บทที่ 21: ผู้บัญชาการก็อบลิน
พวกเราพุ่งพรวดออกจากป่าพร้อมกัน!
พวกก็อบลินที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ก็พากันแตกตื่น
บ้างก็ร้องเสียงหลง บ้างก็รีบคว้าอาวุธออกมาเตรียมสู้ แต่ละตัวก็มีรีแอ็กชันแตกต่างกันไป
บอสก็อบลินที่รับมือสถานการณ์ได้ไวรีบควบคุมความโกลาหลนั้นไว้
“กุ๊กกู๋! แกร๊รรรร!”
“”แก๊กๆ!””
หลังจากที่มันออกคำสั่งอะไรบางอย่าง พวกก็อบลินก็กลับไปตั้งขบวนทัพอย่างเป็นระเบียบอีกครั้ง
“ฝากด้วยนะ ชิโร่”
“อืม ไปล่ะ”
คำพูดส่งท้ายอันแสนจะอบอุ่นจากมิร่า
แต่ว่ามันไม่มีเวลาจะมาซึ้งอะไรกันนานขนาดนั้น เลยตอบสั้นๆ แล้วก็แยกตัวออกจากสี่คนนั้นไป
หน้าที่คือการจัดการบอส
ตอนนี้ขอแค่จดจ่ออยู่กับเรื่องนั้นอย่างเดียวก็พอ
จะอ้อมไปไกลหน่อยแต่เลือกเส้นทางที่ศัตรูน้อยที่สุด หรือว่าจะบุกทะลวงฝ่าวงล้อมศัตรูไปตรงๆ เลยดี
ไม่สิ ถ้าเลือกอย่างหลังเดี๋ยวจะยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่
ไม่ได้มีพลังมากพอที่จะกวาดล้างไอ้กองทัพมหึมานี่ให้สิ้นซากได้ในพริบตาซะหน่อย
แล้วอีกอย่าง ถึงจะบอกว่าอ้อมไกล แต่มันก็แค่ไม่กี่นาทีเอง
ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก
เอาเป็นว่า วิ่งลูกเดียว!
ระหว่างทางก็จัดการก็อบลินที่เจอเป็นระยะๆ ไปด้วยหมัดเดียวจอด
ไอ้ก็อบลินกระจอกพวกนี้มันไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกต่อไปแล้ว
ขณะที่กำลังซึมซับกับการเติบโตของตัวเอง ก็มาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของที่ชุมนุมก็อบลินจนได้
“ล้อกันเล่นรึเปล่าวะเนี่ย ตัวมันใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลยนี่หว่า!”
ตอนที่มองจากไกลๆ ก็นึกว่าตัวมันจะพอๆ กับก็อบลินตัวอื่นๆ คือสูงไม่ถึงเมตรซะอีก
แต่พอมาดูใกล้ๆ ถึงได้รู้
แค่กะด้วยสายตาก็รู้แล้วว่ามันต้องสูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตรแน่ๆ
รูปร่างกำยำล่ำสันซะจนเรียกว่าออร์คยังจะเหมาะกว่าก็อบลินซะอีก แถมยังสวมสร้อยคอที่ทำจากหัวกะโหลกของนักผจญภัยที่มันเคยล้มมาแล้วอีกต่างหาก
แล้วที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ทั้งๆ ที่มันรู้ตัวแล้วว่าเข้ามาใกล้ แต่มันกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วหันกลับไปสั่งการพวกก็อบลินต่อซะงั้น
เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าตัวเราน่ะมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันตั้งแต่แรกแล้ว
“ชักอาวุธออกมาซะสิ ไอ้กระจอกที่บังเอิญเก่งขึ้นมาหน่อย อย่ามัวแต่ทำเก๊กอยู่เลย ข้าจะเป็นศัตรูคนแรกและคนสุดท้ายของแกเอง”
“กุ๊ก”
ไม่รู้ว่ามันเข้าใจที่พูดรึเปล่านะ แต่มันก็ใช้นิ้วชี้สั่งให้พวกก็อบลินโจมตี
ฝูงก็อบลินเคลื่อนไหวตามคำสั่งทันที
ดูเหมือนอยากจะบอกว่าตัวมันเองไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยซ้ำสินะ
ถ้างั้น ก็มีแต่ต้องเอามีดไปจ่อคอหอยมันสถานเดียวเท่านั้นแหละ
จะได้โดนจัดการซะโดยที่ยังไม่ได้ทันได้ร้องโอดโอยเลย
ไอ้พวกกระจอกกุ๊ยพุ่งเข้ามาเป็นพรืด!
