บทที่ 18: ความทรงจำอันแสนหวาน (เหรอวะ?)
สถานที่ที่มิร่าลากฉันมาด้วยคือร้านอาหารที่ขายแต่ของหวานโดยเฉพาะ ดูยังไงๆ ก็เป็นร้านที่พวกผู้หญิงน่าจะชอบกันสุดๆ
พอลองแอบส่องเข้าไปข้างใน ก็เห็นแต่ฝูงผู้หญิงเต็มร้านไปหมด
ผู้ชายก็พอมีให้เห็นบ้างประปรายนะ แต่ดูทรงแล้วมากันเป็นคู่ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ ถ้าฉันจะเข้าไปนั่งคนเดียวมันก็คงจะดูแปลกๆ น่าอายชะมัด
แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะเลี้ยงขอบคุณเธอให้ได้ งานนี้ก็คงต้องตามใจมิร่าสถานเดียวเท่านั้นแหละ
ฉันเดินย่องๆ ตามหลังมิร่าที่เดินอาดๆ เข้าไปในร้านโดยไม่มีท่าทีลังเลเลยสักนิด
ก็เป็นไปตามคาด ผู้ชายมันคงจะหายากในร้านแบบนี้ล่ะมั้ง เลยโดนแก๊งสาวๆ ในร้านมองมาเป็นตาเดียวกันแวบหนึ่ง แต่พวกเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรนาน กลับไปเม้าท์มอยกันต่อในโลกส่วนตัวของพวกเธออย่างรวดเร็ว
พนักงานในร้านก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้เข้าแต่อย่างใด แถมยังพาไปนั่งที่โต๊ะอีกต่างหาก
โชคดีที่โต๊ะที่ว่างมันอยู่ด้านในสุดของร้าน เลยไม่ค่อยจะเด่นเท่าไหร่ นี่คงจะเป็นบุญอย่างเดียวในวันนี้แล้วล่ะมั้ง
ที่เหลือพอได้นั่งลงแล้วมันก็เป็นโลกของเราสองคน
แค่จดจ่ออยู่กับมิร่าแล้วก็ของหวานตรงหน้าก็พอแล้ว
“ทุกอย่างดูน่ากินไปหมดเลย! แบบนี้จะเลือกยังไงไหวเนี่ย!”
ปกติจะเห็นแต่ด้านที่พึ่งพาได้ของเธอ แต่พอมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบปกติธรรมดาๆ แบบนี้แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกได้เลยว่ายังไงเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ นั่นแหละ
พอเห็นมิร่าที่กำลังตาลุกวาวมองเมนูของหวานแล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง
“นี่ๆ? นายว่าอันไหนมันน่าจะอร่อยที่สุดเหรอ?”
มิร่าที่เห็นฉันยังไม่ได้ดูเมนูเลยก็เลยยื่นเมนูมาให้ดูด้วย
ถึงจะไม่มีรูปภาพประกอบก็เถอะนะ แต่แค่เห็นชื่อมันก็เลือกไม่ถูกแล้วจริงๆ
“ฉันเอาอันนี้แหละ”
ฉันเลือกเซ็ตชีสเค้กกับกาแฟ
ก็ไม่ได้เกลียดของหวานอะไรหรอกนะ แต่เพราะมันยังเช้าๆ อยู่ ปากมันก็เลยยังไม่ค่อยอยากจะกินอะไรหวานๆ เท่าไหร่
“ถ้างั้น ฉันเอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ด้วยแล้วกันนะ”
“อะ อืมมม ก็ดูน่าอร่อยทุกอย่างเลยนี่นา”
“ใช่ไหมล่ะ! อุตส่าห์มาทั้งที ถ้าไม่ได้กินทุกอย่างมันก็เสียดายแย่เลยสิ อ๊ะ! ขอโทษนะคะ!”
พอเรียกพนักงานมา เธอก็เริ่มสั่งอาหารทันที
ปริมาณที่สั่งมันเยอะกว่าที่บอกว่าจะสั่งเมื่อกี๊แบบเห็นได้ชัดเลยนะนั่น แต่ถ้าจะไปทักท้วงตอนนี้มันก็คงจะดูเหมือนพวกอ่านบรรยากาศไม่ออกน่าดูเลย เลยได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
“คุณลูกค้าคะ รับตามนี้เลยใช่ไหมคะ?”
พนักงานเองก็คงจะสงสัยเหมือนกันว่าเธอจะกินหมดจริงๆ เหรอ เลยถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
แต่ดูเหมือนว่ามิร่าจะไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำถามนั้นเลยสักนิด
“ถ้ากินไม่พอเดี๋ยวค่อยสั่งเพิ่มทีหลังก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ!”
เธอตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มสดใส
ทำเอาพนักงานถึงกับฝืนยิ้มแห้งๆ ออกมาเลยทีเดียว
แล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวกลับเข้าไปในครัวด้วยใบหน้าที่ดูอึดอัดใจสุดๆ
“จริงๆ แล้วฉันก็อยากจะลองมาร้านแบบนี้ดูตั้งนานแล้วล่ะนะ แต่ถ้าจะให้มาคนเดียวมันก็ต้องใช้ความกล้าเยอะน่าดูเลย ดีนะที่ชิโร่อยู่ด้วย ช่วยได้เยอะเลย ขอบใจมากนะ”
มิร่าเอ่ยคำขอบคุณออกมา
แต่ว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรให้เธอต้องมาขอบคุณเลยสักนิด
ฉันเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากเธอเหมือนกัน เพราะงั้นก็แค่อยากจะทำอะไรตอบแทนเท่าที่ทำได้ก็เท่านั้นเอง
จริงๆ แล้วถ้าฉันเป็นฝ่ายเสนออะไรได้บ้างมันก็คงจะดีกว่านี้น่ะนะ
แต่ว่านะ เรื่องนั้นก็ช่วยๆ หยวนๆ ให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน
ฉันมันพวกไม่มีเซนส์ด้านนี้เลยจริงๆ ขืนทำอะไรเปิ่นๆ ออกไปเดี๋ยวจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
พอคิดแบบนั้นแล้วก็เลยกลุ้มใจจนมาถึงวันนี้เลยนี่แหละ
สรุปก็คือ ในเมื่อได้เห็นมิร่าทำหน้าดีใจแล้ว ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ ให้มันจบแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว
“ขอโทษที่ให้รอนะค้า~”
พนักงานเสิร์ฟเข็นรถเข็นสำหรับเสิร์ฟอาหารแบบที่เห็นตามโรงแรมหรูๆ ออกมา แล้วก็เริ่มทยอยจัดเรียงของหวานลงบนโต๊ะทีละอย่าง
ของหวานวางเรียงรายเต็มโต๊ะไปหมด มีแค่เซ็ตชีสเค้กของฉันเท่านั้นที่ดูแปลกแยกออกมา
นี่มันเยอะซะจนไม่รู้แล้วว่าใครจะกินอันไหนกันแน่วะเนี่ย
ฉันเริ่มลงมือกินทันที ชีสเค้กเองก็รสชาติละมุนลิ้นสุดๆ
ถึงจะเข้มข้น แต่ก็ไม่ได้เน้นขายแค่ความเข้มข้นอย่างเดียว สัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้นเหมือนจะละลายในปากกับความหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของชีสมันแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปากเลยว่ะ
กาแฟที่ดื่มหลังจากกินชีสเค้กเข้าไปมันก็รสชาติเลิศเลอเป็นพิเศษ
ความหวานที่มากเกินไปในปากเมื่อกี๊ถูกกาแฟล้างจนหมดจด
แถมมันก็ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ล้างปากอย่างเดียวด้วยนะ
รสขมที่ชวนให้ติดใจกับกลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟที่ทำให้ตื่นเต็มตา
ทำเอาอยากจะกลับไปกินชีสเค้กอีกรอบเลยว่ะ
“ปุ๊! อะฮะฮะ! กินได้น่าอร่อยจริงๆ เลยนะนายเนี่ย”
“หืม? งั้นเหรอ? ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำหน้าแบบนั้นสักหน่อยนี่นา”
“โกหกใช่ไหมล่ะ!? เมื่อกี๊นายยิ้มแก้มแทบปริเลยนะ!”
จริงอยู่ที่ฉันชอบกินนั่นแหละนะ แต่จะให้ยิ้มแก้มปริขนาดนั้นเลยเหรอวะ
…ไม่ได้ทำสักหน่อยใช่ไหมล่ะ?
ไว้คราวหน้าต้องลองไปถามเร็นยะดูซะหน่อยแล้ว
หลังจากนั้น พอพวกเราโซ้ยของหวานจนหมดเกลี้ยงแล้วก็จ่ายเงินแล้วเดินออกมานอกร้าน
แน่นอนว่าครั้งนี้ฉันตั้งใจจะเลี้ยงขอบคุณเธออยู่แล้ว เพราะงั้นก็เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะเป็นคนจ่ายทั้งหมด
มิร่าที่ไม่รู้มาก่อนว่าจะโดนเลี้ยง ถึงกับบ่นอุบอิบว่าสั่งเยอะเกินไปแล้วก็ทำหน้าสำนึกผิดใหญ่เลย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดมากหรอกน่า
“ขอบใจมากนะ! เป็นความทรงจำที่ดีจริงๆ เลยล่ะ!”
“ความทรงจำที่ดีเลยเหรอ เวอร์ไปแล้วน่า ถ้าอยากกินอีกก็ค่อยมาใหม่สิ”
“ครั้งนี้เพราะนายจะเลี้ยงขอบคุณฉันก็เลยยอมมาด้วยหรอกนะ ถ้าไม่ใช่แบบนั้นนายก็ไม่มากับฉันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยน่า ก็… ถ้าฉันจะเป็นฝ่ายชวนรึเปล่ามันก็อีกเรื่องหนึ่งน่ะนะ”
“นั่นไงล่ะ! แต่ก็ช่างมันเหอะน่า หมายความว่าถ้าฉันชวนนายก็จะมาด้วยสินะ?”
ถึงจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่มันก็คงจะหมายความว่าอย่างนั้นแหละมั้ง
การที่จะเป็นฝ่ายชวนน่ะ มันเป็นอะไรที่อุปสรรคมันสูงเกินไป
ถ้าโดนปฏิเสธขึ้นมาล่ะก็ วันรุ่งขึ้นคงจะสภาพจิตใจย่ำแย่จนทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ
อุตส่าห์เพิ่งจะรู้สึกว่าเริ่มจะคุ้นเคยกับการคุยกับผู้หญิงขึ้นมาบ้างแล้วแท้ๆ ในช่วงนี้ ถ้ามันกลายเป็นแบบนั้นขึ้นมามันก็น่าสงสารแย่เลยใช่ไหมล่ะ?
“จะบอกอะไรให้นะ นี่เป็นเดทครั้งแรกของฉันเลยนะรู้รึเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ชิโร่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ทำบาปมหันต์เลยเหรอ?”
“เรื่องนั้นอย่าไปพูดให้คนอื่นฟังนะเฟ้ย โดยเฉพาะพวกผู้ชาย เดี๋ยวจะโดนพวกที่อิจฉาตาร้อนรุมกระทืบเอาได้นะ”
“อะฮะฮะ! แบบนั้นมันก็คงจะน่าสนุกดีเหมือนกันนะ!”
มิร่าหัวเราะพลางทำหน้าเหมือนเด็กซน
ไม่ใช่สีหน้าที่ดูสง่างามเหมือนปกติ แต่เป็นสีหน้าของเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง
พอเห็นแบบนั้นแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกได้อีกครั้งเลยว่ายังไงฉันก็สู้เธอไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ
[ค่าความสัมพันธ์กับ “มิร่า มาริสต็อก” เพิ่มขึ้น 10 หน่วย เหลืออีก 90 หน่วยจะได้รับผลประโยชน์]
[ยืนยันการเดทครั้งแรกกับเพศตรงข้าม มอบ 500pt]
[ยืนยันการสนทนากับเพศตรงข้ามเป็นเวลา 5 ชั่วโมง มอบ 300pt]
[ได้รับฉายา: พึ่งพาคนอื่น สามารถเปลี่ยนฉายาได้จากหน้าต่างฉายา]
[ได้รับฉายา: ??? ไม่สามารถเปลี่ยนฉายาได้จากหน้าต่างฉายา]
ล็อกแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาเป็นพรืดอีกแล้ว
มีหลายอย่างที่น่าสงสัยอยู่หรอกนะ แต่ที่สงสัยที่สุดก็คือไอ้ฉายาปริศนานั่นแหละ
ขนาดฉายาปกติมันมีความหมายอะไรฉันยังไม่รู้เลยสักนิด แล้วถ้าเปลี่ยนไม่ได้อีกมันจะยิ่งไม่มีความหมายเข้าไปใหญ่เลยไม่ใช่เรอะ
แต่ช่างเรื่องนั้นก่อน ตอนนี้พอยต์สำคัญกว่า
เมื่อกี๊ทำให้พอยต์รวมเกิน 1000 ไปแล้ว
ถึงจะยังไม่มีแผนว่าจะเอาไปใช้อะไรก็เถอะนะ แต่พอสะสมได้เยอะขนาดนี้มันก็ดีใจเหมือนกันนะ
ทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณการพบเจอที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เลยจริงๆ
ขอบคุณเท่าไหร่ก็คงจะไม่พอแน่ๆ
“อืมมม สงสัยจะกินเยอะไปหน่อยแฮะ”
ตรงนี้มันควรจะทักท้วงสินะ
ทั้งๆ ที่กินเข้าไปซะเยอะขนาดนั้น แต่มิร่ากลับบอกว่า “หน่อย” ซะงั้น
“เอาล่ะ ออกกำลังกายด้วยการไปทำเควสต์กันดีกว่าไหมคะ”
“เอ๊ะ? ตอนนี้เลยเหรอ? แล้วใส่ชุดแบบนั้นมันจะไหวเหรอวะ?”
“สบายมาก! ฉันน่ะแข็งแกร่งจะตายไป!”
ถึงจะไม่ค่อยจะเป็นเหตุผลเท่าไหร่ แต่ก็ยอมตามไปด้วยความจำใจก็แล้วกัน
Translater : Eidolon
www.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION