ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์ ชุด ทัณฑ์ทราย - ตอนที่ 29
ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มมากกว่าทุกวันของน้องชายทำให้องค์ รัชทายาทจามีลอดที่จะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจไม่ได้
“วันนี้ดูหน้าตาของเจ้าสดชื่นมากเลยนะ เซรีม”
เซรีมที่เดินเคียงข้างมากับพี่ชายของตัวเองออกมาจากท้องพระโรงอมยิ้ม ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา
“หม่อมฉันก็หน้าตาแบบนี้ทุกวันนี่พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพี่”
“ไม่นะ ปกติหน้าตาเจ้าจะเคร่งเครียดเสมอ และตลอดเวลาด้วย”
เจ้าชายเซรีมไหวไหล่กว้างทรงพลังเล็กน้อย และสมองก็หวนคิดไปถึงความคับแน่นของมะลิที่บีบรัดท่อนชายของเขาเอาไว้ตลอดทั้งค่ำคืนอย่างหยุดไม่อยู่ กายหนุ่มร้อนฉ่าขึ้นมาจนน่าตกใจ ความจริงเขาน่าจะลางานสักวันและอยู่บนเตียงต่อกับหล่อนจนถึงช่วงสาย ไม่ควรจะรีบลุกหนีมาแต่เช้าแบบนี้เลย
“หม่อมฉันคง… ได้พักผ่อนเต็มที่มั้งพ่ะย่ะค่ะ”
“แต่พี่ว่าเพราะเจ้าได้เสพสุขกับพระสนมเต็มที่มากกว่ามั้ง เซรีม”
เมื่อพี่ชายพูดขึ้นอย่างรู้ทัน เซรีมก็ไม่คิดจะโต้แย้งออกไป เขาอมยิ้มและตอบ
“นางน่ารักมากพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ามีความสุขก็ดีแล้ว พี่ยินดีด้วย”
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่”
องค์รัชทายาทจามีลยกมือขึ้นตบบ่าน้องชายเบาๆ ก่อนจะเอ่ยหยอกเย้า
“ถ้าการมีพระสนมแล้วทำให้เจ้ามีความสุขแบบนี้ พี่ว่าเจ้าควรจะรับพระสนมเพิ่มอีกสักคนสองคนนะ หรือไม่ก็หลายๆ คนไปเลย พี่ว่าเจ้าจะมีความสุขยิ่งกว่านี้อีก เซรีม”
ศีรษะทุยทะนงของเจ้าชายเซรีมส่ายไปมาทันที
“หม่อมฉันไม่ต้องการมีพระสนมเพิ่มหรอกพ่ะย่ะค่ะ แค่จัสมินคนเดียวก็พอแล้ว”
“นี่เจ้าหลงนางแล้วหรือ”
“ไม่ใช่ความหลงพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นความถูกใจในรสรักของนางมากกว่า”
ผู้เป็นพี่ชายยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดเตือนสติ “เจ้าอย่าลืมนะว่าผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์ ใช้วิธีไหนทำให้เจ้าต้องตกกระไดพลอยโจนรับนางมาเป็นพระสนมน่ะ”
“หม่อมฉันไม่ลืมหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่หม่อมฉันแค่รู้สึกว่าผลตอบแทนจากการถูกแบล็กเมลมันช่างหอมหวานเกินจะต้านทาน หม่อมฉันคงต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะเบื่อรสรักของนาง”
“พี่หวังว่าเจ้าจะเบื่ออดีตเมียเก็บของเสด็จน้าโดยเร็วนะ เซรีม”
คำพูดของพี่ชาย ทำให้เจ้าชายเซรีมหน้าเคร่งเครียดขึ้น เขายกมือขึ้นโบกไล่เหล่านางกำนัลและองครักษ์ให้ออกไปห่างๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น
“นางเป็นสาวพรหมจรรย์พ่ะย่ะค่ะ”
“หื้อ?”
