บทที่ 1 ทะลุมิติมาเป็นนางเอกในนิยาย
“ใกล้จะถึงแล้ว ตอนนี้ฉันติดไฟแดงอยู่”
เมื่อเช้า ลี่หรงนอนตื่นสาย แต่เพราะต้องเข้าร่วมบันทึกถ่ายทำรายการ ตอนนี้เธอจึงกำลังขับรถเพื่อไปที่หน้างานอย่างเร่งรีบ ผู้ช่วยก็โทรหาหลายต่อหลายครั้ง หลังจากวางสายไป ลี่หรงก็รีบยกเท้าขึ้นเหยียบคันเร่งสุดแรง
โครม!
เสียงดังก้องไปทั่วทางแยกบนท้องถนน
เธอรู้สึกปวดที่ศีรษะอย่างรุนแรง ก่อนจะหมดสติไปทันที
ลี่หรงหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ก่อนจะตื่นขึ้นมา และสิ่งที่สะดุดตาคือคานไม้เก่า ๆ สีน้ำตาลเทา
เมื่อมองไปด้านข้าง ลี่หรงก็เห็นโต๊ะและเก้าอี้ที่ดูแปลกตาในบ้านซึ่งปูด้วยกระดาษสีแดง ชั้นวางยกสูงข้างประตู อ่างเคลือบที่มีตัวอักษรสีแดงเขียนว่า ‘ฉี’ (囍) พื้นหลังสีขาว โดยมีผ้าเช็ดตัวสีขาวสองผืนแขวนอยู่
ตัวเธอในขณะนี้ กำลังแต่งตัวเหมือนตัวละครในนิยายย้อนยุค!
และประเด็นสำคัญคือ …เธอเป็นนางเอก!
นางเอกในหนังสือมีชื่อและแซ่เหมือนกันกับเธอ แต่บุคลิกของทั้งสองแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
‘ลี่หรง’ ในหนังสือเล่มนี้ เธอเป็นอุปสรรคขัดขวางความสำเร็จของพระเอก เป็นผู้ที่คอยทรมานตัวเอกของเรื่องมานานหลายทศวรรษ
ทำให้ครอบครัวแตกแยก และมอบเงินให้คนนอก เมื่อใดก็ตามที่ธุรกิจของพระเอกดีขึ้น เธอจะเริ่มทำตัวเป็นนางปีศาจ ก่อนเสียชีวิตด้วยอาการป่วยในท้ายที่สุด
ในหนังสือต้นฉบับ ชีวิตของ ‘ลี่หรง’ จบลงด้วยความเจ็บป่วยและความตาย น่าเสียดายที่พระเอกผู้ทำงานหนักมาตลอดชีวิตของเรื่องนี้ต้องมาตกหลุมรักผู้หญิงอย่าง ‘ลี่หรง’
ลี่หรงกลับมามีสติอีกครั้ง เธอลองหลับตาลงและลืมตาขึ้น แต่ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม
หญิงสาวถอนหายใจ
ตัวเธอในชีวิตก่อนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
แต่สวรรค์ได้ประทานโอกาสให้เธอได้เกิดใหม่อีกครั้ง
ลืมมันไปซะ มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว กลับมาเเล้วก็จงอยู่อย่างมีความสุข
เธอกดนวดขมับที่ตึงเครียด ล้างหน้าด้วยน้ำในอ่าง แล้วเงยหน้าขึ้นมองกระจก
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้ลี่หรงตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่ง หญิงสาวในกระจกมีตาโต จมูกโด่ง ริมฝีปากงดงาม
ถึงจะไม่ทาลิปสติก แต่ ‘ลี่หรง’ คนนี้ก็นับว่าสวยระดับท็อป ๆ เลยนะเนี่ย
