ตอนที่ 57 จะคลอดแล้ว
ตอนนี้หลัวปิงกลับเดินมาฟ้องเธออย่างคนสนิทสนมคุ้นเคยกันดี
เธอยังปกติดีหรือเปล่า?
หรือว่าทำเป็นลืมความบาดหมางก่อนหน้านี้ไปเสียหมดแล้ว
ลี่หรงขมวดคิ้ว “เธอกลับบ้านไปบอกพ่อแม่เถอะ ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก”
ลี่หรงหันหลังเดินกลับ ก่อนจะหยุดเดิน แล้วหันไปหาหลัวปิง “กลับไปดูแลร่างกายตัวเองให้ดีเถอะ ยังไงก็ต้องดูแลสุขภาพก่อน”
เมื่อกลับถึงบ้าน คุณแม่จ้าวกำลังเตรียมทำอาหารเย็น
ลี่หรงนั่งผิงไฟในห้องโถงสักพัก แล้วจึงไปกินข้าว
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ลี่หรงก็นอนลงบนเตียงตั้งแต่หัวค่ำ
ใจหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หลัวปิงเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง ลี่หรงไม่สามารถเห็นใจอีกฝ่ายถึงขนาดยื่นมือเข้าไปช่วยได้
แต่เธอกลับนึกถึงนางเอกของหนังสือต้นฉบับ
เป็นเวลาสองปีแล้วที่ลี่หรงทะลุมิติมาอยู่ในหนังสือเรื่องนี้ จ้าวชิงซงและคนอื่น ๆ ต่างก็เป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริง เวลาผ่านไปทุกคนต่างล้วนผูกพันกัน เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้านางเอกของหนังสือต้นฉบับอยู่ที่นี่ เธอคงจะช่วยหลัวปิงแน่นอนใช่ไหม?
แม้ว่าหลัวปิงจะใช้ประโยชน์จากเธอ แต่หลัวปิงก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้าของร่างเดิม
ด้วยนิสัยของเจ้าของร่างเดิม เธอคงจะถูกหลัวปิงล้างสมอง จากนั้นจึงกลายเป็นเครื่องมือของหลัวปิง คล้ายลูกน้องที่ปกป้องเจ้านายด้วยความซื่อสัตย์
ลี่หรงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วรู้สึกโล่งใจ ทุกคนล้วนมีชะตากรรมเป็นของตัวเอง เธอตัดขาดกับหลัวปิงไปนานแล้ว จึงเป็นการดีกว่าที่จะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
จ้าวชิงซงดับตะเกียงน้ำมันก๊าด ก่อนขึ้นไปบนเตียง ชายหนุ่มกอดลี่หรงไว้ในอ้อมแขน และมือใหญ่นั้นก็นวดแขนให้หญิงสาว
ตอนนี้ลี่หรงอยู่ในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าแขนขาของเธอจะไม่บวมให้เห็นชัดเจน แต่ก็ยังคงเป็นตะคริวบ้างเป็นครั้งคราว
ลี่หรงเพลิดเพลินไปกับการนวดของชายหนุ่ม เรื่องร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้า พลันหายไปจากสมองของหญิงสาวจนหมดสิ้น
“โอ๊ย!”
ลี่หรงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
จ้าวชิงซงวิตกกังวลทันที “คุณเป็นอะไรไป? อย่าทำให้ผมตกใจสิครับ”
“เท้ากับน่องเป็นตะคริวแล้วค่ะ”
จ้าวชิงซงลุกขึ้นนั่งทันที รีบจับขาของลี่หรงมา แล้วนวดเท้าให้เธอ
หลังจากนั้นไม่นาน คิ้วขมวดของลี่หรงก็ผ่อนคลายลง จ้าวชิงซงถามว่า “รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ?”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ฮ้าว… เรานอนกันเถอะค่ะ”
ลี่หรงหาว ก่อนปรับท่านอนที่เหมาะสม แล้วนอนหลับไป
จ้าวชิงซงจ้องมองใบหน้าสวยของภรรยาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกอดเธอไว้ข้างกาย ก่อนล้มตัวลงนอน
จนถึงวันที่ห้าของช่วงปีใหม่ รถโดยสารที่เข้าไปในที่ว่าการอำเภอ ก็กลับมาทำงานต่อ จ้าวชิงซงเก็บข้าวของเพื่อพาลี่หรงไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ณ ที่ว่าการอำเภอ
โรงภาพยนตร์ในช่วงทศวรรษที่หนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบ แตกต่างจากโรงภาพยนตร์สมัยใหม่มาก
ไม่มีเสียงรอบทิศทาง ไม่มีหน้าจอขนาดใหญ่ และไม่มีเก้าอี้สะดวกสบายที่สามารถปรับระดับได้
ในโรงภาพยนตร์ที่นี่ เก้าอี้ทุกตัวเป็นแบบธรรมดา บางตัวมีพนักพิง และบางตัวเป็นม้านั่งตัวเล็ก
ผืนผ้าใบสีขาวผืนเล็กถูกแขวนไว้ด้านหน้า ส่วนหนังที่ฉายก็เป็นหนังขาวดำทั้งหมด
จอหนังแขวนไว้ตรงกลางโรงหนัง
มีคุณลุงนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงข้างจอหนัง เพื่อให้สามารถปรับภาพฉายได้ตลอดเวลาในกรณีที่เกิดปัญหากับจอหนัง
หลังจากดูหนังจบแล้ว ลี่หรงก็ยกมือขึ้นจับเอวตัวเอง คาดไม่ถึงว่าจ้าวชิงซงจะรวดเร็วกว่าเธอ เขาใช้มือใหญ่ ๆ ลูบเอวภรรยาอย่างแผ่วเบา แล้วถามว่า “รู้สึกไม่สบายเหรอครับ?”
“อืม… รู้สึกปวดนิดหน่อยค่ะ”
จ้าวชิงซงช่วยประคองให้เธอนั่งบนเก้าอี้ไม้ยาวด้านข้าง
“ไปกินบะหมี่ที่ร้านอาหารของรัฐกันนะครับ” จ้าวชิงซงเอ่ยชวน เมื่อเห็นว่าลี่หรงไม่ได้นั่งตัวแข็งทื่ออีกต่อไป
“ก็ได้ค่ะ แต่ฉันอยากกินเกี๊ยว”
“งั้นกินเกี๊ยวก็ได้ครับ”
ก่อนจะถึงเวลารับประทานอาหารกับครอบครัวของเหล่าจ้าว จ้าวชิงซงก็เริ่มหมดแรงในวันที่ห้าของช่วงปีใหม่
เขายุ่งกับงานมานาน ในที่สุดก็ได้หยุดพักผ่อนบ้าง
ลี่หรงถามว่าเขายุ่งอยู่กับอะไร
จ้าวชิงซงตอบกลับว่า “ตอนนี้ฟาร์มสุกรเปิดแล้ว เลยต้องไปซื้อลูกหมูมาเพิ่มครับ”
“จะซื้อลูกหมูต้องใช้เวลานานแค่ไหนเหรอคะ?”
จ้าวชิงซงถอนหายใจ “ผมคิดดูแล้ว เราควรจะนำลูกหมูกลับมาเลี้ยงเมื่อหลายปีก่อน แต่ตอนนี้เพื่อให้แน่ใจว่าหมูในฟาร์มจะมีพอต่อความต้องการขายใน ‘ตลาดเสรี’ ผมเลยจำเป็นต้องซื้อหมูที่เริ่มโตแล้วมาเลี้ยงแทน ถึงจะมั่นใจได้ว่าลูกหมูที่ซื้อมาจะแข็งแรง ทำให้สามารถขายหมูได้เยอะขึ้นตั้งแต่ครึ่งปีแรกจนถึงตรุษจีนปีหน้าเลยครับ”
ลี่หรงพยักหน้าพลางครุ่นคิด ก่อนถามว่า “แล้วเนื้อหมูใน ‘ตลาดเสรี’ ในครึ่งปีก่อนมาจากไหนเหรอคะ?
“คุณร่วมมือกับฟาร์มสุกรอื่นเหรอคะ?”
“แล้วที่คุณออกไปเลี้ยงหมู ไม่ใช่ว่าไปแค่ฟาร์มสุกรที่เดียวหรอกเหรอคะ?”
จ้าวชิงซงส่ายหน้า “ไม่ครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เลี้ยงหมูอย่างเดียว แต่ทำงานอย่างอื่นเสริมด้วยบ้างครับ”
ลี่หรงโอบเอวของสามี “ขอบคุณที่ลำบากนะคะ”
จ้าวชิงซงจูบหน้าผากของภรรยา “ไม่ลำบากเลยครับ ทุกอย่างล้วนคุ้มค่าสำหรับอนาคตของคุณกับลูกครับ”
ลี่หรงรู้สึกหวานละมุนในใจ แต่ก็รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อยอยู่เสมอ
หลังจากหญิงสาวพอใจแล้ว ก็กระแอมดัง บอกให้จ้าวชิงซงหยุดคุยและเข้านอนได้แล้ว
วันครบกำหนดคลอดของลี่หรงคือปลายเดือนมีนาคม เหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน จ้าวชิงซงจึงเตรียมสิ่งที่จำเป็นตามคำแนะนำของแม่จ้าว
ถึงเวลาเตรียมตัวไปโรงพยาบาลแล้ว
ไม่รู้ว่าข่าวลี่หรงต้องไปโรงพยาบาลเพื่อคลอดลูกแพร่ออกไปได้อย่างไร คนในหมู่บ้านหลายคนพูดคุยกันเรื่องนี้ โดยแฝงการนินทาครอบครัวจ้าวเล็กน้อย
โชคดีที่ชาวบ้านไม่กล้าพูดอะไรรุนแรงเกินไป สำหรับคนตระกูลจ้าวแล้ว เป็นเพียงคำพูดที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรนัก
สิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันล้วนเป็นการส่วนตัว แม่จ้าวและคนอื่น ๆ จึงไม่สนใจแม้แต่น้อย
แม่จ้าวและเหอซิ่ง แม้ว่าพวกเธอจะให้หมอตำแยในหมู่บ้านทำคลอดให้ แต่ก็ไม่เคยตำหนิเรื่องที่ลี่หรงจะไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลเลย
ด้วยการตัดสินใจของลี่หรง พวกเธอรู้สึกว่าคลอดที่โรงพยาบาลนั้นดีกว่า
พวกเธอต้องคลอดในหมู่บ้านเพราะไม่มีทางเลือก
ตอนนี้เธอมีทางเลือกของตัวเองแล้ว การไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลจะเป็นเรื่องผิดอะไร?
วันครบกำหนดคลอดของลี่หรง กำลังจะมาถึงในอีกหนึ่งวัน แม่จ้าวกังวลว่าจ้าวชิงซงจะดูแลภรรยาได้ดีหรือเปล่า หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว แม่จ้าวจึงขอลางาน แล้วตามลี่หรงไปโรงพยาบาล เพื่อคอยดูอาการลูกสะใภ้ก่อนที่จะคลอด
จนกระทั่งผ่านไปอีกหนึ่งวัน ท้องของลี่หรงก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว
จ้าวชิงซงเริ่มวิตกกังวลจนเดินไปมาไม่หยุด ซึ่งทำให้แม่จ้าวรู้สึกเวียนหัว เธอพูดว่า “โอ๊ย! อย่าเดินไปเดินมานักสิ ดูภรรยาของลูก เธอไม่มีอะไรผิดปกติซะหน่อย กำหนดคลอดไม่ได้แม่นยำขนาดนั้นหรอก มันเป็นเรื่องปกติที่จะคลอดเร็วหรือช้ากว่ากำหนดไปบ้าง”
“แม่ครับ ผมตื่นเต้นมากเกินไปหน่อย”
จ้าวชิงซง ชายหนุ่มร่างสูงราวร้อยแปดสิบเซนติเมตร กังวลมากจนเหงื่อไหลซึมออกมา ในขณะที่ลี่หรงนอนหลับสบายและเจริญอาหารมากขึ้น แต่สามีกลับน้ำหนักลดลง
สตรีมีครรภ์ในวอร์ดเดียวกัน ต่างก็ชมลี่หรงว่าเธอโชคดีมาก
แม้ว่าลี่หรงจะไม่พูดอะไร แต่ใบหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาว ยังคงเผยให้เห็นความภาคภูมิใจที่มีต่อชายหนุ่ม
สองวันหลังจากวันครบกำหนด ในที่สุดลี่หรงก็จะคลอดแล้ว
ลี่หรงเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่ปวดท้องคลอดเร็วที่สุดในวอร์ด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณแม่จ้าวบอกเธอว่าการคลอดลูกนั้นง่ายมาก หลังจากมดลูกเปิดแล้ว ก็ง่ายดายเหมือนการถ่ายอุจจาระ
ลี่หรงจึงไม่ตื่นตระหนกเลยจริง ๆ
ถ่ายอุจจาระหรือ?
คงไม่หนักหนาอะไร
แต่เมื่อความเจ็บปวดจากการคลอดลูกครั้งแรกเกิดขึ้น ลี่หรงก็ตระหนักได้ว่าเมื่อมดลูกเริ่มเปิดนั้น มันเจ็บปวดเพียงใด
ลี่หรงรู้สึกปวดมดลูกมาสักระยะหนึ่งแล้ว หญิงสาวจับมือของจ้าวชิงซงพลางร้องไห้ “จ้าวชิงซง โอ๊ย! มันเริ่มปวดขึ้นอีกแล้ว!”
“คุณหมอ คุณหมอ!” ใบหน้าของจ้าวชิงซงซีดเผือด เมื่อเห็นว่าภรรยาปวดท้องมานานแล้ว เขาจึงไปตามหมอ
หมอเข้ามาตรวจดู ก็เห็นเพียงว่ามดลูกเพิ่งเริ่มเปิดปากออก “ตอนนี้มันยังเร็วเกินไปครับ พยายามให้ภรรยากินข้าวเยอะ ๆ อย่าเพิ่งร้องเสียงดังจนหมดแรงไปเสียก่อนนะครับ ถ้าเจ็บก็พยายามอดทนไว้ อย่ากรีดร้อง เก็บแรงไว้ใช้ตอนเข้าห้องคลอดจะดีกว่าครับ”
ลี่หรงได้ยินดังนั้น ก็อยากจะเป็นลมล้มพับไปเสียจริง ๆ ตนรู้สึกเจ็บปวดมานานขนาดนี้ ยังบอกว่าเร็วเกินไปอีกเหรอ?
MANGA DISCUSSION