บทที่ 10: เสียงเชียร์จากองค์หญิง
การฝึกวันนี้มีหลายคนที่ดูคึกคักเป็นพิเศษ
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ แต่ก็มีแค่พวกนักเรียนชายเท่านั้นแหละ
「ดีมาก! วันนี้ทุกคนเคลื่อนไหวได้ดีเลยนี่นา!」
อัศวินคนหนึ่งเอ่ยชมภาพตรงหน้าด้วยท่าทางดีอกดีใจ
「พูดอะไรกันครับ ก็เหมือนทุกทีนั่นแหละครับ」
「ใช่แล้วครับ ไม่ได้คึกคักอะไรเป็นพิเศษสักหน่อย」
พวกผู้ชายที่พยายามทำเก๊กเหมือนว่านี่มันเป็นเรื่องปกติ
ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าวันนี้มันมีอะไรที่แตกต่างไปจากการฝึกปกติยังไงล่ะ
「ทุกท่านดูแข็งขันกันดีจังเลยนะคะ」
「งั้นเหรอ? ฉันว่าที่พวกเขาคึกคักกันก็เพราะพวกเรามาดูต่างหากล่ะ」
「มู~ เรื่องนั้นมันยังไงก็ได้ เบอร์รี่อยากนอนแล้วอ่ะ」
「พี่เบอร์รี่ ถ้านอนมากไปเดี๋ยวก็กลายเป็นหมูหรอกนะ」
「มะ ไม่เป็นหรอกน่า!」
เหล่าสี่พี่น้องแห่งตระกูลทาทัลท์เสด็จมาดูการฝึกซ้อมในนามของการตรวจเยี่ยมตามวาระ
แต่ดูจากท่าทางของทั้งสี่คนแล้ว ไม่ได้ดูสนใจอะไรเป็นพิเศษเลย
สงสัยคงจะโดนพระราชาสั่งมาแบบช่วยไม่ได้มากกว่า
พระราชาก็เป็นคนที่หัวไวใช่เล่น
เจ้าหญิงทั้งสี่คนหน้าตาสะสวยกันทุกคนแบบไม่มีใครยอมใคร ชนิดที่ว่าสามารถคว้าหัวใจชายหนุ่มไปได้อย่างง่ายดาย
เพราะงั้นต่อให้ไม่ต้องทำอะไรเลย ขวัญกำลังใจของพวกผู้ชายมันก็พุ่งปรี๊ดอยู่แล้วเห็นๆ
แต่ถ้าจะมีอะไรผิดแผนไปบ้างล่ะก็ คงจะเป็นการที่พวกนักเรียนหญิงพากันทำหน้าเอือมระอากับความบ้าพลังแบบไร้สติของพวกนักเรียนชายนั่นแหละ
อย่างน้อยก็น่าจะพาพวกหนุ่มหล่อมาเป็นแพ็กคู่ด้วยนะ
「คร้าบๆ!」
「โอ้ ว่าไงฮิบิโนะคุง」
ถ้าจำไม่ผิด หมอนี่มันฮิบิโนะ เคย์รัน ไอ้ตัวโจ๊กที่อยู่ชมรมเบสบอลนี่หว่า
「พวกเราก็ได้ลองสู้จริงกันมาบ้างแล้ว แถมยังฝึกซ้อมกันมาเยอะแล้วด้วยไม่ใช่เหรอครับ เพราะงั้นก็น่าจะถึงเวลาที่พวกเราจะได้ลองสู้กับคนจริงๆ ดูบ้างแล้วล่ะครับ!」
「เฮ้ย! ฮิบิโนะ! แกมันอัจฉริยะ!」
「เออจริงด้วย! เรื่องแบบนั้นมันสำคัญมากเลยนี่หว่า!」
ข้อเสนอของฮิบิโนะทำเอาพวกผู้ชายคึกคักกันใหญ่
คงจะคิดกันง่ายๆ ว่าถ้าเก่งแล้วจะป๊อปปูลาร์ล่ะมั้ง
พวกผู้หญิงก็ยิ่งส่งสายตาประมาณว่า “พวกผู้ชายนี่มันจริงๆ เลยนะ” มาให้หนักกว่าเดิมอีก แต่ขอร้องล่ะ อย่าเหมารวมฉันเข้าไปด้วยเลย
ความรู้สึกที่อยากจะป๊อปในหมู่สาวๆ น่ะมันก็เหมือนกันนั่นแหละ แต่ฉันไม่ได้บ้าพลังขนาดนั้นสักหน่อย
「ถ้างั้นก็มาลองสู้กับคนจริงๆ ดูหน่อยเป็นไง」
อัศวินคนนั้นตอบพลางแสยะยิ้มที่มุมปาก
หรือว่า… เรื่องทั้งหมดนี่มันอยู่ในแผนของเขาตั้งแต่แรกแล้ววะเนี่ย!?
