บทที่ 37 คนบ้านตระกูลจ้าวผิดปกติ
เมื่อจ้าวชิงหลิ่วตอบรับ ลี่หรงจึงไปหาเหอซิ่งเป็นคนถัดไป
ก่อนหน้านี้เหอซิ่งเองก็เคยช่วยงานลี่หรง จึงตอบตกลงโดยไม่รออีกฝ่ายพูดให้มากความ
งานที่ลี่หรงทำครั้งนี้ ไม่ต้องถึงมือจ้าวชิงหยาง เพราะเขาเองยังมีเรื่องกลุ้มใจอยู่
“ทำไมไม่ต้องการฉันแล้วล่ะ”
เหอซิ่งมองบนใส่เขา “แค่ห่อซาลาเปาไม่กี่ลูกเอง ไม่ต้องพึ่งคุณหรอกน่า อีกอย่างคุณนอนอย่างกับหมู ใครจะกล้าปลุกได้เล่า”
จ้าวชิงหยางลูบจมูก โดยไม่ได้พูดต่อ
เหอซิ่งปรายตามองประตู ก่อนลดเสียงพูด “ฉันเพิ่งเห็นน้องสะใภ้ออกมาจากบ้านของพี่ชิงหลิ่ว เฮ้อ… คุณว่าเธอจะไปหาพี่สาวเหมือนกันหรือเปล่า?”
“คงจะใช่ พี่สาวเป็นคนขยัน” จ้าวชิงหยางพูด “บ้านพี่สาวเป็นอย่างไรใช่ว่าจะไม่รู้ น้องสะใภ้เพียงแค่อยากช่วยเหลือเหมือนกับที่ช่วยพวกเราในตอนแรก ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้บ้านเราจะได้กินเนื้อ แถมชงนมมอลต์บ่อย ๆ ได้เหรอ?”
“เพราะเหตุผลนี้เหรอ?” เหอซิ่งนอนลงบนเตียงเตา “สมกับที่น้องสะใภ้มาจากตระกูลใหญ่ เป็นคนที่งามทั้งยังจิตใจดี”
ลี่หรงคนงามจิตใจดีคนนี้กำลังพูดคุยกับจ้าวชิงซงแบบสามีภรรยา บนเตียงเตาในห้องนอน
จ้าวชิงซงบอกว่าจะช่วยบ้านจ้าวชิงหลิ่วทำฐานบ้าน
การที่เขาช่วยเหลือพี่สาว ลี่หรงในฐานะภรรยาที่รู้เหตุรู้ผล ย่อมเห็นด้วยแน่นอน พลางพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจดี ทว่าเธอมีเงื่อนไข “ช่วยงานน่ะได้ แต่คุณต้องดูแลร่างกายของตัวเองด้วยนะ ถ้าไม่ไหวก็ต้องพัก ไม่ต้องอวดเก่งล่ะ”
“อืม รู้แล้วครับ”
ลี่หรงยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่หน่อย ๆ “ถ้าเกิดงานหนักเกินไป คุณก็ควรวางมือ อย่าดันทุรังไปต่อ ขาดคุณไปก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เท้าขวาของจ้าวชิงซงใช้แรงไม่ได้ ลี่หรงกลัวอีกฝ่ายจะทำงานหนัก จนอาการบาดเจ็บที่เท้ากำเริบขึ้นมา
“รับทราบครับผม!”
ลี่หรงปลูกผักต้นฤดูใบไม้ผลิเสร็จ ก่อนจะเริ่มยุ่งกับธุรกิจอาหารว่างอย่างซาลาเปา
แป้งสาลีในบ้านหมดแล้ว อีกอย่างตั๋วแลกอาหารของแป้งสาลีก็หมดมานานแล้วเช่นกัน ตอนนี้เธอต้องการแป้งสาลีจำนวนมาก จึงให้จ้าวชิงซงไปหามาห้าสิบจิน
จ้าวชิงซงพอจะรู้แหล่งขาย
วันรุ่งขึ้นขณะกลับมาจากทำงานกับซ่งเสี่ยวซาน ก็นำแป้งสาลีกลับมาให้ลี่หรงด้วย
แถมยังเอามาเยอะเป็นพิเศษ มากถึงหนึ่งร้อยจิน
ลี่หรงเห็นพ้อง ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ใช้หมดอยู่ดี
ตกเย็น แม่จ้าวกลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ไม่สิ ควรจะพูดว่า คนที่ไปทำงานบ้านตระกูลจ้าวสีหน้าไม่สู้ดีกันหมด
คล้ายจะโกรธแค้นอะไรมา
คาดว่าคงเกิดบางอย่างขึ้นในศาลาประชาคมอีกแล้วสินะ
ลี่หรงไม่ได้ทำงาน จึงถามมากไม่ได้
พรุ่งนี้ก็จะออกร้านแล้ว ลี่หรงต้องไปคุยกับพี่สาวและพี่สะใภ้สักหน่อย บอกพวกเธอว่าพรุ่งนี้ต้องกันตื่นแต่เช้า
ลี่หรงไปบ้านของจ้าวชิงหลิ่วก่อน เพราะอยู่ใกล้กัน
ตนบอกธุระเสร็จกำลังจะออกไป แต่ถูกเรียกเอาไว้ จึงหันหน้ามองจ้าวชิงหลิ่วอย่างงุนงง “พี่ชิงหลิ่วมีอะไรเหรอ?”