จัดการตัวแรกด้วยลูกเตะก้านคอจนกระเด็น! แล้วก็อาศัยแรงหมุนตัวฟันตัวที่สองด้วยมีดสั้นต่อทันที!
“กุ๊กกู๋!”
“ชิ! เจ็บชะมัด!”
มันไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากที่จะจัดการตัวที่สามตัวที่สี่ต่อไปได้เรื่อยๆ พลาดท่าโดนก็อบลินตัวหนึ่งที่รับมือไม่ทันกัดเข้าที่แขน
ถึงจะกัดฟันแทงสวนเข้าที่หัวใจจัดการตัวที่สามไปได้ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกว่าจำนวนศัตรูมันลดลงเลยสักนิด
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็ คงต้องสู้กันยันฟ้ามืดแน่ๆ
ช่วยไม่ได้ คงต้องใช้ไอ้นั่นสินะ
“”หยุดเดี๋ยวนี้!””
สกิลใหม่ 【ตะโกนห้าม】 ที่ใช้พอยต์ไปตั้ง 500pt! ในเกมจีบสาวภาคหลักมันก็เป็นสกิลที่เทพสุดๆ อยู่แล้ว คิดว่าในโลกนี้มันก็คงจะเทพไม่แพ้กันเลยเก็บงำเอาไว้ ดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสุดๆ เลยว่ะ พวกก็อบลินที่ได้ยินเสียงตะโกน ร่างกายก็ชาจนขยับไม่ได้ แต่ว่า สกิลนี้มันจะได้ผลกับมอนสเตอร์ที่มีเลเวลไม่สูงมากเท่านั้นสินะ
บอสก็อบลินยืนจังก้าจ้องเขม็งมาทางนี้
รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอยู่บ้างนะ แต่ถ้าเทียบกับดัคมาซแล้วล่ะก็ มันยังอ่อนหัดกว่าเยอะเลย
“กุ๊กกู๋”
บอสก็อบลินออกคำสั่งอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้นเอง พวกสมุนของมันก็พากันหนีเตลิดเปิดเปิงไปคนละทิศคนละทาง
ดูท่าแล้ว ในที่สุดเจ้าตัวก็คิดจะลงมือเองแล้วสินะ
มันยกดาบสองคมเล่มเขื่องที่ดูหนักอึ้งขึ้นมาด้วยมือเดียว แล้วก็ตั้งท่าเล็งมา
เราเองก็ตั้งท่ามีดสั้นเตรียมพร้อมเหมือนกัน
ช่วงเวลาแห่งความเงียบที่ต่างฝ่ายต่างจ้องหาช่องว่างของอีกฝ่าย
แค่ใครคนใดคนหนึ่งเผยช่องว่างออกมาแม้เพียงนิดเดียว เวลาที่หยุดนิ่งอยู่ในมิติแห่งนี้มันก็จะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าจะต้องเปลี่ยนความคิดที่มีต่อมอนสเตอร์ซะใหม่แล้วล่ะมั้ง
ตอนแรกก็นึกว่าเป็นแค่พวกที่ใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่ได้คิดอะไร แต่จริงๆ แล้วมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่หิวกระหายการเอาชีวิตรอดเหมือนกับมนุษย์นั่นแหละ
เป็นฝ่ายเปิดฉากบุกเข้าไปก่อน!
พุ่งตรงเข้าไปหาบอสก็อบลิน!
อีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ!
“ดูท่าจะมั่นใจในตัวเองน่าดูเลยนี่หว่า!”
มาถึงตรงหน้ามันได้อย่างสบายๆ!
แล้วก็ย่อตัวลงต่ำกะจะฟันเข้าที่น่องมัน… แต่ว่า!
“หะ แข็งชิบเป๋ง!”
กล้ามเนื้อที่อัดแน่นเป็นมัดๆ ของมันป้องกันคมมีดกากๆ ไว้ได้!
แล้วในจังหวะที่กำลังอึ้งอยู่นั่นเอง ดาบใหญ่ของมันก็ฟาดลงมาจากข้างหลัง!
หันกลับไปรับดาบไว้ได้ทันก็จริง แต่พลังมันต่างกันเกินไป!
ต้านแรงไม่ไหว โดนอัดกระแทกลงไปกองกับพื้น!
มีดสั้นส่งเสียงร้องเอี๊ยดอ๊าดเหมือนจะหักเป็นสองท่อน!
ยังพอจะยันไว้ได้แบบเฉียดฉิว แต่ถ้าเผลอคลายแรงลงแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ ไม่รอดแน่ๆ!
“บัดซบเอ๊ยยยย! เอาไปกินให้หมดเลยโว้ยยยย!”
ทุ่มพอยต์ที่สะสมมาทั้งหมดอัปเข้าค่าพลังกายรวดเดียว!
พลังมันพลุ่งพล่านขึ้นมา!
สถานการณ์ที่เมื่อกี๊ยังโดนกดดันอยู่ฝ่ายเดียว ตอนนี้มันพลิกกลับตาลปัตรแล้ว!
บอสก็อบลินเองก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน!
เท่านี้พลังของพวกเราก็พอๆ กันแล้ว ไม่สิ อาจจะเหนือกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ!
การพลิกสถานการณ์กลับมาชนะแบบนี้แหละ มันคือคุณสมบัติของพระเอกไม่ใช่เรอะ!
“กุ๊ก กุ๊กกาก๊ะกุ๊ก”
“พูดอะไรของแกวะ ไม่รู้เรื่อง แล้วก็ไม่อยากจะรู้ด้วย!”
ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มสติแตกนิดๆ แล้วล่ะนะ
พล่ามอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด แถมยังดูตื่นเต้นอีกต่างหาก
ทั้งๆ ที่เมื่อกี๊ยังสู้แบบสุขุมรอบคอบอยู่แท้ๆ จู่ๆ มันก็เปลี่ยนมาโจมตีแบบมั่วซั่วซะงั้น
แต่เพราะสายตามันก็อัปเกรดขึ้นมาด้วยเหมือนกัน เลยหลบการโจมตีของมันไปทางซ้ายทีขวาทีได้อย่างง่ายดายเหมือนใบไม้ที่ปลิวไสวไปตามลม
นั่นยิ่งทำให้การโจมตีของบอสก็อบลินมันยิ่งดูไร้ทิศทางเข้าไปใหญ่
“อ้อ เข้าใจแล้วล่ะสินะ แกมองเห็นแล้วใช่ไหมล่ะ? วาระสุดท้ายของตัวเองน่ะ ถ้างั้นก็ยอมตายไปซะดีๆ เถอะน่า”
“กุ๊กกู๋รรรรรร!”
มันเหวี่ยงดาบสุดแรงเกิด!
ก็รวบรวมพลังทั้งหมดที่มีเข้าปะทะ!
เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ!
หลังจากการปะทะกันอย่างดุเดือดอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดอาวุธของทั้งสองฝ่ายก็แตกละเอียดเป็นผุยผง!
ลมหายใจขาดห้วง หัวใจเต้นระรัว
สิ่งที่เหลืออยู่ของทั้งสองฝ่ายก็คือร่างกายเปล่าๆ นี่แหละ
เพราะงั้น ตั้งแต่ตอนที่มันที่มีร่างกายใหญ่โตขนาดนั้นแต่ดันไม่ยอมขยับแม้แต่ก้าวเดียว ผลแพ้ชนะมันก็ถูกกำหนดไว้แล้ว!
“อย่ามาดูถูกกันนะเว้ยยยย!”
หมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังพุ่งเข้าใส่ท้องของบอสก็อบลินเต็มๆ!
มันกระเด็นลอยไปทางป่าโดยไม่มีแรงต้านทานเลยสักนิด ชนต้นไม้หักไปหลายต้นกว่าแรงจะหมด แล้วบอสก็อบลินก็แน่นิ่งไป…
หลังจากการต่อสู้อันแสนจะดุเดือด ในที่สุดก็เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะมาได้! ชูกำปั้นขึ้นฟ้าอย่างสะใจ!
แล้วก็คำรามออกมาอย่างสุดเสียง!
Translater : Eidolon
www.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION