ตอนที่ 36 สามีภรรยาเปิดเผยความในใจ คำสัญญาหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง
แต่สำหรับคนที่สามารถขึ้นครองตำแหน่งผู้จัดการขณะอายุเท่านี้ได้ ใครบ้างจะไม่ฉลาดหลักแหลม
ลี่หรงเข้าใจหลักการทางสังคมดี เธอจึงไม่อยากกังวลเรื่องนี้มากนัก ตราบใดที่ไม่ถูกแทงข้างหลัง การเป็นมิตรกันไว้ย่อมไม่เสียหาย
ทั้งสองคุยกันอย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ได้สังเกตว่าเหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของใครบางคน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็เดินออกจากร้านอาหาร จักรยานของลี่หรงจอดอยู่ที่ประตู เธอนั่งบนจักรยาน ก่อนบอกลาอู๋จื่อกัง “ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“หากคุณต้องการอะไรอีก ก็ไปตามหาผมที่โรงงานเหล็กลู่ซานได้เลยนะครับ”
ลี่หรงยิ้มให้ หลังตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว เธอไม่ได้คาดหวังสูงว่าจะได้พบหรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาในอนาคตอีก
ในตอนกลางคืน ลี่หรงหยิบเงินที่ได้มาวันนี้ออกมานับรวมกับเงินที่ได้มาก่อนหน้า จ้าวชิงซงออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ เมื่อเห็นเธอกำลังนับเงิน เขาจึงนำเงินที่ได้รับมาเมื่อเร็ว ๆ นี้มาให้ภรรยาด้วย
ลี่หรงยิ้มอย่างมีความสุข เธอนับเงิน แล้วเก็บใส่กล่องไม้อย่างเรียบร้อย ล็อกด้วยกุญแจ ก่อนซ่อนมันไว้ในตู้เสื้อผ้าโทรม ๆ
จ้าวชิงซงกอดเธอจากด้านหลัง แล้วพูดว่า “ที่รัก ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับ”
“ไม่หนักมากหรอกค่ะ ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อยเพราะการตื่นเช้า” ลี่หรงหันไปมองเขา ขณะยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาว
จ้าวชิงซงเชยคางของเธอแล้วจูบ ก่อนพูดอย่างลำบากใจว่า “ทำไมจะไม่หนักล่ะ ผมเองยังคิดว่ามันยากเกินไปที่จะตื่นแต่เช้าขนาดนั้น คุณอยู่บ้านก็ดีนะ ไม่ใช่ว่าสามีจะเลี้ยงคุณไม่ได้”
ลี่หรงส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่ทำอะไรเลย แล้วเป็นแค่แม่บ้านที่รอให้คุณหาเงินมาเลี้ยง นั่นไม่ใช่ชีวิตที่ฉันต้องการค่ะ ชิงซง”
ลี่หรงเรียกชื่อเขา เธอไม่ค่อยได้เรียกจ้าวชิงซงแบบนี้ ดังนั้น เมื่อจ้าวชิงซงได้ยินเธอเรียกชื่อของเขา เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา “หืม?”
“ฉันไม่อยากเป็นแบบนั้นค่ะ ไม่อยากละทิ้งสิ่งที่อยากทำ การทำธุรกิจนั้นหาเงินได้เยอะ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องหาเงินได้เยอะด้วย ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการการสนับสนุนจากคุณ เราสามารถสนับสนุนกันและกันในฐานะครอบครัวได้ค่ะ”
ลี่หรงผลักชายที่กำลังถูไถใบหน้าเธอ ราวกับเป็นสุนัขตัวใหญ่ออกไป “คุณฟังฉันให้ดีนะคะ”
“ฟังอยู่ครับ ที่รัก…” จ้าวชิงซงถูกผลักออกไป รู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
ลี่หรงมองเข้าไปในดวงตาของเขา “ฉันรู้ว่าคุณมีความสามารถ เมื่อคุณก้าวหน้ามากขึ้น และทำสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ในอนาคต ฉันเองก็ไม่อยากเป็นคนที่ทำอะไรไม่สำเร็จเลย อยากเป็นคนที่ยืนเคียงข้าง ไม่ใช่แค่เงาข้างหลังคุณเท่านั้นค่ะ”
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ หัวใจของจ้าวชิงซงพลันรู้สึกอบอุ่นยิ่งกว่าสายลมในฤดูใบไม้ผลิ เขาลูบไล้ท้ายทอยของลี่หรง ก่อนพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา “ คนอย่างคุณหาได้ยากจริง ๆ”
ลี่หรงเม้มปาก “จะเป็นอย่างไรถ้าวันหนึ่งคุณตกหลุมรักคนอื่น และหย่ากับฉัน ถึงตอนนั้นฉันก็ต้องเลี้ยงดูตัวเองให้ได้”
จ้าวชิงซงขมวดคิ้วมุ่น ภรรยาของเขาหาเงิน เพื่อเตรียมจะหย่าร้างในอนาคตเหรอ?