“…ไม่มีอะไรหรอก” จ้าวชิงหลิ่วโบกมือ
เมื่อไปหาเหอซิ่งก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน ลี่หรงมึนงงเล็กน้อย ก่อนเดินออกมาด้วยความสับสน
เดินผ่านลานบ้านก็พบเข้ากับสองสามีภรรยาเฒ่าที่นั่งรับลมอยู่
แม่จ้าวเรียกเธอ ลี่หรงก็ตอบรับพลางเดินเข้าไป
ทันทีที่แม่จ้าวเปิดปาก ก็พลันถูกพ่อจ้าวตวาด “ยายเฒ่า! อย่าพูดจาไร้สาระ”
แม่จ้าวเม้มปาก แล้วถาม “เธอขอให้อาหลิ่วกับเสี่ยวซิ่งช่วยงานหรือยัง พรุ่งนี้ฉันก็จะช่วยด้วย”
ลี่หรงกล้ายืนยันว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่แม่จ้าวอยากถามในตอนแรก แต่เมื่อพ่อจ้าวเตือนจึงเปลี่ยนคำพูด ชัดเจนว่าทั้งสองต้องการปิดบัง ถึงเธอจะถามไปก็ไม่มีประโยชน์
เธอส่งยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรค่ะแม่ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า อีกอย่างงานก็ไม่หนักหนาอะไร ฉัน พี่สาวและพี่สะใภ้สามคนก็พอทำกันได้ค่ะ”
แม่จ้าวพลันมีสีหน้าลังเล ทั้งยังกระสับกระส่าย
คืนนี้บ้านตระกูลจ้าวผิดจากปกติมาก ลี่หรงยังคิดว่าคงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นที่ศาลาประชาคม ดูเหมือนตอนนี้คงจะเกี่ยวกับเธอ แถมยังเป็นเรื่องที่พูดลำบากหรือบอกไม่ได้ด้วย
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ลี่หรงก็สวมชุดนอนโปร่งสบายก่อนเอนหลังลงบนเตียง พอคิดดูดี ๆ ช่วงนี้ตนก็ไม่ได้ออกไปเจอโลกภายนอกเลย แล้วจะมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอได้ล่ะ
ขณะนอนคิด จ้าวชิงซงที่ไปอาบน้ำก็กลับมาพอดี
จ้าวชิงซงมีสีหน้าปกติ
ลี่หรงเหยียดเท้าเตะบั้นท้ายของจ้าวชิงซง
จ้าวชิงซงเอื้อมมือคลำด้านหลังโดยไม่แม้แต่จะมอง แล้วจับเท้าเล็กที่อยู่ไม่สุขเอาไว้ “ทำอะไรน่ะ?”
“คุณรู้สึกหรือเปล่าว่า คืนนี้พ่อกับแม่พวกเขาดูผิดปกติเกินไปหน่อย”
จ้าวชิงซงตาเป็นประกาย “ผิดปกติตรงไหนเหรอ คุณมองผิดแล้วล่ะ”
ลี่หรงขมวดคิ้ว “ไม่ใช่สิ”
เธอบอกความรู้สึกขณะที่คุยกับพวกเหอซิ่งให้ฟัง “ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่าพวกเธออยากพูดอะไรบางอย่างกับฉัน แต่พูดไม่ได้”
“ในหมู่บ้านคงจะพูดกันอีกแล้วว่าเธอไม่มีงานทำ ไม่อย่างนั้นจะพูดเรื่องอะไรได้อีก?”
ลี่หรงครุ่นคิด ดูเหมือนมีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะสมเหตุสมผล เธอกำหมัดแน่น “พวกขี้นินทานี่ ทำไมถึงเอาแต่จับตามองฉันอยู่ได้ ฉันออกจะเก่งเวลาหาเงินนะ!”