ปฏิทินหนาเตอะแขวนอยู่บนผนัง ลี่หรงหรี่ตามอง เห็นว่าวันเวลาบนปฏิทินเป็นวันเวลาเดียวกับที่เขียนไว้ในหนังสือที่เธอเคยอ่าน
ฤดูใบไม้ร่วงในปี ค.ศ. 1974
จิตใจของเธอปั่นป่วน ในใจก็แอบยินดีที่ตัวเองเคยขยันอ่านหนังสือประวัติศาสตร์
ดังนั้น แม้ว่าตัวเธอเองจะไม่ได้แตะหนังสือประวัติศาสตร์มานานกว่าสี่ปีในมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม
แต่ยุคสมัยที่ตัวเธอในร่าง ‘ลี่หรง’ อยู่ในตอนนี้ ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ไม่คุ้นเคยแต่อย่างใด เพราะหลังจากนี้อีกสองปี หรือก็คือปี ค.ศ. 1977 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
หลังจากมุ่งเป้าไปที่การจัดการปัญหาในครัวเรือน ในที่สุดก็มีการปฏิรูปและเปิดกว้าง รัฐได้ทำการส่งเสริมการพัฒนาผู้ประกอบการ
มีการประกาศใช้นโยบายที่ดี ทำให้ผู้คนจำนวนมากใช้ประโยชน์จากการพัฒนาของยุคสมัย จนกลายเป็นคนกลุ่มแรกที่ร่ำรวย
เดิมทีลี่หรงเป็นคนกล้าหาญและมุ่งมั่นอยู่เสมอ
ในเมื่อสวรรค์ส่งเธอมาที่โลกนี้ เธอก็ต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่า
เมื่อมีจุดมุ่งหมายแล้ว แรงจูงใจก็จะเติบโตขึ้นตามไปด้วย
ลี่หรงเชื่อว่าเธอจะสามารถพึ่งพาภูมิปัญญาของตัวเองและความคิดความอ่านของคนในอนาคตให้เป็นประโยชน์ได้
ทำให้ชีวิตของตัวเองร่ำรวยและรุ่งโรจน์
แต่ถึงจะมีเป้าหมายแล้ว ทว่าชีวิตในปัจจุบันของลี่หรงก็ยังนับว่ามีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไข
เพราะสาเหตุที่นางเอกกับพระเอกแต่งงานกันในหนังสือต้นฉบับนั้น พูดแล้วก็เศร้านัก
พระเอก ‘จ้าวชิงซง’ เกษียณก่อนวัยเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บ มันเป็นความผิดปกติของเท้าที่ใคร ๆ ก็สามารถรับรู้ได้ เขาไม่สามารถทำงานเกษตรกรรมได้ ดังนั้นจึงไม่มีครอบครัวใดยินดีให้ลูกสาวของตนแต่งงานกับผู้ชายแบบนี้
และเนื่องจากลูกชายของเธอไม่สามารถแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ แม่ของจ้าวชิงซงจึงร้อนใจราวกับมดบนหม้อไฟ
บังเอิญจ้าวชิงซงช่วยลี่หรงที่ตกลงไปในแม่น้ำได้พอดิบพอดี
และในยุคที่ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกันก่อนแต่งงาน จ้าวชิงซงกลับผายปอดให้ลี่หรง
ข่าวนี้ถูกแพร่สะพัดออกไปไกล จนถึงหูแม่ของจ้าวชิงซง
นั่นทำให้แม่ของจ้าวชิงซงตื่นเต้น ราวกับพบคนที่จะแต่งงานกับลูกชายได้แล้ว นางถามลี่หรงว่าเธอจะยอมแต่งงานกับจ้าวชิงซงไหม?
แน่นอนว่าตัว ‘ลี่หรง’ ไม่พอใจ แต่เนื่องจากหยางเต๋อเป่าบอกว่าเขาต้องการเงิน จึงหันไปร่วมมือกับหลัวปิงเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ลี่หรงเห็นด้วย
ตบท้าย หยางเต๋อเป่ายังบอกอีกว่าเขาจะรวบรวมเงินมาคืนให้ในภายหลังเพื่อพาลี่หรงกลับมา
ลี่หรงจึงใจอ่อน ทว่าในนิยายไม่ใช่เพียงแค่เธอแต่งงานกับจ้าวชิงซง เธอยังมอบเงินสองร้อยหยวนให้กับหยางเต๋อเป่าตามที่เขาต้องการอีกด้วย
แต่ต่อมา หยางเต๋อเป่ากลับล้มความตั้งใจที่จะรวบรวมเงินมาคืน และกลายเป็นว่าเขาเอาแต่ยุยงให้ลี่หรงแยกทางกับสามี พร้อมทั้งมาไถเงินเธอไม่หยุดหย่อน
ทั้ง ๆ ที่ ‘ตัวเธอ’ ได้โอกาสมีชีวิตใหม่แท้ ๆ แต่ราวกับสวรรค์กลั่นแกล้ง ตัวเธอดันย้อนกลับมาในช่วงที่ ‘ลี่หรง’ ตัดสินใจกระโดดลงน้ำ เพื่อบีบบังคับให้แยกครอบครัวออกมาอยู่กันเอง
เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาซ้ำ ๆ ขณะรู้สึกอึดอัดกับเสื้อผ้าเปียก ๆ บนร่างกายของตน
โชคดีที่ยังพอมีเสื้อผ้าสะอาด ๆ ให้เปลี่ยน ลี่หรงเลยถอดเสื้อผ้าที่เปียกออก ทว่าประตูก็ถูกผลักให้เปิดจากด้านนอกในจังหวะนั้นเช่นกัน
ลี่หรงอุทานลั่น เธอจับเสื้อขึ้นมาบังไว้ที่เนินอกก่อนทรุดตัวลง
แน่ล่ะ จ้าวชิงซงไม่ได้คาดหวังถึงฉากที่สวยงามเช่นนี้เมื่อเขาเปิดประตู
เขารีบมองเฉไปทางอื่น พร้อมปิดประตูด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของเขาทำให้เรื่องดูแปลกยิ่งกว่าเดิม เลยพูดว่า “ขอโทษ” ด้วยความไม่สบายใจ และพูดเสริมว่า “รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”
ลี่หรงใช้เวลาไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นในการแต่งตัว เธอสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว”
จากนั้นจ้าวชิงซงก็หันกลับมา และเดินไปหาลี่หรงที่กำลังมองตรงมา
ในสายตาของเธอ ผู้ชายตรงหน้านี้มีรูปร่างสูง สวมกางเกงขายาวสีเขียวทหาร เขาสวมชุดเอี๊ยมสีขาวเหลือง และเดินกะโผลกกะเผลกเล็กน้อย
แสงกระทบของดวงอาทิตย์ที่กำลังตก ส่องลงบนใบหน้าของเขา
แต่นั่นกลับไม่สามารถทำให้ใบหน้าที่แข็งกระด้างของเขาอ่อนลงได้เลย …คงเป็นเพราะคิ้วที่ทั้งกว้างและคมคู่นั้นล่ะมั้ง?
นี่คือ จ้าวชิงซงใช่ไหม?
แม้ว่าในนิยายจะบรรยายว่าพระเอกคนนี้หล่อเหลาเพียงใด มันก็ยังไม่เท่ากับการที่ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเองอยู่ดี …เขาคนนี้ บอกได้คำเดียวว่าหล่อมาก!
หัวใจของลี่หรงเต้นระรัว รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของเธอ
จ้าวชิงซงที่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลี่หรง อารมณ์พลันขุ่นมัวลง ในใจก็คิดไปว่าที่เธอยิ้มเพราะชอบใจที่ในที่สุดก็จะได้แยกครอบครัวหรือเปล่าน่ะ?
เมื่อคิดถึงการแยกครอบครัวของตัวเขาและเธอ จ้าวชิงซงก็ยิ่งมีสีหน้าย่ำแย่ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงเตาพลางลูบเส้นผมบนหัวอย่างจนใจ และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ที่คุณดูมีความสุข เพราะในที่สุดพวกเราก็จะได้แยกครอบครัวออกมางั้นเหรอ?”
ไม่แน่นอน! ลี่หรงกำลังจะพูด แต่เขากลับชิงพูดต่อ
“ผมเคยบอกไปแล้ว… หากคุณไม่ชอบการแต่งงานครั้งนี้ ผมจะไม่ห้ามถ้าคุณต้องการจะเลิก แต่สิ่งที่คุณทำในวันนี้มันมากเกินไป! ตอนนี้พวกเราแยกครอบครัวออกมาแล้ว คุณพอใจแล้วใช่ไหม? ดังนั้นช่วยสงบสติอารมณ์หน่อยเถอะ นอกจากนี้เพื่อเห็นแก่ร่างกายของคุณเอง ก็หยุดล้อเล่นอย่างการกระโดดลงแม่น้ำเหมือนวันนี้ได้แล้ว”
น้ำเสียงเขาเย็นชา เห็นได้ชัดว่ากำลังระงับความโกรธ
ลี่หรงเม้มริมฝีปากของเธอ จำได้ว่าวันนี้ ‘ตัวเธอ’ ได้เดินไปบอกต่อหน้าเขาว่าต้องการจะแยกครอบครัว ทั้งยังขู่ว่าจะกระโดดน้ำ แต่ ‘ลี่หรง’ ในตอนนั้นกับ ‘ลี่หรง’ ในตอนนี้เป็นคนล่ะคนกันเนี่ยสิ
เพราะตัวเธอในตอนนี้ ไม่คิดจะทำแบบเดียวกับที่ลี่หรงคนก่อนทำ แต่เพราะไม่อาจหาข้อแก้ตัวดี ๆ ได้ ลี่หรงจึงได้แต่เงียบสู้
เมื่อจ้าวชิงซงไม่ได้รับคําตอบใด เขาจึงเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าแวบหนึ่ง
เห็นเพียงอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่พูดจาอะไร ดูเงียบผิดปกติ เขาก็ไม่อยากใส่ใจเรื่องนี้อีก ก่อนหยิบเงินสองร้อยหยวนออกจากกระเป๋ามาวางบนเตียง และพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “นี่คือเงินสำหรับครอบครัวเราที่แยกตัวออกมา คุณเก็บเอาไว้ให้ที”
ภายในไม่กี่นาทีระหว่างนั้น ลี่หรงพลันคิดได้หลายอย่าง เธอนึกเสียดายพระเอกที่หน้าตาดีผู้มีความสามารถ ที่ครั้งหนึ่งเคยคร่ำครวญว่านางเอกตามืดบอด ก่อนจะย้อนนึกถึงตอนที่ตัวเองอ่านนิยายเรื่องนี้ เธอนั้นทั้งชื่นชมและเสียใจต่อพระเอก ทว่าในเมื่อตัวเองหลุดเข้ามาในโลกใบนี้แล้ว เธอก็สามารถแก้ไขเรื่องราวได้ หันมาทำดีกับพระเอก และสร้างครอบครัวอันดีพร้อมร่วมกันไปกับเขาได้
ที่สำคัญคือ ความได้เปรียบจากความรู้ที่มี ที่เธอสามารถคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นขอเพียงเขาและเธอขยันทำงาน ชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าจะหนีไปไหนได้?
ยิ่งคิดแบบนี้ หัวใจของหญิงสาวก็พลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ตกลง” ลี่หรงมองผู้ชายตรงหน้า “ฉันจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้ว”
เขาขมวดคิ้วมองลี่หรงด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในคําพูดของเธอ ทว่าเขาก็ไม่ได้ปริปากบอกอะไร คิดเพียงว่าจะจัดการเรื่องการแยกครอบครัวให้มันจบ ๆ ไป บ่ายนี้เธอจะได้ไม่ทำตัวดื้อดึงอีก
ทว่าทันใดนั้น ท้องของลี่หรงกลับร้องขึ้นขัดจังหวะคำพูดของจ้าวชิงซงเสียก่อน
สายตาของทั้งคู่ประสานกัน ก่อนหญิงสาวจะถามเขาว่า
“มีอะไรกินบ้างไหม?”
น้ำเสียงของเธอในเวลานั้นดูนุ่มนวลอ่อนหวาน ต่างกับเมื่อก่อนที่ชอบพูดจาเสียดแทง
จ้าวชิงซงเม้มริมฝีปาก ก่อนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “รอก่อน”
ไม่นานหลังจากนั้น จ้าวชิงซงก็เข้ามาพร้อมชามใบใหญ่
ขอบชามแตกเล็กน้อย ข้างในมีหมั่นโถวและผักดอง
เธอเม้มริมฝีปาก มีแต่อาหารแบบนี้งั้นเหรอ?
เขาอ่านความลังเลในดวงตาของเธอออก ก่อนจะรู้สึกยิ้มเยาะในใจ เริ่มมั่นใจแล้วว่าที่แท้ลี่หรงก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
MANGA DISCUSSION