บทที่ 45 ซื้อกระโปรงและจ่ายค่าจ้าง
แผงลอยด้านในสหกรณ์ตั้งเรียงราย เสื้อผ้าก็มีขายหลากหลาย อีกทั้งยังเรียงแถวกันเป็นระเบียบ
ตลอดทางที่เดินเข้ามา ล้วนมีแต่เสื้อผ้าสำเร็จรูปสีสันสดใสและชุดกระโปรงสวยสดงดงามทั้งนั้น
จ้าวชิงซงดูจริงจังกว่าลี่หรงเสียอีก เขาดึงเธอไปหยุดอยู่ตรงหน้าแผงลอยหนึ่ง ก่อนพูดกับพนักงานขาย “คุณครับ รบกวนหยิบกระโปรงชุดนั้นลงมาให้พวกเราดูหน่อยได้ไหม?”
ปกติจ้าวชิงซงเป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว ยิ่งวันนี้ต้องเข้าเมืองเขาจึงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำที่ลี่หรงทำให้ มองแวบแรกก็ดูไม่ต่างกับคนในเมืองเลย
ลี่หรงที่อยู่ข้างกายเองก็มีใบหน้างาม ดวงตาใส ฟันขาวสะอาด สวมเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสังเคราะห์ที่กำลังได้รับความนิยม รูปลักษณ์นั้นดูราวกับมาจากตระกูลผู้ดีเช่นกัน
พนักงานขายเห็นลูกค้ารายใหญ่พลันยิ้มหน้าบาน “ได้เลยครับ เดี๋ยวผมหยิบให้”
พนักงานขายใช้ปล้องไม้ไผ่เรียวยาวสอยกระโปรงที่จ้าวชิงซงถูกใจลงมา
กระโปรงท่อนล่างทำจากผ้ายีนส์
จ้าวชิงซงถามลี่หรงว่าชอบไหม
ลี่หรงนึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นกระโปรงผ้ายีนส์ได้จากที่นี่ จึงคว้ามาก่อนใช้มือสัมผัส เนื้อผ้าออกแข็ง ๆ เป็นผ้ายีนส์แบบเก่า อีกทั้งยังเป็นกระโปรงทรงเอใหญ่ และผ่าข้างยาวสิบเซนติเมตรได้
กระโปรงตัวนี้ไม่ว่าจะทั้งฝีมือและเนื้อผ้าต่างก็ดีทั้งหมด ลี่หรงนึกถึงกระโปรงยีนส์ในหนังยุคหลังก็อดประหลาดใจกับแฟชั่นที่ถูกเวียนกลับมาไม่ได้
แต่เธอก็ไม่สามารถชื่นชมกระโปรงตัวนี้ต่อหน้าพนักงานขายได้ จึงส่ายหน้าพลางพูดว่า “ได้อยู่นะคะ”
จ้าวชิงซงถามราคา
กระโปรงผ้ายีนส์ตัวนี้เป็นสินค้าใหม่ ยุวชนหญิงล้วนชอบกันทั้งนั้น ทว่าสินค้านี้ราคาค่อนข้างสูง จึงมีคนน้อยนักที่ซื้อ พนักงานขายกำลังเตรียมจะเลิกงาน เมื่อเห็นลูกค้ารายใหญ่ย่อมไม่พลาดโอกาสทำยอดขาย
ก่อนอื่นพนักงานขายพูดชมกระโปรง จากนั้นค่อยเสนอราคา
ลี่หรงเหลือบมองชายหนุ่ม คิดเพียงว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนโง่เซ่อซ่าที่เงินเยอะ เมื่อเห็นจ้าวชิงซงจะอ้าปากจึงเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของเขา แล้วเปิดปากพูด “ฉันคิดว่ามันดูธรรมดาไปค่ะ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็ใส่กระโปรงที่เอวรัดหน้าท้องแน่นแบบนี้ไม่ได้แล้ว ซื้อกลับไปก็คงใส่ได้ไม่กี่ครั้ง อาจจะต้องเก็บเอาไว้ใช้ปีหน้าเลย”
เมื่อหยิบออกมาใส่ปีหน้ากระโปรงผ้ายีนส์นี้ก็คงเป็นของรุ่นเก่าไปแล้ว งั้นทำไมยังต้องเสียเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อตอนนี้ด้วยล่ะ
หากเป็นเวลาก่อนหน้านี้ พนักงานขายคงจะคุยเล่นกับลี่หรงอีกหน่อย ทว่าตอนนี้ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เธอทั้งอยากเปิดบิลและอยากเลิกงาน จึงรีบพูดขึ้นว่า “กระโปรงตัวนี้ก็ไม่แพงนะคะ พี่ทั้งสองคนตกลงซื้อเลยไหมคะ อย่ามัวลังเลเสียเวลาเลยค่ะ”
พนักงานขายเป็นเด็กสาวที่แก่กว่าลี่หรงไม่กี่ปี เมื่อเห็นจ้าวชิงซงเดินกะโผลกกะเผลกเล็กน้อยก็ทำสีหน้ารังเกียจ ประกอบกับท่าทางคลุมเครือของลี่หรง ก็เข้าใจว่าทั้งสองเป็นพวกหน้าใหญ่ใจโต
ลี่หรงเห็นท่าทางของเธอก็ขมวดคิ้ว แต่ตนไม่อยากพูดให้มากความ แผงขายเสื้อผ้าเยอะขนาดนี้ ทำไมต้องทนรับสายตาเย็นชาจากร้านนี้ด้วย
ลี่หรงวางกระโปรงลง “งั้นก็ไม่รบกวนเวลาของคุณแล้วดีกว่าค่ะ พวกเราไปดูร้านอื่นกันดีกว่า”
พูดจบก็ไม่สนใจว่าพนักงานขายตรงหน้าจะมีสีหน้าโมโหเจียนตายอย่างไร แล้วดึงจ้าวชิงซงไปร้านข้าง ๆ
กระโปรงยีนส์คงจะเป็นทรงที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้จริง ๆ มีกระโปรงแบบเดียวกันแทบจะทุกร้าน
พนักงานที่เห็นลี่หรงสองสามีภรรยาเดินจากไป ก็จ้องแผ่นหลังของพวกเขาอย่างเคียดแค้น รอดูว่าหญิงสาวจะซื้อหรือไม่ซื้อกันแน่!
ลี่หรงหมุนตัวก็ไปถึงร้านข้าง ๆ รอบนี้คนขายเป็นคุณป้าหน้าตายิ้มแย้ม
เมื่อครู่คุณป้าเห็นลี่หรงแล้ว มองปราดเดียวก็รู้ว่าลูกค้าตรงหน้าเป็นคุณนายฐานะร่ำรวย ทว่าหญิงสาวกำลังดูแผงของร้านข้าง ๆ อยู่ การแย่งลูกค้าคนอื่นอาจสร้างศัตรูได้ คุณป้าจึงได้แต่เสียดาย
ทว่านึกไม่ถึงว่าลี่หรงจะไม่ได้ซื้อร้านนั้น แล้วหันหลังเดินกลับมา
คุณป้าลุกขึ้นยืนทักทายลี่หรงด้วยรอยยิ้มแจ่มใสทันที
ลี่หรงเดินเข้าไป ไม่รอให้เธอได้เปิดปาก คุณป้าก็หยิบกระโปรงที่ลี่หรงดูเมื่อครู่ให้เธอ ก่อนทำการขายสินค้าอย่างกระตือรือร้น
“สาวน้อย ฉันจะบอกอะไรให้ กระโปรงตัวนี้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากในตอนนี้เลยนะ เหมาะกับรูปร่างสูงและสวยของเธอเลย ใส่แล้วจะต้องดูดีแน่นอน ยุวชนหญิงมากมายก็มาซื้อที่ร้านฉันทั้งนั้น วันนี้ขายออกไปตั้งหลายตัวแล้วล่ะ”
ลี่หรงส่ายหน้า “กระโปรงตัวนี้ไม่ใช่เอวยางยืด คงจะรัดน่าดู ใส่ไปนาน ๆ เข้าอาจไม่สบายตัวค่ะ”
จ้าวชิงซงนึกขึ้นได้ว่าลี่หรงตั้งครรภ์จึงใส่กระโปรงผ้ายีนส์แบบนี้ไม่สะดวก เขาพูดขึ้นว่า “งั้นผมขอซื้อที่ใหญ่กว่านี้หน่อยดีไหมครับ? ต่อไปภรรยาท้องใหญ่ขึ้นจะได้ใส่สบาย”
คุณป้าพนักงานขายเคยอาบน้ำร้อนมาก่อน เมื่อได้ยินก็พอจะเดาออกจึงกระซิบถาม “เธอตั้งท้องเหรอ?”
