บทที่ 21 เจอตัวโจรขโมยกุนเชียง ทะเลาะวิวาท
หวงต้าหลานชี้ไปที่ลี่หรง ก่อนกล่าวหาว่า “ยุวชนรังแกคนอื่น กล้าเข้ามาบุกครัวของเรา!”
ลี่หรงยืนเท้าเอวมองอย่างเหนื่อยหน่าย ขมวดคิ้วสงสัยอยู่นานว่าทำไมถึงหาไม่เจอ ทันใดนั้นสายตาของเธอก็มองไปยังเตา พลันเกิดความคิดบางอย่างผุดขึ้นในใจ จึงนั่งยองหน้าเตาไฟ ก่อนหยิบที่คีบถ่านมาเขี่ยขี้เถ้าใต้ช่องเตา
ดวงตาของหวงต้าหลานเบิกกว้าง รีบวิ่งไปผลักลี่หรงออกไป
“ทำอะไรน่ะ!”
“โอ๊ย!”
หน้าผากของลี่หรงกระแทกกับเตา จึงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“อย่าผลักอาสะใภ้นะ!” ต้าหนิววิ่งเข้าไปผลักหวงต้าหลาน แล้วกางแขนเล็ก ๆ บังลี่หรงไว้
“นี่มันอะไร!”
ลี่หรงเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดที่หน้าผาก หลังจากตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง จึงใช้มือหยิบบางอย่างออกมาจากกองขี้เถ้า ก่อนยกมันขึ้นต่อหน้าหวงต้าหลาน แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นี่มันกุนเชียงของฉันที่หายไปไม่ใช่เหรอ?”
หวงต้าหลานหลบตา ก่อนพูด “นี่มันกุนเชียงของฉันนะ เอาคืนมา!”
เธอตั้งใจรีบวิ่งไปคว้ามันมา
ลี่หรงเบี่ยงตัวหลบ แล้วพูดว่า “ของเธออะไรกัน ตลกแล้ว นี่คือกุนเชียงของฉัน เธอขโมยมันมา! หลักฐานอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ แต่ตัวเองก็ยังไม่ยอมรับผิด!”
“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร!” หวงต้าหลานเหลือบมองแม่สามี “แม่! เธอกำลังจะแย่งกุนเชียงของเราไป!”
หลี่เซียง แม่สามีของหวงต้าหลานกินกุนเชียงนี้หลายครั้งแล้ว รสชาติอร่อยมาก ลูกสะใภ้บอกเพียงว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนส่งมาให้ แต่มาตอนนี้ลี่หรงกลับบอกว่ามันเป็นของที่ถูกขโมยมา
ไม่ว่าจะเพื่อกุนเชียงหรือรักษาหน้า โดยไม่ต้องคิดหลี่เซียงก็เลือกที่จะช่วยครอบครัวตัวเอง หญิงผู้นี้แรงเยอะรีบวิ่งเข้ามาคว้ากุนเชียงจากมือลี่หรงไป ก่อนตบหน้าลี่หรง แล้วตวาดว่า “เอากุนเชียงเราคืนมานะ!”
ลี่หรงไม่คาดคิดว่าหลี่เซียงจะตบหน้าตนแรงถึงเพียงนี้ เนื่องจากเธอมีกำลังมือแข็งแกร่งจากการทำงานหนักตลอดทั้งปี ลี่หรงรู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างถึงที่สุด ตอนนี้ตนไม่สนใจเรื่องความอาวุโสแล้ว จึงใช้หลังมือตบอีกฝ่ายคืน
หวงต้าหลานวิ่งเข้าไปดึงผมของลี่หรง ลี่หรงจึงเตะเธอลงไปนอนกับพื้น เมื่อหลี่เซียงถูกตบคืนก็พลันเลือดขึ้นหน้า เธอพับแขนเสื้อขึ้น รีบวิ่งเข้าไปหมายจะโจมตีลี่หรงอีกครั้ง แต่ลี่หรงหลบได้ ก่อนจับเธอโยนลงไปบนพื้น
จากนั้นลี่หรงก็ดึงเชือกป่านจากกองฟืนใกล้ ๆ นำมามัดหวงต้าหลานและหลี่เซียง ก่อนนั่งหายใจหอบบนพื้นอย่างหมดแรง
แม่จ้าวและเหอซิ่งกำลังทำงานในทุ่งนา เมื่อต้าหนิวเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงวิ่งออกไปเรียกคนมาช่วย ชาวบ้านบางคนจึงได้ยินต้าหนิวบอกกล่าวว่าลี่หรงและหวงต้าหลานกำลังทะเลาะกัน พวกเขาพลันไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานอีกต่อไป ต่างรีบวิ่งไปบ้านหวงต้าหลาน เพื่อไปดูเหตุการณ์ตื่นเต้นนี้
สิ่งที่แม่จ้าวเห็นเมื่อมาถึงก็คือ…
หลี่เซียงและหวงต้าหลานถูกมัดมือไว้กำลังนั่งพิงประตูห้องครัว โดยมีลี่หรงนั่งผมยุ่งเหยิงอยู่บนพื้น แก้มบวมแดงข้างหนึ่ง
เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของลี่หรง แม่จ้าวก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า “หลี่เซียง เธอสมควรโดนแทงสักพันครั้ง กล้าดียังไงมาตีลูกสะใภ้ของฉัน!” เธอรีบเข้าไปกระชากผมของหลี่เซียง ก่อนตบหน้าดังฉาด
แม่จ้าวและหลี่เซียงอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เธอจึงกล้าตบหลี่เซียง แต่เหอซิ่งไม่กล้า แม้เธอก็โกรธไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่าลี่หรงถูกตบหน้า เหอซิ่งจึงเม้มปากก่อนเดินเข้าไปตบหวงต้าหลาน
“กรี๊ด!”
ดวงตาของหลี่เซียงเบิกโพลง เนื่องจากมือถูกมัดไว้ จึงทำได้เพียงเตะด้วยขาเท่านั้น พลางตะโกนว่า “ซุนฟางหง กล้าดียังไงมาตบคนอื่น! กรี๊ด!”
“คนที่ตบคนอื่นก่อนคือเธอ!”
ซุนฟางหงเป็นชื่อของแม่จ้าว เธอพับแขนเสื้อขึ้น คิดอยากจะตบซ้ำ แต่ดีที่มีคนมาห้ามทัน
“ทุกคน หยุดเถอะ!” จ้าวเจี้ยนผิงหัวหน้าผู้อาวุโสรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” ชายร่างใหญ่คนหนึ่งตะโกน แล้วรีบเดินไปช่วยแก้เชือกให้หวงต้าหลานกับหลี่เซียง
หวงต้าหลานชี้ไปที่ลี่หรง “พ่อจ๋า ลี่หรงมาแย่งกุนเชียงของเราไป ทุบตีหนูกับแม่ แล้วยังจับพวกเรามัดอีก ฮือ ๆ ๆ นี่มันอะไรกัน!”
จ้าวจื้อหมิง ลูกชายของหลี่เซียงกลับมาจากทำงาน เขาพูดด้วยความมั่นใจเช่นกัน “ใช่ ยุวชนลี่คนนี้บ้าไปเสียแล้ว ถึงได้กล้าบุกเข้ามาในบ้าน แล้วขโมยกุนเชียงของเราไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง!”
“ยุวชนลี่ มีอะไรจะพูดไไหม?” จ้าวเจี้ยนผิงมองลี่หรงด้วยท่าทียุติธรรม
“เมื่อเธอแต่งงานกับจ้าวชิงซง เธอก็เป็นสมาชิกของหมู่บ้านต้าเจียงของเรา เป็นเพื่อนบ้านกับชาวบ้านทุกคน เธอทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง!”
“ไม่ต้องถามหรอก ผู้หญิงเลวคนนี้ต้องเป็นคนก่อปัญหาแน่!” จ้าวจื้อหมิงถุยน้ำลายลงบนฝ่ามือ พลางกำหมัดเตรียมจะต่อยลี่หรง
ขณะที่ลี่หรงกำลังจะเตะเขาออกไป เธอก็ถูกดึงเข้าไปสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นทันที
จ้าวชิงซงจับหมัดของจ้าวจื้อหมิงด้วยมือเดียว ก่อนบิดกำปั้นนั้นอย่างแรง จนจ้าวจื้อหมิงร้อง ‘โอ๊ย’ ด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ปล่อยนะโว้ย!”
จ้าวชิงซงส่ายหน้า “กล้าทำร้ายผู้หญิงเลวทรามนัก! ออกไปซะ!”
จ้าวเจี้ยนผิงขมวดคิ้ว “จ้าวชิงซง อย่าเอาแต่เข้าข้างภรรยาตัวเองสิ!”
“ผมเข้าข้างตรงไหน?” จ้าวชิงซงก้มไปเห็นว่าแก้มข้างหนึ่งของลี่หรงบวมแดง พลันรู้สึกแย่ขึ้นมา เขาขยับนิ้วแต่ไม่กล้าสัมผัสหน้า ทำได้เพียงแค่ลูบหลังเธอ
“บอกผมสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลี่หรงเล่าเรื่อง พลางกล่าวเสริมว่า “หวงต้าหลานยังไม่ทันยอมรับผิด ป้าหลี่ก็เข้ามาตบหน้าฉันทันที ทั้งสองรุมทุบตีฉัน โชคดีที่ฉันฉลาดพอที่จะสู้กับพวกเธอได้ เลยตีให้พวกเธอล้มลงกับพื้น ก่อนมัดไว้ด้วยเชือกป่าน ไม่งั้นฉันจะโดนพวกเธอทุบตีอีกเป็นแน่”
ลี่หรงเคยเรียนรู้ทักษะการป้องกันตัวของผู้หญิงมาบ้าง จึงไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับทั้งสองคน แต่เธอไม่ได้ลงมือหนักอะไรมากมาย เพียงแค่ตบหลี่เซียงกลับเท่านั้น
แล้วจับทั้งสองมัดไว้เพื่อรอให้คนมาช่วย
ตราบใดที่ลี่หรงไม่ได้ทำร้ายใครหนักเกินไป ก็ยังสามารถใช้เหตุผลนี้ได้ จากนั้นค่อยเน้นตอนที่หลี่เซียงกับลูกสะใภ้ รุมทุบตีเธอแบบสองต่อหนึ่ง เพื่อให้คนส่วนใหญ่เข้าข้างเธอ
แน่นอนว่าผู้เห็นเหตุการณ์บางคนเล่าว่า “พี่หลี่ นี่เป็นความผิดของพวกพี่เอง สองคนรุมทุบตีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียว”
หวงต้าหลานมีลูก ๆ อายุเจ็ดหรือแปดขวบแล้ว ส่วนลี่หรงยังคงเป็นผู้หญิงที่เพิ่งแต่งงาน แถมใบหน้ายังละอ่อน หากจะเรียกเธอว่าเด็กผู้หญิงจึงไม่ผิดนัก
“ใช่แล้ว ขโมยกุนเชียงของคนอื่นไป แล้วยังจะกล้าทุบตีเขาอีก”
หลี่เซียงหน้าบางเป็นอย่างมาก จึงไม่อยากให้ใครกล่าวหาว่าตนขโมยของ และไม่คิดด้วยว่าตัวเองเป็นขโมย จึงรีบโต้กลับว่า “กุนเชียงนั้นบ้านลูกสะใภ้ของฉันให้มา ต้าหลานบอกพวกเขาไปสิ”
ต่อหน้ากลุ่มคน หวงต้าหลานไม่สามารถยอมรับได้ว่า เพราะนี่เป็นของที่เธอขโมยมาแน่นอน ก่อนพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ใช่ แม่ของฉันให้มา”
ลี่หรงพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่กล้ายอมรับผิดอีก เชือกที่ผูกไว้กับกุนเชียง ล้วนเป็นเชือกใยสังเคราะห์ที่จ้าวชิงซงเอามาให้ฉันทั้งนั้น กุนเชียงชุดนี้ยังตากไม่แห้งดี และเครื่องเทศในกุนเชียงนี้ฉันก็เตรียมไว้โดยเฉพาะด้วย แม่ของเธอจะไปเอามันมาให้ได้ยังไง”
เธอหยิบกุนเชียงที่เพิ่งถูกโยนลงพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปหาหวงต้าหลาน
“เธอรู้ไหมว่าทำไมพวกเธอถึงท้องเสีย? ก็เพราะฉันใส่ผงสลอด*[1]ลงไปในกุนเชียงนี้ไงล่ะ เพราะอยากรู้ว่าคนเลวคนไหนกันกล้าขโมยกุนเชียงไป! เธอยังกล้าบอกอีกไหมว่านี่คือกุนเชียงที่บ้านแม่เธอให้มา? มองหน้าฉันแล้วพูดใหม่อีกทีสิ!”
หวงต้าหลานหุบปากสนิท ไม่กล้าพูดอะไรอีก หลี่เซียงขมวดคิ้วก่อนตบแขนเธอ “พูดสิ!”
หวงต้าหลานขมวดคิ้ว “บ้านแม่ของฉันให้มา”
จ้าวจื้อหมิงแทรก “ได้ยินรึยัง? จ้าวชิงซง ดูผู้หญิงของแกสิ!”
ในเวลานี้จ้าวเจี้ยนกั๋วและจ้าวชิงหยางก็มาด้วย ในที่สุดผู้อาวุโสทุกคนในตระกูลจ้าวก็มาที่นี่แล้ว
พ่อของจ้าวจื้อหมิงและเพื่อนอีกหลายคนก็มาด้วย พวกเขาทุกคนพร้อมใช้กำลัง หากเกิดการต่อสู้ขึ้น ไม่รู้เลยว่าใครจะได้เปรียบ
[1] สลอด หรือ ปาโต้ว (巴豆) ชื่อไม้พุ่มชนิด Croton tigliumL. ในวงศ์ Euphorbiaceae เมล็ดเป็นพิษ มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบที่มีฤทธิ์ทำให้ถ่าย
MANGA DISCUSSION