จ้าวชิงซงกอดเธออยู่บนเตียง “นั่นสิ ภรรยาของผมเก่งจะตาย พวกเขามีตาแต่หามีแววไม่!”
ลี่หรงชมตัวเองยังพอว่า แต่พอมีคนอื่นชมด้วยจะรู้สึกเขินอยู่หน่อย ๆ เธอผลักจ้าวชิงซง “คนบ้า …”
“ที่รัก ทำไมลูกน้อยของพวกเรายังไม่มาอีกเหรอ?”
ลี่หรงหน้าแดงกว่าเดิม “นี่เพิ่งจะผ่านมาไม่เท่าไรเอง ถึงจะมีก็ไม่ได้รู้เร็วขนาดนั้นสักหน่อย คุณอย่ารีบร้อนเลย”
ประจำเดือนของหญิงสาวมาปกติ แถมร่างกายของจ้าวชิงซงก็ไม่ได้ป่วยอะไร หลังฉลองตรุษจีนครั้งนั้น ทั้งสองก็ทำเรื่องระหว่างสามีภรรยากันไม่น้อย
แถมทั้งคู่ยังไม่ได้คุมกำเนิด สำหรับลี่หรงแล้ว การตั้งท้องก็เป็นแค่เรื่องของเวลา
จ้าวชิงซงพลิกร่างคร่อมลี่หรงไว้ แล้วพูดด้วยเสียงแหบพร่า “แสดงว่าที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้ผล งั้นพวกเราสองคนยิ่งต้องขยันขึ้นไปอีกนะครับ!”
“อื้อ …”
ทั้งสองกลับเข้าสู่ท่วงทำนองรักอีกครั้ง
ลี่หรงตื่นแต่เช้าตรู่
เมื่อเธอขยับตัว จ้าวชิงซงก็ตื่นขึ้น เขาขยี้ตาถามด้วยท่าทีง่วงซึม “ตื่นไปทำงานแล้วเหรอครับ ผมก็จะตื่นด้วย”
ลี่หรงเอ็นดูชายหนุ่ม ก่อนผลักเขากลับไป “ฉันเรียกพวกพี่สาวมาแล้ว คุณนอนต่ออีกหน่อยเถอะค่ะ”
ตามปกติ ไม่ว่าลี่หรงจะพูดอย่างไร จ้าวชิงซงก็ไม่ให้เธอทำงานหนักคนเดียว แต่วันนี้กลับไม่ลุก แล้วกอดลี่หรงพร้อมตอบด้วยเสียงสะลึมสะลือ “งั้นผมนอนต่ออีกหน่อยดีกว่า” พูดจบก็ล้มตัวกลับไปอีกรอบ
ลี่หรงเอ็นดูชายหนุ่มจริง ๆ ตอนเช้าออกไปทำงานหนัก ตอนบ่ายกลับมาช่วยพวกหลี่ต้าไห่สร้างบ้าน การปูฐานบ้านจำต้องแบกดินทราย ไม่ก็ย้ายของอยู่ตลอด ถึงอย่างไรก็เป็นงานใช้แรงทั้งนั้น
แถมเมื่อคืนก็ยัง ‘ทำ’ นานขนาดนี้อีก นึกขึ้นได้ดังนั้น หญิงสาวพลันหน้าแดง แล้วบีบหน้าของจ้าวชิงซง “ก็สมควรเหนื่อยอยู่หรอกค่ะ!”
เธอหมายมั่นปั้นมือในใจว่า จากนี้จะให้ชายหนุ่มทำนานขนาดนี้ไม่ได้อีกเด็ดขาด
หลังลี่หรงเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็ออกจากบ้าน โดยมีจ้าวชิงหลิ่วกับเหอซิ่งรออยู่ที่ประตูโถง
ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเธอตื่นกันนานหรือยัง
ลี่หรงทักทายทั้งสองก่อนจะเข้าครัว
เธอพูดสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ ก่อนเริ่มแบ่งงาน
เมื่อแป้งพร้อมแล้ว ลี่หรงกำลังเตรียมจะนวดแป้ง แม่จ้าวก็เดินเข้ามาพอดี
“เอ๊ะ! แม่คะ ทำไมตื่นแล้วล่ะ?” ลี่หรงพูด “งานแค่นิดเดียว แม่ไม่ต้องช่วยหรอกค่ะ กลับบ้านไปนอนเถอะ”
MANGA DISCUSSION