คุณป้าเลือกกระโปรงคนท้องเนื้อผ้านิ่มให้ทันทีอย่างรู้ใจ “มาเร็วสาวน้อย ดูชุดพวกนี้สิ ขนาดเอวกว้างนี้สั่งตัดมาไว้เผื่อในอนาคตเลยนะ”
คุณป้าคนนี้ให้ลี่หรงดูสินค้าด้วยความอดทนเป็นพิเศษ ท้ายที่สุดทั้งสองก็ตกลงราคาที่เหมาะสมและซื้อกระโปรงยาวสีอ่อนไปสองตัว
ลี่หรงที่ถูกจ้าวชิงซงเดินจูงไม่มองแม้แต่ทางเดิน มัวแต่มองป้ายร้านค้า ป้ายที่ตั้งอยู่เขียนไว้ว่า ‘ถ่ายภาพ’ ลี่หรงจึงเดาได้ว่าเป็นร้านถ่ายรูป
ร้านถ่ายรูปก็เป็นส่วนหนึ่งของสหกรณ์ ลี่หรงหยุดฝีเท้าลงพร้อมพูด “พวกเราเข้าไปถ่ายรูปกันเถอะค่ะ”
จ้าวชิงซงมองตามสายตาของเธอ ริมฝีปากกระตุกขึ้นน้อย ๆ “เอาสิครับ”
เป็นครั้งแรกที่ลี่หรงได้สัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบโบราณ เสียงรูรับแสงจากกล้องถ่ายรูปดังขึ้นราวกับเสียงระเบิด เมื่อภาพหน้าจอหยุดนิ่งก็ถือว่าถ่ายเสร็จแล้ว
เธอรู้สึกแปลกใหม่และน่าสนุกดี คงไม่ได้พบเห็นได้ง่ายนัก จ้าวชิงซงจึงพาเธอถ่ายอีกไม่กี่ภาพก่อนกลับ
รูปถ่ายยุคนี้ราคาค่อนข้างแพง เพียงถ่ายไม่กี่ภาพก็สามหยวนแล้ว
ถ้าแม่จ้าวรู้เข้า ต้องรู้สึกเสียดายเงินอีกแน่ เงินสามหยวนกินเนื้อหมูได้ตั้งหลายมื้อเลยนะ
ช่างภาพบอกว่า ช่วงนี้มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะ ต้องรอหลายวันกว่าจะล้างรูปออกมาได้
“ห๊า?” ลี่หรงคิดว่ารอแป๊บเดียวก็ได้แล้ว ตอนนี้เธอจึงเตรียมกลับบ้าน ก่อนจ่ายเงินจึงบอกให้ช่างส่งกลับไปที่บ้านหลังล้างรูปเสร็จแล้ว
จ้าวชิงซงพูด “ไม่เป็นไร อีกไม่กี่วันผมก็ต้องมาที่เมือง ถึงตอนนั้นผมค่อยมาเอาเองดีกว่าครับ”
เรื่องที่เข้าเมืองในวันนี้ ทั้งสองไม่ได้บอกใคร แล้วก็ไม่จำเป็นต้องบอกใครด้วย อย่างไรก็ต้องกลับมาอีกอยู่ดี
เมื่อถึงบ้านฟ้าก็มืดสนิทแล้ว พวกแม่จ้าวก็ไม่ได้เข้ามาถามจุกจิก และคิดว่าทั้งสองแค่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในอำเภอเท่านั้น
เพราะครรภ์ระยะเริ่มแรก ทั้งสองจะระวังเป็นพิเศษ จ้าวชิงซงก็ไม่อยากให้ลี่หรงเหนื่อย ประกอบกับอาการระหว่างตั้งครรภ์ที่มากะทันหันของภรรยา ทำให้กิจการหมูตุ๋นของลี่หรงจึงหยุดลงอีกครั้ง
ลี่หรงจ่ายค่าจ้างให้เหอซิ่ง แล้วนำค่าจ้างที่จ้าวชิงหลิ่วช่วยเธอทำซาลาเปาอาหารว่างก่อนหน้านี้พร้อมพกถุงลูกอมนมไปให้ด้วย จะไปบ้านคนอื่นมือเปล่าไม่ได้
ตั้งแต่จ้าวชิงหลิ่วย้ายไปอาศัยบ้านใหม่ พวกเธอก็ไม่ได้เจอกันสักระยะแล้ว ลี่หรงนับเป็นผู้มีพระคุณ ให้ครอบครัวจ้าวชิงหลิ่วยืมเงินไปสร้างบ้าน
ดังนั้นเมื่อลี่หรงเอาเงินหนึ่งร้อยกว่าหยวนออกมาให้เธอ บอกว่าเป็นค่าจ้างที่ช่วยทำงาน จ้าวชิงหลิ่วก็ตกตะลึง “ห๊า? มีค่าจ้างด้วยหรอ ไม่เอาหรอก ๆ ”
เดิมทีจ้าวชิงหลิ่วถือว่าตนเพียงช่วยงานอีกฝ่าย ไม่เคยคิดว่าจะมีค่าจ้างด้วย
จ้าวชิงหลิ่วปฏิเสธ
ลี่หรงโน้มน้าวให้อีกฝ่ายรับไว้ “ถ้าพี่ไม่รับไว้ จากนี้ฉันก็เรียกพี่มาช่วยงานไม่ได้แล้วน่ะสิ นอกจากนี้ ธุรกิจนี้ก็หาเงินได้ไม่น้อย ทั้งหมดนั่นก็เพราะเราทุกคนหามาด้วยกัน พี่รีบเอาไปเถอะ”
จ้าวชิงหลิ่วเม้มปาก “เอาแบบนี้ ก่อนหน้านี้ฉันยืมเงินพวกเธอไปหลายร้อยหยวนไม่ใช่เหรอ หักหนึ่งร้อยหยวนนี่จากในนั้นไปเลย ถือซะว่าคืนเงินก้อนเล็กให้ก่อน”
ลี่หรงยิ้ม “พี่รับนี่ไว้ เงินนั้นพวกพี่ยืมกับจ้าวชิงซง เขาก็คือเขา ฉันก็คือฉัน รอพวกพี่มีเงินค่อยคืนเขา ฉันกลับก่อนนะ ที่บ้านรอให้ฉันไปทำอาหารอยู่”
ลี่หรงชักแม่น้ำทั้งห้า ยัดเงินให้จ้าวชิงหลิ่ว แล้วลุกขึ้นยืนเดินจากไป
MANGA DISCUSSION