เขานึกอยู่แล้วเชียวว่าพี่ชายของเขาต้องแสดงความเหลือเชื่อแบบนี้ออกมา
“จริงพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเป็นชายคนแรกของนาง”
“โอ้… ไม่น่าเชื่อ”
“หม่อมฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ และเพราะความไม่เชื่อนี้ทำให้หม่อมฉันข่มเหงนางรุนแรงพ่ะย่ะค่ะ”
“พระเจ้า… เซรีม… นี่เจ้าข่มขืนนางหรือ”
ศีรษะของเจ้าชายเซรีมส่ายไปมาน้อยๆ “หม่อมฉันไม่ได้ข่มขืนนางพ่ะย่ะค่ะ แต่หม่อมฉัน… ไม่ได้ระวังตอนที่…”
เจ้าชายเซรีมหยุดพูดเอาไว้แค่นั้น เพราะคิดว่าพี่ชายน่าจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี
“หม่อมฉันรู้สึกผิดไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ทำให้นางเจ็บ”
องค์รัชทายาทจามีลยกมือขึ้นตบบ่าของน้องชายเบาๆ อย่างปลอบใจ
“เจ้าไม่ได้ผิดทั้งหมดหรอก นางเองก็ผิดที่ทำให้ทุกคนเข้าใจว่านางเป็นเมียเก็บของเสด็จน้าคาริสมาก่อนน่ะ”
คำปลอบโยนของพี่ชายไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะหยาดน้ำตาที่ไหลท่วมหน้า กลีบปากบวมช้ำที่สั่นระริกและร้องว่า เจ็บ เจ็บ ของมะลิ มันทำให้เขาทรมานเหลือเกิน
“คงอีกนานกว่าหม่อมฉันจะลืมสิ่งเลวร้ายที่กระทำกับนางเอาไว้ได้”
“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เจ้าถึงยื่นเรื่องกับเสด็จพ่อเพื่อแต่งตั้งนางเป็นพระชายาน่ะ”
“หม่อมฉันก็ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองเลยพ่ะย่ะค่ะ ว่าทำไมหม่อมฉันถึงได้กราบทูลเสด็จพ่อออกไปแบบนั้น” สีหน้าของเจ้าชายเซรีมเคร่งเครียด
“เอาน่า ยังพอมีเวลาตัดสินใจอีกนาน เพราะเสด็จพ่อยังไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้ากราบทูลไปเมื่อเช้านี้สักหน่อย”
เจ้าชายเซรีมฝืนยิ้มออกมา “งั้นหม่อมฉันส่งเสด็จพี่ตรงนี้นะพ่ะย่ะค่ะ”
“จะกลับไปหานางที่ตำหนักใช่ไหมเนี่ย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ตามใจเจ้าเถอะ แต่อย่าลืมประชุมตอนสิบโมงครึ่งวันนี้ก็แล้วกัน”
“พ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่”
องค์รัชทายาทจามีลเดินจากไปแล้ว คนเป็นน้องชายอย่างเจ้าชาย เซรีมจึงหมุนตัวเดินกลับไปยังตำหนักส่วนตัวของตัวเองด้วยความรีบร้อนมาก จนองครักษ์ต้องวิ่งตามเลยทีเดียว
เมื่อกลับมาที่ตำหนักแล้วพบว่าเตียงนอนว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงที่ตัวเองโหยหา เซรีมก็เรียกทหารยามหน้าห้องเข้ามาสอบถามทันที
“พระสนมหายไปไหน”
“เอ่อ… กระหม่อมไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่เห็นทรงเสด็จออกไปตั้งแต่เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ก่อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“นางไม่ได้บอก หรือฝากเจ้ารายงานเราหรือว่านางจะไปที่ไหนน่ะ”
“พระสนมไม่ได้ตรัสอะไรกับกระหม่อมเลยพ่ะย่ะค่ะ”
เจ้าชายเซรีมกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขาโบกมือไล่ทหารยาม
เขาล่ะอุตส่าห์คิดถึงหล่อนทุกลมหายใจเข้าออก ขนาดอยู่ต่อหน้าบิดาในท้องพระโรง ภาพเร่าร้อนของหล่อนก็ยังตามไปหลอกหลอนในหัวไม่หยุด แต่ดูสิ… ดูหล่อนทำสิ หายหัวไปโดยไม่มีแม้แต่จะฝากข้อความถึงเขาแม้แต่นิดเดียว
“มันน่าตีให้ก้นลายนัก จัสมิน”
เจ้าชายหนุ่มที่ตอนนี้เนื้อตัวรุ่มร้อนเพราะฤทธิ์เสน่หาผุดลุกขึ้นจากเตียงนอน และก้าวยาวๆ ออกไปจากตำหนักทันที
การปรากฏตัวขึ้นกะทันหันของเจ้าชายเซรีม ผู้ชายที่ดูดอมปลายถันของหล่อนอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาทำให้การทรงตัวของหล่อนมีปัญหา กายสาวโงนเงนเจียนจะล้มคว่ำจนต้องคว้าขอบศาลาไม้เอาไว้เป็นทรงตัว
หล่อนเกลียดตัวเองที่อ่อนไหวและหวั่นไหวได้อย่างน่าสมเพชแบบนี้ แต่หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้ ความร้อนฉ่าที่ได้รับจากผู้ชายตรงหน้า มันตามหลอกหลอนทุกลมหายใจ
หล่อนต้องรีบปลีกตัวไปจากตรงนี้ ต้องไปให้พ้นจากสายตาสีทองคมกริบที่จ้องเอาจ้องเอาของเจ้าชายเซรีมให้เร็วที่สุด เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงรีบโน้มตัวลงพูดกับฮัสซันที่ยืนเล่นอยู่ข้างกายทันที
“ฮัสซัน… น้ามะลิรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฮัสซันอยู่กับพี่ฟาติมะห์กับพี่โซเฟียนะจ๊ะ”
“ได้ครับ น้ามะลิ”
“งั้นน้าไปนะ”
หล่อนกำลังจะหมุนตัวเดินจากไป แต่เจ้าชายเซ็กซ์จัดก็เอ่ยแย้งขึ้นเสียงทุ้มเสียก่อน
“เธอจะรีบไปไหนล่ะ จัสมิน”
“เอ่อ…”
คำพูดของหล่อนหายวับไปอย่างน่าตกใจ เมื่อสายตาปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบสีทองอร่ามของเจ้าชายเซรีม ผู้ชายที่ทำให้หล่อนได้พบกับสวรรค์ชั้นฟ้าทันทีที่ถูกเขาตวัดลิ้นเลียที่กลีบนาง
หล่อนร้อนผ่าวไปทั้งตัว สองขาอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง ภาพที่ถูกเรือนกายสีทองทรงพลังโยกคลึงยังติดอยู่ในสมองตลอดเวลา และมันก็ยิ่งทำให้หล่อนร้อนฉ่าจนรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำไหลทะลักออกมา
เจ้าชายเซรีมขยับเข้ามาหาอีกสองก้าว แม้จะยังไม่ชิดใกล้ แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายสาวก็ทำให้เขาพึงพอใจจนต้องระบายยิ้มออกมาเลยทีเดียว
สภาพของมะลิบอบช้ำจนน่าสงสาร คงเพราะเขาไม่ยอมให้หล่อนได้หลับนอนเมื่อคืนสินะ แต่ถึงหล่อนจะดูอิดโรยไปสักหน่อย แต่กระนั้นเจ้าหล่อนก็ยังดูมีเสน่ห์ และน่าลุ่มหลงมากมายอยู่ดี แก้มนวลแดงระเรื่อเมื่อสบประสานสายตามองมา เขารู้ดีว่าเจ้าหล่อนกำลังคิดเรื่องเดียวกันกับเขาอยู่เป็นแน่แท้
เซ็กซ์เร่าร้อนของเจ้าชายทะเลทราย บุรุษที่จะเป็นผู้ชายคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของหล่อน
ความหวงแหนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนระเบิดตูมขึ้นในอก และมันก็ทำให้ความเป็นชายแข็งชันอย่างรุนแรง จนเกรงว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ ซิปกางเกงอาจจะแตกเสียก็เป็นได้
“น้ามะลิบอกไม่ค่อยสบายครับเจ้าชาย”
คำตอบของเจ้าชายตัวน้อยทำให้สองคนที่กำลังปล่อยกระแสสวาทฟาดฟันกันทางสายตาได้สติ
เจ้าชายเซรีมละสายตาจากดวงหน้าแดงก่ำของมะลิ ย่อตัวลงมาพูดคุยกับฮัสซัน
“งั้นเราขอไปดูแลน้ามะลิของฮัสซันก่อนนะ”
“ครับเจ้าชาย” เด็กน้อยตอบรับคำ
“ไม่… ไม่ต้องเพคะ หม่อมฉันไม่เป็นอะไรมาก”
มะลิรีบละล่ำละลักตอบ ก่อนจะเดินหนีทันที ชมพูนุชจะเดินตามไป แต่เจ้าชายเซรีมเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
“เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะชมพูนุช เดี๋ยวเราไปดูแลเมียเราเอง”
“เอ่อ… เพคะเจ้าชายเซรีม”
แล้วเจ้าชายเซรีมก็ก้าวยาวๆ เดินตามร่างของมะลิที่เดินแกมวิ่งหนีไปทันที