นี่มันไม่ดีเลยไม่ใช่เหรอ?
จ้าวชิงซงกอดลี่หรงแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ถ้าอย่างนั้นคุณควรหยุดหาเงินได้แล้ว ถ้าหาเงินได้เยอะแล้ว คุณคงคิดจะหย่ากับผม”
ลี่หรงเงยหน้าขึ้น “ฉันพูดไปตั้งมากมาย แต่คุณได้ยินแค่เรื่องการหาเงินเพื่อหย่าร้างเหรอคะ ฉันหมายถึงว่าถ้าวันหนึ่งคุณเปลี่ยนใจ…”
“ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน!” จ้าวชิงซงขัดจังหวะเธอ แล้วลงโทษด้วยการกัดริมฝีปากของเธอ โทษฐานพูดเรื่องไร้สาระ
“คุณสัญญาได้ไหมคะ?”
“ผมสัญญาว่าผม จ้าวชิงซง จะมีแค่ลี่หรงเป็นภรรยาเท่านั้นในชีวิตนี้!”
ลี่หรงไม่เคยเชื่อเรื่องความรักมาก่อน ไม่เช่นนั้น เธอคงไม่ครองตัวเป็นโสดมานาน เธอเห็นคนอื่นสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป แต่สุดท้ายหลายคู่ก็ตัดสินใจแยกทางกันอยู่ดี
ที่แย่กว่านั้นคือหลังจากการเลิกรา ทั้งสองฝ่ายต่างเกลียดชัง ซ้ำยังทะเลาะวิวาทกัน และยังไปขึ้นศาลกับทนายเพื่อฟ้องหย่าอีกด้วย
เธอมักจะรู้สึกเศร้าเสมอเมื่อมองดูคนเหล่านั้น และสงสัยว่าผู้หญิงเหล่านั้นโง่เขลา ถึงขั้นเชื่อคำโกหกของผู้ชายเหล่านั้นได้อย่างไรกัน
แต่ตอนนี้ เมื่อเธอได้ยินคำสัญญาของจ้าวชิงซง หัวใจของเธอก็พลันหวานปานน้ำผึ้ง ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผู้หญิงเหล่านั้นเสียแล้ว
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างน้อยตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้รักกัน
ลี่หรงใช้เวลาอยู่ที่บ้านสองสามวัน ปลูกผักและเลี้ยงไก่อย่างสบายใจ
เมื่อเธอไม่มีอะไรทำ ตนก็จะยุ่งกับการทำอาหารทุกประเภท ผู้อาวุโสตระกูลจ้าวคุ้นเคยกับอาหารที่สะใภ้เคยทำให้บ้างแล้ว
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือเด็กหญิงเหอฮวา กลายเป็นลูกมือคอยตามลี่หรง
ลี่หรงแบ่งปันขนมให้ต้าหนิวและคนอื่น ๆ เหอฮวาก็มารับขนมด้วย แต่แม่ของเธอบอกว่า ไม่สามารถขอของของคนอื่นเปล่า ๆ ได้ เธอจึงรับแค่ลูกอมกับขนมปังกรอบ
แทนที่จะรีบไปเล่นกับเพื่อน เธอกลับติดตามลี่หรง และช่วยเหลือเธอในเรื่องต่าง ๆ
ทั้งช่วยลี่หรงเลือกผัก กำจัดวัชพืชบนใบผัก จับแมลง และให้อาหารไก่
ลี่หรงยกย่องว่าเธอมีไหวพริบและมีความสามารถ ทำให้เหอฮวาวัยเจ็ดขวบ พลอยทำงานอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น
เมื่อลี่หรงทำอาหาร เธอจะช่วยใส่ฟืนให้
เหอฮวามักอิ่มอาหารเย็นแล้วกว่าจ้าวชิงหลิ่วจะกลับมา
ต่อมาเมื่อจ้าวชิงหลิ่วรู้เข้า จึงคว้าตัวเหอฮวาไปพูดอะไรบางอย่างด้วย นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหอฮวาโตมาจนถึงตอนนี้ ที่ลูกสาวรู้สึกว่าแม่ทำรุนแรงกับเธอมาก เด็กน้อยกลัวมากจนแทบจะร้องไห้ และไม่กล้าไปที่บ้านของลี่หรงในวันรุ่งขึ้น
เมื่อลี่หรงรู้เรื่องนี้ เธอก็ดำเนินการตามแผน ด้วยการนำนมมอลต์กระป๋องใหม่ไปให้จ้าวชิงหลิ่ว
จ้าวชิงหลิ่วตกใจเมื่อเห็นของมีค่าเช่นนี้ จึงรีบปฏิเสธ
ลี่หรงกล่าวว่า “นี่สำหรับหลานทั้งสองของฉัน แล้วก็พี่สาว ฉันมีเรื่องบางอย่างที่อยากให้พี่ช่วยด้วย”
จ้าวชิงหลิ่วกับสามียืมเงินหลายร้อยจากลี่หรง เพื่อนำมาสร้างบ้าน เมื่อได้ยินว่าลี่หรงจะขอความช่วยเหลือ ก็รีบพูดทันทีว่า “ถ้ามีเรื่องอะไรก็แค่บอกมาได้เลย หากช่วยได้ ฉันจะช่วยแน่นอน”
“มันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงตื่นเช้าทุกวัน?”
จ้าวชิงหลิ่วพลันส่ายหน้า “ฉันไม่รู้หรอก รู้แค่ว่าเธอทำซาลาเปาทุกวัน”
ลี่หรงกล่าวว่า “ฉันทำไปขายน่ะ”
ไม่ว่าจ้าวชิงหลิ่วจะเป็นคนซื่อแค่ไหน เธอก็ยังรู้ว่าตอนนี้ไม่สามารถซื้อขายของแบบส่วนตัวได้ เจ้าตัวพลันลุกขึ้นจากเตียงเตาด้วยความตกใจ “อะไรนะ! นี่เธอ…”
“ชู่!”
ลี่หรงยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก “อย่าตะโกนดังขนาดนั้นสิ”
จ้าวชิงหลิ่วปิดปากตัวเองอย่างประหม่า
ลี่หรงหัวเราะเบา ๆ “ฮ่าฮ่า พี่สาว อย่ากังวลไปเลย พ่อแม่ พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ต่างก็รู้ว่าฉันทำอะไร”
“ทุกคนรู้เหรอ?” จ้าวชิงหลิ่วหลุดปากถาม แล้วลดเสียงลง “ทำไมถึงไม่ค่อยน่าเชื่อเลย?”
“ถึงเวลาพี่ก็จะเชื่อเอง” ลี่หรงกล่าว “ฉันมาหาพี่เพราะจะขอให้พี่ช่วยฉันทำบางอย่าง ฉันต้องตื่นแต่เช้าทุกวัน เพื่อเอาของออกไปขาย แล้วของก็เพิ่มขึ้นมาก มาตอนนี้ ฉันไม่สามารถทำทั้งหมดด้วยตัวเองได้แล้ว”
เมื่อเห็นจ้าวชิงหลิ่วเม้มปากแน่นด้วยสีหน้าลังเล ลี่หรงก็กล่าวต่อว่า “พี่ไม่ต้องกังวล มันไม่ผิดกฎหมาย และถึงตอนนั้นพี่สะใภ้ก็จะมาช่วยด้วย”
จ้าวชิงหลิ่วกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า”
“ง่ายมาก ฉันจะสอนพี่เองเมื่อถึงเวลา”
“ได้” จ้าวชิงหลิ่วตอบตกลง “ตอนนี้ไม่ต้องไปทำงานแล้ว ฉันพอมีเวลาช่วยเธอได้ในตอนเช้า”
เมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิ บ้านใหม่ของหลี่ต้าไห่เพิ่งได้รับการอนุมัติให้สร้าง จ้าวชิงซงช่วยเขาติดต่อกับร้านเผาอิฐ และตัวเขาเองก็หาคนสร้างบ้านได้แล้ว การก่อสร้างจึงใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว
พวกเขาจึงไม่ได้ไปร่วมกลุ่มทำงาน แม้จะไม่ได้ทำแต่ก็สามารถกลับไปดูและช่วยงานสร้างบ้านได้ ซึ่งจะช่วยให้บ้านสร้างเสร็จเร็วขึ้น พอจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง
MANGA DISCUSSION