ที่จะอุ้มเขาขึ้นมาเล่นด้วยอยู่นาน แล้วสอนให้เขาพูด “เรียกแม่สิอันอัน”
“มะ… อ๊า”
“แม่…” ลี่หรงเข้าไปใกล้เขามากขึ้น แล้วค่อย ๆ ทำปากพูดให้เด็กน้อยดู
……………………………………………………………………………………………………………………..
MANGA DISCUSSION