「ถ้างั้น พวกเราจะสุ่มคนจากกองอัศวินของเราออกมา พวกเธออยากจะสู้ตอนไหนก็เลือกได้ตามสบายเลยนะ」
「เอ๊ะ!?」
ฮิบิโนะเผลออุทานเสียงหลงออกมา
หมอนั่นคงจะคิดว่าจะได้สู้กันเองในหมู่เพื่อนร่วมห้อง แล้วก็คงจะชนะพวกส่วนใหญ่ได้สบายๆ สินะ
ความคิดนั้นมันพังทลายลงไม่เป็นท่า กลายเป็นว่าต้องมาสู้กับกองอัศวินซะงั้น
พวกนักเรียนชายคนอื่นๆ พอได้ยินว่าคู่ต่อสู้เป็นอัศวินก็เริ่มจะปอดแหกกันแล้ว
ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางเอาชนะพวกเขากองอัศวินที่มีประสบการณ์การต่อสู้มานานหลายปีได้หรอก
ถ้าเป็นแบบนั้นก็มีแต่จะต้องไปขายหน้าต่อหน้าเจ้าหญิงทั้งสี่คนเท่านั้นเอง
ฮิบิโนะทั้งๆ ที่เป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเองแท้ๆ แต่กลับพยายามจะโบ้ยให้คนอื่นไปสู้แทน
ไม่อยากจะพูดเลยนะ แต่การที่มาทำลับๆ ล่อๆ แบบนี้มันดูน่าสมเพชกว่าอีก
สู้ยอมสู้แล้วแพ้อย่างสมศักดิ์ศรีไปเลยยังจะดีซะกว่า
「ถ้าไม่มีใครล่ะก็ เร็นยะก่อนเลย แกออกไปคนแรก」
「เข้าใจแล้วครับ」
คนที่ท่านหัวหน้าอัศวินเลือกคือเร็นยะ
เมื่อวานก็เพิ่งจะบอกว่าซ้อมด้วยกันมา สงสัยคงจะยอมรับในฝีมืออยู่พอสมควรล่ะมั้ง
เพราะเป็นคนแรกด้วย ทุกสายตาเลยจับจ้องไปที่เร็นยะ
「ท่านผู้นั้น หน้าตาหล่อเหลาเอาการเลยนะคะ」
「ว้าย ท่านพี่ลาซูลีชอบคนแบบนั้นเองเหรอคะเนี่ย」
「อ๊ะอ๊ะ แค่หน้าตาดีก็หมายความว่าชอบเลยเหรอจ๊ะ ฟรานเองก็ยังเด็กน้อยอยู่เลยนะ」
「หา? จะเอาเรอะ?」
「โธ่ ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเลือดร้อนนักสิ」
「พี่เบอร์รี่ สองคนนั้นน่ากลัวจัง ไปอยู่ห่างๆ ดีกว่า」
「อะ อืม อัลอัป」
ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงทั้งสี่คนจะสัมผัสได้ถึงออร่าที่ไม่ธรรมดาของเร็นยะเหมือนกัน
ดูจะตื่นเต้นกันใหญ่เลย
พวกผู้ชายก็ส่งสายตาอิจฉาไปให้เร็นยะ แต่เพราะรู้ซึ้งถึงความแตกต่างของฝีมือเลยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ระหว่างนั้นการต่อสู้ของเร็นยะก็เริ่มขึ้น
ทันทีที่เริ่ม ทุกคนก็เหมือนถูกสะกดให้จับจ้องไปที่การต่อสู้
คนที่เพิ่งจะมาต่างโลกได้แค่สัปดาห์เดียว กลับสามารถต่อสู้กับอัศวินที่ผ่านประสบการณ์มานานหลายปีได้อย่างสูสี
ดูจากสีหน้าของคู่ต่อสู้แล้วก็รู้เลยว่าไม่ได้ออมมือให้แน่ๆ
หมายความว่านี่คือการต่อสู้แบบเอาจริงนั่นเอง
ดาบปะทะดาบ เกิดประกายไฟสาดกระเซ็น
เสียงโลหะกระทบกันดังก้องราวกับเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง
ความชำนาญในการใช้สกิลก็ไม่เป็นรองเลยสักนิด
อัศวินหนุ่มทำหน้าเจ็บใจ ตรงกันข้ามกับเร็นยะที่กำลังดีใจเมื่อรับรู้ถึงการเติบโตของตัวเอง
ผลการต่อสู้ถูกประกาศโดยท่านหัวหน้าอัศวินในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
「ทั้งสองคนแสดงให้พวกเราเห็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก ครั้งนี้ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา ขอให้ผลออกมาเสมอกันก็แล้วกัน」
ทั้งสองคนดูจะไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์เท่าไหร่ แต่ก็ช่วยไม่ได้
เพราะยังมีนักเรียนคนอื่นๆ เหลืออยู่อีกนี่นา
แต่ว่านะ ส่วนใหญ่ไฟในการต่อสู้ตอนแรกมันก็มอดดับไปหมดแล้วล่ะ
「ไอ้หมอนั่นมันเก่งไม่ใช่เล่นเลยนี่หว่า น่าสนใจดีนี่」
「อ้าว? หรือว่าท่านพี่เองต่างหาก ที่ชอบคนแบบนั้นเข้าซะแล้ว?」
「ฉันชอบแต่คนที่เก่งเท่านั้นแหละ」
「คิกคิก ช่างเป็นคนที่ความคิดเด็กน้อยเสียจริง」
「เดี๋ยวจะโดนต่อยเอานะ」
เร็นยะคงจะสร้างความประทับใจให้เจ้าหญิงทั้งสี่คนได้แน่ๆ
ไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่คนที่จะทำให้พวกเธอจดจำได้นะ
ท่านหัวหน้าอัศวินเริ่มมองหานักเรียนคนต่อไป แต่ดูเหมือนว่าอย่างน้อยก็ไม่มีใครอยากจะสู้ต่อจากเร็นยะแน่ๆ ทุกคนเลยเริ่มทำตัวลีบๆ ซ่อนตัวกันใหญ่
ส่วนฉันที่รู้ตัวช้าไปหน่อย เลยยืนเด่นเป็นสง่าอยู่คนเดียว
「ถ้างั้น เจ้าหนุ่มตรงนั้นน่ะ ต่อไปตาเธอแล้ว」
ก็เป็นไปตามคาด ฉันที่ยืนเด่นอยู่คนเดียวเลยโดนเรียกจนได้
แต่ฉันก็ไม่คิดจะขัดขืนหรอกนะ
เพราะฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองมีฝีมืออยู่ระดับไหน
ถ้าคิดจากที่ไอ้สามตัวที่มาตอแยเมื่อเช้ามันเป็นนักผจญภัยแรงก์ C ล่ะก็ ฉันก็น่าจะอยู่ระดับเดียวกับพวกนั้นหรือไม่ก็เก่งกว่านิดหน่อย
พวกอัศวินก็น่าจะเทียบเท่านักผจญภัยแรงก์ B เป็นอย่างต่ำ
ด้วยฝีมือของฉันในตอนนี้ จะสู้ได้ถึงขนาดไหนกันนะ
「อ๊ะ! ชิโร่นี่นา! สู้ๆ นะชิโร่!」
มีเสียงใครบางคนกำลังเชียร์อยู่ พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเบอร์รี่นั่นเอง
ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเชียร์ด้วย ดีใจก็ส่วนหนึ่งนะ แต่อีกส่วนหนึ่งก็กลัวไอ้พวกผู้ชายที่กำลังจ้องเขม็งมาทางนี้เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อให้ได้เลยว่ะ
「เอาล่ะ จะเริ่มแล้วนะ เตรียมตัวพร้อมรึยัง?」
ท่านหัวหน้าอัศวินที่อ่านบรรยากาศออกรีบประกาศเริ่มการต่อสู้
ต้องขอโทษในใจจริงๆ ครับที่มีเพื่อนร่วมห้องไม่ได้เรื่องแบบนี้
ฉันตั้งดาบ เตรียมลมหายใจ
แล้วก็เริ่มวิเคราะห์คู่ต่อสู้โดยอัตโนมัติอย่างน่าประหลาด
Translater : Eidolon
www.nekopost.net/editor/78229
MANGA DISCUSSION