ช่วงระหว่างทางจากกำแพงเมืองทาทัลท์ไปจนถึงสถานที่ล่ามอนสเตอร์นั้นคึกคักราวกับไปทัศนศึกษา
ผู้คนในเมืองต่างก็มองมาทางนี้เป็นระยะๆ ด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
การที่โดนจับตามองขนาดนี้มันน่าอายจริงๆ อยากให้เลิกทำแบบนี้ซะที
ไม่มีวิธีที่จะทำให้มันเงียบกว่านี้แล้วหรือไงนะ
“ว่าแต่ สเตตัสของชิโร่คนเดียวที่เป็นเกมจีบสาวเนี่ย ตลกชะมัดเลยนะ”
“แกนี่มันจริงๆ เลยนะ พอไม่ใช่เรื่องของตัวเองแล้วก็พูดเอาสนุกปากเลย!”
“ไม่ๆ ฉันเองก็ลำบากเหมือนกันนะเฟ้ย ต้องมาแบกรับความคาดหวังที่ไม่ได้อยากได้สักนิด ถ้าให้เลือกได้ล่ะก็ เป็นชาวนาอะไรแบบนั้นยังจะเหมาะกับฉันซะกว่าอีก”
เร็นยะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉยจนไม่น่าเชื่อ
ฉันว่าอาชีพของแกน่ะเหมาะที่สุดแล้วล่ะ
ถ้าเป็นคนอื่นได้ไปก็คงจะไม่เข้าท่าเท่าไหร่
ระหว่างทางถึงจะคุยเล่นกับเร็นยะไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็มีงานสำคัญที่ต้องทำอยู่เหมือนกัน
นั่นก็คือการจัดสรรพอยต์นั่นเอง
เพราะการต่อสู้จริงมันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เพราะงั้นก็อยากจะปรับสเตตัสให้พอจะสู้ได้ก่อนถึงตอนนั้น
เพื่อการนั้น จำเป็นต้องเอา 110pt ที่ได้มาจากเบอร์รีสท์ไปใช้อัปเกรด
จำได้ว่าในคำอธิบายเขียนไว้ว่าสามารถทำได้จากรายการที่ได้รับมา
ดังนั้น พอเปิดสเตตัสขึ้นมาดูก็พบว่ามีรายการที่ได้รับมาใหม่กับรายชื่อผู้ติดต่อเพิ่มเข้ามา
ก็อยากจะลองเช็ครายชื่อผู้ติดต่อดูเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว เลยเปิดรายการที่ได้รับมาแทน
[รายการที่ได้รับมา]
ค้นหา: 『 』[ตัวกรอง]
สิ่งที่ได้รับมา
ความรู้ 1UP: 1pt, เพิ่มขีดจำกัดความรู้: 50pt, กีฬา 1UP: 1pt, เพิ่มขีดจำกัดกีฬา: 50pt…
รายการที่แสดงผลออกมาเหมือนกับการค้นหาในอินเทอร์เน็ต
ในนั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับสกิลและการเพิ่มสเตตัสเขียนอยู่หลายหน้าเลยทีเดียว
ถ้าจะให้อ่านทั้งหมดนี่วันสองวันก็คงไม่พอ
เอาเป็นว่าตอนนี้พอยต์ก็น้อยอยู่ เอาไปใช้อัปค่ากีฬาแค่ 30pt ก่อนก็แล้วกัน
เหลืออีก 80pt ก็น่าจะเพียงพอสำหรับอัปเกรดอย่างอื่นได้
[เลือก กีฬา 30UP จะใช้ 30pt ยืนยันหรือไม่? ใช่/ไม่ใช่]
มีระบบยืนยันซ้ำเพื่อความปลอดภัยด้วยแฮะ
เป็นการออกแบบที่ใจดี ป้องกันการใช้พอยต์ผิดพลาดได้ด้วย
ผมกดใช่โดยไม่ลังเล แล้วก็ลองตรวจสอบดูว่ามีพลังเอ่อล้นออกมาจากทั่วร่างรึเปล่า
“ห่วยแตกชะมัด ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนไปเลยนี่หว่า”
รู้สึกเหมือนโดนหลอกจนสิ้นหวัง
กว่าจะได้ 30pt นี่มาอีกครั้งมันต้องลำบากขนาดไหนกันนะ
หนึ่งชั่วโมงได้มาแค่ 60pt เองนะ?
ยิ่งสำหรับผมที่คุยกับผู้หญิงไม่เก่งแล้วล่ะก็ มูลค่าของ 30pt ในตอนนี้น่ะ อาจจะสำคัญกว่าชีวิตซะอีก
ผมเตะก้อนหินที่ตกอยู่บนพื้นระบายอารมณ์
ถึงตอนที่เตะจะไม่ได้รู้สึกว่าตัวเบาขึ้นหรืออะไรก็เถอะ แต่ทำไมก็ไม่รู้ ก้อนหินมันกลับลอยไปไกลลิบเลย
หรือว่า… จริงๆ แล้วมันได้ผลแต่ผมไม่รู้ตัวเองงั้นเหรอ
บังเอิญเตะก้อนหินเข้าพอดี เลยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาว่าพอยต์ที่ใช้ไปมันไม่ได้สูญเปล่า
ดังนั้น ผมเลยพนมมือขอโทษก้อนหินก้อนนั้น
“โทษทีนะก้อนหิน ที่มาลงอารมณ์ใส่”
“อะไรของแกวะชิโร่ ในที่สุดน็อตก็หลุดจนคุยกับก้อนหินแล้วเรอะ?”
“แกน่ะ ควรจะให้ความเคารพก้อนหินมากกว่านี้นะเฟ้ยเร็นยะ”
“ถ้าไม่ได้ล้อเล่นล่ะก็ ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่เลยนะ”
ถ้าเร็นยะได้มาใช้ชีวิตอยู่ในต่างโลก เดี๋ยวก็คงจะมีวันที่ต้องขอบคุณก้อนหินเหมือนกันนั่นแหละ… มั้งนะ
“เอาล่ะ ต่อจากนี้จะเริ่มทำการกำจัดมอนสเตอร์ การเพิ่มเลเวลจะช่วยเพิ่มความสามารถทางร่างกายและพลังเวท ถึงแม้จะมองไม่เห็นในหน้าต่างสเตตัสก็ตาม ดังนั้นการกำจัดมอนสเตอร์จึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง เอาเถอะ วันนี้เป็นวันแรกของการฝึกจริง คงไม่ถึงกับเลเวลอัปหรอกนะ”
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยค่ะ พวกเราบางคนก็ยังมีความรู้สึกต่อต้านการฆ่าสิ่งมีชีวิตอยู่ ขอให้เข้าใจด้วยนะคะ”
“เรื่องนั้นทางนี้ก็จะพิจารณาไว้เหมือนกัน เพราะเข้าใจดีว่าการที่จะให้คนที่เมื่อวานยังฆ่าแมลงไม่ได้ มาฆ่าฟันกันในทันทีมันเป็นเรื่องยาก”
คำพูดของคุณโอบิดูเป็นการมองการณ์ไกลและรอบคอบมาก
พวกโอตาคุหรือพวกเด็กเกเรอาจจะไม่มีความรู้สึกต่อต้านการฆ่ามอนสเตอร์
แต่สำหรับพวกผู้หญิงแล้วมันเป็นภาระที่หนักหนาเกินไป
ถ้าทำให้พวกเธอเกิดบาดแผลทางใจขึ้นมา มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตในอนาคตได้
คงอยากจะหลีกเลี่ยงเรื่องนั้นสินะ
“เริ่มจากกำจัดสไลม์กันก่อนเลย อธิบายง่ายๆ ก็คือ มอนสเตอร์ตัวนั้นน่ะ แม้แต่เด็กอายุ 10 ขวบก็ยังล้มได้…”
“คำอธิบายมอนสเตอร์ระดับฝึกสอนอย่างสไลม์น่ะไม่จำเป็นหรอกครับ! ผมคนเดียวก็เอาอยู่!”
โอตาคุ A พุ่งเข้าใส่สไลม์อย่างกล้าหาญทั้งๆ ที่คำอธิบายยังไม่ทันจบ
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูน่ารักอ่อนแอนั่น ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกที่อยากจะรีบร้อนอยู่หรอกนะ แต่พวกที่ไม่ยอมอ่านคู่มือให้ดีๆ น่ะ เดี๋ยวก็ได้ลำบากทีหลังหรอก
“อั่ก!แค่ก! ทะ ไทม์! หยุดตีได้แล้วววว!”
เห็นไหมล่ะ ว่าแล้วเชียว
โอตาคุที่ดูถูกว่าสไลม์เป็นพวกอ่อนแอ โดนจัดการในพริบตาเลย
อัศวินที่ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่เลยต้องรีบเข้าไปช่วย
ดูเหมือนว่าสไลม์จะใช้การต่อยตีเป็นอาวุธ เลยไม่ถึงกับตายง่ายๆ แต่พอเห็นสภาพที่ยับเยินของโอตาคุแล้วก็ทำให้รู้สึกว่าต้องระวังตัวให้มากขึ้น
“ดูเหมือนว่าเขาจะประมาทไปหน่อยนะ ครั้งนี้เพราะเป็นสไลม์เลยจบแค่นี้ แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ล่ะก็ อีกไม่นานคงจะมีใครสักคนในพวกเราต้องตายแน่ๆ”
ไม่ใช่คำพูดที่อ่อนโยนเหมือนปกติ
คำพูดที่เย็นชาแต่ก็เยือกเย็นนั้นทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพวกเรา
ในตอนนั้นเองที่พวกเราเพิ่งจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าในโลกใบนี้น่ะ ความตายมันรออยู่ข้างๆ เราเสมอ
บรรยากาศที่เหมือนมาทัศนศึกษาเมื่อกี้มันหายไปหมดแล้ว
ทุกคนเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วราวกับเป็นกองทัพที่ฝึกฝนมาอย่างดี
ขอบคุณนะ โอตาคุ A พวกเราจะไม่ลืมการเสียสละอันสูงส่งของนายเลย
เอ่อ ก็ยังไม่ตายหรอกนะ
“สไลม์มีความสามารถในการลอกเลียนแบบสัตว์หรือมนุษย์ได้ ว่ากันว่าพลังโจมตีของมันก็พอๆ กับผู้ชายวัยผู้ใหญ่ทั่วไปนั่นแหละ แต่ถ้าประมาทล่ะก็จะเป็นเหมือนเขาคนนั้น เพราะงั้นระวังตัวด้วยล่ะ แล้วก็ วิธีการกำจัดมันก็ต่างจากมอนสเตอร์ตัวอื่นด้วย คือต้องทำลายแกนกลางที่อยู่ในตัวมัน แต่ว่าแกนกลางมันเปราะบางมาก แค่แรงกระแทกนิดหน่อยก็แตกแล้ว เพราะงั้นถ้าใช้หัวคิดหน่อยมันก็ง่ายนิดเดียว”
หลังจากฟังคำแนะนำแล้ว พวกเราก็เริ่มต่อสู้กับสไลม์ที่อยู่แถวนั้น
เร็นยะ คุณโอบิ แล้วก็พวกชมรมกีฬาและเด็กเกเรอีกสองสามคนเรียนรู้ได้เร็วมาก กำจัดสไลม์ไปทีละตัวๆ
“ฉันเองก็พยายามหน่อยดีกว่า”
พออัปสเตตัสไปแล้ว ผมก็เริ่มมีแรงจูงใจในการกำจัดมอนสเตอร์ขึ้นมาบ้างนิดหน่อย เลยลองมองหาสไลม์แล้วก็พยายามจะกำจัดมันดู
สไลม์กระโดดดึ๋งๆ ไปทั่วทุ่งราบ
ด้วยความน่ารักเหมือนมาสคอตนั่นก็ทำให้ลังเลที่จะกำจัดมันอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าปล่อยไว้มันก็คงจะก่อความเสียหายอะไรสักอย่างแน่ๆ
“ขอโทษนะ สไลม์”
เริ่มจากลองขว้างก้อนหินที่อยู่ใกล้ๆ ไปเบาๆ
ก้อนหินกลิ้งไปอยู่หน้าสไลม์
มันสังเกตเห็นแล้วก็เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์แล้วเดินตรงมาทางนี้
สำหรับผมแล้ว สู้กับมนุษย์ธรรมดาๆ ยังจะง่ายกว่าสไลม์น่ารักๆ ซะอีก
รวบรวมพลังไปที่หมัด แล้วก็ลองต่อยเข้าไปที่แกนกลางที่มองเห็นผ่านร่างกึ่งโปร่งใสนั่นดูสักหมัด
ปัง!
พร้อมกับเสียงระเบิดเหมือนลูกโป่งแตก สไลม์กับแกนกลางก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
ของเหลวกึ่งโปร่งใสกระจายไปทั่วทุ่งหญ้าที่สวยงาม
ภาพที่น่าตกใจเกินไปทำเอาผมยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก
เท่าที่ดูคนอื่นๆ แล้ว แค่ต่อยธรรมดาๆ ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ได้นี่นา
หมายความว่า… พลังของผมมันมากเกินไปงั้นเหรอ?
หรือว่า… ไอ้ที่อัปสเตตัสกีฬาไปมันได้ผลแล้วงั้นเหรอ?
ไม่ว่าจะอย่างไหน สัญชาตญาณของผมมันบอกว่าควรจะเงียบเรื่องนี้ไว้จะดีกว่า
ไม่อย่างนั้นต้องโดนลากเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากแน่ๆ
สุดท้าย ผมก็ทำเป็นมองไม่เห็นภาพนั้น แล้วก็แอบย่องกลับไปรวมกลุ่มกับทุกคนเงียบๆ
Translater : Eidolon
www.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION