บทที่ 52 ตรวจครรภ์
ใบหน้าของจ้าวชิงซงยิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าเจ้าตัวกำลังขอคำชมเชย
ลี่หรงจับท้องตัวเองไว้ แล้วโน้มตัวลงไปหอมแก้มเขา “คุณเก่งมากค่ะ”
ลี่หรงนำเงินไปรวมกับเงินออมครั้งก่อนด้วยสีหน้าตื่นเต้น เธอกอดจ้าวชิงซง แล้วพูดว่า “บอกฉันที ตอนนี้เรานับว่าเป็นครัวเรือนที่มีทรัพย์สินมูลค่าหมื่นหยวนแล้วหรือยังคะ?”
“เป็นแล้วครับ” จ้าวชิงซงดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อตัวพวกเขาทั้งสองไว้ “ในที่สุดผมก็ได้พักบ้างแล้ว ทุกวันนี้ยุ่งอยู่กับการดูแลฟาร์ม ไม่ได้ดูแลคุณเลยครับ”
เมื่อไม่กี่วันก่อน หมูตัวใหญ่ทั้งหมดในฟาร์มสุกรขายหมดแล้ว และจ้าวชิงซงก็ให้คนงานในฟาร์มสุกรทุกคนได้หยุดพักร้อน
รอให้ถึงปีใหม่ก่อนค่อยกลับมาทำงาน
ในฟาร์มสุกรใช้กรงขังทรงกลมที่สามารถใส่อาหารและน้ำทิ้งไว้ได้ หมูในฟาร์มจึงมีอาหารเพียงพอ ไม่อดตายภายในสิบกว่าวันนี้แน่นอน
ลี่หรงขมวดคิ้ว “ฉันรู้ว่าคุณทำงานหนักเพื่อหาเงินให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของเราได้สุขสบาย ช่วงนี้พักผ่อนอยู่บ้านให้เต็มที่เถอะค่ะ”
“อืม” จ้าวชิงซงช่วยประคองให้ลี่หรงนอนลง ก่อนดับตะเกียงน้ำมันก๊าด เขาหันไปนอนกอดภรรยาไว้ในอ้อมแขน “ผมจะอยู่กับคุณที่บ้าน พรุ่งนี้เราไปเดินซื้อของที่ที่ว่าการอำเภอกันเถอะครับ อยากได้อะไรก็ซื้อตามใจชอบได้เลย แล้วผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลที่เป็นทางผ่านขากลับด้วยครับ”
วันรุ่งขึ้น บังเอิญว่าครอบครัวของเหอซิ่งก็จะไปที่ว่าการอำเภอด้วย
อากาศหนาวเย็นลง พวกเขาจึงรวมตัวกันขึ้นรถโดยสาร
เมื่อมาถึงที่ว่าการอำเภอ เหอซิ่งบอกว่าพวกเธอจะไปถ่ายรูป แล้วถามลี่หรงว่าอยากไปด้วยกันไหม
ลี่หรงโบกมือ แล้วพูดว่า “พวกเธอไปถ่ายกันเลย จ้าวชิงซงกับฉันต้องไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลก่อน ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน ไม่อยากให้พวกเธอต้องรอนาน”
“ได้เลย ๆ” เหอซิ่งพยักหน้า แล้วจูงมือต้าหนิวออกเดิน จ้าวชิงหยางเดินตามไป โดยอุ้มเอ้อร์หนิวไว้ในอ้อมแขน
ก่อนที่จะเดินจากไปไกล ก็ได้ยินเสียงต้าหนิวตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ได้เวลาเดินซื้อของแล้ว! แม่ครับ เราขอไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารของรัฐได้ไหมครับ?”
ก่อนจะรู้ว่าเหอซิ่งตอบว่าอย่างไร ลี่หรงก็หายตัวไปแล้ว
จ้าวชิงซงสวมเสื้อคลุม มือข้างหนึ่งโอบไว้รอบเอวของลี่หรง อีกข้างหนึ่งจับมือเธอไว้ “เดินช้า ๆ ครับ ไม่ต้องรีบร้อน”
ลี่หรงจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว เธอขายของทุกอย่างใน ‘ตลาดเสรี’ จนหมดวัน แค่จะออกมาเดินเล่นอย่างใกล้ชิดกับจ้าวชิงซง ก็ยังทำไม่ได้เลย
ตอนนี้เขาโอบหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน เธอถึงกับถอนหายใจ “อย่าโอบแน่นนักสิคะ คนอื่นเห็นแล้วจะมองไม่ดี”
จ้าวชิงซงไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ มุมปากของเขากระตุก “คุณจะพูดยังไงก็แล้วแต่คุณ แต่ในเมื่อภรรยากำลังอุ้มท้องใหญ่อยู่ ผมไม่ช่วยประคองคงไม่ได้ครับ”
สตรีมีครรภ์ในชนบทไม่ได้รับการตรวจครรภ์เป็นประจำ และมักจะเรียกหมอตำแยในหมู่บ้านมาทำคลอด
ดังนั้นจึงค่อนข้างยาก ที่หญิงตั้งครรภ์ในชนบทอย่างลี่หรง จะไปโรงพยาบาลประจำที่ว่าการอำเภอเพื่อตรวจสุขภาพให้ตรงเวลา
แถมลี่หรงยังดูสุขภาพดีมากด้วย ใบหน้ามีเลือดฝาดมากขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ หมอจึงประทับใจในตัวเธอมาก
หลังจากการมาตรวจหลายครั้ง หมอก็ได้รู้ว่าลี่หรงเป็นยุวชนที่ไปอยู่ชนบท ตอนนี้จึงเข้าใจการตัดสินใจของเธอที่ต้องการมาที่โรงพยาบาล
หลังจากตรวจร่างกายแล้ว หมอบอกว่าทารกแข็งแรงดีมาก ลี่หรงเหลือบมองจ้าวชิงซงด้วยความดีใจ หมอพูดกับคู่รักหนุ่มสาวว่า “กำหนดคลอดยังอีกสองเดือน พวกคุณทั้งสองมีแผนว่าจะคลอดที่โรงพยาบาลหรือเปล่าคะ คลอดบุตรในโรงพยาบาลต้องจองคิวล่วงหน้า เพื่อให้หมอจัดเวลานะคะ”
จ้าวชิงซงพยักหน้า “พวกเราตัดสินใจว่าจะคลอดในโรงพยาบาลครับ ต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง คุณหมอบอกผมมาได้เลยครับ ผมจะได้เตรียมตัวไว้”
หมอเปิดสมุด แล้วพูดว่า “รอมาตรวจครรภ์เดือนหน้าอีกครั้งก่อนนะคะ ตอนนี้ฉันแค่อยากจะยืนยันกับพวกคุณก่อน ว่ามีแผนนี้หรือเปล่าค่ะ”
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็รู้สึกเหมือนอากาศเย็นลงอีก
ฟู่!
ลี่หรงถอนหายใจดังฟู่ เมื่อลมหนาวพัดผ่านตัวหญิงสาว จ้าวชิงซงจึงสะพายกระเป๋ายืนอยู่ข้างหน้า เพื่อปกป้องภรรยาจากลมเย็น เขาจับมือเธอไว้ แล้วพ่นลมหายใจอุ่นใส่มือหญิงสาว พลางลูบไปมา “ยังหนาวอยู่ไหมครับภรรยา หรือว่าจะกลับไปนั่งพักที่โรงพยาบาลก่อนดีครับ?”
ลี่หรงส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ เราไปดูของที่สหกรณ์เลยก็ได้ค่ะ”
“ตกลงครับ” จ้าวชิงซงเอามือของลี่หรงใส่ไว้ในกระเป๋าของเขา แล้วจับไว้แน่น
คนในสหกรณ์มีจำนวนมากกว่าปกติถึงสองเท่า ผู้คนต่างเบียดเสียดกัน
ลี่หรงเดินไปรอบ ๆ สักพัก แล้วก็อยากจะออกไป
แน่นอนว่าจ้าวชิงซงเดินตามเธอออกจากสหกรณ์ที่อยู่ถัดจากร้านถ่ายรูป
จ้าวชิงซงกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าพวกพี่ใหญ่ถ่ายรูปกันเสร็จหรือยัง”
“นี่ก็นานมากแล้ว คงถ่ายรูปกันเสร็จแล้วล่ะค่ะ” ลี่หรงพูด “ยังเช้าอยู่เลย เราไปถ่ายรูปกันหน่อยไหมคะ ตอนนี้ลูกโตขึ้นมากแล้ว พวกเรามาถ่ายรูปกันอีกสักรอบเถอะค่ะ จะได้เก็บไว้ให้ลูกดู”
“ได้ครับ มาถ่ายรูปครอบครัวกันปีละครั้งกันเถอะ” จ้าวชิงซงพาลี่หรงเข้าไปในร้านถ่ายรูป
ในร้านถ่ายรูปมีลูกค้ามากหน้าหลายตา ทำให้ลี่หรงและคนอื่น ๆ ต้องเข้าคิวรอให้ถ่ายรูปโดยนั่งรอบนม้านั่ง
จ้าวชิงซงเห็นว่ามีคนมากมายที่มาก่อน จึงอาจจะต้องรอสักพักหนึ่ง
ในยุคนี้ไม่มีตั๋วพร้อมเบอร์โทรให้โทรไปตามเหมือนยุคปัจจุบัน ลี่หรงและคนอื่น ๆ ต้องรออยู่ที่นี่ ไม่งั้นจะโดนแซงแถวได้ง่าย
จ้าวชิงซงถามลี่หรง “หิวไหมครับ? ผมจะได้ไปซื้ออะไรมาให้คุณกิน”
“ไม่หิวค่ะ” ลี่หรงจับมือเขา “คุณอยู่ที่นี่แหละ”
คนที่มาร้านถ่ายรูปเกือบทุกคนเป็นคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุไม่ค่อยมีให้เห็น
จ้าวชิงซงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “น่าจะเรียกพ่อแม่ให้มาถ่ายรูปครอบครัวด้วยกันนะครับ”
ลี่หรงพยักหน้า “งั้นครั้งต่อไปเราเรียกพ่อแม่มาด้วยกันเถอะค่ะ”
“ขอโทษนะครับ” จู่ ๆ จ้าวชิงซงก็พูดขอโทษออกมา ทำให้ลี่หรงสับสนเล็กน้อย ก่อนถามเขาว่า “ทำไมจู่ ๆ ถึงพูดแบบนี้ล่ะคะ?”
“ผมเคยพูดแล้วว่าเลขาประจำหมู่บ้าน จะส่งจดหมายแนะนำตัวให้คุณ แล้วอนุญาตให้คุณกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ได้” ชายหนุ่มวางคางไว้บนผมของหญิงสาว “ตอนนี้คุณท้องโตมากแล้ว ผมไม่กล้าพาคุณไปไหนมาไหนด้วยซ้ำ ที่นั่นมันเดินทางไกลเกินไป แถมยังต้องนั่งรถไฟด้วย”
“อ๋อ… ” ลี่หรงได้ฟังเขาพูดแบบนี้ก็คลายสงสัย “ไว้คราวหน้าก็ได้ค่ะ ยังมีโอกาสหน้าเสมอ”
“เฮ้! สองคนนั้นถึงเวลาถ่ายรูปแล้ว”
ถ่ายรูปเสร็จก็ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว ทั้งสองจึงกลับบ้าน
คุณแม่จ้าวกำลังยุ่งอยู่กับการทำบ๊ะจ่าง เมื่อเห็นทั้งสองกลับมาเร็วมาก เธอก็หยิบบางอย่างเข้าปาก แล้วตะโกนถามเสียงอู้อี้ “ทำไมพวกลูกกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ ไม่เดินซื้อของกันอีกสักหน่อยเหรอ?”
“ไม่มีอะไรให้ดูแล้วครับ” จ้าวชิงซงกล่าว “ตอนนี้หรงหรงหนักท้องมาก ผมกลัวว่าเธอจะเหนื่อย ก็เลยพากลับมาก่อน พวกพี่ชายยังไม่กลับมาเหรอครับ?”
“ยังไม่มาเลย พาลูกสองคนไปด้วย ไม่รู้ว่าจะไปเดินซื้อของกันนานแค่ไหน”
ลี่หรงเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสีอ่อน แล้วยกเก้าอี้มานั่งช่วยทำบ๊ะจ่าง
“เสี่ยวหรง… ไม่ต้องทำหรอก เหลืออีกนิดหน่อยเท่านั้น แม่ห่อแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว”
“โอ้!” ลี่หรงดูคุณแม่จ้าวห่อบ๊ะจ่างเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ หลังจากดูไปสองสามรอบ ก็ถามด้วยความสงสัย “แม่คะ นี่มีไส้อะไรบ้างเหรอคะ?”
“มีบ๊ะจ่างหวานใส่พุทราเชื่อม กับบ๊ะจ่างเค็มใส่เนื้อจ้ะ” คุณแม่จ้าวเงยหน้าขึ้นมองลี่หรง “ไม่ต้องห่วง แม่รู้ว่าลูกชอบกินบ๊ะจ่างเนื้อ ก็เลยเตรียมไว้ให้แล้วล่ะ”
ลี่หรงคลี่ยิ้ม “ความจริงหนูก็ชอบกินพุทราเชื่อมหวานเหมือนกันค่ะ”
“มีหมดทั้งสองไส้เลยจ้ะ”
แม่จ้าวทักทายจ้าวชิงซง แล้วใส่บ๊ะจ่างลงในตะกร้าใหญ่ เพื่อเตรียมนำไปนึ่ง
บ๊ะจ่างตะกร้าใหญ่ขนาดนี้ ต้องใช้เวลานึ่งถึงเย็น
คืนนี้ไม่ต้องทำกับข้าว เพราะกินแค่บ๊ะจ่างก็อิ่มมากแล้ว
แม่จ้าวทำงานยุ่งอยู่นาน จึงรู้สึกปวดเอวเล็กน้อยจากความเหนื่อยล้า ลี่หรงเห็นเธอบีบนวดเอวตัวเอง จึงบอกให้เธอไปพักผ่อน
หลังจากที่คุณแม่จ้าวเดินออกไป ลี่หรงก็เรียกจ้าวชิงซงให้มาจุดไฟ
MANGA DISCUSSION